ตอนที่ 263 ถอยทัพ(ตอนสี่)
“วิ่งไป” หลินหยางตะโกนไล่หลังขบวนทัพ
เขาอยู่หลังสุดของขบวนเพื่อคุ้มกันให้เหล่าชายฉกรรจ์สามารถถอนทัพกลับไปได้อย่างปลอดภัย
แม้ว่าตัวเขาจะได้รับผลกระทบจากทักษะระดับสูงอยู่ก็ตามแต่!
วันนี้เขาได้ใช้ทักษะราชสีห์คำรามไปถึงสองครั้งสองคราแล้ว ซึ่งทั้งสองครั้งนั้นห่างกันไม่นานเสียด้วยซ้ำ
เรี่ยวแรงของเขาถูกสูบหายไปมหาศาล แต่ตอนนี้ยังมิใช่เวลาพักผ่อนเพราะพวกเขายังมิรอดพ้นจากเงื้อมมือศัตรูทั้งสองฝ่าย
“เร็ว” หลินหยางส่งเสียงเพื่อเร่งฝีเท้าเหล่าชายชาตทหาร
ทุกวินาทีที่เสียไปนั่นคือความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้น
เขามิทราบว่าระยะเวลาของทักษะราชสีห์คำรามนั้นจะมีผลนานเท่าใด
ตามปกติแล้วผลของทักษะนั้นมิแน่นอน บ้างก็สั้นเพียงชั่วครู่ บ้างก็ยาวนานจนถูกปลิดชีวิตไปเสีย เพราะฉะนั้นเขาจึงเร่งขบวนทัพเพื่อให้ถอยห่างจากกองภูเขาค้างคาวเหล่านี้เสีย
“ใครเหยียบเท้าว่ะ”
“เร็วสิโว้ย”
เหล่าชายฉกรรจ์วิ่งตะลุมบอนกันในความมืดมิด ส่งเสียงโหวกเหวกตลอดทาง ด้วยการเร่งรีบเดินทางในความมืดเช่นนี้จึงมีการทะเลาะเบาะแว้งกันเล็กน้อย..
ในที่สุดขบวนรบทั้งหมดก็กลับมายังปากถ้ำเป็นที่เรียบร้อย
หลินหยางมองไปยังปากทางเข้าบัดนี้มันมิได้มีเพียงลูกธนูเท่านั้นที่ปักคาอยู่บนพื้นผิวถ้ำหิน มันมีแม้กระทั่งหอกเหล็กแหลมคมที่ปักลึกเจาะอยู่บนพื้นถ้ำ!
ดูท่าจะเป็นฝีมือการโจมตีจากมนุษย์กิ้งก่าเป็นแน่ พวกมันปาได้รุนแรงยิ่งนัก
แต่กระนั้นก็ยังมีเพียงศพห้าศพที่นอนเรียงกันอยู่ พวกมันคือร่างไร้วิญญาณของพันธมิตรฝ่ายศัตรูนั่นเอง ซึ่งล้วนเป็นเผ่ามนุษย์ทั้งสิ้น มิได้มีศพใดเพิ่มเติมขึ้นมา แสดงว่าพวกมันยังมิได้ส่งคนบุกเข้ามาแต่อย่างใด
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าพวกมันมิมีความกล้ามากพอที่จะบุกเข้ามา เพราะคนที่ส่งเข้ามาทั้งห้ายังมิมีชีวิตรอดกลับออกไปเลยแม้แต่คนเดียว
หลินหยางจุดคบไฟขึ้นมาส่องสว่าง เนื่องจากจุดนี้ไม่มีค้างคาวปีกเหล็กพวกเขาจึงมิต้องหวาดเกรงแสงสะท้อนแสบตาแต่อย่างใด แต่คงอีกไม่นานที่ค้างคาวปีกเหล็กเหล่านั้นจะกรูกันมาหาพวกเขา
มองไปยังผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บตอนนี้มีผู้ที่มิสามารถเคลื่อนไหวช่วยเหลือตัวเองได้กว่าสิบคน พวกเขานอนซมมิได้สติ และมีผู้ที่ถูกโจมตีจากค้างคาวปีกเหล็กทั้งสิ้นสิบคน มีห้าคนที่มีบาดแผลลึกยาว ส่งผลให้เลือดไหลออกอย่างรวดเร็ว
แม้จะสามารถขยับตัวได้อย่างอิสระมีเพียงความเจ็บปวดบริเวณบาดแผลเท่านั้น แต่หลินหยางก็มิได้ให้พวกเขาเคลื่อนที่มากนักซึ่ง และที่เหลืออีกห้าคนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยมิสาหัส พวกเขาทั้งหมดมีหน้าที่เพียง..วิ่ง!
“จิ่นเหอนายอยู่แนวหน้า หลิวไห่นายอยู่ตรงกลาง ผมจะดูด้านหลังเอง” หลินหยางกล่าวต่อ
“เจียวซิ่นนายนำมนุษย์หมาป่าทั้งหมดแบกร่างของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไว้ ประกบชิดแนวป้องกันอย่าให้พวกเขาเป็นอันตราย”
“ครับ!” ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับมอบหมายงานทั้งสามตอบรับอย่างพร้อมเพรียง หันไปจัดขบวนรบให้เป็นระเบียบแถวเตรียมตัวเพื่อบุกฝ่าออกไปกลับไปยังบ้านเมืองของตนเอง!
ตอนที่ 264 ถอยทัพ(ตอนที่ห้า)
หน้าปากถ้ำค้างคาว
“ท่านผู้นำพวกเราจะทำยังไงต่อดี” ผู้นำชาวมนุษย์กล่าวแก่ผู้นำพันธมิตรมนุษย์กิ้งก่า
แกร๊บบ~
มีเสียงที่น่าสยดสยองดังขึ้นมาคล้ายเสียงกระดูกที่แตกหัก มองไปยังต้นตอของเสียงก็พบเจอเข้ากับมนุษย์กิ้งก่าตัวหนึ่งที่ตัวเล็กกว่ามนุษย์กิ้งก่าโดยรอบ
สีผิวที่แตกต่างจากมนุษย์กิ้งก่าตนอื่นๆ โดยที่ร่างกายของมันนั้นมีสีแดงอ่อน ส่วนมนุษย์กิ้งก่าที่ยืนล้อมรอบนั้นล้วนมีสีเขียวอ่อนกันทั้งสิ้น ดูท่านี่จะเป็นเฉดสีที่แบ่งเพศของพวกมันระหว่างชายและหญิงหรืออย่างไรมิทราบแน่
มนุษย์กิ่งก่าทั้งหลายนั้นขนาดรูปร่างมิได้แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไปมากนัก
ร่างกายมิใหญ่โตมีเพียงส่วนสูงที่ห่างกันเล็กน้อยพวกมันส่วนใหญ่สูงราวสองเมตรหรือใกล้เคียง
แต่ทว่ามนุษย์กิ้งก่าสีแดงอ่อนนั้นมีขนาดตัวเล็กกว่าหากเทียบกับตนอื่น มันมีส่วนสูงเพียงหนึ่งเมตรครึ่งเท่านั้นซึ่งหากเทียบกับส่วนสูงของหญิงสาวชาวมนุษย์นับว่ามิได้ห่างกันมากมายอันใด
กลุ่มกองกำลังพันธมิตรทั้งหมดนี้มีกำลังพลกว่าร้อยคน โดยมีมนุษย์หมาป่าราวสามสิบคน และมีมนุษย์สี่สิบนาย ส่วนที่เหลืออีกสามสิบเป็นมนุษย์กิ้งก่าทั้งสิ้น แต่ทว่าทั้งร้อยชีวิตตรงจุดนี้กลับมีสตรีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือมนุษย์กิ้งก่าตัวน้อยนั่นเอง
มนุษย์กิ้งก่าตัวน้อยเธอกำลังง่วงอยู่กับอาหารตรงหน้า กัดแทะมันอย่างเอร็ดอร่อยมิสนใจรอบข้างเลยแม้แต่น้อย โดยมีเหล่ามนุษย์กิ้งก่าร่างกายกำยำแข็งแรงคอยยืนคุ้มกันอยู่ หนึ่งในนั้นคือผู้นำมนุษย์กิ้งก่านั่นเอง มันมองดูมนุษย์กิ้งก่าตัวน้อยทานอาหารด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
แกร๊บบ~
อาหารที่เธอส่งเข้าปากของตนนั้นส่งเสียงออกมาอีกครา จากการขบเคี้ยวด้วยฟันที่แหลมคม ตรงหน้ามีกองอาหารทับถมกันอยู่กองเล็กๆ แน่นอนพวกมันคือซากค้างคาวปีกเหล็กนั่นเอง!
ชายชาวมนุษย์คนหนึ่งเมื่อเห็นเธอหยิบร่างไร้วิญญาณของค้างคาวปีกเหล็กส่งเข้าปากพลางกัดกินมันหายไปไกลครึ่ง ขบเคี้ยวราวกับว่ากำลังทานขนมหวาน
เครื่องในของเหยื่อที่ถูกกัดขาดครึ่งไหลย้อยลงบนพื้น เมื่อมนุษย์กิ้งก่าตัวน้อยเห็นเธอรีบใช้มือน้อยๆรองรับมิให้เครื่องในกองนั้นตกลงไป
แพละ~
เครื่องในค้างคาวปีกเหล็กทั้งก้อนตกลงสู่มือน้อยๆของเธอ มนุษย์กิ้งก่าผู้น่ารักยิ้มแป้นดีใจที่สามารถรองรับอาหารอันโอชะทำให้มันมิตกลงบนพื้นเปรอะเปื้อนเสียของ มิรอช้าเธอส่งมันเข้าปากทานอย่างเอร็ดอร่อย
‘อ้อก’
ชายชาวมนุษย์คนนั้นเมื่อเห็นเธอทานเครื่องในที่ชวนแหวะสดๆ มันอดไม่ได้แทบจะสำลักอาหารกลางวันที่ได้ทานลงไป สำหรับมนุษย์กิ้งก่าเหล่านี้ค้างคาวปีกเหล็กอาจเป็นอาหารชั้นเลิศ แต่ทว่าสำหรับมนุษย์แล้วนั้นมันคือสิ่งที่มิอยากเข้าใกล้เสียด้วยซ้ำ..
“เจ้าว่าอะไรนะ” ผู้นำมนุษย์กิ้งก่ากล่าวถาม
เมื่อครู่มันให้ความสนใจกับน้องสาวของตนเองมากเกินไปจนได้ยินมิถนัดว่าผู้นำมนุษย์คนนี้กล่าวสิ่งใดออกมา
“เอ่อ..พวกเราจะบุกเข้าไปเลยไหม” ผู้นำชาวมนุษย์กล่าวขึ้น พร้อมรอยยิ้มแห้งบนใบหน้า มันก็แทบจะอาเจียนออกมาเช่นกันหลังจากเห็นมนุษย์กิ้งก่าตัวน้อยกัดกินร่างกายของค้างคาวปีกเหล็ก