ตอนที่ 93 คัดเลือก
เนื่องจากเมืองฉือเฉียวและเมืองพันธมิตรของมัน รวมแล้วมีถึงสี่เมืองหากคิดเป็นจำนวนคนก็มีมากถึงสองร้อยคน!!
เขามิมีอาหารเพียงพอที่จะเลี้ยงพวกมันได้หมด แต่ยังไงเขาก็ต้องการกำลังพลเพิ่มเขาจึงคัดคนที่พร้อมจะใช้งานได้เลยเท่านั้น
ตอนนี้มีคนถูกมัดนั่งเรียงกันเป็นแถวแยกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายนึงผู้ที่ถูกพิษอีกฝ่ายคือพวกที่มิได้ดื่มกิน
“นาย เธอ แล้วก็นาย” หลินหยางเดินผ่านแถวพลางชี้เลือกคนที่เขาต้องการ ดูคล้ายกับเขากำลังเลือกซื้อทาสก็มิปาน
เสร็จสิ้นจากแถวนึงก็เดินไปอีกแถวนึง แต่ก็มีบางอย่างแปลกๆคนที่มิถูกเลือกก็ก้มหน้าคล้ายผิดหวัง ส่วนผู้ที่ถูกคัดเลือกกลับยิ้มแย้มเบิกบาน นี่มันมิปกติยิ่งนัก
หลินหยางเองก็รูสึกสับสนเช่นกันเพราะปกติผู้ที่เลือกไปโดยศัตรูพวกเขาต้องเสียใจมิใช่หรือแต่ปฏิกิริยาของคนพวกนี้มันช่างกลับตาลปัตรเสียจริง
การคัดเลือกเป็นไปอย่างราบรื่นเมื่อเขาเลือกคนจากกลุ่มผู้ที่มิได้ดื่มกินสุราพิษเสร็จสิ้น
“เอาล่ะส่วนกลุ่มนี้..” หลินหยางครุ่นคิดพลางเดินพวกเขา เนื่องจากกลุ่มนี้พวกมันล้วนแต่ถูกฤทธิ์สุราพิษกันทั้งสิ้น หากใครดื่มน้อยก็ดีหน่อยพักรักษาตัวซักระยะร่างกายก็คงขับพิษออกไปด้วยตนเอง แต่หากดื่มมากอวัยวะภายในคงเสียหายแม้จะไม่ตายแต่ก็คงใช้แรงได้ไม่เต็มที่ดังเก่าก่อน
“พวกนายจับคู่ต่อสู้กับพวกมัน หากใครพอใช้การได้ให้คัดเลือกเข้ามา” หลินหยางกล่าวกับคนของเขาเมื่อคิดหาวิธีเลือกได้ เพราะหากไล่ถามพวกมันทีละคนว่ากินมากกินน้อย ย่อมต้องมีพวกที่พูดจริงและเท็จ เขาจึงให้คนของเขาเป็นผู้คัดเลือกแทนวิธีนี้สามารถวัดระดับการต่อสู้ของพวกมันไปในตัว
หลินหยางนั่งดูการต่อสู้ โดยเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่ามิใช้อาวุธใดเข้าช่วยเพราะวิธีนี้จะสามารถเห็นความสามารถดั้งเดิมของพวกมัน
การต่อสู้มิได้รุนแรงมากนักมีบ้างที่ปากแตกฟันหัก แต่ก็เป็นสีสันในการแข่งขัน เหล่าคนของฉือเฉียวพวกมันสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเลยทีเดียวคล้ายกับว่าหากมิได้รับเลือกพวกมันคงไม่อยากมีชีวิตอยู่
แม้ระดับทั้งสองฝ่ายจะแตกต่างกันมากโดยเฉพาะทีมจู่โจมของเขาที่มีเพียงระดับสามและสี่ ส่วนคนของฉือเฉียวนั้นล้วนมีระดับเจ็ดถึงเก้ากันทั้งสิ้น แต่ก็มิสามารถนับได้ว่าพวกมันมีเปรียบเนื่องจากมันก็ถูกสุราพิษข่มพลังลงส่วนนึง
ส่วนทีมระยะประชิดนั้นมิต้องกล่าวถึงเพราะพวกเขาฝึกฝนกันอย่างหนักทุกวันบางวันแทบลุกไม่ขึ้นเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นผลการฝึกจึงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนคู่ของพวกเขาล้วนพ่ายแพ้อย่างหมดสภาพ
เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง หลินหยางให้คนของเขาที่ประมือกับคู่ของตนมารายงานความสามารถของฝ่ายตรงข้าม
“เจ้านั่นพอใช้ได้ครับ” จิ่นเหอกล่าว
“เจ้านั่นไม่เอาถ่านเลย” หลิ่วไห่กล่าวพลางส่ายหัว
หลินหยางยิ้มแห้ง เนื่องจากสงสารคู่ต่อสู้ของหลิวไห่ เมื่อเริ่มสัญญาณการต่อสู้ฝ่ายตรงข้ามโดนซัดสลบภายในหมัดเดียวดูท่าคงจะหลับไปอีกหลายชั่วโมง
เมื่อฟังรายงานของแต่ละคู่คนหมดเขาจึงคัดคนที่พอมีฝีมือบ้าง รวมถึงผู้ที่โดนฤทธิ์สุราพิษไม่มาก ตอนนี้พวกมันยืนรวมกันอยู่กว่าสามสิบคน
“เอาล่ะพวกคุณที่ถูกเลือกทุกคนจะอยู่ภายใต้การปกครองของผม พวกคุณทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันหากมีคนทำผิดก็ต้องโดนลงโทษไม่เว้นแม้แต่คนสนิทของผม หากใครไม่เต็มใจสามารถออกไปได้” หลินหยางกล่าวเสียงดังกังวาล
เมื่อสิ้นเสียงเขาขมวดคิ้วพลางมองไปรอบๆดูพวกมันเหล่านี้มิมีใครปฏิเสธข้อเสนอของเขาเลยแม้แต่คนเดียว
‘นี้มันแปลกจริงๆ’ เขาไม่คิดว่าพวกมันจะยอมรับง่ายถึงเพียงนี้
ตอนที่ 94 จนใจ
“พี่หยางผมขอติดตามพี่ไปด้วย”
จู่ๆก็มีเสียงคนกล่าวขึ้น คนผู้นี้มิได้ถูกคัดเลือกให้เข้าร่วมกับเมืองของหลินหยาง
ไม่นานก็มีเสียงดังไปทั่วเมืองพวกมันล้วนอ้อนวอนให้หลินหยางเลือกพวกมันให้ติดตามกลับเมือง
“เงียบ” เจียวซินตะโกนเพื่อรักษาความสงบ
“พี่หยางพาพวกเขากลับไปด้วยเถอะค่ะ” สตรีผู้ที่ยิงธนูหมายลอบสังหารหลินหยางกล่าวขึ้น เธอมีชื่อว่าซู่ฟาง
“ทำไมล่ะ?” หลินหยางขมวดคิ้วนี้มันแปลกประหลาดเสียจริงเหตุใดพวกนี้ต้องแก่งแย่งกันเพื่อไปอยู่ใต้การปกครองของเขาถึงขนาดนี้
“หากไม่พาพวกเขาไปพวกเขาก็ต้องตายอยู่ดี เพราะเมืองรอบๆต้องมาโจมตีพวกเขาเพื่อแย่งชิงสิ่งของ หากเมืองมิถูกโจมตีพวกเขาก็ต้องอดตายอยู่ดีเพราะแหล่งอาหารต้องถูกแย่งชิงไปแน่” ซู่ฟางกล่าว
มิผิดเนื่องจากปกติเมืองของฉือเฉียวในบริเวณนี้มันถือว่าเป็นเมืองที่มีกำลังรบสูงกว่าเมืองรอบๆ พวกมันจึงมิกล้าทำการสิ่งใดที่ล่วงเกิน
แต่ตอนนี้มิเหมือนดังเก่าเพราะฉือเฉียวมันตายแล้วแถมกำลังรบของเมืองตอนนี้ นอนแน่นิ่งเป็นร่างไร้วิญญาณอยู่บนผื้นดินมากกว่าห้าสิบร่างโดยฝีมือของหลินหยางและพวก นั่นก็แปลว่าพวกเขามิสามารถปกป้องตนเองจากเมืองรอบๆได้อีกต่อไป ตอนที่ฉือเฉียวยังอยู่ตัวมันกดขี่เมืองอื่นรอบๆไปไม่น้อยทั้งการที่เมืองอื่นต้องจ่ายส่วยอาหารให้พวกมันทุกๆเดือน รวมถึงผู้หญิงเช่นเดียวกันหากมันถูกใจสตรีนางใดย่อมต้องตกอยู่ในมือของไร้ผู้ต่อต้าน
เมืองเหล่านั้นที่แค้นเคืองหากรู้ข่าวการตายของฉือเฉียวและกำลังพลที่เสียไปมากเช่นนี้ พวกมันย่อมตกยกทัพมาโจมตีเมืองแห่งนี้เป็นแน่
หลินหยางพยักหน้าเมื่อทราบเหตุผลดูท่าฉือเฉียวจะไม่ได้อวดเบ่งเฉพาะกับพวกเขาที่พึ่งมาใหม่ แม้แต่บริเวณรอบเมืองที่ควรจะจับมือรวมกำลังเป็นพันธมิตรมันก็ไม่เว้น
หลินหยางครุ่นคริดมิทราบต้องจัดการเช่นใด เพราะคนที่มิถูกคัดเลือกเหล่านี้ล้วนแต่เป็น เด็กตัวเล็ก สตรี คนชรา และผู้ที่พิษอาการหนัก ถึงแม้จะเอาพวกเขากลับไปด้วยก็มิได้มีประโยชน์อันใดแก่เมืองของคน
เหล่าเด็กนั้นแม้จะเอาไปฝึกฝนแต่เนื่องจากกาลเวลาในโลกแห่งนี้มิเดินตามปกติ เพราะงั้นแม้จะรออีกสิบปีร่างกายพวกเขาก็มิเติบโตขึ้นแต่อย่างใดเพราะในเมืองของหลินหยางก็มีเด็กมากมายเช่นกันร่างกายพวกเขาราวกับถูกหยุดเวลาไว้มิเติบใหญ่
ส่วนคนชราก็มิสามารถต่อสู้ได้เนื่องจากร่างกายมิอำนวย ในเมืองของหลินหยางเหล่าคนชราส่วนใหญ่ได้รับมอบหมายให้ทำงานเล็กๆน้อยๆเท่านั้น เช่นผลิตลูกธนู เย็บปักถักร้อย รวมถึงช่วยงานจุกจิกของทีมก่อสร้างสำหรับผู้ที่ร่างกายยังแข็งแรงอยู่
แต่เมื่อมองไปที่เหล่าคนคุกเข่าอ้อนวอนร้องขอเข้าร่วมมากมายเช่นนี้หัวใจของเขาก็สั่นไหวเช่นกัน
“เอาเถอะไปกันทั้งหมดนี้แหละ” หลินหยางกล่าวอย่างจนใจ แต่คงให้คนเหล่านี้อยู่พลาญทรัพย์ยากรอย่างเดียวมิได้ เมื่อกลับไปเขาต้องมอบหมายงานให้พวกเขาถึงจะเป็นงานเล็กๆน้อยๆก็เถอะ
“ขอบคุณพี่หยาง ขอบคุณพี่หยาง” ผู้คนโดยรอบกล่าวเป็นเสียงเดียวราวกับสรรเสริญหลินหยางก็มิปาน
“วันนี้พวกเราจะพักกันที่นี้ หากในเมืองของพวกคุณยังมีคนอยู่ก็ไปพาพวกเขามา พรุ้งนี้เราจะออกเดินทางแต่เช้า” หลินหยางกล่าว เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลากลางคืนท้องฟ้ามืดมิดรวมกับระยะทางที่ห่างกับเมืองของเขามากจึงมิเป็นการดีที่จะเดินทางในตอนนี้