จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 96-3

ตอนที่ 96-3

จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 96-3 ฉิงเทียนแสดงอำนาจ สังหารคนชั่ว
เมื่อเห็นบุรุษผมสีเงินก้าวมายังทิศที่ตนอยู่ ตี้อู่หงเยี่ยก็ยิ่งเจ็บปวดบาดแผลบริเวณหน้าอกอย่างหนัก

ต้องโทษซย่าโหวฉิงเทียนที่สมควรตายนั่น!

หากมิใช่หมอนั่นทำร้ายนางจนบาดเจ็บ นางเจอเจ้าปีศาจน้อยในตอนนี้ อย่างน้อยนางอาจจะยังมีโอกาสหลบหนีไปได้

นี่เป็นครั้งแรกที่ตี้อู่หงเยี่ยคิดได้ว่าความกระหายในผู้ชายจะทำร้ายตนเองถึงชีวิต หรือวันนี้นางจะต้องตายอยู่ที่นี่กันนะ

ไม่ได้!

นางไม่ยอม!

ตี้อู่หงเยี่ยตะเกียกตะกายขึ้นมาราวกับกำลังหาทางหลบหนีเอาชีวิตรอด

เพียงแต่ว่า ซย่าโหวฉิงเทียนไม่เปิดทางให้นางมีโอกาสได้หลบหนีด้วยซ้ำ เพราะยังมิทันที่นางจะลงจากเตียงสำเร็จ เงาใครบางคนก็ขวางที่เบื้องหน้าของนาง

“แหะๆ ท่านมาแล้วเหรอ…”

ตี้อู่หงเยี่ยแค่นยิ้มฝืนๆ ออกมา

หลายปีที่ผ่านมา นางใช้คำเรียก ‘ปีศาจน้อย’ เรียกขานคนคนนี้มาโดยตลอด โดยที่ไม่เคยรู้ว่าชื่อจริงของเขาคืออะไร ราวกับเขาไม่มีชื่อจริงก็ไม่ปาน

แม้แต่มารดาบังเกิดเกล้าของเขาก็ยังใช้สรรพนาม ‘ปีศาจน้อย’ เรียกขานเขาด้วยเช่นกัน

“เอ่อ…แม่เจ้าเป็นห่วงเจ้ามากนะ เจ้ากลับไปให้ท่านป้ารองเห็นหน้าหน่อยเพื่อให้ท่านรับรู้ว่าเจ้าเป็นอย่างไรบ้างก็ดี! ที่จริงแล้ว หลังจากเจ้าจากไปท่านป้ารองก็เสียอกเสียใจเป็นอย่างมาก วันๆ เอาแต่โทษตัวเองอยู่ร่ำไป นางรู้ว่าทำผิดต่อท่าน!”

หากไม่มีเรื่องไข่มุกวารีปีศาจนั่น บางทีซย่าโหวฉิงเทียนอาจจะเชื่อคำโกหกที่ตี้อู่หงเยี่ยแต่งขึ้นแล้วคิดว่าซย่าจื่ออวี้เกิดกลับตัวกลับใจเป็นคนดีขึ้นมาบ้าง

แต่ท่านแม่ต้องการให้เขาตาย ทั้งยังคิดจะควักหัวใจของเขาไปเปลี่ยนกับหัวใจหนานกงเช่อ…

เมื่อเรื่องทั้งหมดเมื่อปะติดปะต่อรวมกัน มันได้ทำลายความเมตตาส่วนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ของ ซย่าโหวฉิงเทียนจนหมดสิ้น

เมื่อเห็นตี้อู่หงเยี่ยหน้าตาซีดขาว หน้าอกมีเลือดซึมออกมา ซย่าโหวฉิงเทียนจึงลากเก้าอี้มานั่งแล้วค่อยๆ ฟังเรื่องโกหกของตี้อู่หงเยี่ยไปเรื่อยๆ

การกระทำของซย่าโหวฉิงเทียนทำให้ตี้อู่หงเยี่ยหลงคิดไปว่าเขาเชื่อถือในคำพูดของนาง

แน่นะสิ!

ในโลกนี้ไม่นี้ลูกคนไหนที่ไม่คิดถึงคะนึงหามารดา และไม่มีลูกคนไหนที่ไม่ปรารถนาความรักจากมารดา!

ปีศาจน้อยนี่ได้รับความลำบากทรมานไม่น้อยเมื่อครั้งอยู่ที่จวนตระกูลหนานกง แต่ก็ยังคงหน้าด้านหน้าทนไปเฉลิมฉลองปีใหม่ที่นั่นทุกปี ชัดเจนแล้วว่าในใจมันยังเห็นซย่าจื่ออวี้เป็นแม่น่ะสิ!

เห็นทีว่าวันนี้นางจะรอดพ้นจากความตายได้หรือไม่ คงต้องอาศัยปากนี่แหละ!

“เด็กดี เจ้าอย่าได้ถือโทษโกรธเคืองแม่เจ้าเลย นางก็ใช้ชีวิตยากลำบาก แต่มีอย่างหนึ่งที่เจ้าต้องพึงระลึกไว้เสมอ นั่นก็คือในโลกนี้ไม่มีแม่คนไหนไม่รักลูก แม่เจ้าปฏิบัติกับเจ้าเช่นนั้น นางก็มีความลำบากของนางเช่นกัน!”

เพื่อเป็นการแสดงถึงความซื่อสัตย์จริงใจ ตี้อู่หงเยี่ยถึงกับไม่สนใจว่าแผลที่หน้าอกของนางกำลังหลั่งเลือด ยังคงตั้งอกตั้งใจแต่งเรื่องโกหกต่อไป

มองตี้อู่หงเยี่ยที่น่าอเนจอนาถตรงหน้าแล้ว ซย่าโหวฉิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเย็นออกมา ในใจครุ่นคิด

เมื่อกลางวัน นางทำราวกับตนเองกินดีหมีเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น เอาแต่ยักย้ายส่ายสะโพกส่งสายตาให้ท่าเขาตลอดเวลา

ครานี้ เพื่อที่จะมีชีวิตรอด ทำตัวเองจนมีสภาพน่าอนาถ ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ เห็นเขาเป็นไอ้โง่ไปแล้วหรืออย่างไรกัน

ตี้อู่หงเยี่ย เจ้านี่ช่างเกิดมาเพื่อแสดงละครโดยแท้!

“ข้ามาคราวนี้ก็เพราะได้รับการไหว้วานจากแม่เจ้าให้มาพาเจ้ากลับบ้าน นางมีเรื่องอยากจะคุยกับเจ้า ท่านป้าบอกว่า หลายปีมานี้เย็นชากับเจ้า ไม่ได้ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบเจ้าบ้างเลย นางผิดไปแล้ว นางผิดต่อเจ้า!”

“ตอนนี้ท่านโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว นางได้ให้คนไปสืบเสาะถามข่าวคราวว่ามีบ้านไหนมีลูกสาวถึงอายุที่เหมาะสมที่ยังไม่แต่งงานบ้างหรือไม่ เพื่อจะตระเตรียมภรรยาที่งดงาม สูงส่งและใจกว้างเอาไว้ให้กับท่าน”

ตี้อู่หงยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าเค้า

เจ้าปีศาจนี่เติบโตอยู่ที่หลัวอวี่ ทุกปีเมื่อเทศกาลปีใหม่เขาจะกลับบ้านที่ตระกูลหนานกง คงคิดจะใช้ตระกูลหนานกงเป็นสะพาน หาทางสร้างเนื้อสร้างตัวที่เมืองอู๋โยวนี่นะสิ

เพราะอย่างไรเสีย อยู่ที่แผ่นดินหลัวอวี่ต่อไปก็ไม่มีทางได้เกิด!

ความจริงข้อนี้ เจ้าปีศาจย่อมต้องรู้อยู่แล้ว!

คนชั้นต่ำที่แผ่นดินหลัวอวี่ทุกคน ล้วนแต่คิดจนหัวแทบแตกก็เพื่อหาลู่ทางที่จะได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองอู๋โยว

ปีศาจน้อยก็คงคิดอย่างนี้เช่นกัน!

“ก่อนที่ข้าจะออกมา แม่เจ้ายังบอกอีกว่า นางจะปรึกษาหารือเรื่องเจ้ากับประมุขหนานกง ขอเพียงแค่ตระกูลหนานกงส่งเทียบเชิญให้กับเจ้า ต่อไปเจ้าก็คือคนของเมืองอู๋โยว…”

“พอแล้ว!”

เมื่อเห็นว่าตัวเองใกล้จะตายอยู่แล้ว แต่ตี้อู่หงเยี่ยก็ยังไม่รู้สึกตัว ยังคงปั้นน้ำเป็นตัวอย่างไม่ลดละ ในที่สุดซย่าโหวฉิงเทียนก็หมดความอดทน

“ทำไมหรือ”

ตี้อู่หงเยี่ยถูกซย่าโหวฉิงเทียนตวาดจนขวัญหนีดีฝ่อ

เหตุใดเมื่อเขาได้ยินคำว่า ‘เทียบเชิญ’ อารมณ์เขาก็แปรปรวนอย่างรุนแรงเช่นนี้นะ หรือเขากำลังโทษว่าเป็นความผิดของนางที่ไม่นำเทียบเชิญมาด้วยในครั้งนี้

แต่เรื่องทั้งหมดนี่นางแต่งขึ้นเองทั้งสิ้น หากตอนนี้เจ้าปีศาจต้องการเทียบเชิญเล่า นางจะตอบว่าอย่างไรดี

ในขณะที่ตี้อู่หงเยี่ยกำลังพูดพล่ามต่อไม่หยุดนั่นเอง ซย่าโหวฉิงเทียนก็ขยับเอ่ยปากกล่าวในสิ่งที่นางเคยกล่าวเอาไว้อีกครั้ง

“หนุ่มน้อย ในรถเจ้ามีใครอยู่กันแน่ พวกเราต้องการตรวจค้น!”

เมื่อได้ยินข้อความเมื่อครู่เข้าไป ตี้อู่หงเยี่ยถึงกับหน้าถอดสี

เรื่องเมื่อกลางวันเจ้าปีศาจน้อยนี่รู้ได้อย่างไรกัน

หรือเขาต้องการใช้เรื่องนี้มาข่มขู่นาง

ถึงแม้สามีตี้อู่หงเยี่ยเองจะเป็นเช่นขยะที่ไร้ประโยชน์ แต่อารมณ์ขี้หึงขี้หวงของเขาหนักหนายิ่งนัก

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาจับตาดูนางทุกฝีก้าว แทบจะตัวติดกับนางยี่สิบสี่ชั่วโมง

หากมิใช่คราวนี้นางรับคำสั่งของตระกูลหนานกงให้ติดตามหนานกงจื่อหลิงละก็ เกรงว่าสามีของนางคงจะมิให้นางออกจากบ้านด้วยซ้ำ

ตอนนี้ เจ้าปีศาจน้อยนี่กล่าวเช่นนี้ ต้องการอะไรกันแน่

เขาคิดจะป่าวประกาศเรื่องที่นางออกนอกบ้านให้ก็เที่ยวให้ท่าผู้ชาย เมื่อกลับตระกูลหนานกงอย่างนั้นหรือ

ไม่ได้นะ!

นางจะต้องทำให้เขาปิดปากให้สนิท!

ตี้อู่หงเยี่ยขยับนิ้วแอบเอาผงยาพิษสีชมพูที่ซุกซ่อนอยู่ในเล็บสีม่วงเข้มของตนเองออกมา หากเจ้าปีศาจน้อยนี่ไม่รู้จักน้อมรับเจตนาอันดีของนางละก็ ต้องวางยาเขาให้ตายไปเลย!

ตี้อู่หงเยี่ยยังมั่นใจในวิชาพิษของตนเองเป็นอย่างมาก

นางนึกว่าตนเองซ่อนเร้นทุกอย่างเอาไว้ได้ดี จึงยังดิ้นรนครั้งสุดท้ายก่อนตาย

ซย่าโหวฉิงเทียนเห็นดังนั้นก็ ‘เหอะ’ ออกมาคำหนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็กลายร่าง ซย่าโหวฉิงเทียนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

“หา เจ้านี่เอง!”

ตี้อู่หงเยี่ยถลึงตาอ้าปากจ้องมองซย่าโหวฉิงเทียนด้วยอาการตกตะลึง

เขาคนเมื่อครู่ดวงตาสีม่วงปิ่นปักผมสีเงิน ตอนนี้นัยน์ตาเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ที่หว่างคิ้วของเขามีไฝเม็ดสีแดง นี่มันซย่าโหวฉิงเทียนอ๋องแห่งต้าโจวคนที่เจอริมถนนเมื่อตอนกลางวันนี่นา!

เขาเป็นอะไรกับเจ้าปีศาจน้อยนั่น

หรือ…เขาก็คือปีศาจน้อย!

“โง่เง่าจริงๆ!”

ซย่าโหวฉิงเทียนยิ้มเยาะ

ยิ่งเขาพูดเช่นนี้ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำในสิ่งที่ตี้อู่หงเยี่ยคิดว่าถูกต้อง

ที่แท้แล้วเมื่อครู่เขาอดกลั้นมาตลอด เขากำลังดูละครฉากใหญ่ที่นางร้องเองแต่งเองนั่น!

ไอ้ปีศาจน้อยนี่น่ารังเกียจสิ้นดี!

จำนนรักชายาตัวร้าย

จำนนรักชายาตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะการทดลองถอดดวงจิตของดอกเตอร์คิว ทำให้วิญญาณ อวี้เฟยเยียน นักศึกษาอัจฉริยะมากพรสวรรค์ข้ามเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูโลลิต้า (?) แห่งจวนจงอี้โหว ซึ่งไม่เพียงร่างกายอ่อนแอจนฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ แม้แต่สติปัญญายังถูกคนวางยาพิษทำลายจนอาจจะตายได้ภายในสามเดือน นับเป็นตัวไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แต่แล้วเมื่อเธอบังเอิญได้พบกับท่านอ๋องผู้ไม่เคยหวั่นไหวกับสตรีใดอย่างซย่าโหวฉิงเทียน และช่วยชีวิตเขาไว้จากการลอบสังหาร ความเด็ดเดี่ยวของนางทำให้เขาสนใจอยากได้นางมาเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ ของตน! แต่แล้วเมื่อรู้ว่านางคือว่าที่พระชายาองค์ชายสี่ เท่ากับมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ของตน เช่นนั้นแล้วเขาจะทำเช่นไรกับ ‘แมวป่าน้อย’ ที่เขาสู้อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมมาตัวนี้ดีเล่า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท