จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 103-5

ตอนที่ 103-5

จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 103-5 ร้องขอความตายต่างหากยากลำบากที่สุด
“ผี ต้องเป็นผีอย่างแน่นอน!”

เมื่อเห็นโฉมหน้าชัดเจนว่าเป็นเชียนลั่วเฉิง หลิวกุ้ยเฟยก็กรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวพร้อมกับหลบหนีเข้าสู่อ้อมอกเชียนเจิ้นหยาง

เป็นเขาได้อย่างไรกัน

เขามิได้ตายไปแล้วหรือ

และในตอนนั้นเอง เชียเนจิ้นหยางก็มองเห็นใบหน้าที่แค้นเคืองของเชียนลั่วเฉิงได้ชัดเจนถนัดถนี่

“เจ้าเป็นคนหรือเป็นผีกันแน่”

เชียนเจิ้นหยางดึงหลิวกุ้ยเฟยให้หลบอยู่ด้านหลังของตน แล้วชักกระบี่ออกมา

ลูกชายที่เขารักที่สุด ชักกระบี่มุ่งหมายมาทางเขา ราวกับมีดแทงลงที่กลางใจของเชียนลั่วเฉิงอย่างจัง

โดยเฉพาะกระบี่เล่มนั้น เป็นกระบี่ที่เชียนลั่วเฉิงประทานให้กับเชียนเจิ้นหยางในวันเกิด ซึ่งเขาได้มามันด้วยความยากลำบาก แล้วนี่คือสิ่งที่ลูกชายตอบแทนเขาอย่างนั้นหรือ!

“อั่ก…”

เชียนลั่วเฉิงคั่งแค้นโกรธเคืองจนในที่สุดก็กระอักเลือดสดๆ ออกมา

ในระยะนี้ เขาเอาแต่จินตนาการวาดฝันว่าตนเองได้กลับไปยังวังหลวง เบื้องหน้าคือคู่ชายหญิงสุนัขคู่นี้กำลังคุกเข่าเพื่อร้องขอชีวิต

ทว่าเมื่อกลับมาถึงวังหลวงจริงๆ พวกมันทั้งสองคนกลับกำลังพลอดรักกันด้วยความดีใจที่กำลังจะมีลูก ทั้งยังคิดเตรียมที่จะหลบหนี แล้วจะให้เชียนลั่วเชิงทนได้อย่างไร!

“ทหารๆ ฆ่าพวกมันเสีย!”

เลือดสดๆ อย่างเข้มข้น ไหลออกมาจากมุมปากของเชียนลั่วเฉิง

“ฆ่าพวกมันเสีย!”

เชียนลั่วเฉิงตะโกนจนเสียงแหบแห้ง แต่ทว่าเบื้องหลังของเขากลับว่างเปล่า ไร้ซึ่งผู้ใด

เมื่อเห็นภาพนั้น เชียนเจิ้นหยางก็หัวเราะออกมา

“ฮ่าๆ! ทหารอย่างนั้นหรือ สุนัขเฒ่า เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน ข้าต่างหากที่เป็นฮ่องเต้!”

เชียนเจิ้นหยางชักกระบี่ออกมา

“ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะเป็นคนหรือเป็นผี ข้าไม่กลัวเจ้าทั้งนั้น ตอนยังมีชีวิตอยู่เจ้าสู้ข้าไม่ได้ ตายไปแล้วก็เช่นกัน!”

“บังอาจ!”

เชียนเจิ้นหยางหน้าตาเ**้ยมโหด ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะฆ่าบิดาตนให้จงได้ ส่วนเชียนลั่วเฉิงก็ค่อยๆ ถอยร่นไปด้านหลังทีละก้าวๆ

“เยี่ยเสวี่ย ฆ่าไอ้ลูกทรพีคนนี้ให้พ่อที!”

“เชียนลั่วเฉิง ท่านกำลังพูดเเรื่องตลกหรืออย่างไรกัน”

เมื่อเหลือบมองไปที่ด้านนอก ยังคงว่างเปล่า ไม่มีแม้ใคร เชียนเจิ้นหยางก็ยิ่งหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ชักกระบี่ชี้หน้าเชียนลั่วเฉิง

“เจ้าฆ่าฉู่ฮองเฮา เชียนเยี่ยเสวี่ยอยากจะฆ่าเจ้าตั้งนานแล้ว ยังหวังจะให้นางมาช่วยเจ้าอีกหรือ ฝันไปเถอะ! หากว่าเชียนเยี่ยเสวี่ยยังช่วยท่านอีกละก็ เท่ากับนางกำลังช่วยคนเลวก่อกรรมทำชั่ว!”

ในขณะที่กล่าว เชียนเจิ้นหยางก็คว้ากระบี่ฟันฉับลงที่ใบหูเชียนลั่วเฉิงจนขาด

“อ๊าก!”

เชียนลั่วเฉิงมือกุมใบหู ถอยร่นไปด้านหลัง

ใครจะคาดคิดว่าเชียนเจิ้นหยางไม่ยอมเลิกรา ยังฟันลงไปที่ขาซ้ายเชียนลั่วเฉิงจนขาดวิ่น

“ทหาร ช่วยข้าด้วย”

เชียนลั่วเฉิงล้มลงที่พื้น มือก็กุมขาซ้ายตนปากก็ตะโกนร้องเสียงหลง

ในตอนนั้นที่เชียนลั่วเฉิงมอบกระบี่ให้กับเชียนเจิ้นหยางยังได้บอกกับเขาว่า

“กระบี่เล่มนี้คมกริบเคลื่อนไหวรวดเร็ว”

ในวันนี้เขาได้สัมผัสกับตัวเองแล้ว

“โอ้ มีเลือดไหลออกมา ยังอุ่นๆ อยู่เลยด้วยซ้ำ เช่นนี้เท่ากับว่าท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านไม่ใช่ผีหรอกหรือ ใครกันนะที่อาจหาญเพียงนี้ เอาท่านไปซุกซ่อนไว้ได้”

เชียนเจิ้นหยางยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดเชียนลั่วเฉิงถึงได้ฟื้นจากความตายขึ้นมาได้อีก

แต่ทว่า ในตอนนี้เขาไม่อยากที่จะคิดเรื่องพวกนั้นอีกต่อไป

ต่อให้เชียนลั่วเฉิงรอดชีวิตมาได้ วันนี้เขาก็จะได้ตายจริงๆ แล้ว แล้วเหตุใดจึงจะต้องไปครุ่นคิดเรื่องซับซ้อนที่ผ่านไปแล้วพวกนั้นด้วยเล่า!

“เยี่ยเสวี่ย ช่วยพ่อด้วย! ช่วยพ่อด้วย!”

เมื่อเห็นดวงตาเชียนเจิ้นหยางบ้าคลั่งแดงก่ำ เชียนลั่วเฉิงก็หวาดกลัวจนแทบจะทนไม่ไหว

ทว่าที่ด้านนอกก็ยังไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใดๆ เชียนเยี่ยเสวี่ยหายไปไหนกันนะ

เชียนลั่วเฉิงกระเสือกกระสนคลานไปที่ประตู ที่พื้นเป็นรอยเลือดลากยาวไปจนถึงที่ประตู

“อย่าฝันเฟื่องอีกเลย! เชียนเยี่ยเสวี่ยไม่มีวันมาช่วยท่านหรอก!”

เชียนเจิ้นหยางยิ้มเยือกเย็นออกมา แล้วย่างสามขุมเข้าไปหาเชียนลั่วเฉิง

เดิมเชียนลั่วเฉิงยังมีความหวัง ในที่สุดก็เข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว ที่เชียนเยี่ยเสวี่ยรับเขาเข้าวัง มิใช่เพื่อต้องการทวงคืนบัลลังก์มังกรให้กับเขา แต่เพื่อที่จะรอดูพวกเขาเข่นฆ่ากันเอง

“เชียนเยี่ยเสวี่ย เจ้ายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า ข้าเป็นพ่อของเจ้านะ เจ้ากลับเห็นข้าจะตายโดยมิยอมช่วยเหลือ เจ้าไม่ต้องการชื่อเสียงแล้วใช่หรือไม่”

เชียนลั่วเฉิงร้องตะโกนออกมา ไม่อยากยอมเชื่อว่าความฝันอันสวยงามของเขาจะต้องมาดับสูญลงที่นี่

“เจ้าไม่ต้องเรียกอีกแล้ว! ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้ ที่ด้านนอกไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียว!”

เชียนเจิ้นหยางเดินไปถึงเชียนลั่วเฉิงแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเขา แนบกระบี่ลงไปที่ลำคอเชียนลั่วเฉิง กรีดลงไปบางๆ ทันใดนั้นเลือดสีแดงฉานก็หยดลงมาทีละหยดๆ

“กระบี่ดีจริงๆ ด้วย แต่น่าเสียดาย ต้องนำมาบั่นคอสุนัขเฒ่าอย่างท่าน แปดเปื้อนกระบี่ข้าจริงๆ! ”

“เจิ้นหยาง อย่า…”

หลิวกุ้ยเฟยที่เงียบลงไปนานในที่สุดก็ได้สติขึ้นมา นางวิ่งมาด้านหน้าจับมือของเชียนเจิ้นหยางเอาไว้

“จะชั่วดีอย่างไรเขาก็เป็นพ่อของเจ้านะ เจ้าก็ถือเสียว่า…เป็นการสร้างกุศลให้กับลูกเราเถอะ!”

น้ำเสียงของหลิวกุ้ยเฟยเจือไว้อาการขอร้อง เชียนเจิ้นหยางขมวดคิ้ว สับสนในใจอย่างที่สุด

ฆ่า หรือไม่ฆ่าดี

ดูออกว่าเชียนเจิ้นหยางเกิดอาการลังเล เชียนลั่วเฉิงจึงโถมร่างเข้ามาแย่งกระบี่ในมือของเขา

ท่าทีเชียนลั่วเฉิงเชื่องช้าและงุ่มง่าม ส่วนเชียนเจิ้นหยางยังว่องไวรับรู้ได้ถึงอันตรายดังนั้นเขาจึงเบี่ยงตัวหลบได้ทัน

กลับเป็นหลิวกุ้ยเฟยเสียอีกที่ถูกเชียนลั่วเฉิงชนเข้าให้อย่างแรงจนล้มที่พื้น และในตอนที่ล้มนั้นท้องนางกระแทกเข้ากับไหสุราอย่างแรง เสียงกระแทกดังขึ้นตามมาด้วยเสียงร้องเจ็บปวดของหลิวกุ้ยเฟย นางกุมท้องน้อยของตนเองเอาไว้

“เสด็จแม่ เสด็จแม่ท่านเป็นอย่างไรบ้าง”

เมื่อเห็นท่าทางหลิวกุ้ยเฟย เชียนเจิ้นหยางก็รีบเข้ามาประคองนางทันที

“ท้องของข้า เจ็บเหลือเกิน!”

หลิวกุ้ยเฟยละล่ำละลักจับมือของเชียนเจิ้นหยาง

“ลูกจะไม่เป็นไรใช่หรือไม่”

ไม่นาน หลิวกุ้ยเฟยก็รู้สึกว่ามีก้อนอะไรบางอย่างไหลออกจากร่างกายของนาง เมื่อนางพินิจเพ่งมองอย่างละเอียดแล้ว ก็พบว่าที่ชายกระโปรงของนางเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด

ถึงแม้ว่าหลิวกุ้ยเฟยจะไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อน แต่นางก็เคยทำกรรมชั่วอย่างการกำจัดเด็กในครรภ์ของนางกำนัลมามากมาย

นางกำนัลที่มีครรภ์ หลิวกุ้ยเฟยก็จะเจตนาชนอีกฝ่ายอย่างแรง ภาพในตอนนั้นเหมือนดั่งเช่นในตอนนี้ นางกำนัลกุมที่ท้องตัวเองกรีดร้องว่าเจ็บปวด มีเลือดไหลออกมามากมาย

หลังจากนั้น นางกำนัลผู้นั้นก็แท้งในที่สุด

หรือนี่จะเป็นกรรมตามสนอง

“ไม่…”

หลิวกุ้ยเฟยร้องไห้ออกมา

“เร็วเข้า เจิ้นหยาง ตามหมอหลวงมาเร็ว! จะต้องรักษาลูกของเราเอาไว้ให้ได้!”

เชียนเจิ้นหยางเองก็ไม่เคยประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ได้ยินดังนั้น เขาก็เริ่มลนลานขึ้นมา เขารีบวางกระบี่ลงขุกเข่ากอดหลิวกุ้ยเฟยเอาไว้ในอ้อมอกเรียกหาหมอหลวง

เพียงแต่ว่าเชียนเจิ้นหยางดื่มสุราเข้าไปมาก จึงมีอาการเมา อุ้มเพียงครั้งสองครั้งก็หมดแรง

นี่เป็นโอกาส!

เมื่อเห็นว่าในขณะนี้เชียนเจิ้นหยางกำลังหันหลังให้กับตนเอง เชียนลั่วเฉิงก็รวบรวมแรงเฮือกสุดท้าย หยิบกระบี่ขึ้นมาช่วยพยุงร่างของตนเอง แล้วตวัดกระบี่แทงเข้าที่เชียนเจิ้นหยาง

“เจิ้นหยาง ระวัง…”

เมื่อสีหน้าโหดเ**้ยมน่ากลัวของเชียนลั่วเฉิง หลิวกุ้ยเฟยก็ผลักเชียนเจิ้นหยางให้พ้นทาง

“ฉึก…”

กระบี่แหลมคมแทงทะลุถึงหัวใจของหลิวกุ้ยเฟย กระบี่นั้นแทงจากด้านหลังทะลุออกมาด้านหน้า เลือดสดๆ ไหลซึมออกมาจากปลายคมกระบี่ หยดลงบนใบหน้าเชียนเจิ้นหยาง

เจ็บเหลือเกิน!

หลิวกุ้ยเฟยอยู่ใกล้กับความตายมากขึ้นไปทุกที

จริงหรือ นางใกล้จะตายแล้วใช่หรือไม่

หยาดน้ำตาไหลรินจากหางตาของหลิวกุ้ยเฟย

“เจิ้น…”

ยังมิทันที่จะได้เห็นหน้าเชียนเจิ้นหยางเป็นครั้งสุดท้าย หลิวกุ้ยเฟยก็ทรุดลงบนพื้น ขาดใจตาย

“เสด็จแม่!”

เห็นหลิวกุ้ยเฟยสิ้นใจตายอย่างอนาถต่อหน้าต่อตา เชียนเจิ้นหยางลุกขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ตรงเข้าไปแย่งกระบี่ในมือของเชียนลั่วเฉิง แล้วตวัดฟันไม่นับ

“สุนัขเฒ่า ข้าไม่ขออยู่ร่วมโลกกับเจ้า!”

เชียนเจิ้นหยางที่กำลังคุ้มแค้นโกรธเคืองราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังบาดเจ็บอย่างไรอย่างนั้น

เขาตวัดดาบออกไปไร้ซึ่งทิศทาง ทุกครั้งฟันจะเฉือนเอาเนื้อเชียนลั่วเฉิงร่วงหล่นลงบนพื้น

“อย่า! ช่วยด้วย…”

เชียนเจิ้นหยางที่กำลังบ้าคลั่ง เชียนลั่วเฉิงที่คิดจะหลบหลีกแต่ก็หนีไม่พ้น หากให้เขาต้องทุกข์ทรมานจนตายเช่นนี้ไม่สู้มอบความตายให้กับเขาเสียเลยดีกว่า!

จำนนรักชายาตัวร้าย

จำนนรักชายาตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะการทดลองถอดดวงจิตของดอกเตอร์คิว ทำให้วิญญาณ อวี้เฟยเยียน นักศึกษาอัจฉริยะมากพรสวรรค์ข้ามเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูโลลิต้า (?) แห่งจวนจงอี้โหว ซึ่งไม่เพียงร่างกายอ่อนแอจนฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ แม้แต่สติปัญญายังถูกคนวางยาพิษทำลายจนอาจจะตายได้ภายในสามเดือน นับเป็นตัวไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แต่แล้วเมื่อเธอบังเอิญได้พบกับท่านอ๋องผู้ไม่เคยหวั่นไหวกับสตรีใดอย่างซย่าโหวฉิงเทียน และช่วยชีวิตเขาไว้จากการลอบสังหาร ความเด็ดเดี่ยวของนางทำให้เขาสนใจอยากได้นางมาเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ ของตน! แต่แล้วเมื่อรู้ว่านางคือว่าที่พระชายาองค์ชายสี่ เท่ากับมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ของตน เช่นนั้นแล้วเขาจะทำเช่นไรกับ ‘แมวป่าน้อย’ ที่เขาสู้อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมมาตัวนี้ดีเล่า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท