จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 112-4

ตอนที่ 112-4

จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 112-4 คนที่ทำให้เขาเจ็บ สับมันเป็นชิ้นๆ
“ตี้อู่เฉิน ไอ้คนทรยศ!”

หลังจากเอาผ้าที่อุดปากออกแล้ว ตี้อู่เฮ่ออีก็เริ่มเปิดปากด่าทอเขาทันที

“กฎของชนเผ่าคือห้ามใช้เลือดมนุษย์ แต่เจ้ากลับกระทำเรื่องที่ต่ำช้าเช่นนี้ เจ้าจะต้องถูกเทพโอสถลงทัณฑ์!”

“ฮ่าๆ!”

ได้ยินคำว่า ‘กฎของชนเผ่า’ คำนี้ ตี้อู่เฉินก็หัวเราะออกมายกใหญ่

“กฎของตันซ้าย จำกัดอะไรพวกเราตันขวาไม่ได้หรอก!”

“ในเมื่อเจ้าไม่ยินยอมที่จะบอกที่พำนักของชาวตันซ้ายให้ข้าได้รู้ ทั้งยังมิยอมเปิดเผยความสัมพันธ์ของเจ้ากับอวี้หลัวซ่า เช่นนั้นข้าก็จะใช้เลือดของเจ้าเป็นยาบำรุงชั้นดีของข้า ดื่มกินมันทุกวัน!”

กล่าวจบ ตี้อู่เฉินก็ใช้ผ้าอุดปากเขาเอาไว้ ดึงแขนของตี้อู่เฮ่ออีขึ้นมาใกล้แล้วอ้าปากดูดกินเลือดของเขาทันที

ส่วนตี้อู่เฮ่ออีนั้นก็ถูกควบคุมเอาไว้จนขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้

เวลาผ่านไปเพียงแค่สองสามวัน ตี้อู่เฮ่ออีก็ผ่ายผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ใบหน้าของเขาซีดขาวราวไข่ต้ม

“ตี้อู่เฉิน เจ้าต้องไม่ตายดี!”

“กรรมจะต้องตามสนองเจ้า!”

ในขณะที่ตี้อู่เฮ่ออีแทบจะหมดสติไปนั่นเอง ในที่สุดตี้อู่เฉินก็ปล่อยแขนของเขา ที่ริมฝีปากและฟันของเขาอาบไว้ด้วยเลือดสดๆ

เขาเลียคราบเลือดนั้นจนหมด แล้วจึงทำแผลให้กับตี้อู่เฮ่ออี

“เกรงว่าเจ้าจะไม่รู้ว่าในตอนนี้ข้าได้ปล่อยหนูที่มีพิษกาฬโรคไว้ในเมืองนี้แล้ว เชื่อว่าอีกไม่นาน สหายคนดีของเจ้าคง

จะต้องปวดเศียรเวียนเกล้า ตกที่นั่งลำบากอย่างแน่นอน ฮ่าๆ!”

บ้า! เขามันบ้าไปแล้ว!

ชาวตันขวาล้วนเป็นบ้าไปกันหมดแล้ว!

ได้ยินว่า หนูที่มีพิษกาฬโรค ตี้อู่เฮ่ออีก็ทั้งตกใจระคนโกรธเคือง

ตี้อู่เฉินเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!

ชาวเผ่าตันมีหน้าที่ช่วยชีวิตคน เหตุใดถึงได้มีคนทรยศเช่นนี้ขึ้นมาได้!

“ประมุขน้อย ท่านไม่ต้องจ้องมองข้าเช่นนี้หรอก!”

“ท่านไม่ยอมบอกความลับของอวี้หลัวซ่าให้ข้าได้รู้ ข้าจึงต้องไปตามหาเอาเอง อวี้หลัวซ่าคือจักรพรรดิโอสถ เลือดของนางจะต้องไม่ด้อยไปกว่าเลือดของท่านเป็นแน่ ข้าจะต้องสำเร็จเป็นปรมาจารย์โอสถได้อย่างแน่นอน!”

กล่าวจบ ตี้อู่เฉินก็แสยะยิ้ม ‘หึๆ’ ออกมา

“ถึงตอนนั้นข้าจะส่งพวกท่านไปลงนรกเอง ท่านไปลงนรกจะได้มีเพื่อน!”

ตี้อู่เฉินชำระล้างร่างกายสักครู่แล้วให้เฉินฉู่เฝ้าตี้อู่เฮ่ออีเอาไว้ ส่วนตัวเขาเองแอบไปที่หอคืนชีพโดยลำพัง เขาอยากจะดูซิว่า อวี้เฟยเยียนจะรับมือกับกาฬโรคนี้อย่างไร

เมื่อตี้อู่เฉินออกไป เฉินฉู่ก็เดินไปที่ข้างเตียง จับตามองตี้อู่เฮ่ออีอย่างใกล้ชิด

เมื่อครู่เขาได้ลิ้มลองความมหัศจรรย์ของเลือดมนุษย์ที่ใช้รักษาคนมาแล้ว เขาจึงคาดหวังว่าตนเองจะฟื้นฟูร่างกายได้โดยเร็ว

ตอนนี้ในสายตาของเฉินฉู่ เลือดของประมุขน้อยแห่งชาวเผ่าตันซ้ายคือยาชั้นดีที่ใช้รักษาอาการเจ็บป่วย

เฉินฉู่ใช้มีดกรีดข้อมือของตี้อู่เฮ่ออีแล้วหยิบมันขึ้นมาดื่มกิน

อึกๆ!

เฉินฉู่รู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองกำลังดื่มกินอยู่ไม่เลือดมนุษย์ แต่เป็นยาบำรุงร่างกายชั้นเลิศต่างหาก เพราะมันจะทำให้พลังของเขาฟื้นคืนกลับมาภายในเวลาอันรวดเร็ว

“ปล่อยข้านะ!”

ตี้อู่เฮ่ออีจวนเจียนจะหมดสติ ร่างกายของเขากำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตที่เหลือเพียงครึ่งชีวิต

เฉินฉู่ไหนเลยจะสนใจว่าตี้อู่เฮ่ออีจะเป็นหรือตาย เขาได้เอาความหวังอันแรงกล้าที่ตนเองจะกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้งฝากไว้ที่เลือดของตี้อู่เฮ่ออี

เขาจะต้องกลับมาแข็งแกร่ง เขาต้องแก้แค้น ฆ่าซย่าโหวฉิงเทียนด้วยมือของเขาเอง!

ปัง

ในตอนนั้นเองที่ประตูถูกถีบออก แสงอาทิตย์ส่องสว่างมาจากด้านนอก ตี้อู่เฮ่ออีที่จวนเจียนจะหมดสติถูกเสียงอันดังนั้นปลุกให้ตื่น เขาลืมตาตื่นขึ้น

ที่หน้าประตู ร่างสูงโปร่งปรากฏตัวท่ามกลางแสงที่สาดส่องเข้ามาที่เบื้องหลัง

แสงสีทองสาดส่องมาราวกับเกราะทองคำก็ไม่ปานรวมกับเรือนร่างที่งดงามของนาง

“เทพสวรรค์หรือ”

ขณะที่กำลังจะหมดสติ ในหัวของตี้อู่เฮ่ออีก็ผุดคำว่า ‘เทพสวรรค์’ ขึ้นมา

“เจ้าทึ่ม!”

เชียนเยี่ยเสวี่ยมองไปก็เห็นภาพทุกอย่างที่อยู่บนเตียง

“เจ้ามันชั่วช้าสารเลว!”

เฉินฉู่เพียงแค่หันหน้ากลับมา ก็ถูกหมัดของเชียนเยี่ยเสวี่ยเสยเข้าที่ใบหน้าจนลอยละลิ่วกระเด็นออกไปไกล

‘เจ้าทึ่ม ไม่เป็นไรใช่ไหม!”

เห็นตี้อู่เฮ่ออีผ่ายผอมจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน ที่ข้อมือของเขามีเลือดไหลออกมาตลอดเวลา ฉับพลันเชียนเยี่ยเสวี่ยรู้สึกราวกับใจจวนเจียนจะขาด

“เจ้าทึ่ม!”

“เสวี่ย…”

เขาพยายามลืมตาเพื่อมองบุคคลตรงหน้าให้ชัดเจน ริมฝีปากที่แห้งผากของตี้อู่เฮ่ออีหยักยิ้มบางๆ

“ดีจังเลย เจ้านั่นเอง…”

ได้ยินดังนั้น เชียนเยี่ยเสวี่ยก็รู้สึกร้อนผ่าวที่จมูก ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาไหลหยด ‘แหมะ’ ออกมาอย่างห้ามไม่ได้ มันหยดลงบนในหน้าของตี้อู่เฮ่ออี

“อย่าร้องไห้ ข้าไม่เป็นไร…”

เชียนเยี่ยเสวี่ยร่ำไห้ น้ำตาของนางทำให้หัวใจของตี้อู่เฮ่ออีบีบรัดแน่น ตลอดเวลาที่ผ่านมา เชียนเยี่ยเสวี่ยเข้มแข็งมาโดยตลอด

แม้กระทั่งฉู่ฮองเฮาจากโลกนี้ไป นางก็เพียงแค่แอบร้องไห้หรือว่าในบางครั้งก็ร่ำไห้ด้วยความเสียใจในความฝันเท่านั้น ทว่ากลับไม่เคยแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าผู้ใดเลยสักครั้ง

ตอนนี้ นางถึงกลับร้องไห้ออกมา…

แต่ไม่มีเวลาให้มาคิดใคร่ครวญความหมายของหยาดน้ำตานั้น ตี้อู่เฮ่ออีก็ปิดเปลือกตาลง

“เจ้าทึ่ม เจ้าทึ่ม เจ้าฟื้นสิ!”

“แม่นางเสวี่ย เขาเพียงแต่หมดสติไปเท่านั้น เจ้าไปจัดการคนๆนั้นเถิด ข้าจะดูแลเขาให้เอง!”

คนที่ติดตามมากับเชียนเยี่ยเสวี่ยคือเหลียนจิ่นและมั่วซาง

เชียนเยี่ยเสวี่ยตามหาตี้อู่เฮ่ออีไม่เจอ จึงทำตามคำแนะนำของหมอเทวดาฮั่ว ไปขอร้องเหลียนจิ่น เชียนเยี่ยเสวี่ยตามหาที่นี่จนเจอจากการพยากรณ์ของเหลียนจิ่น ใครจะคาดคิดว่าเมื่อมาถึงจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้

“ขอบคุณ!”

ได้ยินเหลียนจิ่นกล่าวเช่นนี้ เชียนเยี่ยเสวี่ยก็วางใจ

เมื่อนึกถึงว่าตัวต้นเหตุที่ทำให้ตี้อู่เฮ่ออีเป็นเช่นนี้อยู่ด้านนอกนั่น เชียนเยี่ยเสวี่ยก็ปาดน้ำตา พับแขนเสื้อขึ้นแล้วก้าวฉับๆตามออกไปด้านนอกด้วยสายตาน่ากลัว

นางจะไปฆ่ามัน!

ทันที!

เดี๋ยวนี้!

ที่กลางลาน เฉินฉู่ล้มลงที่พื้น ใบหน้าด้านขวาของเขาบวมเป่ง บนพื้นคือฟันของเขาที่กระเด็นออกมา ดวงตาด้านซ้ายปิดสนิทจนแทบลืมไม่ขึ้น

เมื่อเห็นเชียนเยี่ยเสวี่ยพุ่งตัวเข้ามา เฉินฉู่ก็ลุกยืนขึ้น

จอมราชา

สำเร็จเพียงขั้นจอมราชาเล็กๆก็อวดดีถึงเพียงนี้เชียว

ต้องอดกลั้นไฟแค้นเอาไว้เมื่อครั้งที่อยู่ต่อหน้าซย่าโหวฉิงเทียน เฉินฉู่จึงเตรียมที่จะสั่งสอนเชียนเยี่ยเสวี่ยให้หนัก เพื่อระบายความแค้นความไม่พอใจคนชั้นต่ำพวกนั้นเสียหน่อย

ใครจะคาดคิดว่า เขายังมิทันลงมือ ก็ถูกเชียนเยี่ยเสวี่ยซัดจนล้ม

นางเดินข้ามร่างของเฉินฉู่ เงื้อหมัดขึ้นแล้วรัวเข้าใส่ใบหน้าและตามตัวเฉินฉู่ไม่นับ

ต่อให้เฉินฉู่มีวิชาที่แก่กล้ามากมายเพียงใด ทว่าอยู่ต่อหน้าเชียนเยี่ยเสวี่ยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังแล้ว วิชาเหล่านั้นกลับใช้ประโยชน์ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

สภาพน่าอเนจอนาถของตี้อู่เฮ่ออี กระตุ้นพละกำลังของเชียนเยี่ยเสวี่ยให้สำแดงออกมา

สองหมัดของนางราวกับค้อนเหล็กก็ไม่ปาน ระดมอัดเข้าใส่ทั้งใบหน้า ลำตัวของเฉินฉู่ ระบายความเป็นห่วง ความตื่นตระหนก ความโกรธแค้น เสียงกรีดร้องที่อยู่ในใจออกมา

นางจะสับคนที่ทำร้ายตี้อู่เฮ่ออีให้เป็นชิ้นๆ!

“ไปตายเสียเถอะ!”

เฉินฉู่ไม่เพียงแต่ไม่มีโอกาสที่จะได้โต้ตอบ เพียงแค่โอกาสที่จะได้เอ่ยปากยังไม่มีเลย

กระดูกบริเวณใบหน้าถูกทุบจนแหลก กระดูกที่หน้าอกก็ถูกทุบจนแตก ซึ่งเขาก็รู้สึกอย่างชัดเจนตั้งแต่ความรู้สึกที่กระดูกหักกระทั่งอวัยวะภายในแหลกเหลว

“ช่วย…”

เฉินฉู่ที่น่าสงสาร เอ่ยมาได้เพียงคำเดียว ก็ตายภายใต้คมหมัดของเชียนเยี่ยเสวี่ยนั่นเอง

ทว่า ไฟแค้นในใจของเชียนเยี่ยเสวี่ยมิได้สงบลงแต่อย่างใด

นางราวกับคนเสียสติก็ไม่ปานยังคงระดมต่อยตีเฉินฉู่ต่อไป สุดท้ายก็ใช้เพียงสองมือซ้อมเสียจนเฉินฉู่น่วมไปทั้งร่าง ร่างของเขาบี้แบนราวกับแผ่นขนมปังแผ่นอย่างไรอย่างนั้น

บึ้ม

เสียงบางอย่างดังขึ้น

ตามมาด้วยแสงหนึ่งปรากฏขึ้น มันครอบร่างเชียนเยี่ยเสวี่ยเอาไว้แล้วหายวับไปในอากาศ

“หา ฆ่าคนก็สามารถสำเร็จขั้นได้ ไม่เสียแรงที่เป็นผู้ที่อวี้เฟยเยียนยอมรับ”

หลังจากที่ทำแผลให้กับตี้อู่เฮ่ออีเรียบร้อยแล้ว เหลียนจิ่นก็เดินมาที่ประตู

ก็พบเชียนเยี่ยเสวี่ยนั่งหอบอยู่ที่พื้น เหลียนจิ่นยิ้มออกมาใบหน้าหล่อเหลา

“มีผู้พิทักษ์เพิ่มมาอีกหนึ่งคนแล้ว!”

ระหว่างที่ถูกกระตุ้นด้วยความโกรธแค้น ก็สามารถก้าวข้ามขั้นจนสำเร็จถึงปรมาจารย์ได้ มีพลังยอดเยี่ยมไม่น้อย!

เหลียนจิ่นเหลือบมองตี้อู่เฮ่ออีที่อยู่ภายในห้อง เขาหลุบสายตาลงปกปิดความสั่นไหวในดวงตาของเขา

จำนนรักชายาตัวร้าย

จำนนรักชายาตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะการทดลองถอดดวงจิตของดอกเตอร์คิว ทำให้วิญญาณ อวี้เฟยเยียน นักศึกษาอัจฉริยะมากพรสวรรค์ข้ามเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูโลลิต้า (?) แห่งจวนจงอี้โหว ซึ่งไม่เพียงร่างกายอ่อนแอจนฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ แม้แต่สติปัญญายังถูกคนวางยาพิษทำลายจนอาจจะตายได้ภายในสามเดือน นับเป็นตัวไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แต่แล้วเมื่อเธอบังเอิญได้พบกับท่านอ๋องผู้ไม่เคยหวั่นไหวกับสตรีใดอย่างซย่าโหวฉิงเทียน และช่วยชีวิตเขาไว้จากการลอบสังหาร ความเด็ดเดี่ยวของนางทำให้เขาสนใจอยากได้นางมาเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ ของตน! แต่แล้วเมื่อรู้ว่านางคือว่าที่พระชายาองค์ชายสี่ เท่ากับมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ของตน เช่นนั้นแล้วเขาจะทำเช่นไรกับ ‘แมวป่าน้อย’ ที่เขาสู้อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมมาตัวนี้ดีเล่า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท