Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 264

ตอนที่ 264

เพราะเขาอาบน้ำคนเดียว วาห์นจึงล้างตัวเสร็จก่อนที่พวกสาวๆ จะเริ่มกันเสียอีก

ความรู้สึกที่ได้จากน้ำร้อนๆ ยังคงแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายแม้ว่าเขาจะใช้ [หัวใจของเพลิงนิรันดร์] ซ้อนเอาไว้ก็ตาม

วาห์นเดินกลับไปที่ห้องก่อนจะลงไปนอนเล่นที่เตียงเหมือนเช่นทุกวัน

เขาคิดเรื่องผ่อนคลายซ้ำไปซ้ำมาในหัวจนเริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาจริงๆ และอยากเข้านอนเร็วกว่าปกติ

เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา วาห์นสัมผัสได้ว่าพวกสาวๆ เริ่มแยกกันและกลับไปที่ห้องของตัวเองแล้ว

พอเห็นฮารุฮิเมะเดินกลับห้องพร้อมมิโคโตะ วาห์นจึงถอนหายใจโล่งอกเพราะคิดว่าคืนนี้คงไม่มีจิ้งจอกแอบย่องเข้ามาในห้อง

มิลานกับทีน่าอยู่ในห้องของพรีเซียและเฟนเรียร์ ส่วนริวก็กลับไปที่ห้องของเธอเอง

วาห์นรู้สึกเศร้าเล็กน้อยเพราะเขาอยากจะใช้เวลาร่วมกับเอลฟ์สาวให้มากกว่านี้อีกหน่อย

พวกเขาพัฒนาไปถึงขั้นที่อาบน้ำด้วยกันได้แล้ว เรื่องนอนเตียงเดียวกันจึงเป็นสิ่งที่วาห์นคาดหวังอยู่บ้าง

ตอนนี้คู่แฝดก็เดินกลับห้องของพวกตนเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นเราก็จะเหลือผู้โชคดีรายสุดท้าย…

ออร่าขนาดใหญ่กำลังตรงเข้ามาเรื่อยๆ โดยเดินเบี่ยงมาทางด้านซ้าย วาห์นจึงค่อนข้างมั่นใจว่าเธอกำลังมาที่นี่

เพราะห้องของทั้งคู่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน หากต้องการกลับห้องของตัวเองเฉยๆ เธอก็จะเลือกเดินเบี่ยงไปทางขวาแทน

และแล้วก็เป็นไปตามคาด เฮสเทียเดินมาเปิดประตูห้องของเขาก่อนจะเดินเข้ามาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง

เฮสเทียรู้เรื่องสกิลสัมผัสออร่าของวาห์นดี เธอจึงเลิกเคาะประตูหรืออะไรทำนองนั้นมาตั้งนานแล้ว อีกอย่างเจ้าของห้องเองก็ไม่เคยว่าอะไรสักคำด้วยสิ

หลังจากถอดถุงมือ ริบบิ้น และที่รัดผมออก เฮสเทียก็คลานขึ้นมาบนเตียงและซุกเข้ากับแผงอกกำยำ

วาห์นเข้าสวมกอดร่างเล็กอย่างนุ่มนวลเหมือนเช่นทุกครั้ง

นอกเหนือจากคืนที่มีคนอื่นมานอนด้วย เฮสเทียก็จะนอนที่ห้องของวาห์นจนมันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

ขณะที่วาห์นกำลังผ่อนคลาย เขาก็ได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ

“ราตรีสวัสดิ์นะวาห์น…”

หลังรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างมาสัมผัสแก้ม เขาจึงหันกลับไปมองเฮสเทียที่กำลังหลับตาลงและพาดหัวไปกับร่องไหล่

วาห์นรู้สึกว่าเทพตัวเล็กดูสงบเสงี่ยมยิ่งกว่าทุกวันก็เลยเข้าใจว่าเธอคงอยากให้เขาพักผ่อนจริงๆ

เฮสเทียน่าจะละเมอและปีนขึ้นมาบนตัวของเขาเหมือนเดิม แต่วาห์นก็ดีใจที่เห็นว่าอีกฝ่ายคงพยายามเต็มที่แล้ว

มันเป็นการย้ำเตือนเรื่องที่เขาควรผ่อนคลาย ดังนั้นวาห์นจึงหยุดคิดเรื่องต่างๆ และกลับไปนอนต่ออีกครั้ง

วาห์นเป็นพวกที่สะดุ้งตื่นง่าย แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เขาคาดไว้แล้ว (เช่นการถูกปีนป่ายโดยคนใกล้ตัว) เขาก็จะนอนต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นเป็นการเปิดโอกาสให้เฮสเทียขยับขึ้นมาจ้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าครุ่นคิด

ดวงตาสีฟ้าฉายแววเปล่งประกายขณะที่เธอลูบไล้ใบหน้าอย่างหลงใหล

เด็กหนุ่มคนนี้มักจะระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ยกเว้นแค่ตอนนอนนี่แหละ

เหตุผลเดียวที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าวาห์นเชื่อใจเธอมาก นั่นทำให้เฮสเทียยิ่งสุขใจยิ่งกว่าเดิม

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เฮสเทียก็ลงมาคร่อมร่างของวาห์นและจ้องมองเขาจากด้านบน

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เสื้อผ้าจะเริ่มสลายกลายเป็นกลีบดอกและออกไปเรียงกันอยู่รอบเตียง

ตอนนี้เฮสเทียกำลังนั่งอยู่บนหน้าท้องของวาห์นแบบไม่เหลืออะไรเลยนอกจากกางเกงในเพียงชิ้นเดียว

เธอไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองต้องการทำอะไรต่อ แต่ที่แน่ๆ ก็คืออยากใกล้ชิดกับวาห์นให้มากที่สุด

เวลาส่วนตัวของทั้งสองกำลังหดสั้นลงเรื่อยๆ เฮสเทียจึงตัดสินว่าถึงเวลาแล้วที่เธอต้องก้าวสู่ขั้นต่อไป

บรรยากาศด้านนอกและในห้องนั้นค่อนข้างหนาวเย็นซึ่งต่างจากความร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกายของวาห์นอย่างสิ้นเชิง

ยิ่งให้ความสนใจกับไออุ่นมากเท่าไหร่ ความรู้สึกหวิวๆ ในช่องท้องของเฮสเทียก็ยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

เรื่องเดียวที่เธอรู้สึกเสียดายก็คือลืมบอกให้วาห์นถอดเสื้อก่อนเข้านอน

ถึงเนื้อผ้าจะบางมาก แต่มันก็ทำให้ผิวพรรณแสนละเอียดอ่อนรู้สึกระคายเคืองอยู่ดี

เฮสเทียไม่ได้คิดจะปลุกวาห์นตั้งแต่แรกแล้ว แต่เทพตัวเล็กก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะตอบสนองอย่างไรหากตื่นขึ้นมาเห็นเธอในสภาพนี้

วาห์นไม่ใช่พวกที่เอาช่วงล่างมาใช้แทนสมอง เรื่องนี้ทุกคนรู้ดี แต่เฮสเทียก็ยังแอบหวังลึกๆ ว่าเขาจะตื่นขึ้นมา… และเข้าจู่โจมเธออย่างป่าเถื่อน

‘…เห้อ’

เรื่องนี้เฮสเทียควรโทษตัวเองที่รู้สึกลังเลมาโดยตลอด แต่อีกใจหนึ่งก็อยากโบ้ยความผิดให้เด็กหนุ่มที่เป็นห่วงเธอมากจนเกินเหตุ… มากจนไม่กล้าก้าวข้ามเส้นบางๆ ที่เธอขีดเอาไว้

20 นาทีต่อมา เฮสเทียก็ต้องยอมแพ้เพราะรู้ว่าตัวเองไม่กล้าเป็นฝ่ายไปปลุกวาห์นก่อนแน่นอน เธอได้แต่นอนพิงร่างกำยำเหมือนปกติขณะพยายามสงบหัวใจของตัวเอง

พอไออุ่นแผ่ซ่านไปทั่วเรือนร่าง สติก็ค่อยๆ พร่าเลือนและขาดหายไปในที่สุด

ขณะที่หลับอยู่ วาห์นรู้สึกว่าตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในบรรยากาศอบอุ่นโดยมีออร่าสีชมพูห่อหุ้มไปทั่ว

มันเป็นความรู้สึกที่สุขสบาย ละมุนละไม และทำให้สมองผ่อนคลายสุดๆ

น้อยครั้งมากที่วาห์นจะฝันแบบนี้ มันจึงเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

เขาสงสัยจริงๆ ว่าออร่าสีชมพูนี่คืออะไรและมาจากไหนกันแน่

พอดูจนแน่ใจแล้วว่ามันไม่ได้เป็นภัยคุกคาม วาห์นจึงปล่อยให้มันกระจายออกไปทั่ว…

เขาอยู่แบบนั้นต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งออร่าดังกล่าวจางหายไปเป็นจำนวนมาก

วาห์นรู้สึกเศร้า ราวกับตัวเองเพิ่งสูญเสียบางอย่างที่สำคัญมากไป

เขาจ้องมองออร่าที่หลงเหลืออยู่ ก่อนจะหลับตาและเข้าสู่โหมดสมาธิ

สิ่งที่ปรากฏออกมาก็คือถ้อยคำทั้งเก้าที่ดูเลือนลางมาก และไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน ถ้อยคำดังกล่าวนั้นกลับไม่มีทีท่าว่าจะเด่นชัดขึ้นเลย…

วาห์นเริ่มรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังถูกบีบคั้นเมื่อเวลาล่วงเลยไปอีกพักใหญ่ๆ

นั่นตามมาด้วยความสั่นสะท้านอย่างรุนแรงจนเขาต้องเปิดตาขึ้นและพบว่าออร่าสีชมพูยังคงวนเวียนไปรอบๆ โลกแห่งความฝัน

สัญชาติญาณบอกให้เขายกหัวขึ้นมาทดลองสูดดมมัน และทันทีที่ทำแบบนั้น สมองก็รู้สึกเหมือนถูกกระแทกอย่างรุนแรง

มันเป็นกลิ่นไอที่หอมหวลเกินจะบรรยายแต่กลับให้ความคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด ราวกับเป็นสิ่งลึกลับที่คอยวนเวียนอยู่รอบตัวมาโดยตลอด

ถึงจะกังวลอยู่บ้าง แต่เขาก็สูดดมมันต่อเพื่อสืบให้ได้ว่านี่มันกลิ่นของอะไรกันแน่…

เมื่อวาห์นได้สติในเช้าวันถัดมา เขารู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติแถมกลิ่นที่อยู่ในความฝันก็ยังลอยมาแตะจมูกอยู่เรื่อยๆ

แต่เพราะตื่นแล้วนี่แหละ เขาเลยเริ่มจระหนักว่ามันคือกลิ่นอะไร

กลิ่นดังกล่าวนั้นลึกล้ำ รุนแรง คล้ายกับกลิ่นของน้ำผึ้งผสมมะนาวอ่อนๆ

เมื่อลืมตาขึ้นมา สิ่งที่วาห์นต้องทำเป็นอย่างแรกเลยก็คือกลืนน้ำลาย 2-3 อึก

เขาไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ดูเหมือนว่าเมื่อคืนเฮสเทียคงนอนละเมอและหันตัวกลับไปอีกด้าน

สิ่งที่อยู่ห่างใบหน้าของเขาไปเพียงไม่กี่นิ้ว… แน่นอนว่ามันก็คือกลีบดอกไม้หอมหวนที่ถูกกั้นด้วยเนื้อผ้าสีขาวบาง

หัวใจของเขาเริ่มเต้นเร็วยิ่งกว่าเดิม เพราะตอนนี้คงไม่ต้องพิสูจน์หรือสืบหาอะไรแล้ว

มันอาจจะไม่ทรงพลังเท่ากับกลิ่นอายของเฮเฟสตัส แต่ทุกอย่างกลับดูน่าดึงดูดไปหมด ทั้งตัวกลิ่นเอง ออร่าสีสมพูรอบๆ บั้นท้ายได้รูป หรือแม้แต่ของเหลวเล็กน้อยที่ซึมออกมาจากจุดซ่อนเร้น…

ที่แย่ไปกว่านั้น เพราะเขามักกอดเฮสเทียตอนนอน ตอนนี้วาห์นเลยอยู่ในท่าที่กำลังกอดเอวของเธอไว้อย่างเคยชิน เป็นท่าที่ทำให้กางเกงในตัวจิ๋วมากองอยู่ตรงปลายจมูกพอดี

เขาไม่แน่ใจว่าเฮสเทียตื่นนานหรือยัง แต่ตอนนี้วาห์นมองเห็นออร่าสีชมพูสว่างไสวของเทพตัวเล็กได้อย่างชัดเจน

เมื่อคืนเธอคงจะพยายามทำบางอย่างเพื่อยั่วเขาซึ่งดูท่าจะได้ผลอยู่บ้าง

อย่างน้อยมันทำให้วาห์นรู้สึกเขินๆ พร้อมกับความตื่นเต้นที่เพิ่มขึ้นทีละนิด

หากจะออกมาแก้ต่างทีหลังว่านอนละเมอจนมาอยู่ในสภาพนี้ บอกตรงๆ ว่าเขาไม่มีทางเชื่อแน่นอน

ส่วนตัวแล้วเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงจากมุมนี้มาก่อน และมันก็เป็นภาพที่เย้ายวนอย่างประหลาด

ความนุ่มนิ่มของเฮสเทียทำให้วาห์นอยากลองยืนหน้าออกไปอีกแล้วดูว่าเธอจะยังเนียนนอนต่อได้อีกหรือเปล่า

ทุกอย่างอยู่ใกล้มากจนเขาแทบไม่ต้องขยับเลยด้วยซ้ำ…

พอเขาถอนหายใจออกไปเล็กน้อย ร่างเล็กและออร่ารอบๆ ก็สั่นไหวตามทันที

นับเป็นเสี้ยววินาทีที่กองไฟสีชมพูหดเล็กลง แต่แล้วมันก็ขยายใหญ่ขึ้นและเผาไหม้รุนแรงยิ่งกว่าเดิม

เมื่อขยับมือเล็กน้อย วาห์นก็ตระหนักว่ารอบนี้มันผิดปกติจริงๆ

จากมุมมองที่เห็นในตอนแรก เขาจึงไม่รู้มาก่อนว่าเฮสเทียนั้นไม่ได้ใส่อะไรเลยนอกจากกางเกงในเพียงตัวเดียว

ความร้อนจากผิวหนังที่สัมผัสได้ตรงฝ่ามือยิ่งทำให้เขามั่นใจเรื่องที่ ‘กำลังโดนยั่ว’ ขึ้นไปอีก

วาห์นรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่บนหน้าผาที่ไม่รู้ว่าจะโดดออกไปหรือหันหลังกลับดี แต่ยังไงซะ เขาก็จะไม่ทิ้งให้เฮสเทียค้างเติ่งอยู่แบบนี้แน่นอน

เพราะเธอคงใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะมาอยู่ในสภาพนี้… กระแสของออร่าสื่อได้ความว่าเฮสเทียกำลัง ‘ฝืนตัวเองอยู่ แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ’

เพื่อตอบรับความกล้าหาญครั้งนี้ วาห์นสวมกอดเอวของเฮสเทียให้แน่นขึ้นราวกับกำลังดึงให้มันเข้ามาใกล้กว่าเดิม พร้อมกับยื่นให้จมูกไปแตะกับเนื้อผ้าบ้าง

เขารู้สึกได้ถึงความชื้นตรงปลายจมูกกับเสียงหัวใจของเฮสเทียที่ส่งผ่านจากหน้าอกขนาดยักษ์มาสู่หน้าท้องของเขา

ออร่าของเธอดูสับสนวุ่นวายไปหมด แต่มันก็ยังคงลุกไหม้เป็นสีชมพูขณะที่วาห์นสูดหายใจเข้าลึกๆ

ในจังหวะที่เขาเริ่มทำแบบนั้นจนกระทั่งตอนปล่อยมันออกมา วาห์นรู้สึกว่าสมองของตัวเองเริ่มหลอมละลายไปกับกลิ่นที่กระตุ้นให้เกิดความตื่นเต้น

ตามปกติแล้ววาห์นสามารถควบคุมสภาพร่างกายได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ครั้งนี้มันออกจะ ‘อยู่เหนือการควบคุม’ ไปหน่อย

จากอีกด้านหนึ่ง เฮสที่เทียเริ่มมีน้ำตาซึมให้เห็นพยายามกัดริมฝีปากล่างของตัวเองและหายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ

เธอเตรียมใจรับการตอบสนองของวาห์นเอาไว้แล้ว แต่ทุกอย่างกลับพังไม่เป็นท่าเมื่อเขาเริ่มสูดดมแบบจริงจัง

ยิ่งพอโดนสูดแบบแรงๆ เธอก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว

ใบหน้าสีแดงก่ำยิ่งแดงหนักกว่าเดิมเมื่อดวงตาสีฟ้าไปสบเข้ากับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

ถึงจะได้ยินข่าวลือมาบ้าง แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เฮสเทียได้เห็น ‘เสากระโดงเรือ’ ในกางเกงของวาห์นแบบเต็มสองตา

ความหวาดหวั่นเริ่มเกาะกุมจิตใจของเทพตัวเล็ก แต่มันก็ยังไม่อาจเอาชนะความเด็ดเดี่ยวได้ในทันที

เฮสเทียได้ยินมาจากฮารุฮิเมะว่านี่เป็น ‘ท่วงท่า’ ที่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างโปรดปราน

ข้อดีอีกอย่างของท่านี้ก็คือการที่ไม่ต้องหันไปสู้หน้าวาห์นอาจจะช่วยบรรเทาความเขินของเธอลงไปได้บ้าง

ตอนนี้เธอทำให้เขา ‘ลุกฮือ’ ได้แล้ว เฮสเทียจึงดึงเอาความมั่นใจทั้งหมดออกมาก่อนจะค่อยๆ ยืนมือออกไปดึงกางของวาห์นลง

การถูกปลดปล่อยแบบไม่ทันตั้งตัวทำให้วาห์นต้องเบิกตากว้างพร้อมหายใจแรงขึ้นอีก และยิ่งเขาสูดดมกลิ่นของเฮสเทียมากเท่าไหร่ ความตื่นเต้นในร่างกายก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

ตอนแรกเขาไม่ได้ตั้งใจจะเครื่องติดเลยด้วยซ้ำ พอมันเกิดติดขึ้นมาจริงๆ สิ่งต่อไปที่คิดไว้คือเฮสเทียต้องรีบชิ่งหนีแน่นอน แต่นี่มันกลับผิดคาดไปหมด!

ชั่วอึดใจต่อมา วาห์นสัมผัสได้ว่ามีมือเล็กๆ มาจับตรงฐานแข็งชัน ลมหายใจของเขายิ่งรุนแรงขึ้นจนร่างของเฮสเทียส่ายขึ้นลงตามจังหวะ

ของที่อยู่ตรงหน้าทำให้เทพตัวเล็กรู้สึกกังวลสุดขีด แต่ถ้าจะให้ถอยตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว เธอจึงเริ่มตรวจสอบมันด้วยสายตาอย่างละเอียด

นิ้วเรียวเล็กค่อยๆ ขยับไปมาก่อนจะพยายามวัดความหนาของสิ่งที่อยู่ในมือ

หัวใจของเฮสเทียยิ่งเตลิดหนักกว่าเดิมเพราะนิ้วชี้ของเธอแทบจะแตะปลายนิ้วโป้งไม่ถึงอยู่แล้ว!

หากไม่ใช่เพราะรู้ว่ามีคนเคยลองมาก่อน เธอคงไม่เชื่อแน่ๆ ว่าเจ้าสิ่งนี้จะเข้าไปอยู่ในตัวผู้หญิงได้

‘ร่างกายของเทพธิดาต้องทนได้สิ… มั้งนะ’ คือสิ่งที่เธอพยายามพร่ำบอกกับตัวเองในใจ

หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เฮสเทียก็เริ่มทำตามขั้นตอนที่ฮารุฮิเมะแนะนำ โดยเริ่มจากการยกตัวขึ้นเล็กน้อยโดยพิงแขนไปกับเอวของวาห์น

จากด้านหลัง วาห์นกำลังเฝ้ามองแผ่นหลังเล็กๆ ของอีกฝ่ายด้วยความสนใจ

นี่เป็นสิ่งที่วาห์นไม่เคยบอกใครมาก่อน แต่เขาเคยเห็นท่วงท่าแบบนี้มาบ้างแล้วในระหว่างที่ออกตามหาฮารุฮิเมะ

อย่างเดียวที่คิดออกคือเฮสเทียคงไปเรียนอะไรมาจากเรนาร์ดสาวอย่างแน่นอน แต่วาห์นเองก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะไปต่อได้อีกสักกี่น้ำ

เฮสเทียสัมผัสได้ว่าร่างกายกำลังขยับไปตามลมหายใจของวาห์น ความร้อนที่เขาปล่อยออกมานั้นทำให้ส่วนล่างของเธอสั่นสะท้านไปหมด

เธอรู้ว่าเขากำลังรู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน หัวใจที่ยังกล้าๆ กลัวๆ จึงส่งคำสั่งมาที่สมองว่า ‘จะทำอะไรก็รีบๆ ทำเข้า’

เฮสเทียเริ่มจากการใช้มือปาดผมออกไปด้านข้าง ก่อนจะค่อยๆ ลดศีรษะลงจนเกือบติดส่วนปลายที่ดูแข็งกร้าว

ทว่าความลังเลเพียงชั่วครู่กลับทำให้ริมฝีปากบางหยุดกึกลงทันที ทั้งๆ ที่อีกเพียงไม่กี่มิลลิเมตรก็จะได้สัมผัสกันอยู่แล้ว

เฮสเทียเกิดเปลี่ยนใจกระทันหันและเริ่มสานมันต่ออีกครั้งด้วยการใช้ลิ้นเลียตรงส่วนปลายเพื่อทดสอบรสชาติก่อน

สิ่งที่ติดลิ้นกลับมาคือความเค็มปะแล่มๆ ทว่าเฮสเทียก็ยังต้องกลืนน้ำลายขณะที่หัวใจเต้นจนแทบจะระเบิดออกมาด้านนอก

เจ้า ‘ความเค็ม’ นี่เองที่ทำให้น้ำลายของเธอเอ่อล้นหนัดกว่าปกติ เพราะยังไงซะ เรื่องน้ำลายไหลกับเฮสเทียก็เป็นของคู่กันอยู่แล้ว

ประเด็นอยู่ที่ว่ามันไหลออกมามากเกินจน ‘หก’ ใส่สิ่งที่อยู่ด้านล่างนี่แหละ… เฮสเทียมองตามจุดที่มันตกลงไปและรู้สึกทั้งอายทั้งเครื่องติดไปพร้อมๆ กัน

เทพตัวเล็กเริ่มโลมเลียส่วนปลายของวาห์นโดยไม่รั้งรออะไรอีกแล้ว ขณะเดียวกันเธอก็พยายามไม่สนใจความรู้สึกอึดอัดที่อยู่ภายใน

หากไม่นับตอนที่เฮเฟสตัส ‘จูบทักทาย’ นี่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่มีผู้หญิงมาทำอะไรแบบนี้ให้กับวาห์น

ความเปียกชื้น ความร้อน และรสสัมผัสของลิ้น ทำให้ขาของเขาสั่นนิดๆ โดยเฉพาะช่วงจังหวะที่เฮสเทียกดลึกที่สุด มันเป็นความรู้สึกที่ดีแต่ก็หงุดหงิดอย่างน่าประหลาด อาจเป็นเพราะเฮสเทียเอาแต่ทำแบบเดิมซ้ำไปเรื่อยๆ เพียงอย่างเดียว?

เพราะรู้ว่าเธอไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน วาห์นจึงเลือกที่จะรูดซิบปากและคิดว่าเขาเองก็ควรทำอะไรบ้าง

เรียวขาที่อ้าออกจากกันทำให้การถอดปราการชิ้นสุดท้ายออกไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก

แทนที่จะพยายามฝืนถอดมัน วาห์นกลับเอื้อมมือออกไปและใช้นิ้วโป้งเกี่ยวมันไว้ด้านข้างแทน

ลมหายใจร้อนๆ ที่เข้าสัมผัสกับผิวเปลือยเปล่าทำให้เฮสเทียหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ทันที

วาห์นไม่ได้พูดอะไรและเอาแต่จ้องมองเนินสีขาวกับของเหลวที่ไหลออกมาจากร่องลึกตรงหน้า และราวกับมันกำลังเคลื่อนไหวตามจังหวะการหายใจของเฮสเทีย ร่องลึกนั่นคอยเปิดปิดอยู่เรื่อยๆ จนเขาได้เห็นสิ่งอยู่ภายในแบบวับๆ แวมๆ

ไม่นานสติของเฮสเทียก็กลับมาอีกครั้ง เธอตัดสินใจทำสิ่งที่ค้างคาเอาไว้ต่อโดยปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามธรรมชาติ

วาห์นเผยรอยยิ้มเล็กๆ ขณะใช้นิ้วโป้งทั้งสองแหวกร่องปริศนานั่นออกและจ้องมองเข้าไปในกำแพงที่ทั้งเปียกชื้นและกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ

เขาสังเกตุเห็นเม็ดตุ่มชูชันที่อยู่ตรงปลายสุด แต่ก็ตัดสินใจว่าจะปล่อยมันไปก่อน ขณะเริ่มนำลิ้นไปสัมผัสกับจุดซ่อนเร้นของผู้หญิงเป็นครั้งแรก

อย่างแรกที่เขาสัมผัสได้ก็คือของเหลวที่ออกมานั้นแตกต่างไปจากตัวกลิ่นอย่างสิ้นเชิง

มันหวานคล้ายน้ำผึง แต่ก็ให้รสที่จัดกว่านั้น เป็นสิ่งที่ยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด

เฮสเทียเริ่มไม่แน่ใจว่าหากตัวเองไม่ใช่เทพ หัวใจของเธอจะทนรับแรงกระตุ้นที่รุนแรงขนาดนี้ได้มากน้อยแค่ไหน

ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอลองทำมันด้วยตัวเองมาบ้างแล้ว แต่ที่โดนอยู่นี่มันคนละเรื่องกันเลย!

สิ่งที่เธอทำก็แค่เล่นตรงส่วนรอบนอกและสัมผัสตุ่มแข็งชันเล็กน้อยเท่านั้นเอง

สัมผัสที่ได้รับในตอนนี้คือความเสียวซ่านปนจั๊กจี้เล็กน้อย แถมมันยังทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องของเธอหดตัวทุกครั้งที่ภายในถูกบุกรุก

เทพตัวเล็กพยายามบรรเทาความรู้สึกด้วยการใช้มือทั้งสองข้างจับอาวุธของวาห์นและเลียตรงส่วนปลายให้แรงยิ่งกว่าเดิม

แต่ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน เฮสเทียก็เริ่ตระหนักแล้วว่านี่เป็นศึกที่เธอไม่อาจเอาชนะได้

เพราะขาดประสบการณ์ในหัวข้อดังกล่าว เธอจึงไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อและได้แต่ปล่อยให้วาห์นทำลายแนวป้องกันไปเรื่อยๆ โดยไม่อาจขัดขืนได้เลย

สิ่งที่วาห์นทำไม่ใช่แค่การเลียเท่านั้น แต่เขากำลัง ‘ลิ้มรส’ ภายในพร้อมใช้ลิ้นกดตามส่วนต่างๆ เพื่อดูว่าเธอจะตอบสนองยังไงบ้าง

ทุกครั้งที่เธอเกร็งจนผิดสังเกต วาห์นก็จะใช้ลิ้นจี้ตรงบริเวณนั้นก่อนจะโยกหัวเบาๆ

ตอนนี้เฮสเทียทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้นนอกจากถอยทัพและฟุบหน้าลงกับท้องน้อยของเขา

เธอทำได้แค่ใช้ลิ้นเลียตรงส่วนที่หน้าฟุบลงและปล่อยให้ร่างกายตกอยู่ภายใต้การทรมานจาก ‘ความกระตือรือร้น’ และความอยากรู้อยากเห็นของวาห์น

7 นาทีให้หลัง วาห์นที่ยังเมามันอยู่กับการสำรวจส่วนต่างๆ เริ่มสัมผัสได้ว่าของเหลวมีปริมาณมากขึ้น ขณะที่ผนังภายในก็ดิ้นไปมาไม่หยุด

เขารู้จากประสบการณ์ว่านี่เป็นสัญญาณเตือนเมื่อผู้หญิงใกล้ถึงจุดสุดยอดและตัดสินใจที่จะรุกหนักยิ่งกว่าเดิม

ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง เฮสเทียที่ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ก็กลับมาประจำที่และเริ่มเข้าโรมรันกับอสูรร้ายอีกครั้ง

วาห์นคิดว่าถึงเวลาที่ต้องปิดเกมนี้ลงแล้ว เขาจึงรวมพลังไว้ที่นิ้วโป้งซึ่งคล้ายกับแบบที่เคยทำกับไอส์ (แต่เบากว่า) ก่อนจะกลับไปใช้ลิ้นอีกครั้งพร้อมกดนิ้วลงตรงตุ่มที่ทำเป็นไม่สนใจมันมาโดยตลอด

จู่ๆ เฮสเทียก็รู้สึกกลัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน จากนั้นก็มีกระแสไฟฟ้ามาวิ่งผ่านตามกระดูกสันหลังและชนเข้ากับสมองจนความนึกคิดแตกหลายไม่เหลือชิ้นดี

เสียงที่เคยอยู่ภายใต้การควบคุมได้มาตลอด บัดนี้มันกลับถูกปลดปล่อยออกมาจนหมดหลอด

ตอนนี้เจ้าของเสียงกลับทำได้แค่พยายามใช้มือปิดปากและโก่งตัวเป็นกุ้งไปกับหน้าท้องของอีกฝ่ายเท่านั้นเอง

ความหฤหรรษ์แผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูขุมขน ส่วนสมองก็รู้สึกเบาหวิวและใช้การไม่ได้ไปชั่วขณะ

ร่างกายของเธอถูกกระตุ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แถมเฮสเทียไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ไม่รู้ด้วยว่าร่างนี้จะใช้การต่อได้อีกหรือเปล่า

สิ่งเดียวที่รู้สึกได้ก็คือความอบอุ่นจากด้านล่างและท่อนแขนแข็งแรงที่โอบรอบเอวไว้ ราวกับว่ามันกำลังพยายามรั้งเธอไว้ไม่ให้ดวงวิญญาณลอยกลับขึ้นสวรรค์ไปทั้งแบบนั้นเลย…

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท