ตอนที่ 507 ระดับต่ำ
หากแวมไพร์ตนนี้มีพลังวิญญาณจริงอย่างที่คาดเดา ตัวมันสมควรต้องมีทักษะที่ใช้โจมตีวิญญาณของเป้าหมายโดยตรงครอบครองอยู่กับตัวด้วยเป็นแน่ ปัญหาใหญ่กว่านั้นก็คือเขามิทราบว่าพลังวิญญาณที่แน่นอนของมันมีเท่าใด มากหรือน้อยไปกว่าตนหรือไม่
หากมันมีน้อยกว่าเขายังคงมิน่าเป็นห่วงมากนัก แต่ถ้าเกิดว่ามันมีพลังวิญญาณใกล้เคียงหรือมากกว่า…
ทักษะระดับสูงสุดที่ตัวเขามีในครอบครองตอนนี้อย่างทักษะราชสีห์คำรามซึ่งเป็นทักษะไม้ตายเด็ดอันไว้ใช้ในการปิดฉากการต่อสู้กับศัตรูมานักต่อนัก จะไร้ความหมายลงไปทันที
เพราะถึงแม้จะใช้ราชสีห์คำรามใส่มันไปก็รังแต่จะเสียพละกำลังไปอย่างสูญเปล่าเท่านั้น ย่อมไม่สามารถทำร้ายร่างกายและวิญญาณของมันได้
และเมื่อเจ้าแวมไพร์ตนนี้มีทักษะสำหรับโจมตีทางวิญญาณและใช้มันใส่ตัวเขาละก็…
เขามิสามารถจินตนาการถึงความรุนแรงหลังจากตกเป็นเป้าหมายจากการโจมตีทางวิญญาณของมันเลย…
ฉะนั้นเมื่อเกิดการปะทะกับมันขึ้นจริง เขาจึงมิอาจใช้ทักษะราชสีห์คำรามได้อีก รวมถึงทักษะสบั้นพสุธาที่เหมาะสำหรับต่อต้านกองกำลังขนาดใหญ่เช่นกัน มันมิสามารถแสดงประสิทธิภาพได้เต็มที่เมื่อเจอกับการต่อสู้ตัวต่อตัว จึงมิใช่ตัวเลือที่ดีนักที่จะใช้ออกไป
เมื่อเป็นเช่นนั้นทักษะที่ตัวเขามีในตอนนี้สำหรับใช้ต่อสู้กับแวมไพร์ตนดังกล่าวก็เหลือเพียงสองอย่างเท่านั้นและทั้งสองทักษะนั้นเองก็เป็นทักษะระดับต่ำที่ยังมิทราบว่าจะสร้างความเสียหายให้แก่ศัตรูได้หรือไม่
ทักษะทั้งสองคือ ทักษะหลอมไฟและพิษผึ้งที่เป็นทักษะระดับหนึ่งทั้งคู่นั่นเอง
ทักษะที่เหลือก็เป็นเพียงทักษะติดตัวที่มิได้เปลี่ยนผลลัพธ์ในการต่อสู้
เมื่อไม่ทราบค่าสถานะของศัตรู ตอนนี้หลินหยางจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการปะทะกับแวมไพร์ตนนี้อันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ชั่วครู่พวกเขาทั้งสามก็มาถึงจุดนัดพบ
ตอนนี้หลินหยางมองเห็นหลี่จิ้งและเต๋อหลงแล้ว
ตั้งแต่เริ่มเดินออกสำรวจก็ผ่านไปหลายนาที พวกมันทั้งสองก็ยังทานอาหารกันอยู่ไม่หยุดปากจนตอนนี้เสบียงอาหารฉุกเฉินกว่าสามวันที่หลินหยางทิ้งไว้ให้พวกมันแทบจะหมดมิเหลือซาก
เต๋อหลงยกแขนโบกมืออย่างดีใจเมื่อเห็นหลินหยางกลับมาอย่างปลอดภัย
‘เป็นไงบ้างน้องหยาง เจอทางออกไหม?’ หลี่จิ้งมิรีรอกล่าวถามออกไปด้วยใจจดจ่อ
หลี่จิ้งและเต๋อหลงล้วนจ้องมองหลินหยางดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ เนื่องจากการแยกตัวออกเดินทางสำรวจในครั้งนี้ของหลินหยางเพื่อจุดประสงค์รองคือตรวจดูสภาพแวดล้อมในพื้นที่ ประเด็นหลักหลักที่หลินหยางออกเดินทางเสาะแสวงหาในครั้งนี้ก็คือหนทางหนี
พวกมันทั้งสองก็ติดอยู่ในที่แห่งนี้มานานเกินพอที่จะทำให้ไร้ความหวัง จนกระทั่งได้พบหลินหยางที่จุดประกายความหวังพบเจอแสงสว่างแม้จะเล็กน้อยก็ตามที พวกมันมิรีรอที่จะใขว่คว้าแสงริบหรี่นั้นไว้เพื่อรักษาชีวิตตน
ตอนที่ 508 ปิดบัง
‘เจอครับแต่ว่า… คงจะออกไปไม่ได้ง่ายอย่างที่หวังแล้วล่ะ’ หลินหยางตอบกลับพลางทิ้งตัวลงนอนหมอบแนบไปกับพื้น
ตามมาด้วยชายร่างท้วมและชายผู้มีระดับสี่ที่เดินเท้าหนีตายมาพร้อมกัน สีหน้าของพวกมันแสดงออกถึงความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสองคนนอนหมอบคว่ำหน้าลงกับพื้นตามหลินหยางไปติดๆ
ตอนนี้ชายฉกรรจ์ทั้งห้าคนนอนคว่ำหันศรีษะเข้าหากันเป็นห้าแฉก เป็นภาพที่มิค่อยน่าดูสักเท่าใดหากใครมาเห็นเข้าตอนนี้คงต้องเบือนหน้าหนีเป็นแน่..
หลินหยางแนะนำชายทั้งสองคู่ให้รู้จักกัน การพบปะผู้คนหน้าใหม่ในสถานที่อันคล้ายคลึงกับนรกขุมใดไม่มีใครรู้
ตอนนี้มนุษย์ทั้งห้าต้องร่วมแรงร่วมใจฝ่าออกไปหรือตกตายเป็นผีเฝ้าถ้ำก็คงต้องแล้วแต่โชควาสนา
หลังจากเล่าเหตุการณ์ที่ได้พบเจอขณะออกเดินสำรวจให้แก่หลี่จิ้งและเต๋อหลงฟังเป็นที่เรียบร้อย ดวงตาที่เคยส่องประกายแห่งความหวังของพวกมันทดแทนด้วยความหม่นหมองหดหู่
ตอนนี้มิมีเพียงปีศาจแวมไพร์เท่านั้นที่จ้องทำร้ายจับพวกมันกินเป็นอาหารว่าง ทางหนีทีไล่ยังถูกกีดขวางด้วยค้างคาวตัวจิ๋วที่สามารถกวาดล้างกองกำลังร่วมหนึ่งเมืองด้วยตัวมันเองเพียงลำพัง
‘ล-แล้วเราจะทำยังไงดี’ เต๋อหลงกล่าวถาม
‘…’ ชายทั้งสี่รวมถึงหลินหยางมองหน้ากันทำตาปริบๆ ไม่มีเสียงออกมาจากปากพวกเขาทั้งสี่
ตอนนี้พวกเขาล้วนแล้วแต่มืดทั้งแปดด้าน มิเห็นช่องทางที่จะสามารถหนีออกไปได้เลย
จนถึงตอนนี้หลินหยางมิได้บอกพวกมันเกี่ยวกับระดับที่แท้จริงของศัตรูอย่างแวมไพร์ตนนั้นให้มนุษย์ทั้งสี่คนตรงนี้ล่วงรู้ และเขาเองก็มิคิดจะบอกรายละเอียดมากไปกว่ารูปร่างหน้าตาของศัตรูอีกด้วย
เพราะหากชายทั้งสี่รู้ความจริงเกี่ยวกับระดับของศัตรูที่จ้องจะทำร้ายพวกมันอยู่ละก็ ความสิ้นหวังในจิตใจของพวกมันมิทราบจะเพิ่มพูนขึ้นอีกกี่เท่านับกี่เท่า
มิเพียงเท่านั้น ทักษะที่เขาครอบครองอยู่ก็มิคิดจะบอกกล่าวให้พวกมันได้รู้เช่นกัน
แม้ในวันนี้จะเป็นมิตรเพื่อเป้าหมายอันหนึ่งเดียวกัน แต่มิมีใครทราบอนาคต บางทีมิตรสหายในวันนี้อาจกลายเป็นศัตรูในวันหน้าก็เป็นได้ ฉะนั้นเก็บความลับไว้เพื่อความปลอดภัยเสียดีกว่า
‘ก่อนอื่น พวกเราควรรวบรวมกำลังพลมาให้มากที่สุด ยิ่งมีคนมากเท่าไหร่โอกาศสำเร็จยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น’ หลินหยางบอกกล่าวความต้องการของตน
เป็นดั่งที่เขากล่าว
ตอนนี้มันมิใช่แค่เรื่องระดับหรือฝีมือวิชาการต่อสู้อีกต่อไปแล้ว
เขาเองยังมิทราบเลยว่าจะสามารถปะทะกับเจ้าแวมไพร์ตนนี้ได้หรือไม่และแน่นอนคงไม่มีใครในถ้ำนี้จะสามารถต่อสู้ตัวต่อตัวรับมือกับเจ้าสิ่งนี้ได้แน่นอน
ตอนนี้เขาต้องใช้จำนวนเข้าต่อสู้เสียแล้ว
เดิมทีเขาตั้งใจจะใช้จำนวนคนให้น้อยที่สุดเพื่อหลบหนีออกไปจากถ้ำแห่งนี้สมทบกับพักพวกแล้ววางแผนรัดกุมเตรียมรับมือกับค้างคาวตัวจิ๋ว เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางค่อยกลับมาบุกกวาดล้างถ้ำค้างคาวใหม่อีกครั้งหนึ่ง
แต่ตอนนี้คงมิสามารถทำเช่นนั้นได้…