ตอนที่ 537 เฝ้าระวัง
ความเร่งรีบของพวกมันส่งผลให้การส่งคนออกไปครั้งนี้ใช้เวลาสั้นกระชับยิ่งนัก เพียงไม่นานกลุ่มของชายร่างท้วมทุกคนก็กลับออกไปหมดไม่เหลือสักคน
ปากทางออกตรงจุดนี้มีคนยืนอยู่ร่วมสิบคน พวกเขาคือกลุ่มหลินหยางและชายผู้มีระดับสี่ที่ยืนปิดทางออกเอาไว้พวกเขากลับหลังหันหน้าเข้าหาส่วนลึกสุดของถ้ำ
ตอนนี้ด้านหลังของพวกเขาคือทางออกไปยังสถานที่แห่งนี้ ด้านหลังนั้นปลอดภัยอย่างแน่นอนเพราะกลุ่มของชายร่างท้วมพึ่งกรูกันออกไปทางนี้นั่นเอง และเป็นที่แน่ชัดว่าศัตรูของเขาไม่อยู่ปากทางออกตรงนี้เป็นแน่
หลินหยางหันศรีษะมองด้านบนซ้ายขวาอย่างไม่ลดละ เขาพยายามหาตัวของศัตรูคู่อาฆาตรของตนและปีศาจแวมไพร์อยู่ เพราะเสียงของพวกเขาต้องจุดประเด็นให้ศัตรูของเขาล่วงรู้ที่อยู่แล้วอย่างแน่นอน
แต่มันก็น่าแปลกใจ
ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ศัตรูของเขากลับยังไม่เผยตัวออกมาขัดขวางหรือโจมตีทำอันตรายใดๆแก่พวกเขาเลย
ทั้งห้าสิบคนที่ระดมกันหลบหนีไม่มีใครพบเจอกับศัตรูแม้แต่ตัวเดียวไม่ว่าจะเป็นค้างคาวตัวจิ๋วหรือกระทั่งค้างคาวระดับสี่และหก
นี่มันไม่ต่างกับว่าศัตรูที่ลำบากไล่จับกุมกลุ่มมนุษย์มาจากทั่วทุกสารทิศอย่างเหน็ดเหนื่อย กลับปล่อยให้เหยื่อของตนหนีออกไปได้อย่างง่ายดาย
ไม่ว่าจะคิดทางใดก็ล้วนแต่เป็นไปไม่ได้ทั้งสิ้น เขาไม่สามารถหาข้อสรุปที่มีน้ำหนักมารับรองความคิดของเขาได้
เสียงของกลุ่มผู้หลบหนีค่อยเบาและเงียบหายไปในที่สุด
ตอนนี้มันเหมือนกับถ้ำร้างที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอาศัยอยู่เลยเสียมากกว่า เงียบสงบ ไม่มีแสงไฟ ทั้งยัง…วังเวง
บัดนี้จากกลุ่มคนทั้งห้าสิบชีวิตที่รวบรวมมาเหลือเพียงแค่สิบคนเท่านั้น ในจำนวนนั้นมีชายผู้มีระดับสี่และหลี่จิ้งรวมตนเองด้วยเช่นกัน
พวกเขาทั้งสิบยืนปิดเส้นทางออกของถ้ำไว้ เพื่อป้องกันมิให้ศัตรูที่คอยจ้องเล่นงานหรือลอบโจมตีตลบหลังพวกเขาได้ จึงต้องมีคนที่ต้องเสียสละอย่างพวกเขาทั้งสิบอยู่
หลินหยางมิสามารถเอาชีวิตคนกว่าครึ่งร้อยไปเสี่ยงอันตรายฝากแขวนไว้บนเส้นด้ายของคำว่าโชคชะตา แทนที่จะรวมตัวกันหลบหนีวิ่งออกไปทั้งกลุ่มไปวัดดวงข้างหน้ากับความไม่แน่นอนสู้เขาวางแผนระวังตัวให้รัดกุมคงหลีกพ้นการตกเป็นเหยื่อของสัตว์ประหลาดที่มากหน้าหลายตา
ฉะนั้นต้องทำให้แน่ใจเสียก่อนว่าพวกมันสามารถกลับออกไปได้ด้วยดี
เมื่อแบ่งคนกลุ่มใหญ่ออกเป็นสองกลุ่มเช่นนี้ หากเกิดมีหนึ่งในนั้นพลาดท่าเสียทีซึ่งหากกลุ่มที่โชคร้ายนั้นเป็นกลุ่มหลบหนี หลินหยางก็จะสามารถใช้ความผิดพลาดนั้นมาเพิ่มการป้องกันและเตรียมพร้อม
ทั้งพวกเขายังสามารถระบุตำแหน่งบริเวณที่ศัตรูกำลังดักรออยู่ได้ด้วย
แต่หากกลุ่มที่พลาดท่าคือกลุ่มของหลินหยางที่คอยระวังหลังให้พวกมัน กลุ่มผู้หลบหนีที่ปลีกตัวออกไปก่อนแล้วก็จะสามารถทำภารกิจหลบหนีไปได้อย่างปลอดภัยตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน
ฉะนั้นโอกาศรอดของพวกเขาย่อมมากกว่ารวมกันเป็นจุดเดียว
ตอนที่ 538 ร่วมงาน
หลังจากยืนจับตามองรอบกายอยู่นานสองนานก็ยังไม่พบตัวของค้างคาวตัวจิ๋วและแวมไพร์ปีศาจและตั้งแต่กลุ่มหลบหนีของชายร่างท้วมมุ่งหน้าออกไปอย่างเนิ่นนานก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดกลับมาทางนี้อีกเลย
บางทีพวกมันทั้งหมดอาจจะสามารถกลับออกไปจากถ้ำปีศาจค้างคาวออกไปพบกับแสงสว่างภาคพื้นดินแล้วก็เป็นได้
ตอนนี้พวกเขายืนอยู่จุดนี้มาราวสองถึงสามนาทีแล้ว ซึ่งแม้มิได้ยาวนานมากมายอันใดแต่หากเทียบกับสถานการณ์อันกดดันเปรียบเสมือนกับมิติเวลาถูกบิดเบือนยืดออก
ยิ่งเวลาผ่านไปหลินหยางยิ่งผ่อนคลายมากขึ้นเท่านั้น เนื่องไม่เห็นวี่แววของภัยอันตรายจากตรงนี้เลยแม้แต่น้อย ทั้งยังไม่ทราบที่อยู่อันแน่ชัดของแวมไพร์ปีศาจและค้างคาวตัวจิ๋ว
หันกลับไปมองยังเส้นทางเดินภายในถ้ำก็ไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ คนของกลุ่มหลบหนีก็ไม่มีใครกลับมาด้วยปัญหา
นั่นแสดงว่าตอนนี้มีโอกาศเป็นไปได้สูงมากว่าศัตรูตัวหลักของพวกเขาอย่างค้างคาวตัวจิ๋วยังคงอยู่ที่ไหนสักแห่งท่ามกลางความมืดในส่วนลึกสุดของถ้ำนี้ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานของหลินหยางเท่านั้น
ตอนนี้พวกเขาเริ่มเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์แล้ว
เวลาที่ปล่อยผ่านไปสมควรเนิ่นนานเพียงพอที่จะมิทำให้ศัตรูของเขาสามารถตามทันคนกลุ่มแรกได้อีกต่อไป ฉะนั้นหากยังคงยืนอยู่จุดนี้ต่อก็รังแต่จะสร้างปัญหาให้แก่พวกเขามากเพิ่มขึ้นก็เท่านั้น
หลินหยางลังเลอยู่ครู่นึงก่อนจะตัดสินใจทำบางอย่าง
“เมื่อผมให้สัญญาณ พวกนายทั้งหมดวิ่งเต็มกำลังมุ่งไปยังทางออกไม่ต้องหันหลังกลับ ส่วนนายเอานี่ไป” หลินหยางยื่นโล่มนุษย์ให้แก่ชายคนหนึ่ง
ซึ่งมันเป็นผู้มีระดับสามซึ่งเพิ่มค่าสถานะทั้งหมดไปยังพลัง มิเพียงเท่านั้นหลินหยางยังสับเปลี่ยนโล่มนุษย์ของเขากับอาวุธมนุษย์ในมือของชายผู้นั้นมา
ซึ่งอาวุธที่มันมีก็คือกระดูกสันหลังของมนุษย์นั่นเอง ตอนนี้เท่ากับว่าหลินหยางมีอาวุธอยู่ครบทั้งสองมือไร้เครื่องป้องกันโดยสิ้นเชิง
“พวกนายสองคนคุ้มกันด้านหน้าเอาไว้ ส่วนด้านหลังให้เป็นหน้าที่ของผม หากเจอกับค้างคาวตัวจิ๋วอย่าพึ่งบุ่มบ่ามโจมตีมัน คอยหลบเลี่ยงการโจมตีของมันเอาไว้” หลินหยางกล่าวกับชายผู้มีระดับสี่และชายอีกหนึ่ง
ซึ่งในมือของพวกมันทั้งสองคนล้วนถือโล่มนุษย์เอาไว้
“ใครที่มีระดับมากกว่าระดับหนึ่งให้อยู่แถวหน้า ส่วนคนที่เหลือให้อยู่ด้านหลัง…ท้ายนี้ผมดีใจที่ได้รู้จักและร่วมงานกับพวกคุณ” หลินหยางกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ผมก็เช่นกัน” ชายผู้มีระดับสี่ตอบรับด้วยน้ำเสียงแสดงออกถึงความเคารพ
“ผมด้วย” ชายชาตรีนับสิบส่งสายตามองกันโดยแฝงความหมายที่มากล้น พวกมันเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นชายผู้กล้าหาญกันทั้งสิ้น
เมื่อได้ยินคำกล่าวของหลินหยางส่งผลให้ใบหน้าของพวกมันประดับไปด้วยรอยยิ้ม
บางคนตื่นเต้นจนเก็บอาการไว้มิอยู่
ตอนนี้จะถึงคิวของพวกมันที่จะได้กลับออกไปตามกลุ่มแรกแล้ว จะมิให้พวกมันดีใจได้เยี่ยงไร
เป้าหมายที่ทำให้คนครึ่งร้อยลำบากลำบนมารวมตัวกันกำลังจะแสดงผลลัพธ์ออกมาให้เห็น แถมดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่ได้ย่ำแย่มากอย่างที่พวกมันคิด
ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้พวกยังมิเคยเห็นตัวตนของศัตรูที่ต้องปะทะเลยด้วยซ้ำ