ตอนที่ 505 ลงโทษ กานกานใจดำ
อวี๋กานกานยิ้มให้แล้วอธิบายอย่างนุ่มนวล “รู้สึกมีอะไรเหมือนมดแมลงไต่ไปมาบนแผลคุณใช่ไหมคะ”
“ใช่!” กู้ซูหลิงตะโกนเสียงดังจ้องอวี๋กานกานตาโต “ทรมานมาก มันทรมานมากจริงๆ”
“เป็นปกติค่ะ” อวี๋กานกานสั่งไม่ให้เธอตกใจตื่น “อดทนหน่อยอีกสองวันก็หายแล้ว”
“ตั้งสองวัน!” กู้ซูหลิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจกลัว ดูเหมือนเธอคันจนได้สติกลับมาหากคันอีกนิดเธอก็ทนไม่ไหวแล้วยังจะต้องคันไปสองวันอีก
เธอจับแขนของจูอวี้ลู่แน่นแล้วกัดฟันพูด “แม่ อวี๋กานกานต้องทำร้ายหนูจงใจทำให้หนูเจ็บแน่ๆ หนูจะทำยังไงดี มือของหนูไม่เหลือแล้วหนูทรมานจังเลยค่ะ”
อวี๋กานกานกรอกตาขาว “พิษของคุณไม่ใช่พิษสองชนิดที่ค้นหาได้ตามไป่ตู้[1] ไม่เช่นนั้นมือของคุณหายเป็นปกตินานแล้ว สัตว์มีพิษขนาดเล็กมีจำนวนน้อยหลายคนเลยไม่รู้จัก มันน่าจะเหมือนกบพิษอาศัยอยู่ในส่วนลึกของป่าฝนเขตร้อนและมีความสามารถในการหลั่งสารพิษและกินอาหารที่มีพิษบางอย่างเท่านั้น”
“ขอโทษครับคุณหมออวี๋” ใบหน้าของกู้เชินแสดงสีหน้าลำบากใจและขอโทษ
“ไม่ใช่ว่าฉันจะพูดให้คุณตกใจ คุณรู้หรือไม่ว่ามีกบลูกดอกพิษชนิดหนึ่งซึ่งเป็นพิษทรงพลังที่สุดที่รู้จักกันในโลกพิษของมันมีขนาดใหญ่ถึงแสนเท่าในหนึ่งกรัมซึ่งมากพอที่จะทำให้คนเป็นพิษถึงตายได้ แน่นอนว่าสัตว์มีพิษขนาดเล็กนี้ก็ไม่ได้ห่างไกลกันมาก คุณไม่ควรจับมัน เมื่อถึงเวลาปล่อยให้แผลติดเชื้ออีกครั้งและพิษจะแพร่กระจายอีกต่อให้เป็นหมอเทวดาก็ไม่สามารถช่วยชีวิตคุณได้หรอกค่ะ”
กู้เชินพยักหน้าแสดงคำขอบคุณอวี๋กานกานจากนั้นจึงหันไปพูดกับกู้ซูหลิง “ขอโทษคุณหมออวี๋ซะ”
กู้ซูหลิงคันแผลจนทรมานไปทั่วแต่ก็ไม่อาจเกาแผลได้จึงทำได้เพียงเการอบแผลอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อบรรเทาอาการคัน
เมื่อได้ยินกู้เชินบอกให้เธอกล่าวขอโทษเธอก็เบิกตาอ้าปากค้างอย่างไม่เข้าใจเหตุผล “ทำไมหนูต้องขอโทษด้วย เธอรักษาหนูจนทรมานขนาดนี้ หนูแค่สงสัยไม่ได้เหรอคะ”
“ที่พูดมาไม่ใช่วันนี้แต่เป็นวันนั้นที่เสียมารยาท ลูกควรขอโทษคุณหมออวี๋” กู้เชินกล่าวน้ำเสียงจริงจังแววตาเคร่งขรึม
ชายผู้สง่างามเย็นชาขึ้นทันทีและบรรยากาศที่เด็ดขาดแข็งแกร่ง จูอวี้ลู่เห็นท่าทางไม่ดีจึงเอ่ยปรามบุตรสาว “หลิงหลิง เชื่อฟังคุณพ่อ”
กู้ซูหลิงกัดฟันกรอดๆ
เธอนิ่งเงียบราวกับกำลังสะกดอารมณ์โกรธจากนั้นจู่ๆ ลดไหล่ลงมองไปที่อวี๋กานกานแล้วเอ่ยพึมพำ “ฉันขอโทษ”
อวี๋กานกานไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงแต่หันไปพูดกับกู้เชิน “ประธานกู้คะ ทำตามใบสั่งยาที่ฉันให้ทั้งยาใช้ภายนอกภายใน จากนี้สามวันให้ไปตรวจอีกทีที่โรงพยาบาลนะคะ”
อวี๋กานกานกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะออกไปกับฟังจือหัน
จู่ๆ อวี๋กานกานก็ระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่นในขณะที่รถกำลังขับออกจากคฤหาสน์ตระกูลกู้
ฟังจือหันเหลียวไปมองเธอแวบหนึ่ง “…”
“ฉันตั้งใจทำให้เธอคันแผลเองค่ะ ให้เธอได้รับบทเรียนสักหน่อย” ใครใช้ให้กู้ซูหลิงปาเข็มใส่หน้าเธอล่ะ
เซียงเพียวเพียววนรอบโลกมาหลายครั้ง[2]เช่นเดียวกับพระแม่มารีกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีของผู้คนทั้งหมดแต่เธอยังคงสุภาพ อย่างเสียคงไม่มาเอาชีวิตของเธอหรอก
ความผิดเบาแต่โทษหนัก
ฟังจือหันกระตุกยิ้มมุมปากดวงตาคู่งามราวกับภาพวาดเอื้อมมือไปลูบหัวเธอ
“ฉันดูร้ายไหมคะ”
“ยัยเพี้ยนก็ต้องร้ายๆ หน่อย”
——
[1] ไป่ตู้ เป็นเสิร์ชเอนจินอันดับหนึ่งของประเทศจีน และเป็นเว็บไซต์ที่คนใช้มากที่สุดอันดับ 4 ของโลก
[2] เป็นมุกเกี่ยวกับโฆษณาชานมยี่ห้อหนึ่งของจีน
ตอนที่ 506 แสร้งทำเป็นขอโทษ
กู้ซูหลิงมีอาการคันร่วมสองวัน สองวันมานี้คันจนถึงหัวใจถึงปอด ความทรมานที่ว่าอยากเกาแต่ก็เกาไม่ได้เพราะกลัวแผลเน่าเปื่อย
สองวันนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับผ่านสองวันได้ไม่ง่ายเลย เมื่อมาตรวจเลือดที่โรงพยาบาลผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าพิษที่เหลือได้รับการขับออกหมดแล้ว อาการติดเชื้อหายไปและจะไม่มีอันตรายอีก
กู้ซูหลิงดีใจจนน้ำตาไหลกอดจูอวี้ลู่ร้องไห้เสียงดัง
ในตระกูลกู้ กู้เชินเป็นคนเด็ดขาดเสมอไม่เคยมีใครต่อต้านเขาได้ กู้ซูหลิงมักจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
แต่ช่วงเวลาที่เจ็บป่วยกู้ซูหลิงก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน
โวยวายไร้เหตุผลเย่อหยิ่งและใช้อำนาจบาตรใหญ่
ตอนที่เจ็บป่วยกู้ซูหลิงไม่สนใจสิ่งเหล่านี้เลยสักนิด
ตอนนี้พิษถูกถอนหมดส่วนคนก็ไม่เป็นอะไรแล้ว กู้เชินไม่ดีใจขึ้นมาตั้งแต่แรกเขามีสีหน้าเรียบนิ่งอยู่ตลอดทำเหมือนกับไม่สนใจเธออย่างไรอย่างนั้น
กู้ซูหลิงจมอยู่กับความคิดในใจถึงสำนึกได้ว่าช่วงนี้ตัวเองได้ทำเกินกว่าเหตุ
เธอยืนเรียบร้อยราวกับเด็กทำผิดต่อหน้ากู้เชิน “คุณพ่อคะหนูขอทา ช่วงที่ผ่านมาหนูทำตัวไม่ดีมักจะหงุดหงิดโวยวายไร้เหตุผล…ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีความอดทนต่อและจู้จี้กับหมออวี๋…หนูผิดไปแล้วคุณพ่ออย่าโกรธหนูเลยนะคะ”
ไม่ใช่เพราะกู้เชินไม่สนใจเธอ ดังนั้นถึงไม่แสดงอาการดีใจใดๆ ที่เธอหายแล้ว
แล้วเขายังเชื่อว่าเด็กที่ชื่ออวี๋กานกานน่าจะรู้แก่ใจตั้งแต่แรกว่ามือของกู้ซูหลิงจะไม่เป็นอะไร
แต่ถึงอย่างไรพฤติกรรมเอาแต่ใจของกู้ซูหลิงในช่วงเวลานี้
ยังคงทำให้เขาผิดหวังอยู่บ้างและแปลกใจ
เมื่อมองไปที่กู้ซูหลิงซึ่งพูดอย่างนุ่มนวลและรู้สึกผิดอย่างยิ่ง ความรู้สึกไม่สบายใจของกู้เชินก็ค่อยๆ หายไป
สุดท้ายก็เพราะเขาลูกถึงได้รับบาดเจ็บพิษชนิดนี้ต้องสาปพวกเรามามากพอแล้ว หลายวันมานี้เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับแถมยังได้รับผลกระทบจากพิษอีก นิสัยอาจเปลี่ยนไปบ้างก็เป็นเรื่องปกติ
“พ่อไม่ได้โกรธลูก”
เมื่อได้ยินดังนั้นกู้ซูหลิงก็ยิ้มออกแล้วปรี่เข้าไปนั่งข้างๆ กู้เชินกอดเอวเขาอย่างออดอ้อน “คุณพ่อหนูรู้ว่าคุณพ่อดีกับหนูที่สุด”
กู้เชินยกยิ้มด้วยความรักใคร่เอ็นดู
จูอวี้ลู่มองอยู่ข้างๆ ใบหน้าของเธอเผยรอยยิ้มมีความสุข
ตกค่ำจูอวี้ลู่อาบน้ำสวมชุดนอนเซ็กซี่ขนาดอยู่ในวัยกลางคนแล้วยังดูมีเสน่ห์
หลังจากบำรุงผิวเสร็จเธอลูบหน้าตัวเองมองไปยังกู้เชินที่เตรียมตัวเข้านอนแล้วเอ่ยถามด้วยความใส่ใจอย่างสตรีที่เพียบพร้อม “อาเชินคะ เราควรต้องไปขอบคุณคุณหมออวี๋ดีๆ ไหมคะ”
“เรื่องนี้ผมกัดการเอง”
กู้เชินพูดจบก็ล้มตัวลงนอนหันหลังให้จูอวี้ลู่
จูอวี้ลู่นอนลงข้างๆ หันหน้าเข้าหากู้เชินยื่นมือแตะไหล่กู้เชินอย่างระมัดระวังแล้วเอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มเย็นราวกับน้ำ “อาเชิน…”
แต่กู้เชินตอบกลับเสียงเรียบนิ่งเพียงคำเดียว “นอน”
จูอวี้ลู่ชักมือตัวเองกลับอย่างหงุดหงิดขมวดคิ้วร่องรอยความไม่พอใจเลื่อนผ่านในแววตา
เธอค่อยๆ โน้มตัวลงนอนปิดไฟที่หัวเตียงหลับตากระตุกมุมปากด้วยความทำอะไรไม่ถูก
…
หลักจากเลิกงานแล้วอวี๋กานกานยืนบนฟุตบาทรอฟังจือหันขับรถมารับดั่งเช่นทุกวัน
รถคันหนึ่งเข้ามาจอดข้างเธอ กระจกรถเลื่อนลงมาเผยให้เห็นใบหน้าของชายคนหนึ่งจึงทำให้อวี๋กานกานชะงักไปชั่วขณะ “ประธานกู้”
กู้เชินยิ้มให้อวี๋กานกานเล็กน้อยแล้วเชิญเธอขึ้นรถ “แถวนี้ห้ามจอด”
อวี๋กานกานลังเลครู่หนึ่งก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถ หลังจากถามกู้เชินว่าจะไปที่ไหนแล้วเธอจึงส่งข้อความบอกฟังจือหัน