จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 87-5 ลงโทษ
ฮันจื่อคลำไปทั่วร่าง จนเจอแล้วหยิบเอาเหรียญออกมาได้หนึ่งเหรียญ กลิ้งมันไปหาซย่าโหวฉิงเทียน
เหรียญอันกลมเกลี้ยงกลิ้งลุ่นๆ ไปที่ปลายเท้าซย่าโหวฉิงเทียน แล้วหมุนเคว้งหนึ่งรอบก่อนจะหยุดลง
“ฮ่าๆ!”
เมื่อเห็นฮันจื่อกระทำเช่นนั้น อวี้เฟยเยียนก็โอบศีรษะฮันจื่อพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฮันจื่อ เจ้าเฉลียวฉลาดยิ่งนัก!”
ส่วนซย่าโหวฉิงเทียนย่อมรู้ดีว่าฮันจื่อกำลังขุดหลุมฝังตนเองชัดๆ
เจ้าหมายักษ์สมควรตายนี่ ถูกอวี้เฟยเยียนให้ท้ายจนไม่รู้ใครเป็นเสียแล้ว!
ซึ่งฮันจื่อเองก็จะต้องไปนั่งตาแป๋ว ทำหน้าทำตาใสซื่อจงรักภักดีข้างๆ อวี้เฟยเยียนเสียด้วย
ทุกครั้งที่มันต้องตกอยู่ในเหตุการณ์ที่ซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนทะเลาะกัน มันสนับสนุนแม่นางน้อยเต็มที่โดยมิมีลังเล
การที่ฮันจื่อทำเช่นนี้ แน่นอนว่าชนะใจอวี้เฟยเยียนแน่นอน ดังนั้นทุกครั้งที่ฮันจื่อก่อเรื่อง อวี้เฟยเยียนจะออกหน้าแทนทุกครั้งไป แม้กระทั่งซย่าโหวฉิงเทียนจะหาเรื่องฮันจื่อ ก็ยังทำไม่สำเร็จเลย
จนในบางครั้งซย่าโหวฉิงเทียนยังแอบรู้สึกว่าในใจอวี้เฟยเยียนเขายังสำคัญรองจากฮันจื่อด้วยซ้ำไป
เขาเสียใจยิ่งนัก ที่ในตอนแรกตนเองให้ฮันจื่อทำหน้าที่เป็นสายลับ แฝงกายอยู่ข้างกายแมวน้อย นี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์!
“ห้ามหัวเราะนะ!”
เมื่อเห็นอวี้เฟยเยียนหัวเราะด้วยความขบขันอย่างบ้าคลั่ง ซย่าโหวฉิงเทียนก็รีบออกคำสั่ง เสียงเข้ม
“ฮ่าๆ ขำจะตายอยู่แล้ว!”
อวี้เฟยเยียนไหนเลยจะฟังคำซย่าโหวฉิงเทียน รอจนนางหัวเราะจนมองเห็นฟันขาวๆ ด้านในปากนั่นเอง แสงสีม่วงพุ่งเข้ามาประจบจูบปิดปากนางทันที
“ท่าน…”
อวี้เฟยเยียนตกตะลึงไปชั่วครู่ จนกระทั่งอากาศถูกอีกฝ่ายดูดกลืนไปจนหมด จนนางจวนเจียนจะขาดใจนั่นเอง นางถึงได้รู้สึกตัว อวี้เฟยเยียนยื่นกำปั้นออกไปทุบที่อกของบุรุษพูดจริงทำจริงตรงหน้า
“ซย่าโหวฉิงเทียน เหตุใดท่านถึงหน้าไม่อายเช่นนี้นะ!”
เมื่อได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการแล้ว ซย่าโหวฉิงเทียนจึงค่อยๆ ปล่อยนาง
“พี่เตือนเจ้าแล้ว แต่เจ้าดื้อดึง พี่จึงต้องใช้วิธีเช่นนี้ลงโทษเจ้า!”
ซย่าโหวฉิงเทียนยกมือลูบริมฝีปากของตนที่เปื้อนน้ำลายเปียกชื้นเบาๆ ใบหน้าเปี่ยมสุขไม่จางหาย
เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าเต็มๆ ฮันจื่อยกอุ้งเท้าใหญ่ของตนขึ้นปิดตา
นายท่านเอาเปรียบแม่นางน้อยอีกแล้ว!
หน้าไม่อายจริงๆ เลย!
แม่นางน้อย ท่านต้องรีบเลื่อนขั้นให้ไวๆ แล้วทุ่มนายท่านเสียเลย!
“เลว!”
ยังมิทันที่ปลายเท้าอวี้เฟยเยียนจะตวัดออกมา ซย่าโหวฉิงเทียนก็ก้มเก็บเหรียญที่หล่นอยู่บนพื้นเรียบร้อย แล้วทะยานไปด้านนอกประตู
“ค่าจ้างพี่ได้รับแล้ว พรุ่งนี้พี่จะมาใหม่!”
เมื่อเลือกที่ได้แล้ว ป้ายโรงหมอของอวี้เฟยเยียนก็ถูกจัดการอย่างรวดเร็ว ทั้งยังขึ้นแขวนจนเสร็จสรรพ
ข่าวที่ว่าจักรพรรดิโอสถอวี้หลัวช่าเปิดโรงหมอที่เมืองหลวง ราวกับระเบิดก็ไม่ปาน ดังกระฉ่อนทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว
ในวันที่เปิดโรงหมอวันแรกนั่นเอง ถนนสายหลักของเมืองหลวงล้นทะลักไปด้วยคลื่นมหาชน ทุกที่ล้วนแต่มีคน ทุกคนล้วนแต่อยากยลโฉมใบหน้าที่แท้จริงของจักรพรรดิโอสถสักครั้ง เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นจักรพรรดิโอสถคนแรกของแผ่นดิน อนาคตภายภาคหน้านางยังอีกยาวไกล ทุกคนต่างรอคอยที่จะได้พบกับปาฏิหาริย์ทั้งนั้น!
ตอนที่อวี้เฟยเยียนปรากฎตัวนั้น ก็ยังคงยึดหลักเช่นเดิม นั่นคือสวมใส่ผ้าแพรปกปิดใบหน้าตั้งแต่ช่วงริมฝีปากลงไป
เพื่อให้ทุกคนเชื่อถือในโรงหมอของนาง อวี้เฟยเยียนจึงเปิดเผยสถานะจอมเทวาของตนเองขณะเดียวกันหอราชาโอสถก็ส่งผู้เฒ่าใหญ่และหมอเทวดาฮั่วมาร่วมยินดีด้วย
มีสถานะจอมเทวา ทั้งยังมีหมอเทวดาฮั่วช่วยผลักดันมีทุกคนช่วยกันยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่าคนผู้นี้ก็คืออวี้หลัวช่า
ท่ามกลางผู้ชมโดยรอบ มีหญิงคนหนึ่ง เมื่อเห็นท่าทางอวี้เฟยเยียนเข้า ก็เกือบจะร้องทักเสียงดังออกมา
สาวน้อยที่สวมใส่ผ้าแพรผืนบางปกปิดใบหน้า มิใช่สาวน้อยที่ร่วมทางมากับอวี้เชียนเสวี่ยที่เมืองกุยอวี่หรอกหรือ!
หลี่รุ่ยมือกุมผ้าเช็ดหน้าแน่น หน้าดำหน้าแดง ในใจก็คิดเสียใจภายหลังเป็นที่สุด
หลังจากได้รับข่าวจากหอนภาหอมแล้ว หลี่รุ่ยก็ดีใจเป็นอย่างมาก อวี้หลัวช่าจะมาเปิดโรงหมอที่เมืองหลวงหรือนี่ เรื่องนี้สำหรับหลี่รุ่ยแล้ว นับเป็นข่าวดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้ นางมิเพียงแต่ตกรางวัลให้กับหอนภาหอมอย่างงาม ทั้งยังมารอแต่หัววันตามเวลาที่ระบุในข่าวที่ได้รับมา
แต่สิ่งที่หลี่รุ่ยนึกไม่ถึง นางมิเพียงเคยพบอวี้หลัวช่า ทั้งยังเดินเฉียดไหล่กันก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น!
หากรู้ตั้งแต่แรกว่าสาวน้อยผู้นั้นคืออวี้หลัวช่า นางก็คงไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา!
ถึงตอนนี้ หลี่รุ่ยเสียใจเป็นอย่างมาก!
เพื่อที่จะตามหาอวี้หลัวช่า นางถึงกับยอมใช้สินสอดทองหมั้นเมื่อครั้งที่นางแต่งงาน เพื่อให้เป็นค่าตอบแทนให้กับหอนภาหอมในการหาข่าวอวี้หลัวช่า คิดแล้วก็แทบกระอักเลือด
แต่ทว่า ถึงแม้จะจ่ายเงินไปมากมาย แต่ยังดีที่ในท้ายที่สุดนางก็ตามหาอวี้หลัวช่าจนเจอ
หลี่รุ่ยตัดสินใจเด็ดขาด ว่าอย่างไรเสียนางก็จะต้องเชิญอวี้หลัวช่ามารักษาอาการของตนเองให้จงได้ เพื่อให้นางสามารถตั้งครรภ์ได้สำเร็จและยังต้องเป็นลูกชายอีกด้วย
ในขณะที่หลี่รุ่ยกำลังวาดฝันอย่างสวยงามอยู่นั้น เสียงอวี้เฟยเยียนก็ลอยมาเข้าหู
ข้านั้นมีสามสิ่งที่ไม่รับรักษา
“สิ่งแรกคือ คนที่ข้าไม่ถูกชะตา ข้าไม่รักษา”
“สิ่งที่สองคือ เวลาอารมณ์ไม่ดี ข้าไม่รักษา”
“สิ่งที่สามคือ บุคคลที่ไร้ใจไร้คุณธรรม ข้าไม่รักษา”
คำพูดอวี้เฟยเยียน เรียกเสียงหัวเราะจากผู้คนได้อย่างล้นหลาม
ดูผิวเผินข้อเรียกร้องทั้งสามข้อนี้มิได้ยากลำบากอะไร แต่หากพิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว ในคำพูดเมื่อครู่นั้น สื่อความหมายถึงอะไรได้มากมาย หากว่าใต้เท้าอวี้หลัวช่าไม่ประสงค์ที่จะรักษาให้ใคร ก็สามารถบอกได้เลยว่าข้าไม่ถูกชะตากับเจ้า เจ้าจะทำอะไรข้าได้ โดยที่อีกฝ่ายมิสามารถทำอะไรได้เลยน่ะสิ!
ซึ่งหลี่รุ่ยมีความรู้สึกว่า อวี้หลัวช่าเจาะจงมาที่นาง
อวี้หลัวช่าเดินทางมาพร้อมกับอวี้เชียนเสวี่ย ความสัมพันธ์ของพวกเขาใกล้สนิทสนมกันยิ่งนัก หรือว่า อวี้เชียนเสวี่ยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปีนั้นให้กับอวี้หลัวช่าฟัง ดังนั้นเมื่อครู่นางจึงกล่าวคำพูดเช่นนั้นออกมา
หลี่รุ่ยอดคิดมากมายมิได้
อย่างไรก็ตามเรื่องราวในปีนั้นตระกูลหลี่เป็นฝ่ายผิด หากอวี้เชียนเสวี่ยต้องการจะตอบโต้ ก็มิใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
แต่ทว่า เมื่อหลี่รุ่ยหวนนึกถึงว่า อวี้หลัวช่าคือจอมเทวา ทั้งยังเป็นถึงจักรพรรดิโอสถ ต่อให้นางช่วยอวี้เชียนเสวี่ยเอาไว้ แต่อวี้หลัวช่าฐานะสูงส่ง มิใช่ที่อวี้เชียนเสวี่ยนึกจะปีนก็ปีนขึ้นไปถึงได้
จะต้องเป็นไปไม่ได้!
หลี่รุ่ยปลอบใจตนเอง แต่หลังจากพบกับอวี้เฟยเยียน คำปลอบใจตนเองนั้นก็ถูกทำลายลงจนหมดสิ้น
เนื่องจากหลี่รุ่ยได้รับข่าวที่หอนภาหอมส่งมา ซึ่งได้บันทึกวันเวลาและสถานที่ที่อวี้เฟยเยียนจะเปิดโรงหมอเอาไว้ชัดเจน ดังนั้นในตอนเช้าตรู่หลี่รุ่ยจึงได้ให้คนมาเฝ้าเอาไว้
นางจึงเป็นคนไข้คนแรก
ทว่าเมื่อได้พบกับอวี้หลัวช่า หลี่รุ่ยยังมิทันจะเงยหน้าขึ้น ก็ได้รับประโยคตอบกลับว่า
“ตามกฎข้อที่หนึ่ง!”
“หา”
ได้ยินเช่นนั้น หลี่รุ่ยมิได้เข้าใจในทันที