เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที่ 465-466

ตอนที่ 465-466

ตอนที่ 465 ชีวิต

ตอนนี้หลินหยางมิสามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้อย่างใจนึก แม้แต่กล้ามเนื้อของเขาก็กระตุกเกร็งมิหยุด

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆทุกวินาทีช่างเจ็บปวดทรมานยิ่ง แต่เขามิได้ปริปากเอ่ยออกมาแม้เพียงเศษเสี้ยว

มีเพียงเสียงลมหายใจฟืดฟาดสอดแทรกออกมาจากตามไรฟันเท่านั้น เขากำลังกัดฟันแน่นรับความเจ็บปวดที่หมายจะคร่ากันให้ตาย

‘ฮื่ออ’ หลังจากผ่านไปเนิ่นนานเท่าใดมิทราบเขาพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ท้ายสุดแล้วความเจ็บปวดตามร่างกายก็ค่อยๆมลายหายไปอย่างช้าๆ

ทดแทนมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด

ตอนนี้กล้ามเนื้อเขาของเขาไม่ว่าจะแขนหรือขาล้วนอ่อนปวกเปียกยวบยาบ อ่อนระทวยไม่มีแรงแม้แต่จะยกแขนพยุงตัวขึ้น

ทำได้เพียงนอนลืมตามองไปยังความมืดเบื้องหน้าเท่านั้น

‘เอ..นี่เราอยู่ไหน?’ เขาครุ่นคิดอย่างสงสัยพยายามนึกถึงเรื่องราวที่พอจะจำได้

‘หลังจากมนุษย์หมาป่าทั้งหมดกลับไปแล้ว จากนั้นเราก็สู้อยู่กับค้างคาวปีกเหล็กและสุดท้ายใช้ทักษะราชสีห์คำราม แล้วก็…’ เมื่อนึกได้ถึงตอนนี้ใบหน้าเขาหม่นหมองลงทันใด

แม้จะไม่แจ่มชัดมากนักแต่เขามั่นใจว่าตนเองยังมิได้กลับออกไปจากถ้ำค้างคาวแน่ๆ ท้ายสุดแล้วการประสาทรับรู้ของเขาก็หยุดลงหลังจากใช้ทักษะราชสีห์คำรามไปเพียงไม่นาน

‘น-นี่ไม่ใช่ว่า..เราตายแล้ว!?’ เขาสะดุ้งตกใจทันที

สิ่งที่เขาจดจำได้ในยามที่มีสติครบถ้วนนั่นคือกำลังประจัญหน้ากับค้างคาวทั้งฝูงเพียงลำพัง และผลลัพธ์ที่ออกมานั้นมิใช่สิ่งที่เขาหวังเอาไว้

สิ้นการใช้ทักษะระดับสูงเขาก็มิสามารถจดจำเรื่องราวใดๆได้อีกเลยและช่วงเวลานั้นมิใช่ว่าตัวเขาถูกโจมตีปลิดชีวิตไปแล้วหรือไม่

และสถานที่ที่อยู่บัดนี้คงมิใช่ว่าเป็นโลกหลังความตายหรอกหรือ ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็พบพานแต่เพียงแต่ความมืดมิดชั่วนิรันดิ์

อ๊ากกก~

ทันใดนั้นเองกลับมีเสียงแปลกประหลาดดังกึกก้องขึ้นมา ทันทีที่หลินหยางได้ยินเสียงดังกล่าวเขากลับแปรเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน

เอียงคอมองหาต้นตอของเสียงแต่ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็ยังคงพบเจอแต่ความมืดเช่นเดิม

เสียงดังกล่าวดังขึ้นมาจากที่ใดก็มิสามารถทราบ มันก้องสะท้อนไปมาจนมิรู้ทิศทาง

ตัวเขาเองก็มิสามารถขยับเขยื่อนเคลื่อนที่ได้ แค่จะยกแขนสักข้างยังยากเย็นแสนเข็ญ

โอ้ยย~

มิทันสิ้นเสียงประหลาดก็มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมาให้ได้ยินมันเป็นเสียงของมนุษย์ที่กำลังร้องโอดครวญตัดพ้อป่าวประกาศถึงความรู้สึกที่มันได้รับอยู่ เสียงของมันค่อยๆจางหายและเงียบลงในที่สุด

‘หือ…ฮ่าๆ’ ราวกับนึกคิดบางอย่างใด

หลินหยางเค่นเสียงหัวเราะบางเบาในลำคอ ตอนนี้เสียงที่เขาได้ยินนั้นดับหายไปแล้วส่งผลให้บรรยากาศเงียบสงัดวังเวง

แต่เสียงดังกล่าวนั้นสามารถยืนยันความนึกคิดของเขาได้อย่างดี ว่าบัดนี้เขายังมิได้สิ้นชีวี ยังมิได้ตกตายไปด้วยฝีมือของค้างคาวปีกเหล็ก เขายังมีชีวิตอยู่!

ถึงแม้จะไม่ทราบว่าสถานที่ปัจจุบันนั้นอยู่หนแห่งใดในโลกหล้าก็ตาม

ตอนที่ 466 คืบคลาน

*@%$^@!

มีเสียงบางอย่างดังขึ้นมาห่างจากตัวเขามิไกลนัก

เสียงดังกล่าวนี้คล้ายกับเสียงซุบซิบบ่นพึมพำของมนุษย์ ฟังดูแล้วมิสามารถจับใจความได้ แต่สามารถมั่นใจได้ว่ามันเป็นเสียงที่พูดคุยที่ออกมาจากปากมนุษย์อย่างแน่นอน

“นี่…” หลินหยางพยายามเอ่ยปากกล่าววาจา แต่ยังมิได้พูดคำต่อไปเขาก็รีบหยุดลงกลางคัน หอบหายใจเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อยหอบ

ใช้เวลาหลายวินาทีกว่าร่างกายจะกลับมาอยู่ในสภาพปกติ ถึงเขาจะมิได้ตกตายไปหลังจากพลาดท่าเสียทีให้แก่ศัตรูของตน แต่ร่างกายของเขาก็รับภาระหนักหนาสาหัสเอาการเลยทีเดียว

“มีใครอยู่ไหม” หลินหยางรวบรวมกำลังเพื่อเอ่ยปากกล่าวคำเหล่านี้ เป็นเพียงแค่ประโยคเดียวแต่การจะเอ่ยออกไปนั้นช่างยากเย็นยิ่ง

@&*$!

จากการพยายามสุดความสามารถในการเอ่ยปากออกไปนั้นกลับไร้เสียงตอบกลับมา มีเพียงเสียงที่ฟังมิได้ศัทพ์เท่านั้น

“มีใครได้ยินไหม” หลินหยางกล่าวเสียงดังมากขึ้นกว่าเดิม

พรืด~

มีเสียงคล้ายกับบางอย่างกำลังครูดไปกับพื้น หากฟังดีๆแล้วต้นตอของเสียงนั้นคงไม่ไกลห่างจากตัวเขามากนัก เสียงดังกล่าวเคลื่อนใกล้เข้ามาหาตัวเขา

หลินหยางเบิกดวงตากว้างแทบถลน บัดนี้เขาหวาดหวั่นอยากลุกวิ่งถอยหนีไปจากที่นี้เสียยิ่งนัก เพราะเสียงที่ได้ยินนั้นมันเคลื่อนที่เข้ามาเรื่อยๆไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแต่อย่างใด

ทั้งนี้เขาเองก็ยังมิเห็นต้นตอของเสียงดังกล่าวมิทราบว่าเป็นมิตร ศัตรู หรือสัตว์ประหลาดอันใดกันแน่ โชคร้ายแม้เขาจะอยากหนีให้ไกลห่างต้นตอของเสียงปริศนานั้นมากเพียงใด

แต่ร่างกายของเขาก็มิสามารถสั่งการทำตามประสงค์ของตนได้ เขาทำได้เพียงแต่จ้องมองไปยังต้นทาง

“ค-ใครน่ะ” หลินหยางรวบรวมความกล้าตะโกนถาม เขาพึ่งจะดีอกดีใจไปหยกๆที่ทราบว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่

แต่ตอนนี้สิ่งมีชีวิตบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามาหาตัวเขาอย่างช้าๆโดยที่ไม่เห็นตัวของมันด้วยซ้ำ

หากเลือกได้เขาคงเลือกตายในยามที่ไม่มีสติสัมปชัญญะ ไม่รับรู้ความเจ็บปวดเสียดีกว่า มานอนมองให้สิ่งนั้นเข้ามาปลิดชีพเขาอย่างช้าๆราวกับนาฬิกาทรายที่นับเวลาถอยหลังอายุขัยของตน

“ชู่ววว” และแล้วความหวาดกลัวของเขาก็ได้รับการปัดเป่าหายไปเป็นปลิดทิ้งแทรกเข้ามาด้วยความปิติยินดี ต้นตอปริศนาดังกล่าวตอบกลับมาสร้างความเชื่อมั่นว่าสิ่งนั้นมันมิใช่สัตว์ประหลาดที่กำลังจะเข้ามาปลิดชีวิตของเขา

มันเป็นเสียงที่ส่งออกมาจากชายคนหนึ่ง เป้าหมายของมันคล้ายกับต้องการให้หลินหยางหุบปากลงโดนพลัน

ถึงจะไม่รู้เรื่องราวอันใดมากนัก แต่หลินหยางก็มิขัดศรัทธาเขาเงียบปากลงทันใด ส่วนหนึ่งก็มาจากความเหน็ดเหนื่อยนั่นแล

เขานอนรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ

ครืดด~

เสียงประหลาดที่ส่งผลให้หลินหยางหวาดหวั่นเมื่อครู่นี้มันเป็นเสียงการเคลื่อนที่ของชายคนนี้ต่างหาก

มันใช้ร่างกายของตนกระเถิบตะเกียกตะกายเข้ามาหาหลินหยาง เมื่อมันขยับตัวแต่ละครามักมีเสียงของการเสียดสีส่งออกมาบางเบาชวนเข้าใจผิด

เทพอสูรสยบโลกา

เทพอสูรสยบโลกา

Status: Ongoing

เรื่องย่อ ประเทศจีน ปี ค.ศ. 2025 จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วโลก และ มี”ประตู” ประหลาดเกิดขึ้นทั่วทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก พร้อมกับเสียงปริศนา “มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าอยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรือไม่ อำนาจ เงินทอง วาสนา ความมั่งคั่ง หากอยากเปลี่ยนแปลง เชิญเข้ามาที่ประตูนี้ จักต้อนรับพวกเจ้า” เรื่องราวแห่งตำนานกำลังจะเริ่มขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท