บทที่ 369 เธอแสดงความสามารถออกมาให้เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (10)
มีชั่วขณะหนึ่ง ราวกับว่าโลกทั้งใบเงียบสงัดไป
ชั่วขณะหนึ่ง ในห้องโถง ไม่มีใครพูดอะไรเลย
สองเกมลงมา เวินลั่วฉิงเข้าใจจิตใจของกู้ชิ่งซินได้อย่างชัดเจนแล้ว และตอนนี้เพราะว่ากู้ชิ่งซินแพ้ไปสองเกมแล้ว กลายเป็นคนหงุดหงิดง่ายมากเป็นพิเศษ สงบใจลงมาไม่ได้เลย ดังนั้น เวินลั่วฉิงอยากจะชนะเขาอย่างสมบูรณ์แบบไม่ใช่เรื่องยากเลย
เวินลั่วฉิงเบนสายตาอีกครั้ง มองไปทางจางเย่วผิง มุมปากขยับเล็กน้อย พูดออกมาทีละคำว่า “ฉันไม่เคยแกล้งโง่แกล้งบ้าเพื่อทำให้คนอัปยศอดสู”
คำพูดของเธอหยุดลงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เสริมมาคำหนึ่งช้าๆ “ฉัน ใช้แต่ความสามารถที่แท้จริง”
เธอใช้ความสามารถที่แท้จริงตลอด มาอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา ส่วนจะใช่การทำให้อัปยศอดสูหรือเปล่านั้น มันก็แล้วแต่คนจะมองแล้ว
ทุกคนยังไม่ได้สติกลับคืนมาจากการเกมหมากรุกเมื่อกี้ ตอนนี้ได้ยินคำพูดนี้ของเธออีก แต่ละคนตกตะลึงจนนิ่งงันเป็นไก่ไม้
เสียงของเธอในตอนนี้ยังคงนุ่มนวล เป็นพลังอำนาจแบบภายในสู่ภายนอกแต่มันกลับเพียงพอที่จะทำให้ทุกคนตกใจ
คำพูดนี้ของเธอบอกได้เลยว่าอวดดีสุดขอบจริงๆ แต่ความอวดดีของเธอแบบนี้ กลับไม่ได้ทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความไม่เหมาะสมเลยสักนิด ตรงกันข้ามพวกที่ไม่ชอบตระกูลกู้มานานแอบสะใจในใจอยู่เงียบๆ
ตระกูลกู้รังแกคนมากเกินไปจริงๆ
เมื่อกี้ทุกคนดูออก ความจริงเวินลั่วฉิงไม่อยากแข่งกับกู้ชิ่งซินอีก แต่ว่าคุณหญิงกู้กับกู้ชิ่งซินกลับบีบบังคับให้เวินลั่วฉิงแข่งให้ได้
ดังนั้น ผลลัพธ์แบบนี้ในตอนนี้ มันก็เป็นกู้ชิ่งซินเองที่หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ จะมาโทษคนอื่นไม่ได้
เกมแรกที่กู้ชิ่งซินแพ้ ความจริงทุกคนก็ไม่ได้ให้ความสําคัญเท่าไหร่ เพราะถึงอย่างไรใครๆก็มีช่วงเวลาที่ทำผิดพลาด
เกมที่สอง กู้ชิ่งซินก็แพ้อีก ทุกคนก็รู้แล้วว่ากู้ชิ่งซินทักษะไม่ดีเท่าอีกฝ่าย แชมป์ระดับโลกคนหนึ่งกลับสู้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนโง่เขลาคนหนึ่งอย่างเวินลั่วฉิงไม่ได้
ทั้งสามเกม กู้ชิ่งซินแพ้ได้อย่างอนาถอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ อนาถกว่าคุณปู่เย่เมื่อครู่เสียอีก
ถึงแม้จะเป็นหมากรุกแปดก้าวเหมือนกัน แต่ว่าความรู้สึกที่ให้ทุกคนในตอนนี้ก็คือ เมื่อกี้กู้ชิ่งซินกับคุณปู่เย่คือแข่งกันปกติ ชนะคุณปู่เย่ในก้าวที่แปด แต่เวินลั่วฉิงจงใจติดอยู่ที่หมากก้าวที่แปดแล้วเอาชนะกู้ชิ่งซิน
ความแตกต่างนี้ค่อนข้างที่จะเยอะ
ท่านปู่กู้กลับมามีสติก่อน ตอนที่มองไปทางเวินลั่วฉิง ในแววตาคู่นั้นมีเจตนาฆ่าอย่างเห็นได้ชัด ถ้าหากตอนนี้ไม่มีคนอื่นอยู่ คิดว่าเขาคงจะฆ่าเวินลั่วฉิงจริงๆ
จางเย่วผิงก็ยิ่งแทบอยากจะกระโจนเข้าไปฉีกเวินลั่วฉิงเป็นชิ้นๆ ตั้งแต่เด็กลูกชายของเธอเคยได้รับความอัปยศอดสูแบบนี้เมื่อไหร่กัน เธอไม่มีทางปล่อยนังผู้หญิงสารเลวคนนี้ไปเด็ดขาด!
และในตอนนี้ จู่ๆกู้ชิ่งซินก็เป็นลมหมดสติไป เพียงแต่ไม่รู้ว่าหมดสติจริงๆหรือว่าแกล้งทำเป็นหมดสติ
“เธอ เธอ เธอทำอะไรชิ่งซินของฉัน? เธออาศัยตอนที่เล่นหมากรุกเมื่อกี้วางยาพิเศษชิ่งซินของฉันใช่ไหม?” ดวงตาของจางเย่วผิงเป็นประกายขึ้นมาแวบ
หนึ่ง จ้องมองเวินลั่วฉิงอย่างดุดัน “ฉันนึกอยู่แล้วเชียว ชิ่งซินของฉันเป็นถึงแชมป์โลก เป็นไปได้อย่างไรที่จะแพ้ให้กับสาวน้อยคนหนึ่งอย่างเธอ ที่แท้ก็เป็นเธอที่วางยาพิษชิ่งซินของฉัน”
ต้องบอกเลยว่าปฏิกิริยาตอบสนองของจางเย่วผิงเร็วมากจริงๆ วิธีนี้ของเธอถือว่าค่อนข้างยอดเยี่ยมทีเดียว เมื่อเป็นแบบนี้ ก็หาเหตุผลที่ค่อนข้างจะไม่เลวสำหรับความพ่ายแพ้ของกู้ชิ่งซินได้
และยังสามารถกำจัดเวินลั่วฉิงไปอย่างที่เธอคิดได้
เมื่อต้องการจะลงโทษใครสักคนไม่ต้องกังวลว่าจะหาความผิดของเขาไม่ได้ แต่ว่าตระกูลกู้ให้ข้อกล่าวหาขนาดนี้กับคน คนๆนั้นก็ทำได้แค่รับเอาไว้เท่านั้น ถึงอย่างไรตอนนี้กู้ชิ่งซินก็เป็นลมหมดหมดสติไปแล้ว และเมื่อกี้เวินลั่วฉิงก็นั่งเล่นหมากรุกตรงข้ามกู้ชิ่งซินอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึง ‘น่าสงสัย’ ที่สุด
ในสถานการณ์แบบนี้ คนของตระกูลกู้อยากจะพูดอย่างไรก็พูดอย่างนั้นอยู่แล้ว
แน่นอน เมื่อเป็นแบบนี้ ตระกูลกู้คงจะไม่ปล่อยให้เวินลั่วฉิงมีชีวิตรอดอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแน่
“ใครก็ได้ มาเอาตัวนังหนูคนนี้ออกไปก่อน จากนั้นเชิญหัวหน้าสถานีตำรวจมาตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน” เป็นอย่างนั้นจริงๆ ท่านปู่กู้ออกคำสั่งให้จับคนโดยตรง
ตอนนี้ท่านปู่กู้บอกว่าจะขอให้หัวหน้าสถานีตำรวจมาสืบสวนเรื่องนี้ให้ชัดเจนในภายหลัง แต่ว่าคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็รู้ดีว่า คำพูดนี้ของท่านปู่กู้ก็แค่พูดให้คนรอบข้างฟังเท่านั้น สืบให้แน่ชัด? สืบอย่างไร?
ผลลัพธ์สุดท้ายก็จะมีความผิดอย่างที่ตระกูลกู้พูด
ทุกคนต่างรู้ดี ทันทีที่สาวน้อยคนนี้ถูกนำตัวออกไป เป็นไปได้ว่าจะไม่รอดชีวิตกลับมา
เวินลั่วฉิงคิดไม่ถึงจริงๆว่า แค่เล่นหมากรุกจะมีอันตรายมาถึงชีวิต ประเพณีนิยมของสังคมนี้ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ
นี่ตระกูลกู้ปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือเดียวเหรอ? ยังมีตระกูลถังไม่ใช่เหรอ?
เวินลั่วฉิงยิ้มเย้ยหยันออกมา ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน สีหน้าท่าทางบนใบหน้าก็ไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย ไม่เห็นถึงความตื่นตกใจเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับยิ่งไม่แยแสมากกว่าเดิม
ความไม่แยแสของเวินลั่วฉิงในตอนนี้ทำให้หลายคนอดรู้สึกชื่นชมไม่ได้
“พวกคุณจะทำอะไร? จะจับกุมคนส่งเดชได้อย่างไร” คุณย่าเย่ได้สติกลับมา รีบร้อนเดินเข้ามา ถึงแม้เธอจะไม่ชอบเวินลั่วฉิง แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้เวินลั่วฉิงเกิดเรื่องขึ้นในตระกูลกู้ได้ ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นคนพาเวินลั่วฉิงมา
ถ้าหากเวินลั่วฉิงเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่บ้านตระกูลกู้ ทางด้านเว้ยคังอาจจะมาหาเรื่องกับตระกูลเย่ได้
คุณปู่เย่จับเธอเอาไว้ครั้งหนึ่ง ดูเหมือนต้องการจะจับตัวคุณย่าเย่เอาไว้ แต่ว่าจับเอาไว้ไม่ทัน แต่ว่าคุณปู่เย่ก็ไม่ได้ไปขวางคุณย่าเย่อีก ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็เดินเข้าไปด้วย แต่ว่าไม่ได้พูดอะไร
คุณปู่เย่ไม่อยากล่วงเกินตระกูลกู้ และไม่กล้าล่วงเกินตระกูลกู้ ถึงแม้เมื่อกี้เวินลั่วฉิงจะทำให้เขาประหลาดใจมาก แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถไปล่วงเกินตระกูลกู้เพื่อเวินลั่วฉิงได้
เวินลั่วฉิงต้องเห็นความเคลื่อนไหวของคุณปู่เย่อยู่แล้ว ดวงตาของเธอขรึมลงเล็กน้อย เธอรู้ว่าไม่มีทางที่คุณปู่เย่จะไปล่วงเกินตระกูลกู้เพื่อเธอเด็ดขาด
ใจคนเรา บางครั้งมันน่าตลกมากจริงๆ
แต่ว่า เวินลั่วฉิงก็ไม่โทษคุณปู่เย่ ถึงอย่างไรคนเราทุกคนก็มีสิทธิ์เห็นแก่ตัว
และก่อนหน้านั้นเหตุผลที่เธอยืนขึ้นมาช่วยคุณปู่เย่แก้สถานการณ์ ทั้งหมดก็เพื่อเย่ซือเฉินเท่านั้น
เพียงแต่ว่า เธอคิดไม่ถึงจริงๆว่าตระกูลกู้จะรังแกคนมากเกินไปขนาดนี้ หยิ่งยโสโอหัง กระทั่งยังเห็นชีวิตคนเป็นผักปลา
เวินลั่วฉิงคิดไว้ ในสถานการณ์แบบนี้ไม่น่าจะมีคนสามารถช่วยเธอได้ และไม่มีคนกล้าช่วยเธอ
“เป็นอย่างไร ตระกูลกู้แพ้ไม่เป็นอย่างนี้เหรอ?” เพียงแต่ ในเวลานี้ จู่ๆท่านปู่ถังกลับส่งเสียงออกมา ท่านปู่ถังมองไปทางท่านปู่กู้ครู่หนึ่ง และสายตาของเขาก็มาหยุดที่ตัวเวินลั่วฉิง บนใบหน้ามีความเด็ดขาดเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย “วันนี้ ผมจะดูสิว่าใครกล้าทำอะไรนังหนูคนนี้”
“ท่านถัง นี่แกจงใจจะก่อความวุ่นวายเหรอ? แกไม่เห็นเหรอว่าชิ่งซินหมดสติไปแล้ว? ร่างกายชิ่งซินแข็งแรงมาตลอด ทำไมจู่ๆถึงได้เป็นลมหมดสติไปอย่างไม่มีเหตุผลได้ เมื่อกี้นังเด็กคนนี้เล่นหมากรุกอยู่กับชิ่งซินตลอด นังเด็กคนนี้ต้องเป็นคนวางยาพิษชิ่งซินแน่ๆ” คำพูดของท่านปู่กู้พูดได้อย่างฉะฉานมีเหตุมีผล
ในที่สุดวันนี้เวินลั่วฉิงก็ได้เห็นแล้วว่าอะไรที่เรียกว่าพูดโกหกอย่างหน้าไม่อาย และก็ได้เห็นแล้วว่าอะไรที่เรียกว่าไร้ยางอาย
“เรื่องง่ายๆแค่นี้ ขอให้คนมาช่วยสืบ ก่อนอื่นเชิญหมอมาตรวจดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาตรวจดู ถ้าแกหาผู้เชี่ยวชาญมาไม่ได้ ฉันจะให้หยุนเฉิงช่วยแกหา” ท่านปู่ถังไหนเลยจะหลอกได้ง่ายขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นภรรยาของเขายังชอบนังหนูคนนั้นอย่างจริงใจ ดังนั้นวันนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องปกป้องนังหนูคนนั้นให้ได้
หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขากับภรรยาต่างก็ถูกชะตานังหนูคนนี้ก็ได้
ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – บทที่ 369 เธอแสดงความสามารถออกมาให้เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (10)
ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
มองที่เด็กๆ ที่มีหน้าตาเหมือนกับตัวเอง สมองเขาว่างเปล่า ชั่วคราว”แม่เราก็คือภรรยาของคุณนะคะ ทำไม ภรรยาของ คุณมีลูกสองคน คุณไม่รู้หรอ”เด็กๆ จ้องมองเขา เตือนเขา อย่าง”มีน้ำใจ” เขาชะงักไปสองวินาที สีหน้าเปลี่ยนหลาย แบบ”ที่รัก อยู่ไหน” วินาทีต่อไป เขาโทรหาเวินลั่วฉิง “ได้ รอ ฉันสักครู่ ฉันจะไปที่ที่อยู่ทันที จะมีSurpriseให้นะ”ดี ดีจัง เขาอยากจะดูว่าเธอยังมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาไว้ จะคิดบัญชี อย่างจริงจังแล้วนะ”นี่มันร้ายใจเกินไปมั่ง”เด็กสองคนนี้ตะลึง Surpriseนี่มันใหญ่จัง ดูเหมือนว่า คนนั้นจะซวยค่ะ! ! !