Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 253

ตอนที่ 253

เพราะความชอบส่วนตัวของวาห์น โต๊ะทานข้าวจึงถูกเปลี่ยนใหม่ให้เป็นแบบโต๊ะเตี้ยแทน

และเพราะว่าเขาชอบมันมากจริงๆ วาห์นเลยเปลี่ยนห้องอาหารให้เป็นแบบตะวันออกด้วย

หนึ่งในเหตุผลที่ชอบก็คือ เขาสามารถนั่งคู่กับคนอื่นได้แบบไม่ติดขัด

ตอนนี้เอน่าเองก็กำลังนั่งอยู่ทางซ้ายมือของเขาอย่างใกล้ชิดจนเกือบจะขึ้นมานั่งบนตักอยู่แล้ว

ทั้งคู่กะหนุงกะหนิงกันไปมาขณะรอให้เอมิรุและมาเอมินำอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะ

ปกติเฮสเทียมักจะเป็นคนที่มานั่งข้างวาห์น แต่วันนี้เธอกลับเปลี่ยนไปนั่งฝั่งตรงข้ามโดยมีเพรเซียและเฟนเรียร์คอยขนาบข้าง

ถึงจะยังไม่รู้ว่าเพรเซียไปเจอกับอะไรมาบ้าง แต่วาห์นพอบอกได้ว่าสภาพจิตใจของเธอนั้นบอบช้ำมากจนแทบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย

สีหน้าของเธอก็นิ่งอยู่ตลอดจนดูคล้ายหน้ากากมากกว่าหน้าคนจริงๆ

สิ่งเดียวที่ทำให้เพรเซียตอบสนองได้ก็คือ ‘คำพูดชี้นำ’ ของคนอื่น ซึ่งจากที่ทดลองกันมาแล้ว ไม่ว่าใครก็สามารถ ‘สั่ง’ เธอได้

เนื่องจากชุดเมดที่ได้จากฌอนทัคนั้นดูไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เฮสเทียก็เลยช่วยเปลี่ยนชุดโดยให้เธอใส่เสื้อขนแกะตัวหนา กางเกงนอนขายาว และรองเท้าสลิปเปอร์แทน

เพราะทรงผมและหางที่ค่อนข้างฟูฟ่อง ตอนนี้เพรเซียก็เลยดูน่ากอดมากเป็นพิเศษ

หลังจากที่จัดโต๊ะกันเสร็จแล้ว วาห์นก็กล่าวสั้นๆ เพื่อเป็นการตอนรับเหล่าสมาชิกใหม่

ในฐานะกัปตันของแฟมิเลีย งานของเขาก็คือคอยควบคุมดูแลและกำหนดหน้าที่ให้กับสมาชิกทุกคน

สำหรับตอนนี้ เขาจะให้คู่แฝดคอยรับใช้เฮสเทียไปก่อน จนกว่าพวกเธอจะตัดสินใจได้ว่าอยากฝึกด้านไหนเป็นพิเศษ

เพราะนอกจากเรื่องงานครัวแล้ว ทั้งสองก็ไม่มีความรู้ด้านอื่นอยู่เลย

เอมิรุกับมาเอมินั้นไม่เคยเรียนอ่านเขียนมาก่อนซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนักสำหรับพวกชนเผ่าเร่ร่อนที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือ

นอกจากงานทำอาหารและทำความสะอาดบ้านแล้ว ต่อไปพวกเธอก็ต้องเรียนหนังสือพร้อมกับเฟนเรียร์ด้วย

ภาพที่เฟนเรียร์คอยช่วยสอนหนังสือให้คนอื่นนั้นทำให้วาห์นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่พักหนึ่ง

หลังจากช่วงอาหารเย็น เฮสเทียก็พาพวกสาวๆ ไปอาบน้ำและแช่บ่อออนเซ็น

เพราะเคยอยู่ตามป่าเขาที่เต็มไปด้วยบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ นี่จึงไม่ใช่การแช่ออนเซ็นครั้งแรกของคู่แฝด

คนเดียวที่ไร่การตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้นก็คือพรีเซียซึ่งต้องให้คนอื่นคอยช่วยอยู่ตลอด

ตอนนี้วาห์นไม่รู้เลยว่าพวกเธอเป็นยังไงกันบ้าง เพราะเขาแยกออกมาอาบที่ห้องอีกฝั่งหนึ่งพร้อมกันกับเอน่า

เป็นเรื่องน่าประหลาดมาก เพราะวาห์นนั้นเคยเห็นสาวๆ หลายคนในสภาพเปลือยเปล่ามานักต่อนักแล้ว ทว่าเขากลับไม่เคยเห็นเรือนร่างของ ‘ภรรยาคนแรก’ คนนี้มาก่อนเลย

เอน่าไม่เคยมาขอให้เขานวดให้ ส่วนตอนเดตนั้นเธอก็ออกไปพร้อมกับเฮเฟสตัสเสมอ

พอยกเรื่องที่ไม่เคยมานวดขึ้นมาถาม เอน่าก็บอกว่าเธอไม่อยากให้วาห์นมาดูแลเหมือนกับที่ทำให้คนอื่น

หากเลือกได้ เธออยากจะเป็นฝ่ายมาดูแลเขาแทนมากกว่า

พอได้เห็นร่างเปลือยเปล่าของเอน่าเป็นครั้งแรก ชายหนุ่มก็รู้สึกประทับใจมากกับความอ่อนเยาว์ แต่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่ของสาวลูกครึ่งเอลฟ์คนนี้

ตอนนี้ทั้งคู่สูงพอๆ กันโดยที่เอน่าเตี้ยกว่าวาห์นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สำหรับขนาดของส่วนต่างๆ หน้าอกของเธอน่าจะอยู่ที่ประมาณ 86 ซม. ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับเอวบาง 56 ซม. และสะโพก 87 ซม.

วาห์นไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยว่าเรือนร่างของเธอนั้นเกือบจะไร้ที่ติ ทั้งหน้าอกขนาดใหญ่ สะโพกได้รูป บั้นท้ายอวบอิ่ม ขาเรียวยาว และผิวที่ดูเปล่งปลั่ง

อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สวนหย่อมสีน้ำตาลนั่นก็ทำให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นไปอีก

ถึงจะมีสีหน้าเขินอายแต่เอน่าก็ยิ้มให้ก่อนจะเข้ามาช่วยวาห์นถอดเสื้อผ้าและพาเขาไปทางบ่อที่เล็กที่สุดซึ่งเหมาะกับการแช่คนเดียวมากกว่า

ในระหว่างที่ช่วยถอดเสื้อผ้าให้ เอน่าก็สำรวจร่างกายของวาห์นไปด้วยและเห็นว่าเขามีร่างกายที่กำยำมาก แถมเอวก็ดูเพรียวจนเธอรู้สึกอิจฉานิดๆ

แม้ว่ากล้ามเนื้อจะดูแข็งราวกับหิน แต่พอลองเอานิ้วไปแตะๆ ดูก็พบว่าพวกมันออกไปทางแนวยืดหยุ่นซะมากกว่า

แน่นอนว่าเรื่องที่น่าประหลาดใจสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้นอสูรน้อยของวาห์นอยู่แล้ว

เอน่าเคยได้ยินข่าวลือเรื่องนี้มาบ้าง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นสิ่งที่ผู้หญิงบางคนตั้งชื่อให้เล่นๆ ว่า ‘อสูรจำศีล’

หลังจากพาวาห์นมานั่งในบ่อขนาดเล็ก เอน่าก็ลงมานั่งยองๆ อยู่ครงหน้าเขาด้วยสีหน้าหลงใหล

หากไม่ใช่เพราะสายตาแจ่มชัดและออร่านิ่งสงบ วาห์นก็คงคิดว่าเธอกำลัง ‘เครื่องติด’ อยู่แน่ๆ

ตอนนี้เอน่ากำลังนั่งคุกเข่าและจ้องมาที่ช่วงล่างของวาห์นโดยไม่คิดจะปกปิดร่างกายของตัวเองแม้แต่น้อย

หญิงสาวเอียงหัวอย่างสงสัยก่อนจะถามขึ้น

“เวลาอยู่กันแบบนี้มันก็น่าจะใหญ่ขึ้นไม่ใช่เหรอ?

ฉันได้ยินมาตลอดเลยว่าพวกผู้ชายน่ะ แค่นิดๆ หน่อยๆ ก็พร้อมลุยแล้ว…”

ตอนแรก เอน่าอยากถามวาห์นต่อว่าร่างกายของเธอดูไม่ดีพอหรือเปล่า? แต่เพราะว่ามันฟังดูงี่เง่ามาก เธอก็เลยไม่ได้พูดมันออกมา

วาห์นนึกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะอธิบายให้ฟัง

“ถ้าไม่นับเรื่องสีหน้า ฉันสามารถคุมร่างกายส่วนอื่นๆ ได้เกือบสมบูรณ์แบบน่ะ

เรื่องนี้ก็เหมือนกัน… จะบอกว่าสั่งได้ดั่งใจนึกก็คงได้มั้ง”

คิ้วของเอน่าเลิกสูงขึ้นขณะที่เธอเอนตัวมาข้างหน้าและใช้นิ้วจิ้มเจ้า ‘อสูรจำศีล’อย่างสนใจ

ผ่านไปอีกชั่วอึดใจ เธอก็มองเข้าไปในดวงตาของวาห์น

“ช่วย… เอามันขึ้นมาให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

ราวกับว่านั่นคือคำพูดวิเศษ เอน่าสังเกตเห็นว่าอสูรน้อยของวาห์นตื่นขึ้นในทันใด แถมมันยังโผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาสูดหายใจด้านบนด้วย

นอกจากสายตาเบิกกว้างและหูที่แดงขึ้นเล็กน้อย เอน่าก็ไม่ได้ดูแปลกใจมากนัก

“เหมือนจะใหญ่กว่าที่ลือกันอีกนะ”

คราวนี้เป็นตาที่วาห์นต้องทำหน้าตื่นบ้าง

“…นี่พวกเธอคุยอะไรผ่านเครือข่ายกันบ้างเนี่ย?”

นับตั้งแต่ที่พวกสาวๆ สร้างเครือข่ายส่วนตัวกันเอง วาห์นก็ถูกกันออกไปและถูกห้ามไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด

อย่างมากเขาก็ได้แค่ฝากข้อความให้บางคนส่งต่อเข้าไปในนั้นเท่านั้นเอง

เอน่าพยักหน้าและเริ่มอธิบาย

“มีแต่เรื่องน่าสนใจทั้งนั้นแหละ นี่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าการได้คุยกับคนอื่นๆ ที่อยู่ทั่วเมืองมันจะสนุกแบบนี้

ถ้าหมึกที่ใช้มันถูกลงอีกหน่อย นี่คงจะเป็นวิธีสื่อสารที่ดีมากๆ เลย”

เอน่าพูดต่อแบบยิ้มๆ

“แต่ถ้าพูดถึงเรื่องที่เราสนใจตรงกัน มันก็มีไม่กี่เรื่องนี่นะ

ทุกครั้งที่นายออกเดตกับสาวๆ บางคน พวกเธอก็จะมาคุยฟุ้งตลอดเย็นเลยว่านายพาไปไหนมาบ้าง หรือไม่ก็ชุดที่พวกเธอได้ลองให้นายดู~”

วาห์นจินตนาการถึงภาพแก๊งสาวๆ ที่เขียนหากันไปมาอย่างสนุกสนาน

เขาเองก็เคยไปขอคัมภีร์มาแล้ว แต่สุดท้ายก็โดนปฏิเสธกลับไป

เหตุผลที่ได้กลับมาก็คือพวกสาวๆ อยากมีเครือข่ายไว้คุยกันตามประสาผู้หญิงๆ บ้างโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะมาเห็นบางอย่างเข้า

ตอนแรกวาห์นก็เห็นด้วย แต่มาตอนนี้เขาเริ่มจะอิจฉานิดๆ แล้ว และอยากซื้อคัมภีร์แจกพวกเธออีกชุดให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย

ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่วาห์นกำลังคิดเรื่อยเปื่อย เอน่าก็ยืนขึ้นจากผิวน้ำโดยหันหลังให้กับเขา

วาห์นนั้นนึกอยากจะยื่นมือไปหยิกเนื้อขาวๆ ที่ขึ้นสีแดงเล็กน้อยนั้นเหลือเกิน

เอน่าหันหัวมาพูดกับเขาต่อ

“ขอลองอะไรหน่อยนะ เห็นแล้วมันรู้สึกสงสัยจริงๆ…”

พอพูดเสร็จ เธอก็ลงมานั่งบนช่วงท้องน้อยของเขาโดยถ่างขาออกเล็กน้อย

ตอนแรกวาห์นมองเห็นแค่แผ่นหลังของเอน่าเพียงอย่างเดียว แต่เขาก็คล้องแขนไว้รอบร่างบางอย่างเคยชินและมองข้ามไหล่ของเธอออกมา

ตอนนี้เอน่ากำลังพัก ‘ฝักดาบ’ ของตัวเองไว้ข้างๆ ‘ดาบยักษ์’ ของวาห์น ก่อนจะยกมันขึ้นมานาบกับหน้าท้องราบเรียบ

เธอค่อยๆ ลากนิ้วตั้งแต่ส่วนโคนจนถึงสะดือของตัวเอง ราวกับกำลังลองกะระยะว่าถ้าใส่เข้าไปจริงๆ แล้วมันจะไปถึงประมาณไหน

หลังจากได้ผลสรุปออกมาแล้ว เอน่าก็พูดขึ้น

“ถ้าใกล้กับสะดือของฉันขนาดนี้ แล้วพวกที่ตัวเล็กๆ จะทำยังไงล่ะเนี่ย?”

พอสิ้นเสียง เอน่าก็ลงจากร่างของวาห์น ก่อนจะเลื่อนมานั่งอยู่ระหว่างขาของเขา

วาห์นถอนหายใจและอธิบายบ้าง

“ถ้าฝึกอีกหน่อย ฉันน่าจะปรับเรื่องขนาดได้…”

เอน่าได้ยินแล้วก็เริ่มหัวเราะคิกคักทันที

“เป็นความคิดที่ฟังดู ‘วาห์น’ มากเลยนะ

ฉันว่านายไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก บางคนคงคิดว่ามันดู ‘ท้าทาย’ ดีน่ะ

อีกอย่าง นายไม่ต้องใส่จนหมดก็ได้นี่ แค่ทำให้ดีที่สุดก็พอแล้ว

เฮเฟสตัสเล่นเอาไปคุยไว้ซะขนาดนั้นแล้ว ดังนั้นเรื่องฝึกอะไรนั่นก็เลิกคิดเถอะ”

คำพูดของเอน่าทำเอาวาห์นหัวเราะและเริ่มนึกภาพตามที่เธอพูด

พอนึกถึงการแข่งขันเล็กๆ ระหว่างทีโอน่ากับไอส์ วาห์นก็รู้สึกเห็นด้วยกับเธอ

ทว่าจู่ๆ เอน่าก็ถามขึ้นราวกับอ่านใจเขาออก

“อ้ะ กำลังนึกถึงทีโอน่ากับไอส์อยู่ใช่ไหม?”

วาห์นรู้สึกประหลาดใจมากจนเอลฟ์สาวต้องรีบอธิบายต่อ

“คงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนสินะ ว่าสีหน้าของนายจะเปลี่ยนไปตามผู้หญิงที่นายกำลังคิดถึงอยู่
เป็นนิสัยที่น่ารักมากเลยล่ะ…”

จากนั้นเอน่าก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก

“ตอนนี้อยากให้ฉันช่วยอะไรหรือเปล่า… อยากลองอะไรเป็นพิเศษไหม?”

วาห์นกัดฟันเล็กน้อยขณะที่เอน่าวางมือลงบนต้นขาของเขาและหันหน้ากลับมามองด้วยสายตาหรี่เล็ก

ไปๆ มาๆ วาห์นก็เริ่มนึกถึงภาพต่างๆ ที่เห็นในย่านโคมแดง แต่สุดท้ายเขาก็ขมวดคิ้วก่อนจะตอบเธอกลับไป

“ถึงฉันจะชอบเรื่องพวกนั้น แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาของเรานี่นะ

แค่ได้ผ่อนคลายอยู่กับเธอแบบนี้ก็ดีมากแล้ว ไม่ต้องถึงขั้นทำอะไรเป็นพิเศษหรอก…”

เอน่ายิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อยก่อนจะขยับตัวออกมาอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามของบ่อ

“มาตรงนี้สิ เดี๋ยวฉันจะดูแลนายเอง…” เธอพูดพลางอ้าแขนออก

ภาพนั่นทำให้หัวใจของวาห์นรู้สึกอบอุ่นมาก ขณะที่ร่างกายเดินออกไปก่อนจะหันหลังและลงไปพิงกับหน้าอกอวบอิ่มของเอน่า

เอน่าใช้แขนโอบรอบแผงอกกำยำและดึงให้วาห์นเข้ามาใกล้ขึ้นอีก

ตอนนี้ศีรษะของวาห์นอยู่ชิดมากจนเธอสามารถก้มลงไปมองใบหน้าของเขาได้เลย…

หลังจากการอาบน้ำเสร็จแล้ว ทั้งสองก็กลับมาผ่อนคลายที่ห้องโดยวาห์นใช้พลังเขตแดนเพื่อตรวจสอบเล็กน้อยว่าคนอื่นๆ กำลังทำอะไรกันอยู่

เขาสัมผัสได้ว่าทุกคนกำลังเล่นน้ำอยู่ในออนเซ็นอย่างสนุกสนาน ในระหว่างที่ตัวเขาเองนั้นกำลังเพลิดเพลินไปกับการที่เอน่าลงมานอนพิงไหล่

ทั้งสองนอนเล่นต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวาห์นเห็นว่าเฮสเทียตัดสินใจไปนอนกันเฟนเรียร์และเพรเซียแทน

วาห์นยิ้มเพราะรู้ว่าเทพตัวเล็กคงอยากให้เขาได้มีเวลาส่วนตัวอยู่กับเอน่าบ้าง แต่นั่นก็ต้องแลกกับการที่เธอไม่ได้ถูกเขาปรนเปรอต่อไปอีก 1 วัน

เมื่อเอน่าได้ฟัง ‘รายงานตำแหน่งของสาวๆ’ จากวาห์น เธอก็ลุกขึ้นมานั่งพร้อมรอยยิ้มและใบหน้าแดงระเรื่อ

“ถอดเสื้อออกแล้วก็นอนคว่ำลงสิ ชอบเรื่องนวดมากเลยไม่ใช่เหรอ? คราวนี้ฉันจะนวดให้นายบ้างล่ะ

คงจะดีได้ไม่เท่า ‘มือเทวะ’ หรอกนะ แต่อย่างน้อยก็น่าจะทำให้นายผ่อนคลายได้”

วาห์นถอดเสื้อที่ใส่อยู่ออกก่อนจะนอนคว่ำลงกับเตียงด้วยความรู้สึกคาดหวัง

เพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนใส่ยกทรงตอนนอน เมื่อเอน่าถอดเสื้อออกบ้าง เนินอกสีขาวที่แต่งแต้มไปด้วยจุดสีแดงก็เลยมาประจักษ์อยู่ในสายตาของวาห์น

ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยถาม เธอก็ชิงพูดขึ้นก่อน

“ถ้าฉันทำให้นายรู้สึกตื่นตัวหน่อย การนวดตามจุดก็จะง่ายขึ้น เดี๋ยวฉันจัดการเองนะ…”

วาห์นพยักหน้าอย่างว่าง่ายและปล่อยให้เอน่าจัดการร่างกายของได้ตามใจชอบ

เธอขึ้นมานั่งตรงช่วงหลังเอวและเริ่มนวดตรงส่วนไหล่โดยกดไปตามจุดต่างๆ บนร่างกาย

วาห์นรู้สึกว่าเอน่าคงศึกษาเรื่องนี้มาพอสมควร แต่นี่น่าจะเป็นการนวดจริงๆ ครั้งแรกของเธอ

ถึงฝีมือนวดจะไม่ได้หวือหวาอะไร แต่วาห์นรู้สึกว่ามันผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อ

นอกจากมือที่คอยขยับอยู่ตลอดเวลาแล้ว บันท้ายอวบอัดที่กดทับลงมาตามจังหวะการนวดก็ทำให้เขารู้สึกดีมาก

ภายในเวลาไม่กี่นาทีตั้งแต่ที่เริ่มนวด วาห์นก็ผลอยหลับไปพร้อมร้อยยิ้มมีความสุข

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท