ตอนที่90 โลกกลม
ที่สุดแล้วพี่ใหญ่ก็มีความรู้สึกที่แท้จริงต่อเวินลั่วฉิง พี่ใหญ่สนใจเรื่องของเวินลั่วเฉิง
“ไม่ต้อง คุณโทรหาฉิงฉิงได้เลย” แต่ว่า ชายที่ปลาย สายกลับปฏิเสธข้อเสนอของเขา คำพูดนั้นเรียบง่าย และเป็นไปโดยธรรมชาติ
“อ๋อ” มู่หรงด้วหยางนิ่งไป ดูเหมือนว่าเขาจะกังวลเกิน ไปอีกแล้ว แต่ว่า พี่ใหญ่แบบนี้ปรกติดีรึเปล่า นั่นเป็น เรื่องเกี่ยวกับเงินลั่วฉิง เรื่องเกี่ยวกับเจ้าตัวน้อยทั้งสอง
ต้องเป็นเรื่องใหญ่สิ!
พี่ใหญ่จะทำเป็นไม่รู้ไม่ซื้อย่างนี้ และยิ่งทำเป็นไม่ใส่ใจ
อย่างนั้นรึ!
พี่ใหญ่ไม่กลัวว่าคนอื่นจะมาแย่งเวินลั่วฉิงและเจ้าตัว น้อยทั้งสองไปหรืออย่างไร เจ้าคนนั้นก็คือเย่ซื้อเฉิน! แต่ว่าพี่ใหญ่ก็ไม่ได้ร้อนใจ เขาจะห่วงอะไร หลังจากที่ มู่หรงด้วหยางวางสาย เขาก็ทำความเข้าใจกับเรื่อง ต่างๆ จากนั้นก็ตั้งใจตรวจสอบต่อไป รอให้ผลการ ตรวจสอบออกมาจะได้โทรหาเวินลั่วเฉิง
เพราะห่วงกลัวว่าจะถูกเยซื้อเฉินจับได้ สุดท้ายแล้ว เธอก็ไม่ได้ไปหาเด็กน้อยทั้งสอง จากมู่หรงด้วหยางที่ ศูนย์ตรวจสอบเธอก็ตรงกลับคฤหาสน์เลยทันที เมื่อคืนเย่ซื้อเฉินออกไปกลางดึก เธอรู้สึกว่าต้องเป็น เรื่องเกี่ยวกับเธอ แต่ว่าเวินลั่วฉิงก็ไม่กล้าไปตรวจสอบ อะไร เธอกลัวจะถูกเย่ซื้อเฉินจับได้ จะยิ่งทำให้เรื่อง
วุ่นวายยิ่งขึ้น
เมื่อคืนพอเย่ซื้อเฉินกลับมาก็เข้าไปนอนในห้องเธอ นั่น ยิ่งทำให้เธอกลัวจนใจสั่น ท่าทีของเย่ซือเฉินที่มีต่อนั้น
ดูแปลกๆ
เกือบจะสี่โมงแล้ว อยู่ๆ โทรศัพท์เป็นลั่วนิ่งก็ดังขึ้น เป็นลั่วนิ่งเห็นเป็นสายจากเย่ซือเฉินโทรมา เธอก็เลิก
คิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่ก็รีบรับมันโดยไว “คืนนี้กลับไปบ้านเก่า สี่โมงครึ่งผมจะไปรับคุณ” เสียง เย่ซื้อเฉินดังเข้ามา เหมือนเช่นเคยที่ฟังไม่ออกว่า
อารมณ์เขาประมาณไหน “ได้” เป็นลั่วนิ่งรับคำ ไปบ้านตระกูลเปรี เธอ
จินตนาการถึงภาพนั้น นึกถึงเย่โป๋เหวิน ไปบ้านเก่าเขา จะเจอเย่โป๊เหวินรึเปล่า
เพราะว่าอยู่ๆก็ถูกอยู่ซื้อเฉินบังคับให้แต่งงาน บวกกับที่ ผ่านมาช่วงนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย เธอยังไม่ได้กลับไป ตรวจสอบรูปภาพอีกครั้งเลย คืนนี้ไปบ้านตระกูลเย่
หรือว่าอาจจะ…
“ฉันต้องเตรียมตัวอะไรรึเปล่า” เวินลั่วฉิงคิดถึงว่าไป บ้านตระกูลเย่ครั้งแรก แน่นอนว่าต้องไปพบผู้อาวุโส
อย่างน้อยก็ควรจะเตรียมตัวเสียหน่อย แต่งหน้าให้ดูสง่าและงดงามอย่างน้อยต้องใช้เวลา หลายชั่วโมง แต่เธอก็ไม่ค่อยชอบเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ก่อนหน้านี้เย่ซื้อเฉินก็ไม่ได้บอก คิดแล้วก็ขี้เกียจ เขาเพิ่งจะโทรมาบอกเอาตอนนี้ เธอคิดว่าตัวเองคงไม่มี เวลาเตรียมอะไรแล้ว
“ไม่ต้อง” เย่ซื้อเฉินตอบเร็วมาก ผู้หญิงของเขาไม่เคยคิดจะแต่งตัวให้เขาดูสักนิด แล้วทำไมต้องไปแต่งให้ คนอื่นดูด้วย เขาขอเธอแต่งงานไม่ใช่เพื่อที่จะไปให้คนอื่นมอง อีกอย่างเขารู้ว่าเธอก็ไม่ชอบเรื่องพวกนี้ แต่งสบายๆก็
พอ
นัยน์ตาเป็นลั่วนิ่งเป็นประกาย ไม่ต้องงั้นรี ไม่ต้องเตรี ยมอะไรเลยรี มุมปากเธอยกขึ้นอย่างแปลกประหลาด ทั้งที่เขาบอกว่าไม่ต้อง แต่ทำไมเธอกลับรู้สึกสุขใจนัก อย่างไรเสียตอนนี้เธอแต่งเนื้อแต่งตัวก็ไม่ได้ดูน่า เกลียดอะไร เธอจะได้ไม่ต้องพยายามทำอะไรให้ใคร พอใจ
เยซื้อเฉินมีเป็นคนตรงต่อเวลามาก เขาบอกเธอว่าจะ มารับสี่โมงครึ่งเขาก็มาสี่โมงครึ่งตรงเป๊ะ เรื่องนี้เขา และเธอเหมือนกันมาก
ซื้อเฉินเห็นว่าเธอเหมือนกับตอนก่อนที่เขาออกไป อย่างไรอย่างนั้น ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าใดๆทั้งสิ้น เขา
มองเธอ แล้วก็ยิ้มขึ้นมา
เชื่อฟังดีเสียจริง! แต่ว่าทำไมเวลาปกติไม่เห็นเชื่อฟัง
เขาแบบนี้บ้าง
“ว่าไง” เงินลั่วฉิงเห็นว่าอยู่ๆเขาก็ยิ้มขึ้นมา เธอก็งงไป
เล็กน้อย
“เปล่า ก็ดี” เห็นเธอแบบนี้ มุมปากเย่ซือเฉินก็ยกขึ้น เรื่อยๆ รอยยิ้มบนใบหน้าเขายิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น
เวินลั่วฉิงตกใจจนตัวสั่น ก็ดีอย่างนั้น รึ ถามหน่อยมันก็
ดีตรงไหนคะ
เธอไม่รู้ว่าก็ดีของเขานั้นหมายถึงอะไร และยิ่งไม่ค่อยแน่ใจว่าก็ดีของเขานั่นหมายความตามนั้นจริงๆหรือ
เปล่า
เพราะว่าไม่รู้วัตถุประสงค์ของเย่ซือเฉิน ดังนั้นทุกการ เคลื่อนไหวของเขา เธอจึงรู้สึกว่าต้องจัดการด้วยความ
ระมัดระวัง
บ้านของตระกูลเย่อยู่ค่อนข้างไกล ระหว่างทางก็รถ ติด ดังนั้นจึงใช้เวลาพอสมควร กว่าที่พวกเขาจะไปถึง ก็เกือบหกโมงแล้ว
รถของเย่ซือเฉินขับเข้าบ้านตระกูลเย่ไป ทั้งคฤหาสน์ นั้น เงียบสงบมาก
สวนบ้านตระกูลเย่นั้นใหญ่มาก เย่ซือเฉินขับรถ ใช้ เวลาเกือบสิบนาทีกว่าจะไปถึงตัวบ้านพักอาศัย แต่ว่า ตอนนี้ประตูนั้นปิดอยู่ จากลานประตูใหญ่มา ถึงที่นี่ ระหว่างทางเวินลู่ฉิงไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียว บ้านใหญ่โตของตระกูลเย่แม้แต่คนรับใช้ก็ไม่เห็น แม้แต่คนเดียว วันนี้เย่ซื้อเฉินพาเธอกลับมา เธอไม่เชื่อ
ว่าคนในบ้านเก่าจะไม่มีใครรู้
มุมปากเวินลั่วฉิงงุ้มลงเล็กน้อย ดูท่าแล้ว เธอจะไม่ได้ รับการต้อนรับ จะว่าให้ชัดก็คือมีคนต้องการทำให้เธอ รู้สึกขายหน้า
เงินลั่วชิงรู้ว่าในบ้านตระกูลเย่ คุณปู่เย่ยังคงเป็นเสา หลักอยู่ทุกวันนี้ ดังนั้น ไม่ต้องเอาเงินลั่วฉิงก็รู้ว่านี่เป็น ความประสงค์ของคุณปู่เย่
เงินลั่วชิงไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ หรือจะพูดให้ชัด เธอ ยิ่งรู้สึกสบายใจ ในเมื่อเธอและเย่ซือเฉินแค่ทำสัญญา แต่งงานกัน มันก็เหมือนเป็นการหลอกลวงคุณปู่เย่ถ้าหากว่าคุณปู่เยดีกับเธอเกินไป ละครเรื่องนี้ก็จะ
แสดงยากแล้ว
นัยน์ตาเยซื้อเฉินเคร่งขรึม เขาก็ไม่ได้พูดอะไร แต่พอ ลงจากรถ เขาก็เปิดประตูรถให้เธอ จากนั้นมือเขาก็
โอบรอบเอวเธอ พาเธอเข้าไปข้างใน เงินลั่วชิงให้ความร่วมมือเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะอย่างไร
ละครฉากนี้ต้องร่วมมือกับเขาเล่นให้สมจริง ประตูบ้านเปิดออก ทุกคนในห้องโถงล้วนเบนสายตา
มามอง
เวินลั่งฉิงไม่รู้ว่าสายตาที่จดจ้องจากในห้องนั้นมี
ทั้งหมดกี่คู่
ตอนนี้ คนในห้องโถงมีเพียงไม่กี่คน มีแค่คุณปู่เย่ คุณ ย่าเย่และมีหนุ่มน้อยอายุราวยี่สิบกว่าอีกคน
เวินลั่งนิ่งรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นก็คือน้องชายต่างมารดา ของเย่ซื้อเฉิน
แต่เวินลั่วฉิงก็ไม่เห็นเย่โป๊เหวิน แม้ว่าเย่โป๊เหวินจะ พิการขาทั้งสองข้าง ไม่ค่อยได้ออกไปไหน แต่ว่าใน สถานการณ์เช่นนี้ก็น่าจะมาปรากฏตัวไม่ใช่รึ
เธอยังคิดว่าวันนี้จะได้เจอกับเย่โป๊เหวินแน่ คุณปู่เย่ตอนนี้นั่งอยู่ที่กลางห้องโถง ตอนที่เขาเห็น
เงินลั่วชิง สายตาเขาไม่สะทกสะท้าน เวินลั่วฉิงนิ่งไป ดูถูกเธอ โกรธเยซื้อเฉิน ดูเหมือนว่า คุณปู่เย่จะไม่พอใจเธอเอามากๆ ที่จริงแล้ว ที่คุณปู่เย่เป็นเช่นนี้เธอก็ไม่ได้แปลกใจ
แต่เมื่อสายตาคุณปู่เย่มองไปยังเย่ชือเฉิน เห็นได้ชัดว่า เต็มไปด้วยความโกรธเคืองที่สุดแล้วชื่อเสียงเธอก็เกริกไกร และยังจ้องหน้าตา อัปลักษณ์เช่นนี้ของเธออีก คู่กับเย่ซือเฉิน ช่าง “ไม่ คู่ควร กับเขา ซ่าง “ไม่คู่ควร กับตระกูลเย่ ถึงแม้ว่าในเมืองจีนตระกูลเวินจะพอมีฐานะอยู่บ้าง แต่ ว่าแน่นอนย่อมไม่อาจเปรียบกับสถานะของตระกูลเย่ ได้
ดังนั้น เธอจึงคิดไม่ตกจริงๆว่าทำไมเย่ซือเฉินถึงได้
เลือกเธอ
ขณะที่เวินลั่วเฉิงคิดอยู่นั้น ผู้หญิงทรงเสน่ห์คนหนึ่งก็ เดินออกมาจากในครัว
เป็นลั่วนิ่งเห็นรูปร่างลักษณะของผู้หญิงคนนั้น คิ้วเธอก็ เลิกสูงขึ้น โอ้โห ยังจะมาบังเอิญเจอ คนคุ้นเคย ที่นี่ อีก เรื่องนี้ชักสนุกแล้วสิ!!