จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 115-5

ตอนที่ 115-5

จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 115-5 ผู้อาวุโส ท่านยังอ่อนหัดนัก

กลัดกลุ้มอยู่ครู่ใหญ่ๆ ซย่าโหวจวินอวี่ถึงได้เรียกพ่อบ้านเข้ามา

“พวกเขาไปทางไหนกัน”

ในเมื่อเรื่องนี้ซย่าโหวฉิงเทียนเป็นคนก่อนขึ้น เช่นนั้นก็ให้เป็นหน้าที่ของพ่ออย่างเขาจัดการจบเรื่องนี้ให้เถอะ! ใครใช้ให้เขาเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของเขากันเล่า!

“เรื่องนี้หม่อมฉันไม่ทราบเกล้าฯ พ่ะย่ะค่ะ แต่ว่าคุณหนูตามออกไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อได้ยินว่าอวี้เฟยเยียนตามออกไป ซย่าโหวจวินอวี่ถึงได้โล่งอกขึ้นมาบ้าง

มีอวี้เฟยเยียนอยู่ ซย่าโหวฉิงเทียนลงมือคงจะรู้จักหนักรู้จักเบาได้บ้าง

แต่ว่า เขาลงมือกับผู้อาวุโสกว่าอย่างไรเสียก็ต้องลงโทษ!

ช่วงเวลาที่รอผลลัพธ์อยู่ที่จวนสกุลอวี้ ซย่าโหวจวินอวี่ก็ถึงกับนั่งไม่ติด

อีกเดี๋ยวก็กังวลว่าลูกชายจะลงมือหนักเกินไป จนทำให้อวี้จิงเหลยถึงกับพิกลพิการ

อีกเดี๋ยวก็กังวลว่าเพราะว่าใจร้อนวู่วามหยาบคายของซย่าโหวฉิงเทียนจะทำให้อวี้เฟยเยียนเง้างอนเขา

อีกเดี๋ยวก็กังวลว่าประมุขแห่งสกุลอวี้จะโมโหโกรธา จนพาลไม่ยินยอมให้อวี้เฟยเยียนแต่งงานกับซย่าโหวฉิงเทียนเอา…

งานแต่งงานฮ่องเต้เตรียมการจนเกือบจะแล้วเสร็จสิ้นอยู่แล้ว ขาดก็เพียงแค่อวี้จิงเหลยพยักหน้าตอบตกลงเท่านั้น ซย่าโหวฉิงเทียนก็สามารถแต่งเจ้าสาวเข้าบ้านได้เลย! ขออย่าให้เมื่อใกล้จะถึงวัน อวี้จิงเหลยกลับไม่ยอมตกลง ซย่าโหวฉิงเทียนแต่งเจ้าสาวไม่ได้ นั่นเท่ากับเป็นเรื่องใหญ่เชียวนะ

มองดูฮ่องเต้ทรงเป็นเช่นนี้แล้ว เซี่ยงจิ้นก็ถึงกับส่ายหน้าเบาๆ

สองสามวันมานี้ได้เห็นการทำงานหนักของซย่าโหวจวินอวี่ เซี่ยงจิ้นก็ตกผลึกได้อย่างหนึ่ง นั่นก็คือการเป็นพ่อคนสรุปได้ด้วยอักษรเพียงตัวเดียว…เหนื่อย!

ขณะเดียวกันเซี่ยงจิ้นก็รู้สึกดีใจอยู่เรื่องหนึ่ง

โชคดีที่เขานั้นตัดปัญหานั้นเสียตั้งแต่ต้น มิฉะนั้นหากว่าเขามีลูกสักคนแล้วต้องเหน็ดเหนื่อยถึงเพียงนี้ เขาคงจะร่วงโรยไปตั้งนานแล้ว!

เฮ้อ!

ทุกอย่างสงบเรียบร้อยดี เพราะจบสิ้นไปเสียตั้งแต่ต้น!

ในตอนที่ซย่าโหวจวินอวี่กำลังร้อนใจ มือก็ลูบเคราของตนเองไปด้วยนั้น คนทั้งสามก็ปรากฏตัวที่หน้าประตู

เพียงแค่เห็นอวี้จิงเหลยเนื้อตัวคลุกฝุ่น และเหลือบไปเห็นซย่าโหวฉิงเทียนเนื้อตัวสะอาดเอี่ยม ซย่าโหวจวินอวี่ก็แทบจะทรุดลงบนพื้นทันที

ลูกชายคนดี เจ้าไม่ต้องอวดดีเพียงนี้ก็ได้!

ท่านนี้คือท่านปู้ของเมียเจ้านะ เจ้าทำเช่นนี้มันจะดีหรือ

ถึงแม้ก่อนหน้านี้ซย่าโหวจวินอวี่ตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะสั่งสอนซย่าโหวฉิงเทียนต่อหน้าประมุขสกุลอวี้

เพราะอย่างไรเสียลงมือเอง ก็แลดูดีและดีกว่าถูกเขามาฟ้องเอาความอยู่มากนัก หากเขาไม่ปกป้องพวกเดียวกัน ปฏิบัติให้ยุติธรรม ไม่แน่ว่าอาจสามารถลดทอนความโกรธเกรี้ยวในใจของอวี้จิงเหลยได้

แต่เมื่อเห็นหน้าซย่าโหวฉิงเทียนขึ้นมาจริงๆ ฮ่องเต้กลับทำไม่ลง

รู้สึกราวกับว่าเนื้อหนังของตนเองถูกถลกออกก็ไม่ปาน เขาตีลูกชายไม่ลงนะสิ…

“ฝ่าบาท!”

เมื่อเห็นซย่าโหวจวินอวี่ อวี้จิงเหลยก็รีบเข้าถลามาทำความเคารพทันที

“พระองค์มาได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”

“เอ่อ ข้ามาสังเกตการณ์!”

จวบจนกระทั่งอวี้จิงเหลยเดินเข้ามา ซย่าโหวจวินอวี่ถึงได้เห็นว่าเสื้อผ้าของเขาไม่เพียงแต่สกปรก ทั้งยังมีบางจุดที่ขาดวิ่น ฮ่องเต้ก็แทบจะกันแสงออกมาทีเดียว

“ท่านแม่ทัพ ข้าขออภัยต่อท่านแทนฉิงเทียน!”

ซย่าโหวจวินอวี่ถึงกับโค้งกายคำนับ ทำเอาอวี้จิงเหลยตกใจเป็นอย่างมาก

“ฝ่าบาท หม่อมฉันรับไว้ไม่ไหว!”

อวี้จิงเหลยมิกล้ารับการคารวะนี้ จึงรีบหลบหลีกไปด้านข้างทันที

“เป็นความผิดของข้าเอง ที่สอนสั่งสอนเขาไม่ดี ข้าเสียใจยิ่งนัก! ฉิงเทียนเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่รู้จักอ้อมค้อม หากมีอะไรที่ล่วงเกินท่านไป ข้าขออภัยแทนเขาด้วย!”

ฮ่องเต้ทรงตรัสเช่นนี้ อวี้จิงเหลยถึงได้บางอ้อ เขารีบโบกไม้โบกมือเป็นเชิงปฏิเสธ

“ฝ่าบาท ทรงเข้าพระทัยผิดแล้ว! หม่อมฉันเพียงแต่ฝึกปรือวรยุทธ์กับหลินเจียงอ๋องเท่านั้น ไม่มีเรื่องอื่นใดเลย!”

“จริงหรือ”

ซย่าโหวจวินอวี่ยังมีแผนสำรอง ตั้งท่าที่จะร้องห่มร้องไห้สักยก เพื่อให้อวี้จิงเหลยเห็นว่าเขาจริงใจและรู้เหตุรู้ผล

ตอนนี้กลับได้ยินอวี้จิงเหลยกล่าวเช่นนี้ น้ำตาที่ปริ่มล้นดวงตาของซย่าโหวจวินอวี่ก็ผลุบกลับเข้าไปทันที

“ฝ่าบาท หม่อมฉันจะเท็จทูลพระองค์ได้อย่างไร!”

“เช่นนั้นก็ดี!”

ฮ่องเต้ถึงกับเป่าปาก ทอดถอนใจออกมาเฮือกใหญ่

มองดูว่าอวี้จิงเหลยกำลังอารมณ์ดี ซย่าโหวจวินอวี่จึงรีบรุกถามต่อ

“ท่านแม่ทัพ ท่านยินยอมให้เฟยเยียนแต่งงานกับฉิงเทียนหรือไม่ ข้ารับรองว่าจะรักนางดั่งลูกสาวแท้! จะไม่ให้นางต้องได้รับความอนาทรร้อนใจใดๆ แม้เพียงน้อยนิด!”

คำพูดของซย่าโหวจวินอวี่ทำให้อวี้จิงเหลยตกตะลึง

รักเอ็นดูน้องสะใภ้ราวกับลูกสาว

เอาเถอะ!

เห็นแก่ท่าทีของฝ่าบาททรงจริงใจเพียงนี้!

“เสด็จพี่ ท่านปู่ตอบตกลงแล้ว!”

“จริงหรือ!”

คราวนี้ทำเอาซย่าโหวจวินอวี่ดีใจจากใจจริง

เมื่อครู่เขายังจิตใจตุ้มๆ ต่อมๆ ด้วยความลุ้นระทึก กระทั่งได้ยินว่าซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้จิงเหลยต่อสู้กัน หัวใจเขาก็แทบร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม มาตอนนี้เมื่อได้รับรู้ว่าการสู่ขอแต่งงานสำเร็จลุล่วง ลูกชายจะได้มีเมียกับเขาเสียที ซย่าโหวจวินอวี่ก็รู้สึกดีใจ หัวใจพองโตยิ่งนัก!

ทั้งหมดทั้งมวลนี้โชคดีที่อวี้จิงเหลยใจกว้าง! มิเช่นนั้นคงจะรับไม่ไหวเป็นแน่!

“ท่านแม่ทัพ ข้าขอบคุณท่านมากนะ!”

ฮ่องเต้ก้าวเท้าออกมาด้านหน้า จับมือของอวี้จิงเหลยเอาไว้เขย่าไปมาอย่างบ้าคลั่ง

“ฝ่าบาท ขอทรงอนุญาตให้หม่อมฉันไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายและผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อย”

อวี้จิงเหลยเหลือบมองที่เสื้อผ้าอันสกปรกคลุกฝุ่นของตน

“หากฝ่าบาททรงไม่มีราชกิจเร่งด่วนใดๆ ขอพระองค์ประทับอยู่ที่นี่ดื่มสุรากันสักหน่อย ดีไหมพ่ะย่ะค่ะ”

“ดีสิ!”

ซย่าโหวจวินอวี่พยักหน้าตอบรับอย่างรวดเร็ว

“ข้าจะลิ้มลองสุราดีของท่านแม่ทัพเสียหน่อย!”

คืนนั้น อวี้เฟยเยียนลงครัวด้วยตนเอง ทำอาหารโต๊ะใหญ่ ซึ่งหลังจากที่ซย่าโหวจวินอวี่ได้ลิ้มลองก็ถึงดับเอ่ยชมว่าซย่าโหวฉิงเทียนมีวาสนาโดยแท้

“เจ้ามีวาสนาดีกว่าข้า! โชคดีกว่าข้า!”

เนื่องจากอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ฮ่องเต้จึงทรงดื่มสุราเข้าไปมากพระพักตร์และพระเนตรของพระองค์เริ่มแดงก่ำ

“ฉิงเทียน เจ้าจะต้องดีกับเฟยเยียนให้มาก! พวกเจ้าจะต้องรักกันไปนานๆ จนแก่เฒ่า! อย่าเป็นเช่นข้า คลาดคลา อย่าได้สูญเสีย…”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

ซย่าโหวฉิงเทียนตอบรับพร้อมกับทอดมองไปยังอวี้เฟยเยียนด้วยสายอ่อนโยน

อาจเพราะกำลังจะมีเรื่องมงคลเกิดขึ้น ตนเองกำลังจะได้เป็นเจ้าสาว ดังนั้นในคืนนั้นแก้มทั้งสองข้างของอวี้เฟยเยียนจึงเป็นสีชมพูระเรื่อ ดวงตาฉายแววขวยเขินออกมา

หากมิใช่ว่ามีผู้ใหญ่อยู่ข้างๆ ซย่าโหวฉิงเทียนคงจะจูบนางไปตั้งนานแล้ว

ยากหนักหนากว่าที่เขาจะได้พบกับนาง แน่นอนว่าย่อมต้องอยู่เคียงข้างกับนางตลอดไป ไม่แยกจากกันชั่วนิจนิรันดร!

จำนนรักชายาตัวร้าย

จำนนรักชายาตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะการทดลองถอดดวงจิตของดอกเตอร์คิว ทำให้วิญญาณ อวี้เฟยเยียน นักศึกษาอัจฉริยะมากพรสวรรค์ข้ามเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูโลลิต้า (?) แห่งจวนจงอี้โหว ซึ่งไม่เพียงร่างกายอ่อนแอจนฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ แม้แต่สติปัญญายังถูกคนวางยาพิษทำลายจนอาจจะตายได้ภายในสามเดือน นับเป็นตัวไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แต่แล้วเมื่อเธอบังเอิญได้พบกับท่านอ๋องผู้ไม่เคยหวั่นไหวกับสตรีใดอย่างซย่าโหวฉิงเทียน และช่วยชีวิตเขาไว้จากการลอบสังหาร ความเด็ดเดี่ยวของนางทำให้เขาสนใจอยากได้นางมาเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ ของตน! แต่แล้วเมื่อรู้ว่านางคือว่าที่พระชายาองค์ชายสี่ เท่ากับมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ของตน เช่นนั้นแล้วเขาจะทำเช่นไรกับ ‘แมวป่าน้อย’ ที่เขาสู้อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมมาตัวนี้ดีเล่า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท