จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 115-1

ตอนที่ 115-1

จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 115-1 ผู้อาวุโส ท่านยังอ่อนหัดนัก
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าน้อยก็จะส่งมันไปที่หอนภาหอมเพื่อให้แยกแยะให้ชัดเจน!” ซย่าโหวฉิงเทียนเอ่ยกล่าวด้วยท่าที่เป็นการเป็นงาน

“ได้ยินว่าเหล่าอาจารย์ที่หอมนภาหอมเปี่ยมด้วยความรู้และประสบการณ์ จะต้องแยกแยะจริงเท็จออกอย่างแน่นอน”

“พอดีเลยกับในช่วงนี้ข้าน้อยกำลังร้อนเรื่องเงิน หากว่าเป็นตำราพิชัยยุทธ์ของจริงละก็ จะได้ขายให้กับหอนภาหอมเสียเลย ไม่แน่ว่าอาจจะได้ราคาดี…”

ซย่าโหวฉิงเทียนเพิ่งจะกล่าวจบ ลมบางอย่างก็พัดพามา ฉับพลัน ‘ตำราพิชัยยุทธ์หลัวเหอ’ ที่อยู่ในมือของเขาก็ไปตกอยู่ในมือของอวี้จิงเหลยเสียแล้ว

“หลินเจียงอ๋อง ท่านกระทำเช่นนี้นับว่าผิดแล้ว!”

เมื่ออวี้จิงเหลยได้ฟังความหมายของซย่าโหวฉิงเทียนนั่นก็คือเขาจะนำ ‘ตำราพิชัยยุทธ์หลัวเหอ’ ขายทิ้งไป ฉับพลันอวี้จิงเหลยก็โกรธเกรี้ยวจนหนวดกระดิกตาลุกวาว

ต่อให้ต้องขายบ้านขายเรือน ก็จะขายตำราพิชัยยุทธ์ไม่ได้!

“ผู้อาวุโสสั่งสอนได้ถูกต้อง ข้าน้อยผิดไปแล้ว!”

มองดูท่าทีรู้สึกผิดหลังจากที่ถูกตำหนิของซย่าโหวฉิงเทียนเช่นนั้น อวี้เฟยเยียนก็หัวเราะออกมา

ที่ดินโดยรอบแม่น้ำเชียงล้วนแต่เป็นศักดินาที่ดินของซย่าโหวฉิงเทียนทั้งสิ้น แล้วเขาจะเงินขาดมือได้อย่างไร! จะมีก็แต่ใช้ไม่หมดท่านั้นเอง!

เสียงหัวเราะของอวี้เฟยเยียนทำให้อวี้จิงเหลยได้สติขึ้นมา

จริงสิ!

ซย่าโหวฉิงเทียนคืออ๋องผู้ที่ร่ำรวยมากที่สุด แล้วจะขาดแคลนเงินได้อย่างไร!

“เจ้ามันกลิ้งกลอก!”

อวี้จิงเหลยโมโหฟึดฟัด แล้วนำ ‘ตำราพิชัยยุทธ์หลัวเหอ’ ส่งคืนให้กับซย่าโหวฉิงเทียนทันที

แต่เจ้าตำราพิชัยยุทธ์นี่ราวกับทาน้ำมันเอาไว้ก็ไม่ปาน เหนียวติดมืออวี้จิงเหลยจนแกะไม่ออก

ไม่อยากคืนให้เลย!

อยากจะเปิดดูเนื้อหาด้านในยิ่งนัก!

แค่ครู่เดียวก็ยังดี…

“ท่านปู่ ท่านเก็บไว้เถอะ!” ซย่าโหวฉิงเทียนเห็นเช่นนั้นก็อมยิ้มเล็กน้อย

“นี่เป็นสิ่งที่ข้าน้อยแสดงความเคารพต่อท่าน!”

“ใครเป็นท่านปู่ของท่าน!”

ถึงแม้ว่ารับของจากเขามาแล้วย่อมต้องตอบแทนเขาบ้าง แต่อวี้จิงเหลยก็ไม่ได้รับปากว่าจะเป็นปู่ของซย่าโหวฉิงเทียนเสียหน่อย

แค่ตำราพิชัยยุทธ์เพียงเล่มเดียวก็จะมาคว้าหลานสาวสุดที่รักของเขาไป ไม่มีทางเสียหรอก!

“ท่านปู่!”

เห็นผู้เป็นปู่มัวแต่สับสนลังเลท่ามกลางความขัดแย้งในใจ อวี้เฟยเยียนจึงหยิบตำราพิชัยยุทธ์ นั้นใส่มือเขาเสียเลย

“พวกเราไม่ต้องสนใจเขาหรอก! เขายิ่งร้ายกาจขึ้นทุกวันแล้ว!”

“แกล้งคนแก่ สนุกนักหรือ”

อวี้เฟยเยียน สบถออกมาคำหนึ่ง แล้วถลึงตาจ้องมองซย่าโหวฉิงเทียน

“ฮ่าๆ! เจ้าพูดถูกต้องเลย! เขาร้ายกาจ ไม่ดีๆ! เยียนเอ๋อร์เจ้าอย่าไปหลงกลเขานะ!”

ปากก็พูดเช่นนี้ แต่มือของอวี้จิงเหลยกลับเอื้อมคว้าตำราพิชัยยุทธ์นั้นยัดใส่ในแขนเสื้อของตนเอง

มีหลานสาวให้ท้ายอยู่ เขาไม่กลัวหรอก!

ของขวัญส่งมอบออกไปแล้ว ซย่าโหวฉิงเทียนก็คลายความกังวลลงไปได้เปลาะหนึ่ง

ก่อนที่จะมาที่นี่ ซย่าโหวจวินอวี่ได้วิเคราะห์ลักษณะนิสัยของอวี้จิงเหลยให้เขาฟังก่อนแล้ว อวี้จิงเหลยเป็นคนที่ ข้าจะไม่ระรานใครก่อน หากเขาไม่มาระรานข้า

ซย่าโหวฉิงเทียนจึงเตรียมตัวเตรียมใจมาล่วงหน้า

ในเมื่อต้องการหลานสาวสุดรักสุดหวงดั่งแก้วตาดวงใจของเขาไป ก็จะต้องเตรียมรับมือกับการทดสอบต่างๆ นานา

หากเทียบกับจะได้ครองรักหวานชื่นกับอวี้เฟยเยียนแล้ว เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก!

เมื่อได้ของดีแล้ว อวี้จิงเหลยก็แทบจะไล่ซย่าโหวฉิงเทียนกลับไปในทันที

‘ตำราพิชัยยุทธ์หลัวเหอ’ เป็นสิ่งที่เขาใฝ่ฝันอยากจะได้มานาน ดังนั้นสิ่งที่อวี้จิงเหลยอยากจะทำมากที่สุดในตอนนี้นั่นก็คือปิดประตูลงกลอน อ่านหนังสือ!

แต่ว่า การมาของซย่าโหวฉิงเทียนในครั้งนี้ยังมีเรื่องอื่นด้วย

ถึงแม้ว่าอวี้จิงเหลยจะใช้สายตาส่งสัญญาณให้กับซย่าโหวฉิงเทียนไม่หยุดหย่อนเพื่อไล่ให้เขารีบกลับไปเสีย ข้าไม่รั้งเจ้าเอาไว้แล้ว แต่ซย่าโหวฉิงเทียนก็แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น นั่งนิ่งอยู่ที่เดิมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป

หลานเขยไม่รู้ความเช่นนี้ น่ารำคาญที่สุด!

ปู่ไม่ชอบเอาเสียเลย!

มองออกว่าซย่าโหวฉิงเทียนต้องการพูดคุยอย่างลูกผู้ชายกับอวี้จิงเหลย อวี้เฟยเยียนก็อมยิ้มแล้วปิดประตูลง

เมื่อแน่ใจว่าอวี้เฟยเยียนออกไปแล้ว ซย่าโหวฉิงเทียนก็มองไปที่อวี้จิงเหลยเอ่ยด้วยท่าทีจริงจัง

“ผู้อาวุโส จริงๆ แล้วที่ข้าน้อยมาที่ในวันนี้เพราะมีเรื่องอยากจะสอบถามท่านสักหน่อย แมวน้อย คือลูกสาวแท้ๆ ของอวี้เชียนสวินจริงหรือ”

อวี้จิงเหลยครุ่นคิดอยู่เป็นนานกว่าที่จะรู้ว่า ‘แมวน้อย’ ที่ซย่าโหวฉิงเทียนกล่าวถึงนั้น หมายความถึงอวี้เฟยเยียนนั่นเอง

สิ่งที่ซย่าโหวฉิงเทียนกล่าวออกมาทำให้อวี้จิงเหลยเริ่มหวาดระแวง เขาจ้องมองซย่าโหวฉิงเทียนด้วยอาการประหม่า แล้วเอ่ยเสียงเข้ม

“หลินเจียงอ๋อง ท่านถามเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”

เห็นอากัปกิริยาของอวี้จิงเหลย ซย่าโหวฉิงเทียนก็พอจะได้ผลสรุปของคำตอบอยู่ในใจแล้ว

“ผู้อาวุโสมิต้องตกใจ ที่ข้าถามเช่นนี้เพราะในระยะนี้เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น!”

ด้วยเกรงว่าอวี้จิงเหลยจะคิดเป็นอื่น ซย่าโหวฉิงเทียนจึงเอ่ยเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้เขาฟังทั้งหมดโดยละเอียด แม้กระทั่งคำพูดของตี้อู่เฉินทุกคำก็ถ่ายทอดให้เขาฟังโดยไม่มีบิดเบือนผิดเพี้ยน

“อะไรนะ เป็นไปได้อย่างไร!”

เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด อวี้จิงเหลยถึงกับวางตำราในมือลง สีหน้าหนักใจ

เรื่องที่ว่าเผ่าตันแบ่งแยกออกเป็นตันซ้ายตันขวานั้นอวี้จิงเหลยไม่เคยรู้มาก่อน

อีกทั้งเมื่อได้ยินซย่าโหวฉิงเทียนเอ่ยอีกว่าเทพธิดาแห่งตันขวารูปร่างหน้าตาเหมือนกันกับอวี้เฟยเยียน อวี้จิงเหลยก็ถึงกับเม้มริมฝีปากแน่น สมองกำลังครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว

จะใช่ตี้อู่เยียนเอ๋อร์หรือเปล่านะ

ไม่น่าจะเป็นไปได้นี่นา!

ตี้อู่เยียนเอ๋อร์จิตใจงดงาม ไปช่วยเหลือเผ่าตันขวามิเท่ากับช่วยเหลือคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญหรอกหรือ

หรือว่า ตี้อู่เยียนเอ๋อร์ถูกกักขังอยู่ที่ตันขวา

“เทพธิดาที่ตี้อู่เฉินว่าก็อายุสิบห้าปีเท่ากับอายุของแมวน้อยเช่นกัน” ซย่าโหวฉิงเทียนที่อยู่ข้างๆ เอ่ยสำทับขึ้น

‘อายุเท่ากัน’

‘เช่นนั้นนางคือใครกันนะ’

อวี้จิงเหลยรู้สึกสับสนงงงวยเป็นอย่างมาก การปรากฏของเทพธิดาแห่งตันขวา กำลังก่อกวนทำให้สภาพจิตใจและอารมณ์ของเขาวุ่นวาย

เขาหวนระลึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ได้ไปเห็นเมื่อไปถึงหุบเขาหงส์เพลิง ในปีนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทั่วทุกหัวระแหงราบเป็นหน้ากลองและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด อวี้เฟยเยียนในวัยทารกอยู่ในห่อผ้าสีเหลืองกำลังร้องไห้ด้วยเสียงที่อ่อนแรง ไม่เห็นแม้แต่เงาของอวี้เชียนสวินและตี้อู่เยียนเอ๋อร์

ในตอนนั้นอวี้จิงเหลยที่อุ้มอวี้เฟยเยียนเอาไว้ในอ้อมอก เขายังเป็นกังวลอยู่ด้วยซ้ำว่าเด็กน้อยผู้นี้ยังเล็กนัก ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดหรือไม่

ตี้อู่เยียนเอ๋อร์คือเทพธิดาแห่งเผ่าตัน วิชาแพทย์สูงส่ง สุขภาพร่างกายของนางก็แข็งแรงสมบูรณ์ดี ตนเองก็เป็นแพทย์ แล้วเหตุใดบุตรสาวของนางถึงได้สุขภาพร่างกายอ่อนแอเช่นนี้

หรือว่า…นางตั้งครรภ์เด็กแฝด

จำนนรักชายาตัวร้าย

จำนนรักชายาตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะการทดลองถอดดวงจิตของดอกเตอร์คิว ทำให้วิญญาณ อวี้เฟยเยียน นักศึกษาอัจฉริยะมากพรสวรรค์ข้ามเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูโลลิต้า (?) แห่งจวนจงอี้โหว ซึ่งไม่เพียงร่างกายอ่อนแอจนฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ แม้แต่สติปัญญายังถูกคนวางยาพิษทำลายจนอาจจะตายได้ภายในสามเดือน นับเป็นตัวไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แต่แล้วเมื่อเธอบังเอิญได้พบกับท่านอ๋องผู้ไม่เคยหวั่นไหวกับสตรีใดอย่างซย่าโหวฉิงเทียน และช่วยชีวิตเขาไว้จากการลอบสังหาร ความเด็ดเดี่ยวของนางทำให้เขาสนใจอยากได้นางมาเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ ของตน! แต่แล้วเมื่อรู้ว่านางคือว่าที่พระชายาองค์ชายสี่ เท่ากับมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ของตน เช่นนั้นแล้วเขาจะทำเช่นไรกับ ‘แมวป่าน้อย’ ที่เขาสู้อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมมาตัวนี้ดีเล่า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท