บทที่ 475 คุณชายสามเย่เอาแต่ใจขนาดนี้จะดีเหรอคะ (3)
“ฉันขับรถไม่เป็น” เวินลั่วฉิงตอบกลับไปโดยทันที สถานการณ์อย่างนี้ เธอเป็นคนบ้าเหรอถึงจะอยู่กับเขาสองต่อสองในเวลานี้ เธอขับรถเป็นแน่นอน อีกทั้งยังขับได้ดีมากด้วย เธอก็แค่ไม่อยากไปส่งเย่ซือเฉิน
“ถ้างั้น ฉันไปส่งคุณชายสามเย่ก็ได้” เวินหรวนหรวนรีบพูดต่อหนึ่งคำ เวลานี้ สถานการณ์แบบนี้ ชายหนึ่งหญิงหนึ่งอยู่บนรถ บางสิ่งบางอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมาก เวินหรวนหรวนหวังอยากมีอะไรกับคุณชายสามเย่มาก
แต่ว่า คุณชายสามเย่ไม่เคยแม้แต่จะมองเวินหรวนหรวนเลย สองตาจ้องมองเวินลั่วฉิงตลอดเวลา เหมือนกำลังคิดไปคิดมา: “คุณขับรถไม่เป็นงั้นเหรอ? ผมจำได้……”
“ไปสิ ฉันไปส่งคุณ” ในตอนนี้เวินลั่วฉิงกลัวที่สุดว่าเขาจะพูดถึงเรื่องราวในอดีต แค่เขาพูดคำใดคำหนึ่ง ก็สามารถทำให้เรื่องทั้งหมดถูกเปิดเผย ดังนั้นเธอจึงจำเป็นต้องยินยอม
เวินหยวนหยวนในตอนนี้โมโหและเกลียดจนคิดฆ่าคนได้เลย
แต่คุณปู่เวินยิ่งดูยิ่งดีใจ
รถที่เวินลั่งฉิงขับเป็นรถของเย่ซือเฉิน หลังจากที่เย่ซือเฉินขึ้นรถแล้ว ไม่พูดไม่จา สีหน้าเคร่งขรึม
เขาพิงเก้าอี้เบาๆ หันข้างมามองเธอ แต่ไม่พูดอะไรเลย
เวินลั่วฉิงพอดูออกว่าเขากำลังโกรธ แต่ว่าเขาไม่พูด เธอจึงไม่พูดอะไร
ดังนั้นระหว่างทางจึงเงียบมาก เวินลั่วฉิงรู้จักบ้านของเขาแน่นอนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงขับรถไปจนถึงหน้าบ้านของเขา
“ถึงแล้ว” เวินลั่วฉิงจอดรถแล้วหันไปมองเขา เห็นเขาก็ยังพิงอยู่บนเก้าอี้เหมือนเดิม ยังคงมองหน้าเธอด้วยสายตาที่เย็นชาและโกรธ
“ฉันกลับบ้านก่อนนะ” เวินลั่วฉิงเห็นเขาไม่พูดไม่จา จึงจะเปิดประตูลงจากรถ เธอขับรถมาส่งเขาถึงบ้านแล้ว ก็ต้องกลับบ้านแล้ว
“เราสองคนไม่รู้จักกัน? เหรอ?” เขาไม่ขยับ แต่มีเสียงดังขึ้นกะทันหัน
เวินลั่วฉิงตะลึงเล็กน้อย ทันใดนั้นก็เข้าใจทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร เขายังโกรธเพราะที่เธอพูดก่อนหน้านั้นไม่รู้จักเขา
เวินลั่วฉิงหันไปมองเขา เห็นสายตาที่หรี่ลงเล็กๆนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชาที่น่ากลัว ในใจรู้สึกสั่นนิดๆ
เธอสังเกตเห็น เขาดูน่ากลัวเป็นพิเศษในเวลานี้ น่ากลัวจนเธออยากรีบๆหนีไป
เพียงแต่ว่า ยังไม่ทันให้เธอตั้งสติได้ เย่ซือเฉินก็ยื่นมือมาดึงตัวเธอเข้าไปกอดไว้ในอ้อมอก จากนั้นปรับเก้าอี้นอนลง แล้วพลิกตัวไปทับเธอไว้
“เราไม่รู้จักกัน? งั้นเหรอ?” เย่ซือเฉินพูดประโยคที่พูดเมื่อสักครู่นี้ซ้ำอีกครั้ง ครั้งนี้ เห็นได้ชัดเจนว่ายิ่งน่ากลัวขึ้นมาอีก น่ากลัวจนทำให้คนใจสั่นหวาดกลัวเลยทีเดียว
ฝีปากของเวินลั่วฉิงขยับเขยื้อนเล็กน้อย กำลังจะเอ่ยปากพูด แต่เขากลับก้มหน้าลงมาจูบเธอกะทันหัน
จูบของเขาในเวลานี้ค่อนข้างดุเดือดอย่างบ้าคลั่ง อีกทั้งยังเต็มไปด้วยการลงโทษเล็กน้อย
ในขณะนั้น เวินลั่วฉิงตั้งตัวไม่ทันเลย
หลังจากจูบนั้นแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นมามองเธอ มุมปากขยับเล็กน้อย ค่อยๆเอ่ยปาก: “ไม่รู้จักทำแบบนี้ได้เหรอ?”
พอเขาพูดจบก็ก้มหน้าไปอีกครั้งและกัดที่คอของเธอทีหนึ่ง ไม่แรงมาก ดังนั้นยิ่งทำให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น หลังจากที่กัดแล้ว เขาก็ค่อยๆพูดอีกครั้ง: “ไม่รู้จักทำแบบนี้ได้เหรอ?”
จากนั้น มือของเขาก็ลูบขึ้นไปบนเสื้อของเธอ ลูบบนผิวเนื้อของเธอ ลูบไล้ไปมาอยู่อย่างนั้น ลมหายใจที่อันตรายกำลังกระจายอยู่ตรงหน้าของเธอ: “ไม่รู้จักทำแบบนี้ได้เหรอ?”
เวินลั่วฉิงอยากพูดว่า ถึงแม้พวกเขาจะรู้จักกัน แต่ตอนนี้พวกเขาหย่ากันแล้วก็ทำแบบนี้ไม่ได้ แต่ว่าคำพูดนี้มันอัดอั้นอยู่ในปาก เธอพูดมันออกมาไม่ได้
ในเวลานี้พอดี มือของเขาขยับไปถึงบางที่ของเธอ จากนั้นใช้แรงบีบเล็กน้อยและพูดอีกครั้งว่า: “ไม่รู้จักทำแบบนี้ได้เหรอ?”
“เย่ เย่ซือเฉิน” เวินลั่วฉิงตกใจจนตะลึง ตัวสั่นเล็กน้อย เธออยากผลักเขาออกไป แต่ว่าเขามีแรงมากเกินไป เธอผลักออกไม่ได้เลยจริงๆ
การกระทำของเย่ซือเฉินยิ่งดื้อรั้นทำตามอำเภอใจ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“ไม่รู้จักทำแบบนี้ได้เหรอ?” ครั้งนี้ น้ำเสียงของเขาดุร้ายขึ้นมาก แต่ก็ยังมีเสียงแหบแปลกๆ
เรื่องพวกนี้ พวกเขาเคยทำหมดแล้วในตอนที่ยังเป็นสามีภรรยากัน อีกทั้งไม่ได้ทำเพียงแค่หนึ่งครั้ง แต่ว่าเธอกลับบอกว่าไม่รู้จักเขา
ไม่รู้จัก เขาจูบปากเธอได้เหรอ? ไม่รู้จักเขาสามารถจูบตัวเธอได้เหรอ? ไม่รู้จักกันเขากัดเธอได้เหรอ? ไม่รู้จักกันเขาสามารถแตะต้องตัวเธอได้เหรอ? ไม่รู้จักกัน เขาสามารถนอนกับเธอได้ครั้งแล้วครั้งเล่าเหรอ?
“คุณ คุณปล่อยฉันก่อน……” ตัวของเวินลั่วฉิงแข็งกระด้างไปหมดแล้วในตอนนี้ เธอรู้สึกถึงเย่ซือเฉินยิ่งอยู่ยิ่งทำมากเกินไป ยิ่งอยู่ยิ่งบ้าคลั่ง
“ไม่ปล่อย ไม่รู้จักผมไม่ใช่เหรอ? งั้นก็จะทำให้คุณรู้จักกันให้ดี ทำให้คุณไม่สามารถลืมได้ลงทั้งชีวิต……” เย่ซือเฉินยิ่งใช้แรงทับตัวเธอแรงๆ การเคลื่อนไหวบนมือของเขายิ่งอยู่ยิ่งทำตามอำเภอใจ
เขารับรองว่าจะทำให้เธอไม่สามารถลืมได้ทั้งชีวิต รับรองว่าจะทำให้เธอไม่สามารถพูดคำว่าไม่รู้จักเขาอีก!!!
ตัวของเวินลั่วฉิงสั่นเบาๆ ใจก็สั่นไปด้วยเล็กน้อย แต่งานสามเดือน เธอรู้จักเย่ซือเฉินเป็นอย่างดี สิ่งที่เขาอยากทำไม่มีใครห้ามเขาได้
เย่ซือเฉินในขณะนี้อันตรายมาก แล้วก็น่ากลัว อีกทั้งคืนนี้เขายังดื่มเหล้าอีกด้วย
แต่ว่า โชคดีที่เขาดื่มไปแค่นิดเดียว คุณปู่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลดื่มเยอะไม่ได้ ดื่มเป็นเพื่อนเขาไม่ได้ เวินจือหยันและเวินจื้อหลงยิ่มไม่ต้องพูดถึง เขาไม่สนใจใครเลย
ที่เขาดื่มไปก็เพราะตั้งใจอยากหาข้ออ้างให้เวินลั่วฉิงส่งเขากลับบ้าน
ดังนั้นในตอนนี้เวินลั่วฉิงไม่ตอบโต้อะไรมากนัก เธอไม่รู้สึกมึนเมาหรือเวียนหัวเลย
ในตอนนี้เธอยังมีสติดีอยู่ จึงยิ่งรู้สึกกลัวมากกว่า
ตอนที่แต่งงานกับเขา เธอยังบอกกับตัวเองว่าเรื่องแบบนั้นเป็นเรื่องปกติของสามีภรรยา แต่ว่าตอนนี้เธอกับเขาหย่ากันแล้ว
เวินลั่วฉิงรักงวนสงวนตัวมาก ในเมื่อหย่ากันแล้ว ทำเรื่องแบบนั้นอีก เธอรู้สึกรับไม่ได้
“เย่ซือเฉิน คุณปล่อยฉันก่อนได้ไหม?” เวินลั่วฉิงแอบหายใจลึกๆ: “เราสองคนหย่ากันแล้ว คุณทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้”
“ผมทำกับคุณแบบนี้ไม่ได้? แล้วใครทำได้?” เย่ซือเฉินเงยหน้าและมองเธอ สายตาที่หรี่ลงเล็กๆและเยือกเย็นน่ากลัว เหมือนสามารถทำให้คนตายได้ในทันที
เขาทำกับเธอแบบนี้ไม่ได้? แล้วใครทำได้? ไป๋ยี่รุ่ยหรือ?
เขารู้ คนที่เธอชอบคือไป๋ยี่รุ่ย ดังนั้นไป๋ยี่รุ่ยทำกับเธอแบบนี้ได้?
เวินลั่วฉิงตกตะลึงสักพัก? ใครทำได้?
“บอกผมมาสิ ผมทำไม่ได้ แล้วใครทำได้?” เย่ซือเฉินรู้สึกอิจฉาในใจจนจะเป็นบ้าในตอนนี้ ทำไมเขาถึงทำไม่ได้? ไป๋ยี่รุ่ยทำได้
ตอนที่เย่ซือเฉินถามคำนี้ ร่างกายของเขากำลังทับเธอไว้แรงๆ
“มีแต่สามีของฉันที่ทำได้” เวินลั่วฉิงกระพริบตาเบาๆแล้วตอบกลับหนึ่งคำ
เธอคิดว่าเรื่องแบบนี้ มีแต่สามีภรรยาถึงจะทำได้ ดังนั้นก็มีเพียงแต่สามีของเธอถึงจะทำแบบนี้กับเธอได้
ได้ยินคำตอบของเธอแล้ว เย่ซือเฉินตะลึงเล็กน้อย ความโมโหในใจหายไปในพริบตาทันที คำตอบนี้ของเธอทำให้เขาสงบสติได้สำเร็จ นี่เธอหมายถึง