ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 507 จำเสี่ยวเหยียนได้ไม่เคยลืม / ตอนที่ 508 ภัยคุกคาม

ตอนที่ 507 จำเสี่ยวเหยียนได้ไม่เคยลืม / ตอนที่ 508 ภัยคุกคาม

ตอนที่ 507 จำเสี่ยวเหยียนได้ไม่เคยลืม

ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมีร้านกาแฟหรูร้านหนึ่งสไตล์การตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่หรูหรา

อวี๋กานกานนั่งตรงข้ามกู้เชินนั่งในมุมเงียบสงบ หลังจากทักทายตามมารยาทแล้วกู้เชินจึงเข้าเรื่องของตัวเองสักที “หมออวี๋วันนี้ผมมาขอบคุณต่อหน้าคุณที่รักษาแขนลูกสาวผมจนหาย”

อวี๋กานกานคนกาแฟในแก้วแล้วยิ้มเจือจาง “ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ ประธานกู้ต้องขอบคุณหมอหวงมากกว่า”

ถ้าไม่ใช่หมอหวงเธอคงไม่ไปเหยียบบ้านนั้น แน่นอนว่าหากหมอหวงลงมือเองคงไม่ต้องมาถึงมือเธอหรอก

กู้เชินมองหญิงสาวตรงหน้า รอยยิ้มเจือจางนั้นทำเอาเขาสั่นไหวไปชั่วขณะราวกับว่าเห็นเสี่ยวเหยียน เด็กผู้หยิงสวยงามอ่อนโยนคนนั้นที่เขาจำไม่เคยลืม

แต่ทำไมเธอถึงได้…

กู้เชินควบคุมความผิดหวังในใจที่พูดไม่ออกมองอวี๋กานกานแล้วเอ่ยขึ้น “ก็ต้องขอบคุณหมออวี๋อยู่ดี หากหมออวี๋ต้องการอะไรก็บอกผมตรงๆ ได้เลย”

เขาหมายถึงไม่ว่าอวี๋กานกานต้องการเงื่อนไขอะไรเขาก็จะพยายามสนองให้เธอพอใจ

“นี่ถือว่าเป็นคำขอบคุณของประธานกู้แล้วค่ะ” อวี๋กานกานยกแก้วกาแฟขึ้นแสดงท่าทีกับกู้เชินเล็กน้อย จากนั้นยกยิ้มแล้วจิบกาแฟ

กาแฟที่ใส่มูสรสชาติกลมกล่อมนุ่มนวลหอมหวาน “กาแฟอร่อยมากค่ะ”

ริมฝีปากสง่างามของกู้เชินยกรอยยิ้มแฝงด้วยความเมตตา “หมออวี๋เรียนแพทย์แผนจีนมากับใครเหรอ”

อวี๋กานกานวางแก้วกาแฟลงมองเขาแล้วเอ่ยตอบ “ฉันเรียนหมอมากับคุณปู่ค่ะ เขาถือว่าเป็นแพทย์แผนจีนอาวุโสที่มีชื่อเสียงของที่นั่นค่ะ”

“แล้วพ่อแม่ของคุณล่ะ”

เมื่อกู้เชินหลุดปากถามไปแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าข้อมูลที่ตรวจสอบมาพ่อแม่ของอวี๋กานกานเสียชีวิตทั้งคู่และเธอโตมากับปู่จึงรีบกล่าวขอโทษ “ขอโทษนะ”

อวี๋กานกานยิ้ม “ไม่เป็นไรค่ะยังไงดิฉันก็ไม่เคยเห็นว่าหน้าตาพวกเขาเป็นอย่างไร”

บรรยากาศพลันเงียบเหงาทั้งสองจึงจิบกาแฟเงียบๆ

ทันใดนั้นกู้เชินก็เอ่ยขึ้น “หมออวี๋ อย่าโกรธผมเลยนะ คุณให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยกับผมมาก”

อวี๋กานกานอึ้งไปเล็กน้อย

อันที่จริงเธอเองก็มีความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่างกับกู้เชิน

ถึงแม้เขาจะเป็นพ่อของกู้ซูหลิงแต่เธอก็เกลียดคนๆ นี้ไม่ลง

กู้เชินจึงพูดต่อ “คุณเหมือนกับคนรักของผม”

อวี๋กานกานนึกถึงจูอวี้ลู่ทันที เธอขำเหอะๆ ไม่กล้าดูหมิ่นเท่าไหร่ “ฉันกับคุณผู้หญิงไม่เหมือนกันเลยสักนิด คุณหนูกู้ค่อนข้างเหมือนแม่ของเธอมากกว่านะคะ”

กู้เชินส่ายหน้า “ผมหมายถึงภรรยาของผมต่างหาก”

อวี๋กานกาน “…”

ภรรยาของเขาไม่ใช่จูอวี้ลู่หรอกเหรอ

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นฟังจือหันที่โทรเข้ามา เขาบอกอยู่ชั้นล่างตึกรอเธอแล้ว อวี๋กานกานไม่ถามอะไรมากอีกจึงบอกลากู้เชินแล้วขอตัวกลับไป

มองหลังอวี๋กานกานที่เดินออกไปแล้วควักกระเป๋าสตางค์ในเสื้อสูทออกมา

ในกระเป๋าสตางค์มีรูปเหลืองซีดอยู่หนึ่งใบมองดูก็รู้ว่าผ่านมาหลายปีแล้วรูปถึงได้พร่าเบลอจนมองไม่ชัด มองเห็นแค่สามคนพ่อแม่ลูกที่อยู่ในรูป

ในอ้อมแขนของผู้ชายกอดเด็กทารกน่ารักคนหนึ่งส่วนผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างกันนั้นหน้าตาเหมือนอวี๋กานกานมาก ยิ้มอบอุ่นอ่อนโยนแนบชิดเคียงไหล่ผู้ชาย

มองไปมองมาดวงตาของกู้เชินก็เริ่มแดง

กู้เชินรู้จักกับเสี่ยวเหยียนตอนเรียนมัธยมปลาย

หากเสี่ยวเหยียนเป็นนักเรียนดีเด่น เช่นนั้นแล้วกู้เชินก็เป็นนักเรียนเกเรหลังห้อง

ตอนกู้เชินพบกับเสี่ยวเหยียนครั้งแรก เสี่ยวเหยียนขึ้นแสดงไวโอลินในงานปฐมนิเทศโรงเรียน เธอยืนอยู่กลางเวทีหลับตาแขนกวัดแกว่งสีไวโอลินไปมา ทำนองเพลงที่ดังขึ้นช่างสวยงามและไพเราะ

ตอนที่ 508 ภัยคุกคาม

รอบข้างมืดไปทั่วแสงตกกระทบเพียงเสี่ยวเหยียนส่องประกายสวยงามราวไข่มุกเป็นที่น่าทึ่งและคงความสง่างามไว้ในเวลาเดียวกัน

ตั้งแต่วันนั้นกู้เชินทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดเสี่ยวเหยียน ไม่เพียงแต่นั่งโต๊ะเรียนข้างเสี่ยวเหยียนเท่านั้นเขายังทำทุกวิถีทางให้อาจารย์หน้าใช้ข้ออ้างในการติวหนังสือเพื่อจะได้อยู่กับเธอทั้งวัน

ต่อมาเมื่อพวกเขาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเธอก็ตกลงเป็นแฟนของเขา ยอมกอดเขาร้องไห้แล้วซบอกเขาหัวเราะ

เขาคิดมาตอลอดว่าพวกเราจะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า เขาจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดชีวิตแล้วจากโลกนี้ไปด้วยกัน

แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเธอจะจากโลกนี้ไปก่อนเพราะไม่สบาย

อีกทั้งยังคิดไม่ถึงว่าเขาจะสูญเสียลูกสาวของพวกเราไปอีกคน ถึงแม้ว่าเขาจะตามหาจนเจอแล้วแต่ระหว่างพวกเขาก็ยังรู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า

กู้เชินเก็บกระเป๋าสตางค์ปิดสายตาแล้วถอนหายใจยาว

อวี๋กานกานนั่งพิงเก้าอี้อาบแดดตรงระเบียงในมือถือสมุดจดบันทึกส่วนข้างๆ มีหนังสือทางการแพทย์วางกองอยู่บนโต๊ะกาแฟ

สายตาของเธอเหม่อลอยตัวหนังสือในสมุดอ่านไม่เข้าหัวเลยสักนิด

ฟังจือหันนั่งลงข้างเธอเอื้อมมือไปบีบไหล่และก้มศีรษะกดจูบบนเรือนมของเธอ “เหนื่อยเหรอ ไปพักก่อนเถอะ”

อวี่กานกานโน้มตัวเข้าไปอิงแอบอ้อมกอดของฟังจือหัน

เธอเอาสมุดของตัวเองวางลงบนมือเขา “คุณอ่านให้ฉันฟังหน่อยสิ”

ฟังจือหันเหลือบมองครู่หนึ่งทั้งหมดนี่เป็นคำศัพท์การแพทย์ทั้งนั้นแต่ก็ไม่เชิงไม่รู้จัก เพราะถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็กำลังรับช่วงต่อสมาคมยาไป่ฟางอยู่

“ได้”

เขาอ่านน้ำเสียงใสทุ้มต่ำอ่านทุกตัวอักษรไม่ช้าไม่เร็วเกินไปทำให้รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

อวี๋กานกานจ้องมองเขาอยู่ตลอดเวลานัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน

ในหัวของเธอค่อยๆ มีภาพแปลกๆ ซ้อนขึ้นมา ชายหนุ่มอุ้มเด็กผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นนั่งบนเก้าอี้หวายโยกไปมาตรงระเบียงที่แดดส่องประกาย เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มกำลังอ่านหนังสือ

“หนึ่งสองสามสี่ห้า ขึ้นภูเขาไปจับเสือ จับเสือไม่ได้ก็จับกระรอกน้อย มีกระรอกหลายตัว ให้ฉันนับ นับไปนับมา หนึ่งสองสามสี่ห้า ขึ้นภูเขาไปจับเสือ…”

ตรงหน้าของเธอแกว่งไปมาทั้งร่างโยกไหว

ฟังจือหันยื่นแขนโอบเอาเธอเอาไว้ “เป็นอะไรไป”

อวี๋กานกานส่ายหน้ายิ้มๆ “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”

เธอพิงร่างของฟังจือหัน “วันนี้ฉันคุยกับคุณกู้เชินนิดหน่อย เขาบอกว่าฉันเหมือนคนรักของเขา ฉันคิดว่าฉันไม่เหมือนแม่กู้ซูหลิงสักหน่อยแล้วเขาก็บอกว่าหมายถึงภรรยาของเขาต่างหาก ฉันก็เลยนึกขึ้นได้ว่าเขาหมายถึงภรรยาคนก่อนของเขา”

ฟังจือหันหลุบสายตาต่ำ

เขาไม่ตอบอวี๋กานกานแล้วอ่านตำรายาของเธอต่อ

อวี๋กานกานเองก็ไม่พูดสิ่งใดอีก เธอรู้สึกว่ากู้เชินรักภรรยาเก่ามากกว่า วันนั้นที่เห็นผู้หญิงคนนั้นที่บ้านตระกูลกู้ เธอคือกู้เหยียนอวี๋หรือเปล่า

ถ้าเธอไม่ใช่แล้วทำไมถึงเรียกกู้เชินว่าพ่อ

แต่ถ้าคือกู้เหยียนอวื๋ ทำไมฟังจือหันถึงไม่สนใจเธอเลยสักนิด

รู้สึกแปลกๆ ในส่วนลึกของหัวใจ

อธิบายไม่ถูก รู้ไม่แน่ชัด

เธอเงยหน้ามองฟังจือหัน จู่ๆ ก็ถามด้วยความปลกตก “ถ้าหาก…ฉันหมายถึงถ้าหากฉันเป็นเหมือนภรรยาเก่าคุณกู้เชิน คุณไม่มีฉันแล้วคุณจะแต่งงานกับคนอื่นไหม”

“แต่ง”

ฟังจือหันตอบอย่างแทบไม่ต้องคิดทำให้อวี๋กานกานถึงกับชะงักค้าง

คำตอบนี้ฟังดูเหมือนเย็นชาไร้อารมณ์แต่กลับคาดคิดไม่ถึง

มันคงไม่จริงที่จะไม่แต่งงานอีกในชีวิตนี้

ฟังจือหันจ้องหน้าเธอแล้วตั้งใจพูดทุกคำอย่างจริงจังเคร่งขรึม “ฉะนั้นคุณต้องมีอายุยืนกว่าผม ใช้ชีวิตให้ยาวนานกว่าผม”

อวี๋กานกานยกยิ้มมุมปาก ที่แท้คำว่า ‘แต่ง’ หมายถึงภัยคุกคาม

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

Status: Ongoing

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท