ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 92 ลุงใหญ่พวกเราจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้ว
“กานกาน ตอนนี้อาจารย์ของหนูไม่อยู่ เรื่องงานแต่งลุงจะเป็นคนจัดการให้หนูเอง ในเมื่อหนูเลือกจือหันแล้วและลุงเห็นว่าจือหันก็เป็นผู้ชายที่ไม่เลวเลย งั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ พวกหนูหาวันไปจดทะเบียนสมรสกันได้เลย” ลุงใหญ่จิบเหล้าขาวไปหนึ่งอึก ถามพร้อมกับหัวเราะชอบใจ
อวี๋กานกาน “…”
ดูเหมือนว่าอยากจะให้เธอแต่งงานมาก? !
นี่ลุงใหญ่อวยพรให้เธอกับฟังจือหันจริงเหรอ หยางเทียนโย่วจะไม่มาก่อความวุ่นวายให้เธออีกแล้ว?
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้างั้นตอนแรกที่ลุงใหญ่ให้หยางเทียนโย่วปลอมเป็นคู่หมั้นของเธอเพื่ออะไรกัน
อวี๋กานกานครุ่นคิด กล่าวตอบ “ลุงใหญ่ พวกเราจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“อะไรนะ พวกเธอจดทะเบียนสมรสกันแล้วเหรอ!” ป้าสะใภ้พูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ สายตาฉายแววความดีใจ
สีหน้าของลุงใหญ่และเหอหว่านซินก็ดีใจอย่างปิดไม่มิดเช่นกัน
อวี๋กานกานผงกศีรษะ “ใช่ค่ะ”
เธอและฟังจือหันจดทะเบียนสมรสถือเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขา?
เหอหว่านซินพูดอย่างกระดี๊กระด๊า “อวี๋กานกาน ในพินัยกรรมบอกคุณปู่เขียนไว้ว่า หากว่าเธอเป็นฝั่งเป็นฝาแล้วคลินิกจะมอบให้กับอาเล็ก ในเมื่อตอนนี้เธอจดทะเบียนแล้ว งั้นก็เลิกทำตัวเป็นตังเมติดหนึบอยู่ในคลินิกตระกูลเหอของพวกเราได้แล้ว!”
อวี๋กานกานตกตะลึง “…”
เธอจำไม่ได้จริงๆ ว่าเมื่อก่อนคุณปู่เคยพูดแบบนี้หรือเขียนพินัยกรรมแบบนี้ไว้? เธอจำได้แค่ว่าคุณปู่สั่งให้อาจารย์คนสวยดูแลเธอจนกระทั่งเธอแต่งงานมีลูก
ทว่าครานี้เธอถึงบางอ้อในทันที ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อเธอฟื้นขึ้นมา ถึงได้มีคู่หมั้นเพิ่มมาหนึ่งคน เมื่อเห็นว่าอาจารย์คนสวยหายสาบสูญ พวกลุงใหญ่พลันรู้สึกว่าขอแค่เพียงเธอแต่งงานก็จะสูญเสียสิทธิ์ในการถือครองคลินิก ดังนั้นหลังจากที่เธอฟื้นได้สติ จึงพยายามยัดเยียดคู่หมั้นคนหนึ่งให้เธอ อยากให้เธอแต่งงานโดยเร็วที่สุด ทีนี้พวกเขาก็จะเอาพินัยกรรมที่คุณปู่เก็บไว้ แสดงให้เห็นว่าเธอไม่มีสิทธิ์สืบทอดคลินิกต่อ คลินิกเป็นของอาจารย์คนสวยเหอสือกุย ทว่าอาจารย์คนสวยหายสาบสูญ และในฐานะที่ลุงใหญ่เป็นพี่ชายแท้ๆ ของอาจารย์คนสวย ย่อมต้องได้รับทรัพย์สมบัติของอาจารย์ นั้นก็คือคลินิก
เป็นแผนการที่ร้ายกาจมาก!
ในสายตาที่ลุงใหญ่มองอวี๋กานกาน มีแสงแห่งการเผด็จศึกสว่างวาบ
นิ้วโป้งและนิ้วชี้ของลุงใหญ่ถูไปมาสองสามครั้ง จากนั้นยิ้มให้อวี๋กานกานแล้วพูด “ยินดีกับหนูด้วยนะ กานกาน จดทะเบียนสมรสถือเป็นเรื่องมงคล ส่วนงานแต่งจะจัดเมื่อไรล่ะ”
อวี๋กานกานตอบ “ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ ไว้ว่ากันอีกที ถึงอย่างไรก็เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลมาหมาดๆ อีกทั้งที่คลินิกก็ยุ่งมากด้วยค่ะ”
ลุงใหญ่กล่าวเตือนด้วยความหวังดี “ลุงก็ยังขอพูดคำเดิมนะ ผู้หญิงเมื่อแต่งงานแล้วต้องให้ครอบครัวมาเป็นอันดับแรก”
อวี๋กานกานแสร้งหัวเราะ ถอยออกมาตั้งหลักเพื่อหาโอกาสใหม่ “ขอบคุณลุงใหญ่ หนูทราบแล้วค่ะ รออาจารย์กลับมา หนูจะยกคลินิกให้อาจารย์เป็นคนเปิด จากนั้นหนูจะไม่ทำงาน อยู่บ้านคอยดูแลลูกๆ และสามีค่ะ”
“อาจารย์ของหนูก็ไม่เป็นผู้ใหญ่เอาเสียเลย ไปไหนก็ไม่บอกไม่กล่าวคนในครอบครัว อีกอย่างเขาเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่เหมาะที่จะเปิดคลินิกแพทย์แผนจีน กานกาน เพื่อหนูลุงขอแนะนำว่าหนูยกคลินิกให้คนอื่นมาเปิดแทนดีไหม”
“ยกให้ใครมาเปิดแทน ลุงใหญ่กับพี่น่ะเหรอคะ” อวี๋กานกานหัวเราะเสียงเย็นอยู่ในใจ
“พี่สาวหนูเป็นคนแบบไหนไม่ใช่ว่าหนูไม่รู้ จากเรื่องเมื่อครั้งก่อนลุงตระหนักได้แล้วว่าเขาไม่เหมาะจะเปิดคลินิก” ลุงใหญ่มีสีหน้ากลัดกลุ้ม ก่อนจะกล่าวต่อ “ที่จริงลุงรู้สึกว่าขายคลินิกเป็นหนทางดีที่สุดแล้ว อย่างไรเสียลุงก็เห็นหนูตั้งแต่เด็กจนโต พวกเรายังคงเป็นคนครอบครัวเดียวกันตลอดไป!”
เมื่อลุงใหญ่กล่าวถึงประโยคหลัง น้ำเสียงพลันแข็งกร้าวขึ้นมาทันที