ตอนที่ 510 ช่วยเหลือเกาะลอยฟ้า (2)
ลูโจวมองย้อนกลับไปที่หยวนเอ๋อก่อนจะออกคําสั่ง “หยวนเอ๋อ ปกป้องหอยสังข์ซะ”
“ค่ะ! ไม่ต้องเป็นห่วงท่านอาจารย์!” ในตอนนี้ธิดาหอยสังข์สวมใส่ชุดขนเมฆาอยู่ ถ้าหากรวมเข้ากับการปกป้องของหยวนเอ๋อ คงจะมีเพียงยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่จะทําให้สาวน้อยทั้งสองคนเป็นอันตรายได้
ทันทีที่เขตแดนพลังถูกทําลาย ผู้ฝึกยุทธจํานวนมากที่อยู่บนทะเลอันห่างไกลก็ได้พุ่งเข้าหาเกาะเพิ่งไหล ถ้าหากจะมองมาจากบนท้องฟ้า เหล่าผู้ฝึกยุทธที่กําลังมุ่งหน้ามาไม่ต่างกับผู้งมดปลวก
นายหญิงหวางยื่นฝ่ามือก่อนที่จะปล่อยพลังไปบนท้องฟ้า นางเหลือบมองไปบนเกาะลอยฟ้าในขณะนั้นเองนางสังเกตเห็นลูโจวกับผู้ฝึกยุทธส่วนหนึ่งยืนอยู่บนนั้น เมื่อม่านพลังสลายหายไปผู้ฝึกยุทธที่ซ่อนตัวรออยู่ด้านนอกเกาะทั้งสี่จะต้องเคลื่อนไหวแน่
มีผู้ฝึกยุทธกว่าหลายร้อยคนออกมาจากแต่ละเกาะ
“สาวกเผิงไหลจงฟังข้า! จัดการกับพวกศัตรูซะ!”
ผู้ฝึกยุทธที่ถือร่มต่างก็พุ่งไปทั้งสี่ทิศ
การต่อสู้เริ่มขึ้นอย่างกะทันหัน
นายหญิงหวางมองไปยังเกาะลอยฟ้าก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ “หวางซื่อเจียนี่คงจะเป็นเรื่องทั้งหมดที่ข้าทําได้แล้วล่ะ”
เดิมที่เกาะลอยฟ้าที่เป็นเกาะกลางอยู่เหนือจากเกาะทั้งสี่กว่า 100 เมตร แต่ปัจจุบันเกาะลอย ฟ้าที่เห็นอยู่ห่างจากน้ําทะเลเพียงแค่ 20 เมตร
เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งดังมาจากเกาะลอยฟ้า “นายหญิงหวาง อย่าได้โทษคนอื่นเลยในโลกนี้ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูที่ถาวรหรอกนะ! ไปซะพวกเรา!”
เกาะเพิ่งไหลมักจะแยกตัวออกจากโลกภายนอก ชาวเกาะเผิงไหลมักจะไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ในตอนนี้ไม่มีสหายที่จะช่วยเหลือพวกเขา ใครจะไปรับประกันได้ว่าจะไม่ถูกหักหลังในช่วงเวลาที่วิกฤตแบบนี้?
หม่าชิงโค้งคํานับให้กับลูโจว ตัวเขารู้ดีว่าลูโจวเป็นเพียงคนเดียวที่พอจะทําอะไรได้ “ผู้อาวุโสจีได้โปรดช่วยพวกเราด้วย!” แม้ว่าหวางซื่อเจียจะอยู่ที่นี่ แต่ตัวเขาก็คงไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้แน่
เสียงการต่อสู้ดังไปทั่วเกาะทั้งสี่
ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ผู้ฝึกยุทธระดับล่างทั้งหลายต่างก็ตกลงสู่ท้องทะเล เลือดของพวกเขาได้ย้อมน้ําทะเลให้กลายเป็นสีแดง น้ําที่เคยใสสะอาดได้หายจางไปแล้ว
ลูโจวยืนอยู่ที่ด้านข้างหยวนเอ๋อและธิดาหอยสังข์ ถ้าหากไม่มีการ์ดระเบิดจุดสุดยอด มันก็คงจะไม่มีประโยชน์ที่จะจัดการกับฝูงหมาป่าที่หิวโหยด้วยการ์ดวิเศษและพลังจากเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์ ยิ่งไปกว่านั้นคนเหล่านี้ยังถูกความโลภเข้าครอบงํา ทุกคนไม่คิดที่จะฟังเหตุผลอะไรอีกต่อไปเว้นแต่ว่าจะรวบรวมผู้ฝึกยุทธทั้งหมดไว้เพียงที่เดียวเท่านั้น การที่จะจัดการกับผู้ฝึกยุทธในคราวเดียวโดยใช้พลังเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์ได้คงจะเป็นเรื่องที่ยากจนเกินไป
ครีดด!
เกาะลอยฟ้าทรุดตัวลงไปอีกสิบเมตร
สู่โจวเงยหน้าขึ้น เกาะขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตรได้บดบังแสงอาทิตย์เอาไว้จนหมด!
ในตอนนี้มันเหลืออีกแค่นิดเดียวเท่านั้น ความกดดันทําให้ยากที่จะตัดสินใจ
ผู้ฝึกยุทธที่กําลังคลั่งไคล้กําลังบินไปบนเกาะลอยฟ้าอย่างประมาทเลินเล่อ
“หม่าชิงพาคนของเจ้าไปที่ทิศตะวันตกซะ” สู่โจวสั่งการออกมา
หม่าชิงรู้สึกยินดีเมื่อได้ฟังคําพูดของลูโจว ตัวเขาได้นําเอาเหล่าสาวกไปยังเกาะทางทิศตะวันตกในทันที
เขตแดนพลังแห่งดาบได้พุ่งเข้าใส่ผู้ฝึกยุทธที่กําลังบ้าคลั่ง
การต่อสู้อันดุเดือดบนท้องฟ้าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ในขณะเดียวกันนายหญิงหวางกําลังยืนอยู่บนเกาะลอยฟ้า สีหน้าของนางดูว่างเปล่า
ขณะที่ลูโจวกําลังบินไปบนเกาะลอยฟ้า
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงใครบางคนดังขึ้น “นายหญิงหวางท่านยังคงมีเสน่ห์เหมือนเคยเลยนะ!”
สู่โจวหันไปมอง เจ้าของเสียงเป็นผู้ฝึกยุทธวัยกลางคน ตัวเขาได้ปล่อยพลังเข้าใสผู้ฝึกยุทธทั้งหลายที่พยายามจะเข้ามาใกล้
ตุ้ม!
พลังฝ่ามือสีฟ้าอ่อนได้พุ่งกระแทกผู้ฝึกยุทธวัยกลางคน ผู้ฝึกยุทธผู้โชคร้ายตกลงไปน้ําทะเลในทันที
ในขณะที่ลูโจวบินไปหา ตัวเขาก็เห็นเกาะลอยฟ้าเต็มไปด้วยความโกลาหล แทบที่จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกว่าใครมาจากสํานักไหน ทุกคนต่างก็ยุ่งอยู่กับการปล้นสะดมเกาะแห่งนี้
ลูโจวยังคงบินไปหา ถ้าเป็นไปได้ตัวเขาก็ไม่อยากที่จะใช้พลังจากเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์ มันไม่ใช่ปัญหาสําหรับลูโจวเลยที่จะใช้พลังในฐานะผู้ที่มีอวตารดอกบัวสองกลีบจัดการกับผู้ที่มีพลังวรยุทธต่ํากว่าขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์
นายหญิงหวางมองขึ้นไป เมื่อนางเห็นโจวบินมาหา ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ นางไม่แน่ใจเลยเกี่ยวกับจุดยืนของสู่โจว ดังนั้นนางจึงเลือกที่จะยกคัมภีร์สวรรค์ขึ้นพร้อมพูดเสียงดังออกมา “ข้าจะพูดอีกครั้ง ถ้าหากเกาะลอยฟ้าตกลงสู่ท้องทะเล ม้วนคัมภีร์สวรรค์เผิงไหลก็จะถูกทําลายเช่นกัน!”
คัมภีร์สวรรค์เพิ่งไหลเปล่งประกายออกมาพร้อมกับเสียงของนายหญิงหวาง
“นายหญิงหวาง! คัมภีร์สวรรค์เผิงไหลเป็นของข้า!”
“ของข้าต่างหาก!”
ผู้ฝึกยุทธขั้นศักดิ์สิทธิ์หลายคนบินไปยังเกาะลอยฟ้า
ถ้าหากเป็นแต่ก่อน ทุกคนคงจะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เกาะแห่งนี้แน่ น่าเสียดายที่ม่านพลังและเขตแดนพลังที่มีไม่อาจใช้งานได้อีก
ในเวลาเดียวกันอวตารทศภพกว่าหลายสิบร่างก็ปรากฏขึ้น
ลูโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ช่างเจ็บปวดอะไรเช่นนี้” ลูโจวได้ประสานฝ่ามือของตน ทันใดนั้นเองก็มีแสงสีฟ้าสว่างวาบออกมา
“ไสหัวไปซะ!” คลื่นเสียงของลูโจวได้กระเพื่อมไปทั่วบริเวณ คลื่นเสียงของเขาได้สะท้อนอยู่ในอากาศ
นี่คือพลังแห่งการพูด
มันเป็นวิชาการใช้เสียงที่จะทําให้ผู้ฝึกยุทธกว่าหลายสิบคนกระเด็นกลับไป ทุกคนต่างก็กระอักเลือดออกจากปาก
ในบรรดาผู้เฝ้ามองเหตุการณ์ได้แต่ตกตะลึง
“ลืมเรื่องเกาะเพิ่งไหลไปซะเถอะ ปล่อยให้เขารับคัมภีร์สวรรค์เพิ่งไหลไป”
ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายไม่ใช่พวกโง่เขลา พวกเขาจะไม่ยอมเผชิญหน้ากับยอดฝีมือเพื่อเสียงเอาคัมภีร์สวรรค์เผิงไหลโดยเด็ดขาด
ในขณะที่ลูโจวไปหานายหญิงหวาง ตัวเขาก็ได้ยื่นมือก่อนที่จะพูดกับนางอย่างเย็นชา “ส่งมัน มาซะ”
นายหญิงหวางใบหน้าซีดเซียว ร่างกายของนางแข็งเกร็ง
จู่โจวมองเห็นท่าทีที่ตกใจของนาง ตัวเขาที่เห็นแบบนั้นได้พูดออกมา “อยู่ใกล้ๆ ข้าซะ ทุกอย่างมันยังไม่จบ” ฝ่ามือของลูโจวได้ยื่นออกไปต่อหน้านายหญิงหวาง
เป็นเรื่องปกติที่นายหญิงหวางจะคิดสงสัยและระมัดระวังตัว นางไม่สามารถบอกได้อีกต่อไปว่าใครเป็นมิตรหรือเป็นศัตรูกันแน่
นายหญิงหวางมองไปที่เกาะทั้งสี่ที่กําลังเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย นางหลับตาก่อนที่น้ําตาของนางจะไหลอาบแก้ม นางวางม้วนคัมภีร์สวรรค์ไว้ในมือของลูโจว
“ติ้ง! ได้รับม้วนคัมภีร์เปิดโลกา ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 3,000”
อย่างที่ลูโจวคาดไว้ นั่นก็คือม้วนคัมภีร์เปิดโลกา! หัวใจของลู่โจวเต้นไม่เป็นจังหวะในขณะที่ซัดฝ่ามือเข้าใส่ม้วนคัมภีร์ คัมภีร์เปิดโลกาแตกสลาย! เปลือกของม้วนคัมภีร์ได้แตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนที่จะกระจัดกระจายไปบนอากาศ
ทุกคนต่างก็ตกตะลึง ม้วนคัมภีร์สวรรค์ถูกทําลาย?
ดวงตาของนายหญิงหวางเบิกกว้างก่อนที่จะถามออกมาด้วยน้ําเสียงที่สั่นเครือ “ทะ..ทําไมกันล่ะ?”
ลูโจวไม่ต้องการที่จะอธิบายอะไร คัมภีร์เปิดโลกาได้ปรากฏขึ้นในเมนูระบบที่ลูโจวมีแทนการรักษารูปร่างของม้วนคัมภีร์ไว้เป็นเรื่องที่ยากลําบากสําหรับตัวเขาจนเกินไป
เศษของม้วนคัมภีร์ได้ส่องแสงออกมาราวกับผีเสื้อที่กําลังโบยบิน
ครีดด!
เกาะลอยฟ้าบัดนี้สัมผัสกับน้ําทะเลแล้ว!
คลื่นขนาดใหญ่ได้กระเพื่อมออกจากใต้เกาะ
หยวนเอ๋อได้คว้าธิดาหอยสังข์ก่อนที่จะบินขึ้นไปบนอากาศ
เก็ได้เปิดใช้พลังที่มีป้องกันตัวเองและป้องกันน้ํา
ช่วงเวลาที่เกาะลอยฟ้าจมลงไปใ ทะเลเอาไว้ที่ปลายเกาะ
เกาะลอยฟ้าที่จมสู่ท้องทะเลเป็นสิ่งที่นายหญิงหวางต้องแบกรับไว้ ความหวังที่จะช่วยเกาะเผิงไหลทั้งหมดหายไป มันไร้ซึ่งความหวังใด แล้วอะไรกันล่ะที่จะเป็นเป้าหมายในการใช้ชีวิตของนาง? นางจะเผชิญหน้ากับผู้เป็นสามีได้ยังไง? นายหญิงหวางถอนหายใจออกมาเบาๆ นางไม่คิดที่จะดิ้นรนต่อสู้อีกต่อไป “ถ้าอย่างนั้นก็คงจะมีแต่ความตายที่จะช่วยขจัดปัญหาและความกังวลทั้งหมดออกไปได้
เมื่อน้ําทะเลพุ่งเข้าหานายหญิงหวาง ในตอนนั้นเองก็มีพลังฝามือส่งนางให้บินขึ้นไป
“นี่มัน!” นายหญิงหวางอุทานออกมาด้วยความตกใจ นางบินขึ้นไปเหนือผิวน้ําทะเล เมื่อนางจ้องมองลงมา นางก็เห็นลูโจวยังคงอยู่ในม่านพลังของตัวเอง ตัวเขากําลังจะถูกน้ําทะเลกลืนลงไป
“ผู้อาวุโสเ” นายหญิงหวางเสียงสั่น ในเวลานี้ความหวังของนางถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง ผู้อาวุโสคนนี้ได้ช่วยชีวิตของนางไว้โดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัยของตัวเอง แม้ว่านางจะเป็นคนขี้ขลาดและยอมทิ้งชีวิตของตัวเองก็ตาม แต่นางก็ถูกช่วยไว้ นายหญิงหวางได้โคจรพลังของตัวเองก่อนที่จะมองลงไปในเกาะลอยฟ้าที่กําลังจะหายไปในทะเลนายหญิงหวางตกตะลึง
“เกาะลอยฟ้าได้จากไปแล้ว! ในไม่ช้าเกาะลอยฟ้าทั้งสี่จะต้องจมลงแน่!”
เมื่อทุกคนเห็นเกาะลอยฟ้ากําลังจมน้ํา หม่าชิงแห่งสํานักชิงหยุนและเหล่าสาวกทั้งหมดก็ได้แต่เหลือบมองลงไป “ช่างน่าละอายจริงๆ แต่ข้าก็ทําทุกอย่างเท่าที่ทําได้แล้ว”
“ข้าขอโทษด้วยนายหญิงหวางข้าต้องขอโทษเจ้าเกาะหวางด้วย!”
นายหญิงหวางไม่ได้สนใจอะไรอีกต่อไป “เอาของมีค่าต้องการไปซะเถอะ ดีกว่าที่จะปล่อยของพวกนั้นให้จมสู่ผืนมหาสมุท”
บนท้องฟ้าธิดาหอยสังข์กําลังมองไปที่เกาะลอยฟ้าที่กําลังจมสู่ท้องทะเล นางได้พึมพําอะไรบางอย่างออกมา “หลัวย…”
หยวนเอ๋อที่กําลังมองเกาะได้พูดออกมา “ท่านอาจารย์อยู่ที่ไหนกัน?” นางในตอนนี้อยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นางต้องการที่จะดําดิ่งลงสู่ท้องทะเลเพื่อช่วยอาจารย์ของตัวเองแต่นางก็ไม่อาจทิ้งธิดาหอยสังข์ไว้ตามลําพังได้ในเวลานี้หยวนเอ่อรู้สึกสับสนจนทําอะไรไม่ถูก
ทันใดนั้นเองก็มีชาวลัทธิเต๋ที่อยู่ใกล้ๆ พุ่งใส่ ชายคนนั้นมาพร้อมกับดาบพลังงานมากมายหลายเล่ม เป้าหมายของชายคนนี้ก็คือหยวนเอ๋อนั่นเอง “ตั้งแต่ที่เจ้าฆ่าสาวกของสถานศึกษาไทชูของพวกเราและนําสมบัติล้ําค่าอย่างกระจกทองคําไท่ซูไป ข้าก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่มีวันปล่อยให้ลูกศิษย์ของเจ้ามีชีวิตรอดได้เช่นกัน!”
ลอบโจมตี?
แม้ว่าจะเป็นยอดฝีมือแต่ก็ไม่อาจเอาตัวรอดจากการลอบโจมตีได้เสมอไป
ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ใกล้ๆ ต่างก็หันมามอง ทุกคนที่เห็นแบบนั้นก็ตระหนักได้ในทันที การที่เจียงหลี่จือที่เป็นผู้อาวุโสเพียงคนเดียวจะมาที่นี่โดยที่พกกระจกทองคําไท่ซูมาด้วยคงจะดูเป็นไปไม่ได้เจียงหลี่จือที่มาได้ทําตัวห้าวหาญและยังทําตัวเย่อหยิ่งกับผู้อาวุโสจนเกินไปอีกด้วยเจ้านั่นจะต้องมาพร้อมกับยอดฝีมือคนอื่นแน่