ตอนที่ 213 เวรยาม
“ทางนี้ครับ” หลิวไห่กล่าว บัดนี้หลิวไห่เป็นผู้เดินนำขบวนทัพเพราะเขาเป็นผู้ค้นพบถ้ำปริศนาแห่งนี้ตอนนี้มันจึงรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งมันยิ้มปากแทบจะฉีกจนถึงหู การที่มันเป็นหนึ่งในทีมสำรวจจากทั้งหมดแปดทีมที่ค้นพบถ้ำประหลาดนี้นับว่านี้คือผลงานชิ้นใหญ่เลยทีเดียว
ขบวนเดินทางเดินตามหลิวไห่ไปอย่างราบรื่นมิมีสิ่งใดกีดขวางเส้นทาง มีเพียงเหล่าพลเมืองในระแวกเมื่อพบว่ามีกองกำลังมุ่งตรงมายังเส้นทางใกล้กับเมืองของตนพวกมันล้วนส่งคนมาแอบเฝ้ามองขบวนเดินทางนี้เพื่อป้องกันและเสาะหาจุดมุ่งหมายของกองกำลังใหญ่นี้
ส่วนเหล่าเมืองใหม่ที่พึ่งมาถึงได้เพียงวันเดียวนั้นพวกมันล้วนแตกตื่นตกใจหวาดระแวงยิ่งนัก
เมื่อขบวนเดินทางของหลินหยางเดินก่ายผ่านเมืองของพวกมันล้วนแต่นำคนทั้งเมืองออกมาเตรียมพร้อมต่อสู้ซึ่งหากเป้าหมายของขบวนทัพหลินหยางเป็นเมืองของพวกมันแน่นอนพวกมันคงไม่รอด
หลินหยางมองไปยังพวกมันพลางส่ายหัวพวกมันไม่ประมาณกำลังของตนเองเสียเลยแค่เพียงกำลังพลที่ห่างกันก็เสียเปรียบแล้วแถมระดับที่แตกต่างกันเกินไปแน่นอนพวกมันย่อมต้องพ่ายแพ้
บ้างก็แอบอยู่ในเมืองไม่โผล่หัว สำหรับเมืองเหล่านี้สำหรับคนอื่นอาจมองว่าอ่อนแอขี้ขลาด แต่สำหรับหลินหยางพวกเขาคิดถูกแล้วเนื่องจากพึ่งมาถึงเพียงหนึ่งวัน
หากเป็นหลินหยางก็คงทำเช่นเดียวกันเขาคงไม่บ้าถึงขั้นไปท้าสู้กับเมืองอื่นทั้งที่พึ่งมาถึง หากเห็นกองกำลังที่มีมากกว่าตนบุกเข้ามาเขาต้องเลือกทิ้งเมืองที่ตั้งถอยไปตั้งหลักจึงจะถูก
ดูท่าพวกเขาต้องใช้เวลาปรับตัวอีกนานเลยทีเดียว
“ถึงแล้วครับ” หลิวไห่กล่าวพลางเดินอย่างรวดเร็วชี้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
หลินหยางมองตามมันเขาก็เจอเข้ากับถ้ำแห่งหนึ่งที่ผุดขึ้นมาเพียงส่วนหัวนั่นคือปากถ้ำ ส่วนกลางและส่วนท้ายคล้ายกับว่าจมอยู่ภายพื้นใต้ดิน
“สวัสดีครับพี่หยาง” ชายคนหนึ่งวิ่งตรงเข้ามาและกล่าวทักทายหลินหยาง มันคือหวงฮั่นนั่นเองมันได้รับมอบหมายให้มาเฝ้าถ้ำปริศนาแห่งนี้เอาไว้พร้อมกับเหล่าเวรยามสิบคน
“ทำได้ดีมาก” หลินหยางกล่าวชื่นชม
“แถวนี้ส่วนใหญ่เป็นเมืองใหม่ที่พึ่งมาถึงครับ ส่วนเมืองที่อยู่มาก่อนแล้วพวกมันเพียงส่งคนมาสอดแนมพวกเราและไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด”หวงฮั่นยิ้มรื่นพลางกล่าว
เมื่อมันได้รับมอบหมายให้มาปกป้องเฝ้าถ้ำปริศนาแห่งนี้หวงฮั่นก็คอยส่งคนออกไปบริเวณโดยรอบเพื่อตรวจตราพื้นที่ เสาะหาทางหนีทีไร่เผื่อเอาไว้
หากถูกเมืองอื่นบุกโจมตีพวกเขาจะได้มีเส้นทางเพื่อถอยหนีและกลับไปส่งข่าวให้แก่หลินหยาง ด้วยจำนวนคนที่มีเพียงสิบคนรวมถึงพวกเขามิได้มีความถนัดในเรื่องการต่อสู้มากนักเพียงสามารถตอบโต้ป้องกันตัวอย่างงูๆปลาๆเท่านั้น
หลินหยางฟังรายละเอียดเกี่ยวกับบริเวณโดยรอบ
“พวกคุณกลับไปพักได้” หลินหยางกล่าว
“ขอบคุณครับ ขอให้พี่หยางโชคดี” หวงฮั่นคำนับกล่าวอย่างนอบน้อมพลางแยกตัวนำทีมเวรยามกลับไปพักผ่อน เพราะพวกเขาไม่ได้นอนหลับมาถึงสองวันเต็มๆนานเสียยิ่งกว่าทีมไหนๆ ร่างกายตอนนี้นับว่าอ่อนล้ายิ่งนัก
“ตั้งค่าย” เมื่อทีมเวรยามกลับไปแล้วหลินหยางจึงหันไปกล่าวกับเหล่าชายชาติทหาร
ตอนที่ 214 คะนึงหา
โป้ก~
ตึกกก~
ตอนนี้ทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมกำลังสร้างที่พักชั่วคราวกันอยู่ พวกเขาสร้างกันแบบง่ายๆเพียงแค่เอาไม้ปักลงทั้งสี่ทิศและใช้เศษผ้าที่เย็บต่อกันยาวคลุมเอาไว้เท่านั้น เพียงพอให้สามารถนอนหลับพักผ่อนบดบังแสงอาทิตย์และกระแสลมได้
เนื่องจากไม่ทราบว่าภายในมีสิ่งใด หลินหยางจึงตระเตรียมความพร้อมเอาไว้ก่อนหากการต่อสู้มันกินเวลานานดังเช่นถ้ำมดไฟพวกเขาก็จะได้มีสถานที่ให้สามารถพักผ่อนหย่อนคลายจิตใจได้
หลินหยางเดินดูรอบๆถ้ำปริศนานี้พลางครุ่นคิด ถ้ำมดไฟและถ้ำโครงกระดูกนั้นเมื่อคราวที่เขาเข้าไปเพื่อกวาดล้างทั้งสองถ้ำนี้มีความแตกต่างกัน
ซึ่งถ้ำโครงกระดูกนั้นมีเพียงมอนสเตอร์อยู่เพียงหยิบมือเท่านั้นหากเทียบกับถ้ำมดไฟที่มีมดไฟหลากหลายระดับมากถึงสองพันตัวและยังมีนางพญามดไฟระดับสามสิบอยู่ในส่วนลึกอีกด้วย
ส่วนถ้ำโครงกระดูกนั้นกลับมิพบหัวหน้าของเหล่ามอนสเตอร์โครงกระดูกแต่อย่างใดแต่กับเจอเจ้าแก่เผ่ามังกรที่ให้ทักษะบ้าๆบอๆแก่เขาเสียนี่ เขามิทราบว่าถ้ำปริศนาตรงหน้าเขานี้จะเป็นแบบไหน
ถ้ำแห่งนี้มิห่างไกลจากเมืองของเขามากเท่าใด จึงสะดวกสบายในการเดินทางไปมาหาสู่
“พี่หยางเสร็จแล้วครับ” เจียวซิ่นเดินมารายงานกับหลินหยาง
“โอเค” หลินหยางพยักหน้าพลางเดินไปตรงหน้าแถวเหล่าชายชาตรีที่ยืนเรียงกันหลังทำงานเสร็จ
“พวกเราจะพักกันก่อน เราจะเข้าไปสำรวจในตอนเย็น” หลินหยางกล่าวต่อ
“ตอนนี้ดื่มกินกันให้เต็มที่เพราะหลังจากนี้เรามิทราบว่าจะมีเวลาได้พักผ่อนกันอีกไหม เข้าใจไหม!” หลินหยางตะโกน
“ครับ!” เหล่าทหารตอบรับอย่างแข็งขัน
“แยกย้ายได้” หลินหยางยิ้ม
เมื่อได้รับคำสั่งเช่นนี้พวกมันมิรีรออันใด บางคนเข้าไปนอนพักในที่พักชั่วคราวที่พึ่งสร้างเสร็จทันที บ้างก็นอนเล่นลงบนพื้นหญ้า บ้างก็จับกลุ่มพูดคุยกันอย่างสนุกปาก
หลินหยางทิ้งตัวนอนลงบนผืนหญ้าที่ปลิวไสวมองไปยังท้องฟ้าสีครามสวยสดงดงามผ่อนคลายสายตา พลางนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่แล่นเข้ามาภายในหัว
“ตาและยายจะเป็นยังไงบ้างนะ” เขาพึมพัมกับตนเองคิดถึงตาและยายผู้ที่เลี้ยงดูตนเองมาจนเติบใหญ่มิทราบพวกท่านทั้งสองจะมีความเป็นอยู่เช่นไร..
แต่ไม่นานเขาก็เลิกคิดไปเนื่องจากเวลาบนสวรรค์แห่งนี้กับโลกที่เขาจากมานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้เขาจะอยู่สถานที่แปลกประหลาดนี้มากว่าเก้าเดือนก็ตาม แต่สำหรับโลกเดิมของเขานั้นเพียงเพิ่งข้ามผ่านมาเพียงสิบหกชั่วโมงเท่านั้นเอง
การเข้ามาภายหลังประตูสวรรค์นี้เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นตัวการทำให้เขาต้องแยกจากคนที่เขาผูกพันธ์เช่นนี้ จากที่คำนวนดูแล้วอย่างน้อยต้องกินเวลาไม่ต่ำกว่าเจ็ดปีเป็นแน่ เนื่องจากเวลาที่ประตูจะเปิดเพื่อให้คนบนโลกเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ยังคงเหลืออยู่อีกกว่าเจ็ดวันเลยทีเดียวนั่นเท่ากับเจ็ดปีสำหรับเขา
แต่นั่นเพียงแค่เวลาที่กำหนดเท่านั้นหากพวกเขาอยากกลับออกไปหาครอบครัวที่ตนเองรักอย่างปลอดภัย พวกเขาต้องคร่าทุกผู้คนทุกชีวิตบนสวรรค์แห่งนี้ให้สิ้นซากเพราะตั๋วเดินทางที่สามารถกลับไปได้มีเพียงใบเดียวสำหรับเมืองเดียวเท่านั้น!