ตอนที่ 257 วิกฤต(ตอนแปด)
เมื่อสิ้นเสียงของมัน กองกำลังที่ล้อมรอบค่อยๆย่นระยะเข้ามาใกล้หลินหยางขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเห็นเช่นนั้นหลินหยางยิ่งเคร่งเครียดยิ่งนัก เขาไม่คิดว่ามันจะโหดร้ายเช่นนี้สั่งให้กองทัพของตนลุมคร่าชีวิตศัตรูที่มีเพียงคนเดียว หากเป็นแบบนี้เขาคงไม่สามารถยื้อเวลาได้แน่ เขาไม่โง่พอที่จะยืนอยู่ปะทะกับคนทั้งร้อยคน
ฟิ้วว~
เคล้งง~
กองกำลังพันธมิตรที่ล้อมรอบพวกมันยิงธนูเข้าใส่เขาอย่างไม่ปราณี โชคดีที่พวกมันมิได้ช่ำชองมากเท่าใด มีเพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่ใช้ธนูโจมตี เหล่ามนุษย์หมาป่านั้นใช้อาวุธเป็นดาบ ส่วนมนุษย์กิ้งก่าส่วนใหญ่ใช้หอกเป็นอาวุธ
แม้มันจะไม่แม่นเท่าที่ควรแต่ทว่าหากเขาพลาดท่าเสียทีขึ้นมา ลูกศรเหล่านี้คงไปปักอยู่บนร่างกายของเขาเป็นแน่
หลินหยางค่อยๆถอยร่นทีละก้าว ส่วนกองกำลังพันธมิตรค่อยๆเดินหน้าเข้าใกล้เขาเรื่อยๆ
ในที่สุดเขาก็มิสามารถยื้อเอาไว้ได้อีกต่อไป
หันตัวกลับเข้าหายเข้าไปในปากถ้ำอย่างรวดเร็ว เพราะก่อนนี้เขาเห็นเหล่ามนุษย์กิ้งก่าที่เดิมทีมิได้อยากเข้าร่วมการรุมทำร้ายเขาเท่าใด แต่ตอนนั้นพวกมันกำลังจับหอกภายในมือเตรียมตั้งท่าจะปาเข้าใส่
หากมันปาหอกออกมาอาศัยโล่เหล็กภายในมือนั้นคงไม่เพียงพอที่จะต้านทานเอาไว้ได้ เขาจึงตัดสินใจถอยกลับเข้าไปภายในถ้ำเสีย
“พี่หยางเป็นยังไงบ้าง” เมื่อเข้ามาในถ้ำ ก็ได้ยินเสียงชายคนหนึ่งกล่าวถาม มันคือคนของเขานั่นเอง
“ขบวนทัพถึงไหนแล้ว?” หลินหยางกล่าวถาม
“พึ่งถอยมาได้นิดเดียวเองครับ” ชายคนนั้นตอบ
ขบวนรบมิสามารถถอยกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากต้องคอยป้องกันการโจมตีจากค้างคาวปีกเหล็กอยู่ตลอดเวลา หากลดการป้องกันลงพวกเขาต้องแตกพ่ายเป็นแน่
หลินหยางครุ่นคิดอย่างกังวล แผนการยื้อเวลาของเขาล้มเหลวอย่างน่าเสียดาย ตอนนี้เขาเตรียมตั้งท่าต่อสู้ยืนอยู่หลังปากถ้ำตระเตรียมลอบโจมตีเหล่าศัตรูที่บุกฝ่าเข้ามา จะปล่อยให้พวกมันผ่านจุดนี้ไปไม่ได้
วูบบ~
ทันใดนั้นเองมีมนุษย์กิ้งก่าคนหนึ่งผ่านปากถ้ำเข้ามา มันถูกแรงดูดจากปากถ้ำที่คล้ายกับหลุมดำดูดเข้ามาอย่างแรงส่งผลให้มันกลิ้งเสียหลักล้มพับอยู่บนพื้น มันค่อยๆลุกขึ้นมองอย่างสับสนพบเจอแต่ความมืดมิดที่มิคุ้นชิน
ฉึก!
หลินหยางมิรีรอให้มันได้ตั้งหลักแทงหอกในมือใส่ร่างของมันทันที
อ้อกก~
มันถูกแทงเข้าที่ทรวงอกปลายหอกปักร่างของมันจนแทบจะทะลุร่างกายของมันไปยังด้านหลังเสียบเข้าใส่ปอดของมันอย่างจัง มันร้องออกมาพร้อมกับสำลักเลือดของตนเองและตกตายลงไป โดยที่ยังมิเห็นตัวผู้ที่โจมตีมันด้วยซ้ำ!
ฉึบบ!
หลินหยางดึงหอกกลับตั้งท่าเตรียมโจมตีอีกครา เขาปลิดชีวิตมนุษย์กิ้งก่าผู้เคาะห์ร้ายอย่างโหดเหี้ยม
วูบบ~
กองกำลังพันธมิตรของศัตรู ข้ามผ่านปากถ้ำเข้ามายังถ้ำค้างคาวเข้ามาสมทบกันอย่างรวดเร็ว
ฉึกก!
หลินหยางจัดการปลิดชีวิตพวกมันอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยความได้เปรียบของตำแหน่งและการมองเห็นที่ชัดเจนกว่า
‘ขณะนี้หนอนดินระดับ 7 กำลังมุ่งหน้ามาที่เมืองของท่าน หนอนดินจำนวน 100 ตัวจะมาถึงในอีก 3 ชั่วโมง เตรียมตัวป้องกันเมืองไว้ให้ดี’
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงใสหวานดังขึ้นมาภายในหัวของเขา แต่เมื่อได้ฟังความตรึงเครียดยิ่งเพิ่มพูนขึ้นอีกหลายเท่าตัว
‘บัดซบ’ หลินหยางสบถ
ตอนที่ 258 วิกฤต(ตอนเก้า)
“แย่แล้วพี่หยางมีสัตว์ประหลาดบุกเมืองของเรา” ชายที่ยืดหยัดสู้เคียงข้างหลินหยางกล่าว มันเองก็ได้ยินเช่นกัน
หลินหยางขมวดคิ้วใบหน้าดุดัน บัดนี้พวกเขาเจอศึกทั้งสามทาง!
ตอนนี้บริเวณปากถ้ำภายในมีเพียงเขาและชายอีกคนที่ยึดพื้นที่จุดนี้ คอยจัดการกับเจ้ากองกำลังพันธมิตรของศัตรูมิให้บุกฝ่าตีตลบหลังกองทัพของเขาได้
ส่วนกองทัพของเขานั้นเองก็กำลังโรมรันพัวพันต่อสู้อยู่กับฝูงค้างคาวหลายพันตัว และตอนนี้เองยังมีเจ้าหนอนดินระดับเจ็ดที่กำลังจะเข้าบุกเมืองของพวกเขาในอีกสามชั่วโมง
ฟิ้วว~
ฉึก!
“อั่ก” จู่ๆก็มีลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาปักลงบนหน้าท้องของชายคนนั้
“เห้ย” หลินหยางรีบถือโล่เข้าไปกำบังร่างของมันไว้ พลางมองดูบาดแผลของมัน ศรดอกนั้นปักเข้าไปลึกกว่าคึบ ยังดีที่มิได้ปักโดนจุดสำคัญแต่ก็ส่งผลให้ชายคนนั้นร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
บัดนี้กองกำลังพันธมิตรศัตรูพวกมันมิได้บุกเข้ามาอีกแล้ว หลินหยางและคู่หูของเขาคร่าชีวิตพวกมันไปกว่าห้าคน ดูท่าพวกมันจะไหวตัวทันมิส่งใครบุกเข้ามาอีก แต่กระนั้นมันกลับโจมตีเข้ามาด้วยอาวุธระยะไกลเสียนี้
ฟิ้วว~
เคล้ง~
“ถอยก่อน” หลินหยางกล่าวพลางพยุงร่างของผู้บาดเจ็บถอยห่างจากปากถ้ำพร้อมกันใช้โล่โลหะป้องกันไปในตัว
อีกฝ่ายยังคงโจมตีเข้ามาไม่หยุด แต่ทว่าปากถ้ำที่มืดมิดมิสามารถมองเห็นอีกฟากฝ่ายได้มันจึงมิได้เล็งเป้าหมายอย่างเจาะจง โจมตีเข้ามาอย่างสุ่มๆ แต่ขืนยังคงยืนเป็นเป้าอยู่เช่นนี้ก็คงต้องรอเวลาที่ลูกศรซักดอกจะปักลงบนร่างพวกเขา
พวกเขาถอยห่างออกมาจากปากถ้ำได้อย่างปลอดภัย แต่ตอนนี้พวกเขาก็ถือว่าเสียจุดยุทธศาสตร์อย่างปากถ้ำที่มีความสำคัญยิ่งนัก สามารถลอบโจมตีศัตรูในช่วงที่พวกมันยังมิสามารถปรับตัวกับความมืดได้ และปลิดชีวิตพวกมันลงก่อน
มองไปยังร่างไร้วิญญาณของกองกำลังพันธมิตรศัตรูพวกมันทั้งห้าตกตายลงอย่างมิทันได้รู้ความ แต่กระนั้นเมื่อทั้งห้าคนที่เข้ามาตายลงจนสิ้นจึงมิมีใครออกไปส่งคราวข่าวให้แก่พักพวก นี้จึงตามมาด้วยการยิงธนูจู่โจมเข้ามาภายใน
“นายไหวไหม” หลินหยางกล่าวถามผู้บาดเจ็บ ชายคนนี้นับว่ามีฝีมืออยู่พอตัวเป็นทหารฝีมือดีเลยทีเดียว สองในร่างไร้วิญญาณทั้งสามมากจากฝีมือของชายคนนี้นี่เอง
แกร๊กก~
“ยังไหวครับ!” ชายคนนั้นหักลูกธนูที่ปักหน้าท้องของตนออกเหลือไว้เพียงปลายศรที่ปักคาเอาไว้
ที่เขามิได้ดึงมันออกจากตัวนั้นเพราะเกรงว่ามันจะทำให้เขาเสียเลือดมากกว่าเดิมและตกเป็นภาระของหลินหยาง มันตอบกลับด้วยใบหน้าดุดันเตรียมพร้อมต่อสู้ราวกับว่าบาดแผลที่ถูกยิงเข้าใส่นั้นเป็นรอยถากบางเบา
มันจับหอกในมือค้ำร่างของตนเองไว้ ดูแล้วความสามารถคงลดหลั่นไปกว่าครึ่งแต่พลังใจนั้นเต็มเปยี่ยม!
“ดี!” หลินหยางอดชื่มชมในความอดทนของมันมิได้
ก่อนจะข้ามผ่านประตูสวรรค์ละทิ้งโลกเดิมมานั้น พวกเขาอาจเป็นเพียงพนักงานธรรมดาหรือนักศึกษา แต่บัดนี้จิตวิญญาณของพวกเขามิได้ต้อยต่ำไปกว่าชายชาติทหารผู้เจนศึกสงครามมาอย่างโชกโชน
หลินหยางยิ้ม หากเมื่อครู่เขามีชายคนนี้ซักยี่สิบคนเขาคงมิต้องหนีหัวซุกหัวซุนเช่นนี้