ตอนที่ 169 เด็ดขาด
หลินหยางมองตามเจียวซิ่นที่นำผู้บาดเจ็บกลับไปรักษาตัว เขาอยากให้คนเหล่านี้นำความอัปยศอดสูที่ตนเองได้รับเปลี่ยนแปรเป็นพลัง เหล่ามนุษย์หมาป่าเหล่านี้พวกเขาสามารถเติมเต็มความต้องการของหลินหยางได้เป็นอย่างดี
แต่เหล่าเวรยามที่เป็นมนุษย์พวกเขามิได้ผ่านการต่อสู้เอาชีวิตรอดมาแต่กำเนิดเหมือนมนุษย์หมาป่า แม้จะถูกจับทุบตีทรมานก็ยังไม่เข้าใจถึงความโหดร้ายที่พลังเป็นใหญ่ในโลกนี้แม้แต่น้อย
“เฮ้อ” หลินหยางถอนหายใจ เขาไม่สามารถบังคับพวกนี้ได้เพราะมันมาจากจิตใจโดยตรง ทำได้เพียงแค่ให้พวกเขารับรู้ด้วยตนเองและยืดหยัดต่อสู้เท่านั้น
ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้จนถึงจุดจบของฉือเทียนเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง มีเหล่ากระรอกตัวอวบอ้วนกรูกันออกมาจากโพรงแต่ก็มิมีผู้ใดให้ความสนใจแก่มันเลยเพียงนิด จึงเป็นโอกาศทองที่มีครั้งเดียวในชีวิตของพวกมันที่หลุดรอดเงื้อมมือของหลินหยางที่หมายจับพวกมันเป็นอาหาร
แต่น่าสงสารเหล่ากระรอกตัวอวบอ้วนเหล่านี้ แม้จะไม่มีคนคอยเฝ้าเพื่อจับพวกมันแต่รอบๆโพรงของมันก็มีรั้วล้อมรอบปิดกั้นมิสามารถหลบหนีออกไปได้…
ณ โพรงกระรอก
เมื่อเจียวซิ่นนำพาผู้บาดเจ็บกลับไปจนหายลับจากสายตา หลินหยางหันมามองกองกำลังของฉือเทียนที่พ่ายแพ้สงครามถูกจับมัดแขนขา
“แก้มัดพวกเขา” หลังจากริบอาวุธรวมถึงอาหารที่พกติดตัวของพวกมันแล้วหลินหยางจึงสั่งให้แก้มัดพวกเขา คนพวกนี้ถึงจะมีอาวุธในมือก็ไม่สามารถสู้ทีมระยะใกล้ได้ เมื่อโดนยึดอาหารที่พกติดตัวจนมิเหลือหลอหากคิดจะหนีไปคงไม่พ้นขาดอาหารจนสิ้นชีวี
มองไปยังรอบๆบัดนี้มิได้มีเพียงกลุ่มของหลินหยางและฉือเทียนอีกต่อไป มีคนจากหลายเมืองมาสอดส่องสอดแนมการต่อสู้ของพวกเขา เพราะโพรงกระรอกนับว่าเป็นจุดสนใจแหล่งอาหารที่มีเพียงหนึ่งเดียวในบริเวณโดยรอบ
พวกมันเหล่านี้ล้วนคอยฉกฉวยโอกาศจากทั้งสองฝ่าย หากทั้งสองฝ่ายสู้รบกันจนบาดเจ็บลมตายกลาดเกลื่อนพวกมันอาจจะเข้ามาผสมโรงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ แต่น่าเสียดายที่มิเป็นไปตามคาด
หลินหยางมิได้ให้ความสนใจพวกมันมากนัก
เมื่อคนของฉือเทียนได้รับการปล่อยตัวพวกมันยืนเรียงกันเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบมิส่งเสียงพูดคุยใดๆกันเลยแม้แต่น้อย โดยมีทีมระยะใกล้ถืออาวุธครบมือยืนคุมเข้ม
“เอาหอกไม้ทั้งหมดไปปักเรียงกันไว้ตรงนั้น” หลินหยางกล่าวกับทีมระยะใกล้
เมื่อได้รับคำสั่งทีมระยะใกล้ส่วนหนึ่งทำตามทันทีโดยไม่ถามเหตุผล เหลือคนครึ่งนึงเพื่อคุมสถานการณ์
ไม่นานหอกไม้ที่นำมาใช้ในการต่อสู้ตอนนี้ถูกปักเรียงค้ำกันอยู่กว่ายี่สิบเล่ม
“เอาศพพวกมันไปมัดติดไว้ซะ” หลินหยางกล่าวเสียงเย็น
กองกำลังของฉือเทียนเมื่อได้ยินพวกมันตกใจขวัญผวา การต่อสู้ครั้งนี้พวกมันแน่นอนพ่ายแพ้ย่อยยับและยังเสียคนจากการต่อสู้อีกกว่าครึ่งนึงจากทหารกว่าสองร้อยนาย จากฝีมือของกองกำลังหลินหยางและเหล่าเอลฟ์
ซ้ำร้ายแม้จะยอมแพ้มิตอบโต้แล้วถูกมัดแขนขาพันธนาการร่างกาย ยังถูกเหล่าเชลยที่พวกมันเคยจับกุม มาคร่าชีวิตสหายไปอีกกว่าสามสิบคน ตอนนี้ทั่วบริเวณมีร่างไร้วิญญาณนอนเกลื่อนกลาดกว่าร้อยสามสิบคน
คำสั่งของหลินหยางครานี้ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก เพราะเขากำลังจะให้เหล่าสหายร่วมอุดมการณ์เดียวกันนำร่างไร้วิญญาณของพักพวกไปมัดติดอยู่บนหอกไม้แม้แต่ดินก็ไม่มีกลบหน้า!!
ตอนที่ 170 คำสั่ง
คนของฉือเทียนยืนนิ่งมองซ้ายขวาเลิ่กลั่กมิทราบต้องทำตัวเช่นใด
ทีมระยะใกล้เมื่อเห็นพวกมันมิทำตามคำสั่งของหลินหยาง พวกเขาจับอาวุธในมือแน่นส่งสายตาดุร้ายราวกับเสือจ้องมองเหยื่อก็มิปาน
เมื่อคนของฉือเทียนเห็นเช่นนั้นก็หวาดเกรง
ในที่สุดก็มีคนเริ่มต้นทำงานที่ได้รับมอบหมาย ชายคนนี้ร่างกายผอมเล็ก มันแบกจับแขนทั้งสองข้างของร่างไร้วิญญาณร่างหนึ่งลากตรงไปยังหอกที่วางค้ำกันอยู่
หลินหยางมองตามการกระทำของชายคนนั้นจึงยิ้มขึ้นมุมปาก ชายคนนี้เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะมันคือชายผู้ส่งสารนั่นเอง
เมื่อมีคนแรกผู้คนที่เหลือก็ทำตามทันที
หลินหยางจึงโล่งใจขึ้นมาบ้าง หากคนพวกนี้มิยอมทำตามและขัดขืนเขาก็มิทราบต้องทำเช่นใด หากจะฆ่าพวกมันเสียหมดนับว่ามิได้ประโยชน์อันใด แถมยังต้องเปลืองแรงขนย้ายซากศพของพวกมันอีกนับว่าไม่คุ้มเลยทีเดียว
เนื่องจากสภาพแวดล้อมบีบบังคับให้ต้องแสดงพละกำลังที่ตนมี หลินหยางจึงป่าวประกาศให้โลกรู้ด้วยการแสดงความโหดเหี้ยม อำมหิต รุนแรง และเด็ดขาด ต่อจากนี้หากใครต้องการแย่งชิงสิ่งของแข็งข้อต่อต้านสภาพของมันก็ต้องเป็นดั่งฉือเทียนและซากศพที่นอนกลาดเกลื่อนกว่าร้อยศพ!
หากเขายังอ่อนข้อมิแสดงความเด็ดขาด ต่อไปต้องมีคนอย่างฉือเทียนผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดไม่เว้นแต่ละวันเป็นแน่ ยังดีที่ครานี้คนของเขามิเกิดการสูญเสีย เพียงแค่ถูกทุบตีบาดเจ็บเท่านั้น มิทราบหากทีมจู่โจมและเหล่าเวรยามตกไปอยู่ในเงื้อมมือคนอื่นที่โหดร้ายทารุณมากแผนการยิ่งกว่าฉือเทียนพวกเขาคงไม่โชคดีเช่นนี้อีกเป็นครั้งที่สอง
หลินหยางมองดูเหล่ากองกำลังของฉือเทียนที่ลากร่างกายไร้วิญญาณไปยังแท่นเสาทีละคน รอยเลือดเป็นเส้นสายบรรจบกัน
“นายคนนั้น” หลินหยางกล่าวพลางชี้ไปยังชายผู้ส่งสาร
ชายคนนั้นเมื่อเห็นหลินหยางชี้มาที่มัน มันจึงสะดุ้งตื่นตกใจ
“ค-ครับ” มันกล่าวอย่างลนลาน พลางเร่งรีบทิ้งร่างไร้วิญญาณที่กำลังยกลากทิ้งไปทันทีพลางวิ่งตรงเข้ามาหาหลินหยางอย่างรวดเร็ว
“นำทางไปยังเมืองฉือเทียน” หลินหยางกล่าวเมื่อเห็นว่าพวกมันไม่คิดขัดขืนต่อต้านอีกหลินหยางจึงทิ้งทีมระยะใกล้เอาไว้เพียงครึ่งเดียว และนำทีมระยะใกล้ที่เหลือรวมถึงหวงฮั่นมุ่งตรงไปยังเมืองหลักของฉือเทียน
ชายผู้ส่งสารเมื่อได้ยินจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก มันคิดว่าหลินหยางจะจัดการฆ่าชีวิตหรือทุบตีมันเสียอีก
หลินหยางเลือกชายคนนี้เพราะดูท่าทางของมันจะคล้ายคลึงกับเทียนหนิงเจี้ยนไม่น้อย จำพวกใช้สมองให้การทำงาน เพราะมันคือคนแรกที่รับคำสั่งจากหลินหยางลากซากศพไปยังจุดที่กำหนด แม้คนอื่นจะมองว่ามันรักตัวกลัวตาย แต่สำหรับหลินหยางมันเป็นคนฉลาดเลือกไม่น้อย
เมื่อได้รับคำสั่งมันไม่รอช้าเดินนำแถวขบวนพลางอธิบายภูมิบริเวณโดยรอบลุกลี้ลุกลน
ณ เมืองฉือเทียน
เมื่อมาถึงหลินหยางเห็นสภาพภายในเมืองของมันไม่แตกต่างจากเมืองใหม่ทั่วไป บริเวณกลางเมืองมีร่างของชายชรากว่าสิบคนนอนเสียชีวิตอยู่ ดูท่าจะเป็นฝีมือของเจียวซิ่นและพวกที่บุกเข้ามาปลดแอกตัวประกัน