ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 571 แก้แค้น จงใจยั่วยุ / ตอนท…

ตอนที่ 571 แก้แค้น จงใจยั่วยุ / ตอนท...

ตอนที่ 571 แก้แค้น จงใจยั่วยุ

หลิงนีแสยะยิ้มมุมปาก เมื่อได้ยินหล่อนเอ่ยถึงฟังจือหันสายตาพลันอ่อนลง แต่กลับพูดอีกอย่าง  อย่าพูดซี้ซั้วนะอี๋เสวี่ย ฉันกับคุณชายหานเป็นแค่เพื่อนกัน 

 โอเคๆๆ พวกเธอเป็นแค่เพื่อนกัน 

 เป็นเพื่อนกันจริงๆ นะ 

 เป็นเพื่อนกันดีๆ แต่มีหลายครั้งที่เพื่อนอาจจะกลายเป็นคู่สามีภรรยาก็ได้ เพราะพวกเธอมีความเข้าใจกันดีจริงๆ ถ้าเธอมีคู่ได้เธอจะเป็นเหมือนกิ่งทองใบหยกไงล่ะ 

จางอี๋เสวี่ยพูดจากำกวม

หลิงนีรู้สึกยินดีในหัวใจ ดวงตาของเธอดูเหมือนมวลดอกไม้บานสะพรั่ง

 จะว่าไป ทำไมคุณชายหันยังไม่มาอีกเนี่ย 

 เขายุ่งมาก วันนี้วันเกิดคุณท่าน เขาน่าจะมาดึกหน่อย 

 ไปๆๆๆ เราไปดูกันเธอว่าหมอจีนคนนั้นมอบของขวัญอะไรให้คุณท่าน 

อวี๋กานกานเดินไปยังข้างหน้าคุณท่าน ขณะที่เดินมาก็ดูว่าคนอื่นใช้สายตามองท่านอย่างไร เพียงแค่อยากจบงานเลี้ยงไฮโซนี่ไวๆ เท่านั้น

 คุณท่านคะ สวัสดีค่ะ 

คุณท่านนั่งบนเก้าอี้ด้วยท่วงท่าสง่างามและน่าเกรงขาม ดวงตาซ่อนเร้นเผยให้เห็นถึงความมีปัญญาลึกล้ำมองไปยังอวี๋กานกานด้วยความดีใจแวบหนึ่ง  เสี่ยวอวี๋มาแล้วเหรอ 

เขามองสำรวจรอบหนึ่งก่อนจะเอ่ยชม  วันนี้เธอสวยมาก 

อวี๋กานกานพยักหน้ายิ้มๆ อย่างเขินอายจนหน้าแดง  ขอบคุณค่ะ ของขวัญนี่มอบให้ท่านค่ะ ขออวยพรให้มีความสุข อายุยืนนานนะคะ 

คุณท่านที่รับของขวัญมายกยิ้มด้วยความปีติยินดี  ดีๆๆ ขอบใจเธอนะ ทำให้เธอสิ้นเปลืองเปล่าๆ แล้ว 

อวี๋กานกานยิ้มเล็กยิ้มน้อยอย่างรู้สึกเกรงใจ  แค่น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ ขอเพียงคุณท่านอย่าได้ถือโทษเอาความ 

 ไม่ถือโทษหรอก ฉันชอบมาก 

ชายชรายังไม่ทันได้เปิดกล่องของขวัญเลยด้วยซ้ำก็ยื่นให้พนักงานรักษาความปลอดภัยข้างๆ

ทันใดนั้นเสียงแหลมๆ ก็ดังขึ้น  คุณปู่ฟังคะ เนื่องจากคุณปู่ชอบมากทำไมถึงไม่เปิดของขวัญที่หมออวี๋ให้ดูว่าเป็นอะไรล่ะคะ 

 จริงด้วยค่ะ ให้พวกเราดูหน่อยสิคะ พวกเราอยากเห็นมากเลยค่ะ 

สองเสียงนี้เป็นเสียงของจางอี๋เสวี่ยและหลิงนี ส่วนหลิงนีน่าจะสนิทคุ้นเคยกับคุณท่านมากกว่าจึงคล้องแขนคุณท่านเบาๆ  นี่ดูแล้วน่าจะเป็นภาพวาด หนูไม่รู้ว่าศิลปินชื่อดังคนไหนเป็นคนวาด หนูอยากเห็นมันจริงๆ ค่ะ 

อวี๋กานกานขำแต่ไม่ออกเสียง

สองคนนี้เห็นว่าเธอไม่รีบตรวจให้ยังแค้นขนาดนี้

ของขวัญที่ฟังจือหันเตรียมให้เธอ แม้จะมูลค่าจะไม่สูงมากแต่ก็ไม่ได้แย่ถึงขั้นนั้น

ชายชรายิ้มให้กับหลิงนีอย่างนึกสนใจเช่นกัน  งั้นก็ได้ เปิดดูสิ ดูสิว่าเสี่ยวอวี๋ให้ภาพวาดอะไรกับฉัน 

พนักงานรักษาความปลอดภัยเปิดภาพวาดออกมา ส่วนแรกของม้วนภาพเผยให้เห็นเส้นทางลาดเอียงพิงภูเขาและมองเห็นผืนน้ำเลียบภูเขา ท้องฟ้าจรดสายน้ำ เนินเขาสีเขียวซ้อนกับทะเลสีเขียวละลาย มวลบุปผาและแมกไม้หญ้าสีเขียวขจีนักปราชญ์ควบม้าไปตามเส้นทางเลียบภูเขา ส่วนผู้หญิงก็ล่องเรือตามลำน้ำ สายลมในฤดูใบไม้ผลิกำลังกระเพื่อมอบอุ่นและอ่อนโยน โดยภาพรวมแสดงให้เห็นถึงความสวยงามไร้ที่ติ

แต่ไม่มีตราประทับว่ามาจากยุคสมัยใด

จางอี๋เสวี่ยที่อยู่ข้างๆ หัวเราะเยาะทันทีและพูดอย่างดูถูกว่า  ย้อนไปถึงยุคโบราณของการเกิดภาพวาดจนถึงช่วงปลายราชวงศ์ชิง ดูเหมือนว่าจะไม่มีภาพวาดโบราณเช่นนี้มาสี่พันปีแล้วใช่ไหม ภาพวาดสมัยใหม่เหรอ จิตรกรคนไหนวาดล่ะ ทำไมถึงไม่มีตราประทับ เธอวาดเองหรือเปล่า 

หลิงนีป้องปากขำแล้วตำหนิจางอี๋เสวี่ยเบาๆ  หล่อนเป็นแค่แพทย์แผนจีนคนหนึ่ง เธอคิดว่าหล่อนจะมีปัญญาให้ภาพวาดราคากี่สิบล้านหรือไง 

ตอนที่ 572 เซอร์ไพรส์ งานหมั้น

ภายในห้องโถงงานเลี้ยงเงียบไปชั่วขณะ

ใบหน้าที่ดูใจดีมีเมตตาของคุณท่านยังพลอยเรียบนิ่งและเย็นชาไปด้วย

เกิดบรรยากาศน่าอึดอัด

แม้ว่าอวี๋กานกานจะไม่เคยมางานเลี้ยงแบบนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ ผู้หญิงสองคนนี้อยากให้เธอเป็นตัวตลกในงานเลี้ยง

คนเหล้านี้ไม่ได้ยั่วยุกันง่ายๆ แต่เธอก็ไม่อยากเป็นตัวตลกของใคร ยิ่งไม่อยากถูกใครฉีกหน้าทั้งยังยื่นหน้าอีกด้านให้คนอื่นตบ

อวี๋กานกานยิ้มเจือจางแล้วตอบกลับไป  จะเป็นภาพวาดโบราณแล้วไม่มันสำคัญมากเหรอ หรือว่าการให้ของขวัญไม่ใช่การแสดงน้ำใจแต่ดูที่ราคาเหรอคะ 

เมื่อคำนี้พูดออกไป ใครยังจะกล้าดูถูกอีก แม้คนในที่นี้จะไม่ใช่คนธรรมดาก็ตาม

มีคนรีบเอ่ยขึ้น  แน่นอน น้ำใจสำคัญกว่า 

จางอี๋เสวี่ยและหลิงนีแทบรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไม่ไหว

จางอี๋เสวี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม  แน่นอนค่ะว่าจำเป็น ทำไมหมออวี๋ต้องจริงจังด้วย พวกเราแค่ล้อเล่นเอง 

อวี๋กานกานพูดขึ้น  ฉันจริงจังเหรอคะ 

ใครจะรู้ว่าเธอยิ้มอยู่ รอยยิ้มของเธอเจือจางแต่อ่อนโยนและเหมาะสมท่าทีของเธอ ไม่ดูเย่อหยิ่งเป็นที่น่าประทับใจมาก

หลิงนียกยิ้มมุมปากแล้วมองอวี๋กานกานอย่างเยือกเย็น  ดูแล้วหมออวี๋คงเลือกภาพมาเป็นพิเศษ ไหนหมออวี๋ลองพูดเกี่ยวกับภาพนี้ดูสิคะ 

ภาพวาดนี้คงซื้อมาแบบง่ายๆ ดูท่าหมออวี๋ต้องพูดไม่ออกแน่

คุณท่านมองอวี๋กานกานที่สีหน้าไม่เคยเปลี่ยน คิ้วหงอกขาวกระตุกเล็กน้อย รออวี๋กานกานว่าจะตอบยังไงเหมือนดูละครก็มิปาน

อวี๋กานกานไม่เข้าใจภาพาวาดและก็ไม่เคยเข้าใจภาพวาดนี้

เธอจะแนะนำอย่างไรดี

น่าวุ่นวายจริงๆ ออกมาดื่มเหล้ามงคลแท้ๆ ยังมาเจอเรื่องน่ารำคาญใจแบบนี้อีก เธอสามารถตีหน้านิ่งบอกลาคุณท่านแล้วออกไปเลยได้ไหม

 ในการชื่นชมภาพวาดอันดับแรกต้องเน้นเสน่ห์ของมัน  เธอยิ้มและกล่าวว่า  เกณฑ์ที่สำคัญที่สุดในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพวาดคือเสน่ห์ของภาพวาดที่กระตุ้นจิตใจของผู้คน ทั้งสองเป็นเงื่อนไขของกันและกัน อาศัยซึ่งกันและกัน จังหวะที่กลมกลืนกันทำให้เกิดรสนิยมทางศิลปะที่สดใสและยอดเยี่ยมใช่ไหมคะ 

ดูเหมือนกำลังชื่นชมภาพวาดอยู่ แต่จริงๆ คือไม่มีอะไรจะพูดก็เลยผลักกลับไปเหมือนไทเก๊ก

ถ้าอีกฝ่ายรู้เรื่องภาพก็ดี หากดูภาพวาดไม่เข้าใจนั้นยิ่งอึดอัดกันไปใหญ่

หลิงนีไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรต่อ

คุณท่านยกยิ้มแล้ว

ในขณะนี้มีคนเปล่งเสียงอุทานว่า  นี่ไม่ใช่ภาพวาดโบราณที่ขายในโรงประมูลปักกิ่งเมื่อไม่กี่วันก่อนหรือ 

 สิ่งที่คุณกำลังพูดถึงคือรายงานพิเศษเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาซึ่งเป็นภาพท่องเที่ยวฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีชื่อไม่ปรากฏชื่อของราชวงศ์ แต่เป็นภาพวาดของจิตรกรชื่อดังในราชวงศ์สุยใช่ไหม 

 ใช่แล้วผู้ซื้อลึกลับซื้อมาในราคาสูงถึงห้าสิบล้านหยวน 

 ทำไมถึงได้มาอยู่ในมือของคุณผู้หญิงคนนี้ล่ะ หรือว่าคุณผู้หญิงคนนี้ไปประมูลมาได้ 

 ฉันไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะได้เห็นของจริง นี่คือสิ่งที่ไม่มีใครเทียบได้เลย 

ภาพวาดที่ไม่มีชื่อเป็นภาพวาดที่มีชื่อเสียงในราคาสูงเสียดฟ้าซึ่งทำให้หลายคนตกใจในทันที

อวี๋กานกานก็ตกใจเช่นกัน

เข้าใจแล้ว!

ภาพวาดโบราณราคาห้าสิบล้าน

ฟังจือหันบอกว่าไม่แพงไม่ใช่เหรอ

ห้าสิบล้านเรียกว่าไม่แพง เธอขายตัวเองยังไม่ถึงห้าสิบล้านเลย

หยิบภาพวาดมาผิดหรือเปล่า…

 

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

Status: Ongoing

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท