จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 124-1 การตายของหนานกงจื่อหลิง
เมืองอู๋โยว สกุลหนานกง
กว่าที่หนานกงจื่อหลิงจะกลับถึงบ้านในสภาพเหน็ดเหนื่อยเนื้อตัวมอมแมม เวลาก็ล่วงเลยไปจนกระทั่งหลังเทศกาลปีใหม่
เมื่อหนานกงจื่อกลับถึงบ้าน เรื่องแรกที่ทำก็คือไปที่คุกใต้ดินเพื่อช่วยเหลือซย่าจื่ออวี้ ใครจะคาดคิดว่านางยังไม่ทันจะได้ที่คุกใต้ดินก็ถูกหนานกงอ๋าวเรียกไปที่ห้องหนังสือเสียก่อน
เมื่อไปถึงห้องหนังสือ หนานกงจื่อหลิงก็ได้พบกับซย่าจื่ออวี้ นางจึงรีบสาวเท้าเข้าไปหามารดาทันที
“ท่านแม่ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ!”
“แม่ไม่เป็นไร!”
หลอกหนานกงจื่อหลิงกลับมาได้สำเร็จ ซย่าจื่ออวี้ก็ลำพองใจ
ถึงอย่างไรหนานกงจื่อหลิงก็ยังเห็นว่านางเป็นแม่อยู่! แม้ว่าจะต้องสูญเสียนิ้วมือเพื่อหลอกล่อให้บุตรสาวกลับมา แต่ซย่าจื่ออวี้ก็รู้สึกคุ้มค่ากลับสิ่งที่ได้กลับมาทั้งหมดนี้
“หลิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นพี่สาวแล้วนะ!”
ซย่าจื่ออวี้ดึงมือของหนานกงจื่อหลิงมาวางบนท้องน้อยของตนเอง
“จริงหรือคะ? ดีจังเลย!”
เมื่อได้รู้ว่าซย่าจื่ออวี้ตั้งครรภ์ หนานกงจื่อหลิงก็ดีใจเป็นอย่างมาก เพราะตอนที่ซย่าจื่ออวี้ให้กำเนิดนางนั้นร่างกายบอบช้ำ จนหมอถึงกับคาดการณ์นางคงมิอาจมีลูกได้อีกต่อไป
นึกไม่ถึงเลยว่าท่านแม่จะตั้งครรภ์ขึ้นมาอีกครั้ง!
และคงจะเป็นเพราะซย่าจื่ออวี้ตั้งครรภ์ ดังนั้นหนานกงอ๋าวถึงได้ปล่อยนางออกมาจากคุกใต้ดิน
แม้ว่าซย่าจื่ออวี้จะสังหารอนุภรรยาและลูกทั้งสองคนของเขาจนตาย ซึ่งทำให้หนานกงอ๋าวโกรธเคืองเป็นอย่างมาก แต่การที่นางตั้งครรภ์ในคราวนี้ ก็ทำให้หนานกงอ๋าวดีใจไม่น้อย
คนตายมิอาจฟื้นคืน หนานกงอ๋าวแม้จะเสียใจแต่ก็เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
จึงมิต้องถึงขนาดทำร้ายคนเป็นเพื่อคนที่ตายไปแล้วกระมัง!
อีกทั้งครรภ์นี้ของซย่าจื่ออวี้เป็นเด็กผู้ชาย ซึ่งหนานกงอ๋าวรอคอยการเกิดมาของลูกชายคนนี้มาแสนนาน
“หลิงเอ๋อร์ เจ้ามาคนเดียวหรือ? หนานกงอ๋าวมองสำรวจหนานกงจื่อหลิง”
ไม่เจอหน้ากันเพียงไม่กี่เดือน บุตรสาวของเขาแลดูสดใสขึ้นมาก รอยยิ้มก็เปี่ยมด้วยความมั่นใจมากขึ้นเช่นกัน
ตอนนี้หนานกงอ๋าวมีคำถามอยากจะถามหนานกงจื่อหลิงมากมาย เช่นเรื่องการตายของอู่เม่ย แล้วยังมีเรื่องของเฉินเจินเฉินฉู่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…
“ใช่คะท่านพ่อ!”
เมื่อได้ยินคำถามของหนานกงอ๋าว หนานกงจื่อหลิงก็เริ่มหวาดระแวงขึ้นมาทันทีเพียงแต่นางไม่ได้แสดงสีหน้าออกมาเท่านั้น หนานกงจื่อหลิงคุกเข่าลงสำนึกผิด
“ลูกเอาแต่ใจดื้อรั้น หนีออกไปนอกบ้านตั้งนาน ทำให้ท่านพ่อท่านแม่เป็นห่วง ขอให้ท่านพ่อลงโทษด้วย!”
เห็นหนานกงจื่อหลิงกลับมาเพียงคนเดียว ซย่าจื่ออวี้จึงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“หลิงเอ๋อร์ เจ้าไปตามหาเจ้าปีศาจน้อยมิใช่หรือ? เขาไม่ได้กลับมาพร้อมกันกับเจ้า?”
ที่ผ่านมาเมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี เจ้าปีศาจน้อยจะกลับมาที่สกุลหนานกงเสมอ แต่ในครั้งนี้เขากลับไม่กลับมา หนานกงอ๋าวและซย่าจื่ออวี้จึงรู้ถึงความไม่ชอบมากลได้ในทันที
หรือเขาได้ยินอะไรจากหนานกงจื่อหลิงเข้า เขาถึงได้ไม่กล้ากลับมา?
“ท่านแม่ ข้าตามหาพี่ใหญ่ไม่พบนะสิคะ!” หนานกงจื่อหลิงแสร้งทำสีหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ
“ข้าไปตามหาตั้งหลายที่ แต่ก็ไม่พบพี่ใหญ่เลย จึงไม่รู้ว่าพี่ใหญ่อยู่ที่ไหนด้วยซ้ำ!”
หนานกงอ๋าวเคลือบแคลงสงสัยในคำพูดของหนานกงจื่อหลิงยิ่งนัก
“เจ้าโกหก!”
ซย่าจื่ออวี้ที่เมื่อครู่ยังเอ่ยกล่าวกับนางด้วยน้ำเสียงยินดีใบหน้าสดใส บัดนี้กลับกลายเป็นสีหน้าถมึงทึงเสียแล้ว
“หลิงเอ๋อร์ เจ้ารีบบอกมา เจ้าปีศาจน้อยอยู่ที่ไหน! เจ้าจะมองดูพี่รองตายไปต่อหน้าต่อตาหรืออย่างไร? เจ้าปีศาจน้อยอยู่ที่ไหนกันแน่ รีบบอกท่านพ่อกับแม่มา”
“ท่านแม่…”
หนานกงจื่อหลิงตกตะลึงงันเมื่อเห็นสีหน้าแววตาของซย่าจื่ออวี้
จริงอย่างที่คาดเอาไว้ ขอเพียงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพี่รอง นางก็จะสำคัญรองจากพี่รองทันที ในสายตาของท่านแม่คงจะไม่มีที่ให้ลูกสาวคนนี้เลยกระมัง
‘ในใจของท่านแม่ พี่รองต่างหากที่มาเป็นอันดับหนึ่งสินะ!’
“ข้าออกไปคราวนี้ไม่ได้พบกับพี่ใหญ่ ไม่ว่าท่านพ่อท่านแม่จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่นี่ก็คือความจริง”
หนานกงจื่อหลิงเอ่ยหนักแน่นยืดอกขึ้นหลังตรงแน่ว
“หากท่านแม่ไม่เชื่อ ถามโยวเอ๋อร์ดูก็ได้นะคะ”
กล่าวจบหนานกงจื่อหลิงก็นิ่งเงียบ โดยที่ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก
โยวเอ๋อร์นั้นส่งจดหมายมารายงานตั้งแต่แรกแล้วว่า เมื่อตอนที่นางตามหนานกงจื่อหลิงจนเจอนั้น นางได้เฝ้าสังเกตการณ์อยู่รอบนอกกว่าหนึ่งวันเต็มๆ แต่ก็ไม่พบว่าหนานกงจื่อหลิงมีการติดต่อกับเจ้าปีศาจน้อยแต่อย่างใด ถึงได้แสดงตัวให้กับหนานกงจื่อหลิงได้รู้
คำบอกเล่าของโยวเอ๋อร์เป็นการยืนยันว่าหนานกงจื่อหลิงไม่ได้โกหก ดังนั้นซย่าจื่ออวี้จึงมิได้คาดคั้นต่อไป
‘หาเจ้าปีศาจน้อยไม่เจอ แล้วจะหาหัวใจที่ไหนมาเปลี่ยนให้กับหนานกงเช่อ?’
แม้ท่านหมอจะเคยบอกเอาไว้ว่า อายุขัยของหนานกงเช่อจะไม่ยืนยาว แต่ตอนนี้เขาก็ยังมีชีวิตรอดจนผ่านพ้นปีใหม่มาได้
ทว่าเมื่อไม่มีหัวใจของเจ้าปีศาจน้อย ชีวิตของหนานกงเช่อก็เท่ากับตกอยู่ในอันตรายตลอดเวลา
เห็นซย่าจื่อวี้ซักถามด้วยความเคร่งเครียด หนานกงอ๋าวจึงประคองนางให้ค่อยๆนั่งลง
“พอทีๆ เจ้ากำลังท้องกำลังไส้ อย่าโกรธเคืองให้มากนักเลย มันไม่ดีต่อลูกนะ!”
ขณะเดียวกัน หนานกงอ๋าวก็ประคองหนานกงจื่อหลิงขึ้นมา
“หลิงเอ๋อร์ ท่านแม่ของเจ้ากำลังตั้งครรภ์ อารมณ์มิค่อยจะสู้ดี เจ้าก็อย่าได้ถือสานางเลยนะ!”
“ลูกเพียงแต่รู้สึกเสียใจเท่านั้น”
หนานกงจื่อหลิงลุกยืนขึ้น น้ำเสียงชินชาเล็กน้อย
“พี่รองเป็นลูกของท่านแม่ แล้วลูกเป็นเด็กที่เก็บมาเลี้ยงหรืออย่างไรกัน? เพราะอะไรขอเพียงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพี่รอง ท่านแม่ถึงต้องใจร้ายกับลูก? เพราะข้าเป็นลูกสาว ไม่ใช่ลูกชายใช่ไหม? ท่านแม่ทำเช่นนี้รักลูกชายมากกว่าลูกสาวจนเกินไปแล้วนะคะ!”
กล่าวจบ หนานกงจื่อหลิงก็น้ำตาไหลพราก ผลักประตูวิ่งออกไป
“เจ้ากลับมาเดี๋ยวนี้นะ เจ้ายังมีหน้ามาเถียงข้าอีกหรือ!”
ซย่าจื่ออวี้ทำท่าจะตามหนานกงจื่อหลิงออกไปด้วยความโกรธเคือง แต่ถูกหนานกงอ๋าวห้ามปรามเอาไว้เสียก่อน
“จื่ออวี้ อย่าโมโหอีกเลย!”
หนานกงอ๋าวมองตามแผ่นหลังของหนานกงจื่อหลิงไปด้วยแววตาที่กำลังครุ่นคิด
หรือว่าบุตรสาวตามหาเจ้าปีศาจน้อยไม่เจอจริงๆ?
แววตาและท่าทางน้อยอกน้อยใจนั้นไม่เหมือนกับเสแสร้งแกล้งทำ เห็นทีจะต้องเรียกโยวเอ๋อร์มาซักถามให้ละเอียดเสียแล้ว
“ตอนนี้เจ้าควรจะสงบใจดูแลรักษาตัว แล้วคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย!”
น้ำเสียงของหนานกงอ๋าวไม่อ่อนโยนเฉกเช่นก่อนเมื่อก่อนอีกต่อไป
“ส่วนหลิงเอ๋รอ์ ข้าจะไปถามเอง…”
“ก็ได้ค่ะ”
เห็นว่าหนานกงอ๋าวเริ่มดุดันเคร่งขรึมขึ้นมา ซย่าจื่ออวี้จึงได้แต่สงบเสงี่ยมลง
คราวนี้หากไม่ตรวจพบว่าตั้งครรภ์เสียก่อน นางก็ไม่รู้ว่าจะถูกจองจำไปถึงเมื่อไหร่กัน
ทว่าต่อให้ตอนนี้นางออกมาจากคุกใต้ดินได้แล้ว แต่ซย่าจื่ออวี้ก็รู้สึกได้ว่าท่าทีที่หนานกงอ๋าวปฏิบัติต่อนางไม่อ่อนโยนเฉกเช่นเมื่อก่อนอีกต่อไป
เพราะมือของนางเปื้อนเลือดนางฆ่าคนถึงสี่ชีวิต และสองในสี่ชีวิตนั่นคือลูกชายที่หนานกงอ๋าวเฝ้ารอคอย
แต่ทว่า ซย่าจื่ออวี้ไม่เสียใจเลยสักนิดที่กระทำลงไป
เพราะอย่างไรเสีย นางก็มีลูกชายคนใหม่ให้เขาได้ ‘นังผู้หญิงสองคนนั้นคิดว่าตัวเองตั้งครรภ์ก็คิดจะข้ามหัวนางไปได้ ตายไปก็สมควรแล้ว!’
รอจนกระทั่งซย่าจื่ออวี้กลับห้องไป หนานกงอ๋าวถึงได้เรียกโยวเอ๋อร์มาสอบถามทุกสิ่งทุกอย่างที่นางได้ยินได้เห็นเมื่อครั้งที่อยู่บนแผ่นดินหลัวอวี่โดยละเอียดอีกครั้ง
“หากเป็นอย่างที่เจ้าว่า คุณหนูก็ตามหาเจ้าปีศาจน้อยไม่พบจริงๆนะสิ?”
หนานกงอ๋าวขมวดคิ้วครุ่นคิด ‘อู่เม่ยตายแล้ว เฉินเจินและเฉินฉู่ก็ตายแล้วเช่นกัน แต่พวกเขาตายได้อย่างไร นี่ยังคงเป็นปริศนา’
“ไหนเจ้าลองเล่าถึงกลุ่มเพื่อนของคุณหนูอีกครั้งสิ”
“เจ้าค่ะ!”
โยวเอ๋อร์ไม่เพียงแต่บรรยายถึงลักษณะของซย่าโหวฉิงเทียน ตี้อู่เฮ่ออี้ เหลียนจิ่นและโมว่ซางออกมาอีกครั้ง ทั้งยังวาดภาพพวกเขาออกมาอีกด้วย
“ไม่ใช่เจ้าปีศาจน้อย…” หนานกงอ๋าวได้เห็นภาพวาดเหล่านั้นแล้วก็ส่ายหน้าไปมา