Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 289

ตอนที่ 289

วาห์นรู้สึกเพลิดเพลินไปกับการเห็นหางสีดำกระตุกทุกครั้งที่ใบหูของอาคิถูกสัมผัส

เขายังใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] ในมือข้างที่โอบเอวไว้ ขณะลูบมันไปมาอย่างเบามือ

ตอนนี้เธอกำลังหลับตาปี๋ ส่วนปากก็กลายเป็นรูปตัว ‘x’ เล็กๆ ราวกับว่ากำลังฝืนไม่ให้ตัวเองร้องครางออกมา

วาห์นอยากเล่นแรงกว่านี้ แต่พวกเขาก็เพิ่งคุยเรื่อง ‘กฎเกณฑ์’ กับ ‘สถานที่และเวลา’ กันไปเองนี่นะ

อย่างน้อยๆ คงต้องขอเล็มเจ้าหูนี่หน่อยละกัน!

หูสีดำของอาคิกำลังกระตุกไปมาท่ามกลางสายตาของวาห์นอยู่นานแล้ว เห็นแล้วมันอดไม่ได้ คงต้องกำราบกันสักหน่อย

ทันทีที่ริบฝีมากสัมผัสกับเป้าหมาย อาคิก็ครางเสียดังลั่น

“เมี๊ยวววววว~! กัดหูไม่ได้น้า~”

ถ้าปากยังว่างอยู่ วาห์นก็คงหลุดขำแทน

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอหลุดเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเผ่ามนุษย์แมวออกมา

อาคิดูเป็นคนที่ใจเย็น แถมการพูดจาก็ฉะฉานมากเสียจนไม่น่าจะหลุดกันง่ายๆ

แต่ยังไงซะ นี่ก็เป็นสัญญาณบอกว่าเธอกำลังรู้สึกตื่นเต้นมาก

นั่นยิ่งทำให้วาห์นรู้สึกดีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะขยับหนีออกไป

หลังจาก ‘แทะเล็ม’ ใบหูต่ออีกหน่อย วาห์นก็ถอนปากออกและกลับไปลูบหัวของเธอต่อ

“อาคิ ทำไมเธอถึงได้น่ารักแบบนี้เนี่ย…”

อาคิก้มหัวลงด้วยใบหน้าแดงก่ำ ขณะเดียวกันเธอก็เริ่ม ‘มองบน’ ใส่คนที่ยังแกล้งกันไม่หยุด

วาห์นเห็นว่าออร่าของอาคิเริ่มจะดึงดูดเข้าหาตัวเองแล้ว ที่จริงแค่มองหน้าก็คงรู้ว่าอีกฝ่ายใกล้จะหมดความอดทนเต็มที

ถ้าเขาแกล้งแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ สงสัยวันนี้จะมีคนได้เสียกันในห้องสมุดนี่แหละ

แต่เพราะอาคิเคยสื่อออกมาประมาณว่า ‘ไม่ชอบพวกโลเล’ วาห์นก็เลยอยากลุยต่อ แต่ไม่รู้ว่าจะทำแบบไหนดี

เขาไม่รู้หรอกว่าเธอทำอะไรกับโลกิมาบ้าง แต่ดูแล้วอาคิไม่น่าจะขาด ‘ประสบการณ์’ และคงชอบลองอะไรที่แปลกใหม่

จู่ๆ เขาก็เริ่มนึกอะไรออกก่อนจะกระซิบเสียงเบา

“อาคิ มานั่งนี่สิ…” วาห์นพูดพลางตบตักของตัวเอง

หัวใจของวาห์นเริ่มเต้นเร็วขึ้น เพราะนี่มันไม่ใช่แบบปกติที่เขาทำ

ถ้าเป็นคนอื่นวาห์นคงไม่กล้าทำแบบนี้ เพราะพวกเธอส่วนใหญ่ล้วนแต่มีเรื่องราวในอดีตที่เขาต้องคอยระมัดระวัง

แต่ถ้าเป็นผู้หญิงที่แก่กว่าและมีชีวิตปกติอย่างอาคิ… แบบนี้ถือว่าครบตามเงื่อนไขทุกข้อ

ถ้าเป็นเธอล่ะก็ วาห์นเชื่อว่าเขาคงทำอะไรได้มากกว่าเดิม

อาคิยังคง ‘มองบน’ ไม่เลิก แต่สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินคำเชื้อเชิญนั่น

หญิงสาวคงนึกว่าจะโดนแหย่นิดๆ หน่อยๆ แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมโลกิถึงพร่ำเตือนนักหนา

ในตอนที่อธิบายเรื่องต่างๆ โลกิได้เล่าให้อาคิฟังว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างวาห์นกับผู้หญิงส่วนใหญ่นั้นจะเหมือนกับถูกบางอย่างผูกมัดเอาไว้

เธอเล่าว่าวาห์นต้องการคนที่มีจิตใจมั่นคง ตามความต้องการต่างๆ ได้ทัน และต้องเป็นคนที่มีเลเวล(สภาพร่างกาย)พอๆ กัน

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมวาห์นถึง ‘สูญเสียการควบคุม’ เมื่ออยู่กับเฮเฟสตัส

เพราะเธอตอบรับความต้องการของเขาทุกอย่าง สุดท้ายก็เลยโดนจัดหนักไปเกือบหนึ่งวันเต็ม

พอมาอยู่กับเฮสเทียบ้าง วาห์นก็ผันตัวเป็นฝ่ายรับที่คอยเอาใจใส่ความต้องการของเธอก่อน

เมื่อนึกถึงการสนทนาครั้งนั้น อาคิก็เริ่มรู้สึกคาดหวังและอยากรู้จริงๆ ว่าวาห์นจะไปได้ไกลแค่ไหน

ถึงจะเป็นฝ่ายพูดจาสั่งสอนหลายเรื่อง แต่มาขนาดนี้แล้วเธอก็ไม่อยากถอยเหมือนกัน

ประสบการณ์ของอาคิที่แล้วๆ มาก็มีแต่กับผู้หญิงด้วยกัน ถ้าตอนนี้จะอยากลองผู้ชายทั้งแท่งดูบ้างก็คงไม่แปลก

หญิงสาวค่อยๆ ยกตัวขึ้นมานั่งด้วยความลังเล แต่แล้วเสียงกระซิบก็ดังขึ้นอีก

“หันหน้ามาทางนี้สิ…”

เมื่อได้ยินแบบนั้น หัวใจของเธอก็ยิ่งเต้นเร็วและรุนแรงขึ้น

อาคิรู้ว่าวาห์นมีสาวมนุษย์แมวอยู่หลายคน นี่แสดงว่าเขาคงรู้อะไรดีๆ มาบ้างแหละ

หางสีดำกระตุกอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆ ลุกขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม

เธอสบตากับเขา ก่อนจะพึมพำเบาๆ ขณะคลานขึ้นไปนั่งบนตัก

ขาทั้งสองข้างคร่อมกับขาของอีกฝ่าย เรียกได้ว่าเป็นท่าทางที่ดูเย้ายวนมาก

วาห์นรู้สึกเพลิดเพลินกับความนุ่มนิ่มที่กดทับลงมาบนตัก รวมถึงความร้อนที่กำลังแผ่ออกมาจากกระโปรงสีขาวนั่นด้วย

เขาใช้สองมือโอบไปตามแผ่นหลังของอาคิจนเธอเริ่มตัวเกร็งก่อนจะโน้มตัวมาข้างหน้า

เธอจับไหล่ของเขาและพิงหน้าไปกับซอกคอ ราวกับว่ามันเป็นท่าตามธรรมชาติ

วาห์นนึกย้อนไปถึงโคลอี้และรู้ทันทีว่าอาคิต้องการทำอะไร

หลังจากที่คอเสื้อของเขาถูกดึงออก อาคิก็ต้องชะงักเพราะมือของอีกฝ่ายได้เลื่อนลงมายังบั้นท้ายได้รูปของตัวเอง

หญิงสาวใช้นิ้วลากไปตามรอยกัดที่มีอยู่เดิม ก่อนจะขยับไปที่ฝั่งตรงข้ามเพื่อดูว่ามันยัง ‘ว่าง’ อยู่หรือเปล่า

วาห์นเองก็ไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ เขาเริ่มใส่พลังเข้าไปในนิ้วจนหางสีดำสั่นไหวหนักกว่าเดิม

“แน่ใจนะว่าอยากฉันให้ฉันจับหาง?” เขาพูดด้วยเสียงหยั่งเชิง

อาคิเบิกตากว้างอย่างงงๆ ขณะหันไปสบตาคนถาม ก่อนเพิ่งจะตระหนักว่าเขายังไม่ได้จับมันเลย

นี่เธอนึกว่าวาห์นตั้งใจจะจับมันแต่บอกให้มานั่งท่านี้ซะอีก

อาคิสัมผัสได้ถึงฝ่ายมืออันร้อนแรงของวาห์น แต่เขาก็ยังไม่ได้ ‘ลงมือ’ ขั้นสุดท้าย

เธออยากจะโพล่งออกมาจริงๆ ว่าตัวเองน่ะเตรียมตัวเตรียมใจเสร็จแล้ว นายจะมัวรออะไรอยู่อีก…

แต่วาห์นก็ส่ายหัวและเป็นฝ่ายพูดก่อน

“อืม ช่างเถอะ… เธอก็พูดแล้วนี่ว่าถ้าฉันรับผิดชอบ… ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าต่อไปจะเป็นยังไง”

ก่อนที่อาคิจะได้เอ่ยถาม วาห์นก็ซุกมือเข้าไปใต้กระโปรงและคว้าเอาหางสีดำมากำแบบหลวมๆ

หลังของหญิงสาวสะดุ้งจนเหยียดขึ้นเป็นเส้นตรง จากนั้นใบหน้าของเธอก็คลายลงจนดูเหมือนกำลังเศร้า

“ถ้าราอูลใจกล้าได้แบบนี้ล่ะก็…”

วาห์นขมวดคิ้วนิดๆ แต่สีหน้าก็ยังดูยิ้มแย้มเหมือนเดิม

“หืม คิดเปลี่ยนใจแล้วเหรอ?”

อาคิส่ายหน้าพลางพูดออกมาตรงๆ

“ฉันมาเป็นนักผจญภัยก็เพราะว่าอยากแข็งแกร่งมากพอที่จะปกป้องความสุขของตัวเองในอนาคต

ฉันไม่อยากอยู่กับดันเจี้ยนไปตลอดชีวิต… อีกอย่าง ถ้าต้องรอดูอีก 6-7 ปี ว่าผู้ชายที่ทำตัวเพื่อนจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า… อันนี้ก็ไม่ไหวหรอกนะคะ

แววตาสีดำยังคงแฝงไปด้วยความเศร้า แต่วาห์นก็เห็นว่ามันกำลังถูกแทนที่ด้วยความมุ่งมั่น

ต่างจากสีหน้าที่อ่อนไหวง่าย ออร่าของเธอนั้นยังคงดึงดูดหาเขาเหมือนเดิมโดยไม่มีทีท่าว่าจะกระจายตัวออก

หลังจากพยักหน้าให้ วาห์นก็เพิ่มแรงบีบตรงหางและใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] ย้ำเข้าไปอีก

เขากำลังอยากรู้อยู่พอดีเลยว่าถ้ามนุษย์แมวโดน [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] จี้ตรงจุดอ่อนไหวแล้วผลมันจะออกมาเป็นยังไง ส่วนอาคิเองก็ไม่ทำให้ผิดหลังเช่นกัน

เธอพุ่งกลับมาจับไหล่ของเขา ก่อนจะจมเขี้ยวลงไปตรงจุดที่เล็งไว้แล้ว

เสียงครางของเธอดังจนมันลอดออกมาทางจมูก แต่วาห์นก็ทำได้แค่ปลอบด้วยการนวดหางเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

แม้จะรู้สึกเจ็บตรงที่โดนกัด แต่วาห์นก็ยังอยากไปต่อ

“ฉันขอลองอะไรหน่อย… ถ้าทนไม่ไหวก็ให้รีบบอก โอเคนะ?”

ถ้าพูดกันตามหลัก อาคินั้นยังถือว่าเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ วาห์นเลยอยากรู้ว่าถ้าใส่พลังแบบกระตุ้นลงไปแล้วผลมันจะเป็นยังไง

เขายกมือข้างที่ว่างขึ้นมาไล้ไปตามแผ่นหลังของอาคิโดยลากผ่านจุดประสาทต่างๆ เพื่อทำให้เธอผ่อนคลาย

การเห็นร่างกายที่เพิ่งโดนกระตุ้นค่อยๆ กลับมาอยู่ในสภาพผ่อนคลายนั้นออกจะดูน่าสนใจไม่น้อยเลย

วาห์นอยากให้อาคิได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด… ดีพอที่เธอจะใช้บอกกับตัวเองไปตลอดว่าวันนี้ไม่ใช่เรื่องผิดพลาด วันนี้เธอตัดสินใจถูกที่สุดแล้ว

ยังไงอีกฝ่ายก็เป็น ‘คู่นอน’ ของโลกิมาก่อน เธอน่าจะมีภูมิคุ้มกันเรื่องแบบนี้อยู่บ้างแหละ

—————
ผล.งาน.ถูกขโมยมาจาก: EP:IC Translation และ Thai Novel : https://bit.ly/34ApcTP

—————

เกือบ 1 นาทีที่อาคิทำท่าราวกับกำลังกลั้นเสียงร้อง ทั้งๆ ที่ร่างกายของเธอน่าจะผ่อนคลายมากกว่านี้

วาห์นสันนิษฐานว่าหางของเผ่ามนุษย์แมวน่าจะเป็นจุดรวมประสาทที่สำคัญอันดับต้นๆ

เพราะต่อให้กล้ามเนื้อตรงส่วนต่างๆ คลายลง พอส่วนหางโดนจับไว้ ทุกส่วนก็จะกลับมาทำงานได้บ้าง

วันนี้วาห์นรู้เรื่องน่าสนใจเพิ่มมาอีกอย่างแล้ว ส่วนอาคิน่ะเหรอ? เธอก็ยังคง ‘งับ’ อยู่แบบนั้นโดยที่ใช้แรงออกไปได้แค่ประมาณครึ่งเดียว และแน่นอนว่าส่วนหางก็ยังโดนกำไว้อยู่

วาห์นรู้สึกได้ด้วยว่ามีบางอย่างอุ่นๆ กำลังไหลเลอะกางเกง แล้วไอ้อุ่นๆ ที่ว่านี่คงไหลมาจากใต้กระโปรงของอาคิแน่นอน

ผ่านไปอีกประมาณ 10 นาที อาคิก็ลงมานอนหมดเรี่ยวแรงในขณะที่วาห์นใช้มือไล่ตรวจตามส่วนต่างๆ

พอรู้ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เขาก็สวมกอดเรือนร่างที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ

ตอนนี้ตัวของทั้งคู่เปียกแฉะไปหมด และบางส่วนก็ไม่ใช่เหงื่อซะด้วยสิ

วาห์นยังได้กลิ่นเบาๆ ของ… เอาเป็นว่ามันทำให้เขารู้สึกผิดก็แล้วกัน

มือของวาห์นกลับไปเกาะกุมบั้นท้ายได้รูปอีกครั้ง จากนั้นเขาก็เอนหลังเพื่อกันไม่ให้เธอหงายตกพื้น

เขายื่นปากเข้าไปใกล้ใบหูสีดำน่าแทะอีกครั้ง

“อันนี้อย่างสุดท้ายแล้วนะ… ถ้ามากกว่านี้เธอคงรับไม่ไหวแน่ๆ”

เพราะไม่มีแรงมากพอที่จะคุยด้วย อาคิเลยเปลี่ยนมาใช้ลิ้นเลียคอเพื่อสื่อให้วาห์นรู้ว่าเธอกำลังฟังอยู่

วาห์นคิดว่าสื่อสารแบบนี้มันก็เข้าท่าดีแฮะ แต่เขาก็ไม่ได้พูดมันออกมา

“สูดหายใจลึกๆ นะ…”

อาคิรีบทำตามเพื่อเตรียมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

เธอได้เจอกับอะไรที่เหนือความคาดหมายไปมาก แถมครั้งนี่วาห์นยังบอกเองเลยว่าให้สูดหายใจลึกๆ

วาห์นเริ่มจากการนำมือทั้งสองข้างไปวางไว้ที่โคนหางของอาคิ จากนั้นเขาก็ลากมือซ้ายขึ้นไปตามแผ่นหลังก่อนจะหยุดลงตรงแถวๆ ท้ายทอย

นี่คือวิชาที่ต้องใช้อย่าง ‘ระมัดระวัง’ ที่สุดในหมู่วิชานวดที่วาห์นศึกษามา

ชื่อของมันก็คือ ‘ผสานฟ้าดิน’ โดยการสร้างจุดยึดเหนี่ยวตรงส่วนต้นและปลายกระดูกสันหลัง จากนั้นก็ปล่อยพลังเข้าไป

จากนั้นพลังดังกล่าวก็จะกระจายออกไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

วาห์นคาดว่าผลของมันน่าจะคล้ายกับการเสร็จครั้งใหญ่หลายๆ รอบ… แต่นั่นก็ยังเป็นแค่ทฤษฎี

อย่างน้อยๆ ในหนังสือก็บอกว่านี่คือวิชาที่ ‘ไม่เป็นอันตราย’ เขาถึงกล้านำมันออกมาใช้จริง

ทันทีที่ส่งพลังออกไปตรงโคนหาง หางของอาคิก็กลายสภาพเป็นแท่งกระบองทันที ตามมาด้วยของเหลวมากมายที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุด

ทว่ามันยังไม่จบแค่นั้น ต่อไปก็ถึงคราวของจุดตรงท้ายทอย

ครั้งนี้อาคิกลั้นเสียงต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอถึงกับต้องร้องออกมาเต็มแปดหลอด

“เมี๊ยวววววววฮะอ้ะอ๊าาาาาาาาาา~”

ขณะที่วาห์น (TL:ยังทำไม่เสร็จ -*-) ลากทั้งสองมือเข้าหากัน จนกระทั่งมันไปบรรจบที่กลางกระดูกสันหลังพอดี

จู่ๆ เสียงร้องของอาคิก็ค่อยๆ เบาลงจนแทบไม่ได้ยิน

พอหันไปมองหน้า วาห์นก็พบว่าเธอยังคงทำท่ากรีดร้องอยู่ จะบอกว่ากำลังร้องแบบไม่มีเสียงก็คงได้

ร่างกายของหญิงสาวสั่นท้านไปหมด ถ้าสั่นกว่านี้อีกก็คงเข้าขั้นชักแล้ว แถมมันยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย

วาห์นเริ่มรู้สึกเป็นห่วงและตระหนักว่าเขาอาจจะเล่นแรงเกินไปหน่อย

พอสัมผัสได้ว่าอาคิกำลังเข้าขั้นหายใจติดขัด วาห์นก็รีบสลายพลังทุกอย่างออกจากร่างกายของเธอทันที

หลังจากโดนจิ้มตรงนั้นตรงนี้ อาคิก็ร่วงลงมาราวกับหุ่นเชิดที่โดนตัดเชือก ทว่าสิ่งที่รอรับเธอนั้นไม่ใช่พื้นเย็นๆ แต่เป็นอ้อมกอดอันอบอุ่น

ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง อาคิถึงจะกลับมาหายใจได้ตามปกติโดยมีสีหน้าที่วาห์นพอจะอธิบายได้ว่ามันดู ‘มีความสุข’ และ ‘สงบมาก’

ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก เพราะถึงจะมีช่วงน่าหวาดเสียว แต่ผลก็ออกมาไม่แย่จนเกินไป

ครู่ต่อมา อาคิก็หลับใหลไม่ได้สติโดยที่ยังมีสีหน้าเปี่ยมสุขเหมือนเดิม

วาห์นค่อยๆ ใช้มือลูบเรือนผมสีดำยาว แม้ว่ามันจะชุ่มไปด้วยเหงื่อก็ตาม

ไม่นานเขาก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันออกจะเปียกไปหน่อย โดยเฉพาะที่กางเกงของตัวเอง ช

เพราะไม่อยากให้อาคินอนในเสื้อผ้าเปียกๆ เขาก็เลยต้องทำอะไรสักอย่าง

ถ้าไม่เช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ วาห์นก็คงต้องพาเธอไปอาบน้ำแทน

เขาค่อยๆ ลุกขึ้นโดยอุ้มอาคิไว้ในอ้อมแขน แต่พอหันกลับมาดูจุดเกิดเหตุเท่านั้นแหละ บอกได้คำเดียวว่า ‘เละ’

ต่อให้ไม่ต้องแปลงร่างเขาก็ยังได้กลิ่นทุกอย่างแบบชัดเจนสุดๆ

ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่านอกจากอาคิจะคุมปากบนไว้ไม่อยู่แล้ว ปากล่างของเธอก็มีสภาพไม่ต่างกัน

เรื่องนี้วาห์นไม่ได้จะโทษเธอเลย เพราะทุกอย่างเป็นฝีมือของตัวเองล้วนๆ

ถ้ามันจะเยอะขนาดนี้ เช็ดตัวคงเอาไม่อยู่ คงต้องไปอาบน้ำลูกเดียว

เพราะกลัวว่าจะมีคนเห็นระหว่างทางจนเกิดเรื่องวุ่นๆ วาห์นเลยใช้พลังเขตแดนเพื่อตรวจสอบเส้นทางล่วงหน้า

‘อืมมมม… ยากแฮะ’

ก่อนออกจากห้อง วาห์นก็เก็บโซฟาเข้าช่องเก็บของเพื่อปกปิดหลักฐานไว้ก่อน

เขาไม่ได้เดินออกมาทางประตู แต่กลับใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] มาที่หน้าต่างแทน

ช่วงนี้อากาศข้างนอกหนาวเย็นมาก แต่วาห์นกับอาคิก็ไม่ใช่นักผจญภัยเลเวล 1-2 ของแค่นี้ทนได้สบายๆ แถมวาห์นยังใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] ต่อเนื่องเพื่อย่นเวลาลงอีก

เขาไม่อยาก ‘เสี่ยง’ เดินตามห้องโถง เพราะต่อให้เดินเลี่ยงได้ สาวๆ บางคนก็คงจับกลิ่นได้อยู่ดี

พออาบน้ำเสร็จแล้ว วาห์นคงต้องรีบกลับมาทำความสะอาดห้องสมุดอีกรอบเพื่อขจัดกลิ่นที่เหลือออกให้หมด

เรื่องนี้ทำให้เขาคิดได้ว่าการกำหนดพื้นที่หรือห้องพิเศษอย่างที่อาคิบอกมันก็ดีเหมือนกันนะ

หลังจากพุ่งและหักเลี้ยวไปมาอยู่พักนึง ในที่สุดวาห์นก็มาถึงห้องอาบน้ำ

เขาผสาน [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] ที่มือ ก่อนจะเริ่มนวดตรงกะบังลมของอาคิเพื่อปลุกให้เธอตื่น

ดวงตาสีดำลืมขึ้นแบบเพลียๆ ก่อนจะหันมามองวาห์น จากนั้นมันก็เปลี่ยนไปมองสถานที่รอบๆ

พอเริ่มเดาสถานการณ์ออก อาคิก็ยื่นมือออกมาหยิกที่แก้มของวาห์นแรงๆ

“กัป-…นายอย่าไปนวดแบบนั้นกับคนอื่นอีกนะ… โดนแบบนั้น เผลอๆ อาจเป็นบ้าไปเลยก็ได้”

วาห์นถึงกับต้องหยีตาจากแรงหยิก แต่เขาก็ปล่อยให้เธอทำตามใจชอบเพราะรู้สึกผิดจริงๆ

เขาตอบพลางยิ้มแห้งๆ

“ขอโทษนะอาคิ… ฉันเล่นแรงไปหน่อย เธอทำตัวน่ารักมากๆ ฉันก็เลยอยากลองดูว่า-”

ก่อนจะได้พูดจบประโยค อาคิก็ดิ้นจนหลุดจากอ้อมแขนและเริ่มดูสภาพของตัวเอง

“เรื่องนั้นฉันไม่สนหรอก ถ้าอยากให้นายหยุด ฉันก็คงพูดออกมาแล้ว…”

อาคิตรวจดูตรงจุดต่างๆ ก่อนจะทำหน้าเซ็ง

“ไม่คิดเลยแฮะ ว่าจะโดนไล่ต้อนจนหมดสภาพแบบนี้… ขอโทษด้วยนะคะ”

อาคิเริ่มถอดเสื้อผ้าออกโดยไม่พูดอะไรต่อ เสร็จแล้วเธอก็โยนพวกมันไปไว้ข้างห้อง

วาห์นนั้นเตรียมคำขอโทษเอาไว้หมดแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็มองเพลินจนไม่ได้พูดออกมาสักคำ

แม้อาคิจะมีรูปร่างเพรียวเหมือนกับมนุษย์แมวคนอื่น แต่บางจุดของเธอกลับดู ‘นุ่มนิ่ม’ กว่ามาก

นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอดูอ้วน แต่แค่ดูเหมือนจะมีส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อน้อยหน่อย

ตรงส่วนโค้งเว้าอย่างหน้าอกก็ดูอวบมากกว่าได้รูป ถ้ากะคร่าวๆ ก็คงได้ประมาณคัพ B

ตอนนี้เธอก็อายุเกือบยี่สิบแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าหน้าอกคู่นี้จะได้ไปต่อหรือเปล่า…

หลังจากถอดจนเหลือแค่ขาสั้นชิ้นเดียว อาคิก็เริ่มหน้าแดงพลางใช้นิ้วเกี่ยวขอบกางเกงไปมา

วาห์นนึกว่าเธอคงเขินตรงช่วงล่างมากกว่าช่วงบน เขาก็เลยหันหลังให้

แต่พอได้ยินเสียงเหมือยผ้าเปียกๆ ถูกโยนออกไป อาคิก็หันมาเรียก

“หันกลับมาได้แล้วค่ะ”

วาห์นก็หันกลับแบบงงๆ และพบว่าเจ้ากางเกงตัวนั้นได้หายลงไปอยู่ในกองผ้าแทนแล้ว

ดูแล้วเธอคงไม่อยากให้เขาเห็นเจ้ากางเกงเปียกๆ นั่นมากกว่า ซึ่งงานนี้วาห์นก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ

จะสนใจกางเกงทำไม เอาเวลาไปมองอย่างอื่นเถอะ

สะโพกของอาคิดูไม่ใหญ่มากนัก ส่วนของบั้นท้ายเองก็เช่นกัน แต่ถ้าไม่ได้สัมผัสก็คงไม่รู้เลยว่ามันนิ่มมาก

สิ่งที่ดูเตะตาสุดๆ เห็นจะเป็นเส้นขนสีดำสั้นๆ เหนือจุดซ่อนเร้น ดูแล้วเธอคงจัดการกับมันอย่างสม่ำเสมอ

อาคิทำหน้าเขินๆ ก่อนจะอธิบาย

“ฉันมี… จุดที่มันไม่ขึ้นน่ะ ก็เลยต้องคอยโกนออก นายคิดว่ามันดูแปลกหรือเปล่า?”

วาห์นส่ายหัวแบบยิ้มๆ พลางตอบอย่างมั่นใจ

“อาคิ เธอสวยทุกส่วนเลย ขอบใจนะที่ให้ดู… ฉันรู้สึกโชคดีจริงๆ”

หญิงสาวถอนหายใจโล่งอก ก่อนที่ความเศร้าในดวงตาจะกลับมาอีกครั้ง

วาห์นเห็นแล้วก็กำลังจะเอ่ยถาม แต่เธอกลับอธิบายอย่างไม่ปิดบัง

“ฉันนึกถึงเรื่องคนบ้านั่นอีกแล้ว… ก็ มีครึ่งนึงที่ฉันลองยั่วแบบนี้ แต่หมอนั่นกลับวิ่งเตลิดออกจากห้องไปเลย…”

“เธอคงรักเขามากเลยใช่ไหม?” วาห์นถามพลางขมวดคิ้ว

อาคิก้มหน้าลงเล็กน้อย แต่แล้วเธอก็ส่ายหัว

“ฉันอยากที่จะรักเขา แล้วฉันก็อยากให้เขารักตอบและแสดงมันออกมาผ่านการกระทำ

ฉันคงเป็นนักปฏิบัติมากกว่าพวกช่างฝันน่ะ

ชีวิตนี้มีอะไรมากมายที่ฉันต้องการ และการมานั่งรอจนแก่ก็ไม่ใช่หนึ่งในนั้น…”

พูดเสร็จ อาคิก็เดินลงไปในบ่อน้ำร้อนทันที

“มาเถอะค่ะ ถ้ามีคนตามหาแล้วไม่เจอเราทั้งคู่ล่ะก็… จะวุ่นวายเอาได้นะ

ฉันอยากรีบไปเคลียร์ห้องสมุดต่อด้วย…”

วาห์นพยักหย้าหงึกๆ ก่อนจะเริ่มถอดเสื้อผ้าและลงไปนั่งแช่น้ำข้างๆ

คราวนี้วาห์นเป็นฝ่ายโดนเธอสำรวจดูบ้าง แต่แค่ครู่เดียวอาคิก็พูดขึ้น

“เป็นแบบที่ท่านโลกิบอกเลย ออกจะใหญ่ไปหน่อยนะคะ

ถ้าเกิดอยากทำอะไรขึ้นมาก็ขอให้บอกกันก่อนละกัน ฉันมียาขยายมาด้วย รอแค่เดี๋ยวเดียวก็ใช้ได้แล้ว”

“ยาขยาย? ขยายอะไร?” วาห์นถามแบบงงๆ

เขาพยายามค้นหาคำคอบในหัวขณะเดียวกับที่อาคิอธิบายให้ฟัง

“ค่ะ… ก็ การที่ผู้หญิงจะรับของนายได้นี่มันคงจะลำบากน่ะ แล้วก็ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้

ท่านโลกิเลยให้ยาตัวนี้มา แล้วก็ฝากให้ฉันเอาไปให้ท่านเฮสเทียกับผู้หญิงคนอื่นๆ ด้วย

มันก็อาจจะยังยากอยู่ แค่คงเจ็บน้อยลงเยอะ…”

อาคิยังคงอธิบายแบบเรื่อยๆ แต่ยิ่งนานเข้า ใบหน้าของเธอก็ยิ่งแดง และแน่นอนว่าไม่ได้แดงเพราะน้ำร้อน

วาห์นนั้นไม่ทันสังเกต เพราะเขากำลังนึกภาพอยู่ว่าเฮสเทียจะคิดยังไงกับเรื่องนี้

พอจะหันกลับไปถามต่อ สีหน้านั่นก็ทำให้วาห์นฉุกคิดว่า ‘เวลาอยู่กับผู้หญิงคนไหน เราก็ควรคิดถึงแต่เธอคนนั้น ไม่ควรไปนึกถึงคนอื่น’

“เรื่องวันนี้ฉันเป็นฝ่ายผิดเอง… ขอรับผิดชอบด้วยการอาบให้ละกัน” วาห์นพูดแบบยิ้มๆ

พอได้ยินแบบนั้น อาคิจึงยิ้มตอบก่อนจะขยับเข้ามาจนชิด จากนั้นเธอก็ไล่นิ้วไปตามรอยที่ตัวเองกัด

“ฉันเองก็มีส่วนผิดนะ… งั้นเรามาผลัดกันอาบให้ก็แล้วกัน”

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท