เทพอสูรสยบโลกา ตอนที่ 653 ขอความช่วยเหลือ
“บาดแผลของข้าแค่ถูกข่วนจากค้างคาวตัวนึงเท่านั้น แต่ดูเจ้านั่นสิมันถูกปีกเหล็กฟันเข้าจนมิด แล้วเจ้าคิดว่ามันจะรอดอีกหรือ?” ชายผู้นั้นอธิบาย
” เหล่าชายฉกรรจ์ที่สึกเหิมอวดดีเมื่อครู่ล้วนเงียบกริบหมดคําพูดในบัดดล
“พี่หยาง!!” จู่ๆก็มีเสียงตะโกนดังลั่นฝาทะลุฝูงค้างคาวมาจากอีกฟากฝั่ง
เสียงของมันก้องกังวาลดังสะท้านได้ยินทุกผู้คน แม้แต่เหล่าค้างคาวปีกเหล็กก็ยังถึงกับสะดุ้งตกใจกับเสียงตะโกนที่มาอย่างกระทันหันนี้
มีค้างคาวสามถึงสี่ตัวตกใจถึงขีดสุดตัวเกร็งหลงลืมการบังคับควบคุมปีกของตนไปชั่วขณะส่งผลให้มันล่วงหล่นตกลงบนพื้น
” พี่หยางง!” เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้มันน้ําเสียงของมันผสมกับลมอากาศราวกับเค้นลมทั้งหมดออกมาจากปอดของตนเพื่อร้องเรียกเพรียกหาใครบางคน
ทั่วบริเวณเงียบเป็นเปาสากในบัดดล ไม่มีแม้แต่เสียงซุบซิบพูดคุยกันของเหล่าผู้รอดชีวิตร่วมร้อยคน ค้างคาวปีกเหล็กร่วมร้อยตัวก็มมีตัวใดส่งเสียงร้องขึ้นสักแอะ แม้แต่การตีปีกพยุงตัวบนอากาศของพวกมันก็ดูเหมือนจะนุ่มนวลขึ้นมสร้างเสียงน่ารําคาญอีกต่อไป
“เสียงใครน่ะ” สตรีวัยกลางคนที่อยู่แถวหลังของกลุ่มกล่าวขึ้นทําลายบรรยากาศความเงียบงันเนื่องจากด้านหน้าของนางมีคนหลายสิบชีวิตกําบังทั้งการมองเห็นและการได้ยิน ทําให้เสียงตะโกนสะเทือนฟ้าสะเทือนดินเมื่อครู่ส่งมาถึงนางแค่เพียงเสียงสะท้อนเท่านั้น ไม่ทราบว่าผู้ที่แหกปากตะโกนนี้คือฝ่ายผู้รอดชีวิตกลุ่มเดียวกับนางหรืออยู่อีกฟากฝั่งของฝูงค้างคาวกันแน่
“ชูว” ชายฉกรรจ์แถวหน้ายกไม้ยกมือส่งเสียงให้สัญญาณแก่ความเงียบ พวกมันพยายามจับจ้องมองผ่านฝูงค้างคาวเพื่อเสาะหาต้นตอเสียงชายปริศนาอย่างใจจดใจจ่อ
” ทําไมพี่หยางไม่ตอบข้าวะ” ขณะที่พวกมันกําลังเงี่ยงหูฟังกันอยู่ในที่สุดเจ้าของเสียงปริศนาก็เปิดปากอีกครั้ง แต่ครานี้มันมิได้ตะโกนเสียงดังดั่งสองคราก่อนหน้ากลับเป็นเสียงเปล่งวาจาคล้ายกับพูดคุยกับใครบางคน แม้เสียงจะถูกกลับด้วยระยะห่างแต่สําหรับเหล่าชายฉกรรจ์ที่แทบจะกลั้นหายใจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของประสาทรับเสียง ส่งผลให้พวกมันพอจะจับใจความตีความหมายได้คร่าวๆ
“ข้าว่าพี่หยางไม่ได้แหงเลย” เสียงชายคนเดิมกล่าวต่อ
“เออพี่หยางหนะไม่ได้ยิน แต่ข้านี่หูจะแตกอยู่แล้วโว้ย” ตอนนี้มีตัวละครโผล่ขึ้นมาพูดคุยโต้ตอบกับชายผู้นั้นแล้ว
คนกลุ่มนี่ก็เป็นใครไปไม่ได้หลิวไห่และพักพวกนั่นแล
ตอนนี้หลิวไห่และพวกชะงักหยุดทําตามแผนเดิมที่วางไว้ทั้งที่หน้าที่ของมันก็เสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อย แต่พวกมันก็ยังมิได้นําเอาตาข่ายผืนยักษ์ที่จับกุมค้างคาวปีกเหล็กนับร้อยออกไปข้างนอก เนื่องจากภายในถ้ําค้างคาวที่ไม่ควรมีสิ่งมีชีวิตอื่นอาศัยอยู่นอกจากสัตว์ประหลาดค้างคาวกลับมีเสียงจอแจเอะอะโวยวายจากคนไม่ต่ํากว่าร้อยชีวิต
ฝังผู้รอดชีวิต
“เอาไงดีวะ” ชายฉกรรจ์รายหนึ่งเปิดหัวข้อรวบรวมความคิดจากกลุ่มผู้รอดชีวิต
“เราถอยกลับไปก่อนไหม?
ถอยไปไหน? มันไม่มีที่ให้ไปแล้ว” ชายคนหนึ่งกล่าว
“พี่หยางคือใครวะ?”
“ข้าว่าคนกลุ่มนี้ต้องมาช่วยเราแน่ๆ”
“จะใช่หรอวะ” พวกมันปรึกษาหารือระดมความคิดกันวุ่น
ตอนนี้พวกมันทราบแล้วว่าอีกฝั่งฝูงค้างคาวที่กั้นอยู่มีกองกําลังอื่นกําลังตีโอบรบกับค้างคาวปีกเหล็กอยู่ แถมจากพลังเสียงตะโกนที่พวกมันได้ยินนั้น ยังสามารถบ่งบอกได้ว่าเจ้าของเส้นเสียงนี้ยังดูมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่เต็มเปี่ยมเลยทีเดียว
แต่สิ่งที่พวกมันกังวลก็คือคนกลุ่มนี้มาร้ายหรือดีกันแน่?
“อะแฮ่ม พวกคุณได้ยินไหม” ชายฉกรรจ์รายหนึ่งผู้อยู่แถวขบวนมันตัดสินใจตะโกนสื่อสารกลับกลุ่มคนปริศนา
“หือ? นั่นใครวะ” มีเสียงตอบกลับ ผู้เปล่งวาจาคือมนุษย์หมาป่าหนึ่งในสมาชิกทีมของหลิวไห่
” พวกผมคือผู้รอดชีวิตที่ถูกค้างคาวปีกเหล็กจับมา” ชายฉกรรจ์รายนั้นกล่าวต่อ
“คุณมาช่วยพวกเราใช่ไหม” ชายอีกคนไม่สามารถห้ามปรามความอยากรู้ของตนได้ มันรีบตัดบทกล่าวด้วยความคาดหวังอยู่เต็มเปี่ยม
“ผู้รอดชีวิต? โดนค้างคาวจับ?” มนุษย์หมาป่าหนุ่มนําข้อความที่ได้รับมาประติดประต่ อกันเป็นเรื่องราวตอนนี้หลิวไห่และพวกพอจะรู้ที่มาที่ไปของกลุ่มคนปริศนาที่อยู่ดีๆก็โผล่มาอยู่ในถ้ําค้างคาวนี่แล้วแต่นี่พวกมันอ่อนแอถึงขนาดโดนค้างคาวปีกเหล็กจับตัวมาเลยหรือ?
“ให้ช่วยอะไร” มนุษย์หมาป่าหนุ่มกล่าวด้วยความสับสน
“ฆ่า ฆ่าค้างคาวให้หมด ช่วยพวกเราออกไปที่” มีเสียงตอบกลับมาทันควัน
หลิวไห่และสหายมองหน้ากันด้วยความงุนงง
จากการฟังเสียงกะจํานวนคร่าวๆกลุ่มผู้รอดชีวิตย่อมมีไม่ต่ํากว่าร้อยคนและตรงหน้าพวกมันก็มีเพียงค้างคาวปีกเหล็กระดับสี่ที่มีจํานวนเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกันนั่นคือหนึ่งร้อยตัว
มองไปยังตาข่ายตุงอ้วนกลมที่บรรจุค้างคาวปีกเหล็กผู้โชคร้ายเอาไว้ภายใน ซึ่งดูเหมือนจะมีมากกว่าร้อยตัวเสียด้วยซ้ํา และการจับกุมค้างคาวนับร้อยนี้ก็ทําด้วยคนเพียงสี่คน
หากไม่จําเป็นต้องใช้วิธีการจับเป็นแล้วละก็ ค้างคาวแค่ร้อยตัวงั้นหรือ? หลิวไห่และสหายคงปลิดชีพพวกมันได้ในเวลาไม่กี่นาที แถมพวกมันจะสนุกกับการแข่งขันเก็บเกี่ยวค่าระดับจากการฆ่าเสียด้วยซ้ํา
ทั้งสองกลุ่มแม้จะเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันทั้งมนุษย์และมนุษย์ครึ่งสัตว์แต่พวกมันก็แตกต่างกันด้วยประสบการณ์จิตใจและฝีมือจึงมิสามารถนํามาเปรียบเทียบกันได้
“ช-ใช่แล้ว ขอท่านช่วยพวกเราออกไปด้วย”
” ช่วยด้วย”
” ช่วยพวกเราด้วย” เสียงกลุ่มผู้รอดชีวิตร้องอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ
“เอาไงดีวะ” มนุษย์หนุ่มหนึ่งในทีมหลิวไห่กล่าวถามความเห็นสหาย แต่คําถามของมันก็เพียงแค่ทําเป็นพิธีเท่านั้น เราะสมาชิกทั้งสี่เองก็ล้วนมีคําตอบอยู่ในใจและคําตอบของพวกมันก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
อย่างไรก็ตามแม้ผู้รอดชีวิตกลุ่มนี้จะน่าสงสัย แต่าภารกิจที่หลิวไห่และพวกได้รับก็คือจัดการเก็บกวาดค้างคาวปีกเหล็กอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ฉะนั้นการช่วยเหลือกลุ่มผู้รอดชีวิตก็เป็นผลพลอยได้จึงไม่นับว่าเสียหายอันใด
” พวกเจ้าคอยกันบีบให้ค้างคาวพวกนี้ไม่แยกกระจายกันไว้ เดี๋ยวพวกข้าจัดการจากฝั่งนี้เอง”หลิวไห่ตะโกน มันคิดแผนการที่เรียบง่าย ในเมื่อกลุ่มผู้รอดชีวิตไม่มีฝีมือถ้าอย่างงั้นให้พวกมันรอเฉยๆคงจะดีกว่า
“ค-ครับ!!” เหล่าชายฉกรรจ์ตอบรับด้วยความปิติยินดีบนใบหน้าที่ปิดไม่มิด
เหล่าผู้รอดชีวิตราวกับได้พบทางสว่าง คําพูดของหลิวไห่ทําให้จิตใจของพวกมันเปี่ยมไปด้วยความหวัง
“เออ! พี่หยางอยู่นั่นหรือเปล่า?” หลิวไห่นึกขึ้นได้โพล่งถาม
“พี่หยาง?”
ใครคือพี่หยาง?”
“เห้ย! ใครชื่อพี่หยางรีบออกมานี่เลย”
เมื่อกลุ่มผู้รอดชีวิตได้ยินมันก็มองหน้ากับด้วยความสับสนถามหาคนชื่อพี่หยางกันภายในกลุ่มแต่แล้วก็ไม่มีใครแสดงตัวออกมาสักคนเดียว
“เหมือนคนๆนั้นจะไม่อยู่ในกลุ่มนี้นะครับ” ชายฉกรรจ์ผู้เป็นหัวหอกกล่าวตอบตาม ความคิดของมันนั้นผู้ที่ชื่อพี่หยางนี้บางทีอาจจะเป็นคนรู้จักของกลุ่มผู้ช่วยชีวิตนี้ทว่าหากพี่หยางผู้นี้ไม่อยู่ในกลุ่มผู้รอดชีวิตแล้วจะไปอยู่ไหนได้? หรือพี่หยางผู้นี้มันจะโชคร้ายถูกเจ้าปีศาจกินไปแล้ว? ไม่ก็คงถูกฆ่าชีวิตด้วยค้างคาวปีกเหล็กขณะบุกฝ่าหนีออกจากถ้ําในครั้งแรก มันได้แต่หวังว่าพี่หยางผู้นี้จะไม่มีความสลักสําคัญจนเปลี่ยนทิศทางการช่วยเหลือ
“เจ้าโง่ ถ้าพี่หยางอยู่เขาก็ต้องตอบเองแล้วสิวะ” มนุษย์หนึ่งในทีมตอกกลับหลิวไห่
“เออวะ” หลิวไห่กล่าว มันลืมนึกคิดไปเสียเลยว่าหากหลินหยางอยู่ในกลุ่มผู้รอดชีวิตก็เป็นไปไม่ได้เลยที่หลินหยางจะไม่ได้ยินเสียงของมัน
ถ้าอย่างนั้นแล้วหลินหยางหายไปไหนล่ะ? ไม่กี่นาทีก่อนหน้าพวกยังพูดคุยโต้ตอบกับหลินหยางอยู่หยกๆ
แควก
ค้างคาวปีกเหล็กเริ่มมีปฏิกิริยาหลังถูกลดบทบาทพูดจาข้ามหัวพวกมันของผู้บุกรุกด้านหน้าและหลังราวกับพวกมันไม่มีตัวตน
“เหวอะ” กลุ่มผู้รอดชีวิตถึงกับผวาเมื่อได้ยินเสียงร้องของค้างคาวปีกเหล็ก