บทที่234 ความสามารถที่แสดงออกมาของเทพธิดา เวิน ทำทุกคนตะลึงตาค้าง (6)
เพราะฉะนั้น บัญชีแค้นนี้ต้องชำระอย่างดีแน่
วันนี้หาเป็นคนอื่น แล้วหลิวฉินทำแบบนี้ มันเป็นการ ทำลายทั้งชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งให้พังยับเยิน
ถึงขั้นบีบผู้หญิงคนหนึ่งให้ถึงกับตายได้เลยทีเดียว
อย่างเรื่องแบบนี้ เมื่อก่อนหลิวฉินอาจจะเคยทำมาแล้ว ก็ได้ เพราะฉะนั้น ครั้งนี้หากเธอไม่สั่งสอนหลิวฉินสักหน่อย ก็ คงทำเรื่องเลวทรามแบบนี้อีกแน่
หลิวฉินแอบถอนหายใจ ตอนนี้เธอสงบสติอารมณ์ได้บ้าง แล้ว จึงพบว่าบนพื้นนั้นคือไวน์แดงเท่านั้น
สภาพในสถานที่เหตุนี้ไม่มีร่องรอยการต่อสู้แม้แต่น้อย นอกจากไวน์แดงที่แตกกระจายขวดนั้น อย่างอื่นก็ยังคง สภาพเติม
เพราะฉะนั้น ก็คงน่าจะไม่มีการฆ่าแกงกันหรอก น่าจะเป็น เพราะเธอคิดมากไป
และเป็นลั่วอึ้งยังเป็นคนโง่ และบื้ออีกด้วย แถมยังเป็นผู้ หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง จะทำร้ายประธานหลีได้ยังไงกัน ตอนนี้ เธอมองหน้าเป็นลั่วจิงที่ยิ้มเบาๆอย่างสดใส ในใจ ก็เกิดความเยาะเย้ยขึ้นมา ในเวลานี้เป็นลั่วฉิงยังสามารถยิ้ม ออกมาได้อีกเหรอ แถมยังยิ้มอย่างใสซื่อ ช่างโง่เสียจริงๆ
การที่เป็นแบบนี้ มันทำให้หลิวฉินไม่ต้องกังวลหรือกลัวอีก ต่อไป จึงกล้าก้าวเดินไปตรงหน้าเป็นลั่วจึง
“พี่สะใภ้สามเรียกเธอไปหาทำไม”นักเรียนเสี่ยวซีเป็นเด็ก ขี้สงสัย ดูไม่เข้าใจ จึงทำได้เพียงถาม
ตอนนี้ ไม่มีใครสามารถตอบปัญหาของเขาได้
เพราะพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน คงต้องรอให้ หลิวฉินเดิน
ไปถึงก่อนถึงจะรู้
หลิวฉินเดินมาอยู่ตรงหน้าเป็นลั่วนิ่งแล้ว จะสังเกตเห็นว่า เป็นลั่วนิ่งกำลังเล่นมีดปอกผลไม้อยู่
หลิวฉินถึงกับอึ้งไป เล่นมีดปอกผลไม้นั้นไม่ถือว่าเป็นอะไร แต่มันสำคัญที่ว่า หลิวฉินสังเกตเห็นการเล่นระดับขั้นเทพ เป็นลั่วฉิงต่างหาก
“เงินลั่วชิง ฉันเข้ามาแล้ว เธอสามารถบอกฉันได้หรือยัง ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”หลิวฉินแอบถอนหายใจ จ้องมีดในมือ ของเวินลั่วชิงแล้วก็รู้สึกหวาดเสียวขึ้นมา
“รู้ไหมนี่คืออะไร” เวินลั่วฉิงเอามีดปอกผลไม้ขึ้นมา แกว่ง มีดเล่นไปมาตรงหน้าเธอ “มีดปอกผลไม้”หลิวฉินมองเธอด้วยสายตาเหยียบๆแวบ หนึ่ง คำถามปัญญาอ่อนแบบนี้คงมีเพียงคนโง่อย่าง เงินลั่วชิงที่ถามออกมาได้
“รู้ใช่ไหมว่าใช้ท่าอะไร”เงินลั่วชิงขยับมุมปากเล็กน้อย เสียงก็ลอยออกมาอย่างช้าๆ
“ก็ต้องใช้ปอกผลไม้สิ”หลิวฉินหงุดหงิดออกมาอย่าง
ชัดเจน
“แต่ว่า มันยังสามารถใช้ทำอะไรได้อีกเยอะ อย่าง เช่น..”เวินลั่วฉิงยิ้ม แล้วพูดเว้นแป๊บหนึ่ง จากนั้นก็ทำ สีหน้าเคร่งขรึม แล้วพูดเสริมอย่างเย็นชา”ฆ่าคน”
เวินลั่วฉิงเอ่ยสิ้นเสียงลง ก็ถือมีดปอกผลไม้ในมือพุ่งไปหา หลิวฉินอย่างรวดเร็ว
“ว้าย เป็นลั่วนิ่งเธอมันบ้าไปแล้ว ช่วยด้วยค่ะ”หลิวฉิน ชะงักนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ หลังจากได้สติ ก็กลัวจนหน้าซีด ร้อง ตะโกนอยากหนีออกไป
เพียงแต่ จู่ๆเงินลั่วชิงยื่นเท้าออกมา เท้าข้างหนึ่งก็เหยียบ ลงบนเท้าทั้งสองข้างที่อยู่ชิดกันของหลิวฉินอย่างแม่นยำ
จากนั้นเวินลั่วฉิงก็เอามีดปอกผลไม้ในมือบนกรีดลงตัว หลิวฉิน ด้วยความรวดเร็ว เร็วจนทำให้คนมองไม่เห็นว่ามีต กรีดตรงที่ตรงไหน “กรี๊ด กรี๊ด กรีด”ทั้งในห้องมีเพียงเสียงกรีดร้องของหลิว ฉันเท่านั้น เป็นเสียงที่กรีดร้องอย่างตกใจกลัว
เธออยากหนีออกไป แต่เป็นลั่วนิ่งถูกเหยียบเท้าไว้ จึงขยับ เคลื่อนไหวไม่ได้ จนที่เกือบจะล้มลง แต่ว่ายังดีที่ยังมีโต๊ะอยู่ ข้างเธอ จึงได้ใช้แรงจับที่โต๊ะไว้
เพียงแต่รู้สึกได้ถึงมีดในมือเป็นลั่วนิ่งที่กรีดลงบนตัวเธอ อย่างมั่วไปหมด ก็ตกใจกลัวจนแทบช็อกขึ้นมาทันที
เวลาผ่านไปสักพัก เงินลั่วชิงก็หยุดการกระทำลง แต่หลิว ฉันยังคงกรีดร้องเช่นเติม ผ่านไปพักหนึ่งถึงจะรู้สึกตัว
และ เธอพบว่า ร่างกายเธอไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด เห็นได้ชัดเงินถั่วนิ่งไม่ได้ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ เพียงแต่ เสื้อผ้าบนร่างเธอได้กลายเป็นเศษผ้าขี้ริ้วแล้ว
แต่ว่า เศษผ้าทั้งหมดไม่ได้ขาดกระจาย ยังคงติดอยู่บนตัว
หลิวฉิน
เวินลั่วฉิงเก็บขากลับมา ปอกผลไม้ในมือก็วางบนโต๊ะ แบบไม่มองอะไร
“อืม เธอออกไปได้แล้ว”เงินลั่วชิงจ้องมองเธอ แล้วอ้าปาก ยิ้มอย่างสดใส
หลิวฉินตะลึงอย่างแรง เธอจะออกไปสภาพในแบบนี้ได้ไง แม้เสื้อผ้ายังอยู่บนตัวเธอ แต่กลับปกปิดอะไรไม่ได้เลย อีกห้องหนึ่งทุกคนต่างจ้องมองกล้องวงจรปิดอย่างตะลึง ตาค้าง ทั้งห้องเงียบผิดปกติในชั่วขณะ ไม่มีใครเอ่ยพูด ดู เหมือนว่าลมหายใจก็เบาลงไปด้วยเล็กน้อย
เธอเอามีดปอกผลไม้ ดูเหมือนจะกรีดมั่วๆลงบนตัวหลิว ฉันเพียงไม่กี่ครั้ง แต่กลับทำให้เสื้อผ้าหลิวฉินเป็นเศษผ้าขี้ริ้ว ได้ แถมเศษผ้าไม่ตกลงมาสักเส้นเดียว
ในการกระทำทั้งหมดเธอไม่ได้ทำหลิวฉินได้รับบาดเจ็บ แม้แต่น้อย แม้แต่แผลสักนิดก็ไม่มีบนผิวเธอ
นี่ไม่ใช่คนธรรมดาสามารถทำได้แน่ เป็นถึงคุณหนูตระกูล ใหญ่คนหนึ่ง แถมยังเป็นคุณหนูใหญ่ที่มีโรคตั้งแต่เล็กด้วย
ยิ่งเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ชื่อเฉินจ้องมองเงินลั่วชิงจากภาพในกล้องวงจรปิด อย่างไม่วางสายตา ตอนนี้เรื่องทุกอย่างได้มีคำตอบแล้ว และได้เข้าใจอย่างชัดเจนเสียด้วย
ถ้างั้น ต่อจากนี้
“เวินลั่วฉิง ฉันทำอะไรผิดต่อเธอ ทำไมเธอถึงต้องทำแบบ นี้กับฉัน”หลิวฉินกลัวจนสั่นไปทั้งตัว ตอนนี้เธอเพิ่งจะรู้ว่า เงินลั่วชิงนั้นน่ากลัวมากขนาดไหน แต่ว่าเธอยังหวังอยู่เล็กๆ หวังว่าเงินลั่วชิงแค่เป็นบ้า ไม่ได้รู้เรื่องราวความจริง
เว็บลั่วชิงยกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย แล้วจ้องเขม็งเธอแวบ หนึ่ง มาถึงตอนนี้แล้ว ผู้หญิงคนนี้ยังคงจะแสดงละครต่อ หน้าเธออีกเหรอ
“เธอจัดการนัดทานข้าวนี้ ส่งฉันไปให้กับประธานหลี่ ทั้งที่ เธอรู้อยู่แล้วว่าประธานหลี่เป็นคนอย่างไง เธอท่าแบบนี้ เพราะอะไรล่ะ ยังต้องการให้ฉันบอกเธออยู่ไหม คนที่โดน เธอทำแบบนี้ ฉันไม่น่าจะใช้คนแรกใช่ไหม เมื่อก่อนทำร้าย ไปกี่คนแล้วล่ะ”เป็นลั่วนิ่งมองเธอแอ๊บใสชื่อในตอนนี้ไม่ไหว เพราะแอ๊บได้ปลอมมาก จนเธอรู้สึกสกปรกลูกตาเป็นอย่าง มาก
“เงินลั่วฉิง เธออย่ามาพูดมั่วๆนะ เธอมีหลักฐานอะไร ล่ะ”สีหน้าหลิวฉินเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เรื่องนี้มีเพียงเธอ กับประธานหลี่รู้เท่านั้น ประธานหลีไม่พูดออกไปอย่าง แน่นอน เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นการคาดเดาของเวินลั่วฉิง เท่านั้น ไม่มีหลักฐานอย่างแน่นอน
เธอรู้สึกว่าเพียงเป็นลั่วฉิงไม่มีหลักฐาน ก็ไม่สามารถทำ อะไรเธอได้
เป็นลั่วนิ่งมองออกถึงอาการกินปูร้อนท้องและการปิดบัง ของเธอ และมองออกว่านัยน์ตาของเธอได้ซ่อนความกลัวไว้ ลึกๆ ปรารถนาอยากได้รับการช่วยเหลือแต่ก็ระแวงกับ ความกลัวที่จะถูกค้นพบไปด้วย
เพราะฉะนั้น หลิวฉินได้ทำร้ายผู้หญิงคนอื่นจริงๆด้วย อาจ จะไม่ใช่แค่คนเดียว
แววตาเป็นลั่วจึงมีความเยือกเย็นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หลักฐานเหรอ เวลาที่หลิวฉินทำเรื่องเลวๆเคยคิดจะพูดถึง หลักฐานบ้างไหม
“หลักฐานเหรอ ในสังคมนี้ ใครเขาพูดเรื่องหลักฐานกับ เธอ โง่จริง”เวินลั่วฉิงยิ้มเยาะเย้ย อย่างไม่เห็นด้วยอย่างแรง “จะพูดไป ฉันก็ไม่ใช่ตำรวจด้วยสิ ฉันจะเอาหลักฐานไป ทำไมเหรอ”
รังแกเธอไม่มีหลักฐานงั้นเหรอ ตลกสิ้นดี
หลิวฉินจ้องมองเธอ กะพริบตาปริๆ หลายครั้ง เหมือนไม่ค่อยเข้าใจที่เป็นลั่วฉิงพูดในเวลาอันสั้น
ไม่ ที่จริงแล้วเธอฟังเข้าใจ เพียงแค่ไม่ค่อยกล้าเชื่อในสิ่ง ที่ตัวเองได้ยิน
“เรื่องนี้ ฉันสรุปว่าเป็นแบบนี้ ก็พอ หากปรักปรำเธอจริงๆ งั้นก็ถือว่าเธอชวยก็แล้วกัน”เงินลั่วฉิงจ้องเธออีกครั้ง แล้ว ค่อยๆพูดเสริมขึ้นมา