บทที่ 503 คุณชายสามเย่มา เรื่องนี้ก็เข้มข้นขึ้นแล้ว (3)
“ใช่ พวกเราไม่มีทางยอมให้นังหนูคนนี้หลอกเด็ดขาด”ท่านปู่หลิวอดเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยคไม่ได้
“ท่านหลิว ทำไมท่านพูดเช่นนี้ ความสามารถของนังหนูคนนี้พวกเราก็เห็นกันหมดแล้ว เธอแค่ใช้เสื้อตัวเดียวก็หาตัวหยวนจวินห้าวออกมาได้ เมื่อกี้คุณบอกว่าหากเธอคลายคดีได้ แซ่หลิวของคุณก็จะเขียนกลับหัวกลับหาง วันหลังอย่าลืมทำตามนะ”บัดนี้สีหน้าท่านปู่หลี่มีความโกรธเคืองขึ้นมาหลายส่วน
“ถึงแม้จะเป็นอย่างนี้ แต่ก็ไม่อาจพิสูจน์สถานะของเธอได้เหมือนกัน ศัตรูของพวกเราก็อาจจะมีความสามารถอย่างนี้ก็เป็นได้”หัวหน้ากงรีบเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค คำพูดของเขายิ่งรุนแรงกว่าอีก ถึงขนาดบอกว่าเวินลั่วฉิงเป็นศัตรูไปเลย
ท่านปู่หลี่แอบทอดถอนหายใจ มุมปากกระตุก แต่สุดท้ายก็ไม่อาจพูดอะไรออกมาได้
บัดนี้บรรยากาศตกอยู่ในความอึดอัดขึ้นมาทันที
เวินลั่วฉิงแอบหัวเราะเย็นอยู่ในใจ คาดไม่ถึงว่าเป็นดั่งที่เย่ซือเฉินกล่าวไว้ไม่มีผิด หัวหน้ากงไม่เอาหน้าเสียจริงๆ
โชคดีที่เย่ซือเฉินได้เตือนเธอล่วงหน้า เธอจึงได้เตรียมตัวรับมือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่คนที่เย่ซือเฉินหามาทำไมยังมาไม่ถึงอีก?
เวินลั่วฉิงกำลังครุ่นคิดอยู่ก็มีบอดี้การ์ดวิ่งเข้ามาหนึ่งคน“หัวหน้ากงครับ ท่านหลู่กับคุณชายสามเย่มาแล้วครับ พวกเขายังพานักข่าวมาด้วยครับ”
หางคิ้วของเวินลั่วฉิงยกขึ้น ในที่สุดก็มาได้เสียที แต่ทำไมเย่ซือเฉินก็ตามมาด้วย เขาว่างมากใช่ไหมเนี่ย?เขาไม่ต้องบริหารบริษัทแล้วใช่ไหม?
“เวลานี้ท่านหลู่มาทำอะไร?คุณชายสามเย่ที่นายว่าคือเย่ซือเฉินเหรอ?เขามาทำอะไร?“หัวหน้ากงขมวดคิ้ว เกิดความสงสัยเล็กน้อย
“พอแล้ว เรื่องวันนี้ก็ตรวจสอบจนกระจ่างหมดแล้ว เอาตัวเจ้าล่ายจื่อกับช่างไม้ไปขังเอาไว้รอคอยการไต่สอบ คนอื่นแยกย้ายกันไปเถอะ”หัวหน้ากงคิดจะให้ทุกคนออกไป
“หัวหน้ากงครับ ท่านหลู่กับคุณชายสามเย่บอกว่าจะขอพบคุณถังครับ พวกเขาบอกว่ามีธุระสำคัญมากครับ และยังพานักข่าวมาด้วยครับ”บอดี้การ์ดคนนั้นเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยคอย่างรวดเร็ว
“ออ?อยากพบนังหนูคนนี้?ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็เชิญพวกท่านหลู่เข้ามาเถอะ พอดีเลย ให้ทุกคนดูสิว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?เพราะเชิญนักข่าวมาแล้ว ไม่มีอะไรต้องแอบซ่อนอีก”ท่านปู่หลี่ใจร้อน อารมณ์ที่อดกลั้นไว้เมื่อสักครู่ บัดนี้เห็นสถานการณ์เปลี่ยนมาเอื้ออำนวยเช่นนี้ เขาต้องคว้าโอกาสไว้อยู่แล้ว
“ท่านปู่ลี่พูดถูก ในเมื่อพวกเขาอยากพบนังหนูถังก็ให้พวกเขาพบเถอะ ดูสิว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่?”ถังหยุนเฉิงพูดขึ้นมาโดยตรง
บัดนี้ถังหยุนเฉิงเป็นลูกพี่ใหญ่ที่นี่ คำพูดของเขาจึงไม่มีใครกล้าคัดค้าน
บอดี้การ์ดที่เข้ามารายงานเมื่อสักครู่เป็นคนที่หัวหน้ากงพามา บัดนี้ได้ยินคำพูดของถังหยุนเฉิงก็ไม่ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด แต่บอดี้การ์ดของถังหยุนเฉิงนั้นมีปฏิภาณไหวพริบดี ถังหยุนเฉิงเพิ่งจะพูดจบ เขาก็วิ่งไปเชิญคนอย่างรวดเร็ว
หัวหน้ากงคิดจะห้าม แต่ไม่ทันเสียแล้ว และอีกอย่างเรื่องนี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรขัดขวางได้
ชั่ววูบนั้นไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาเลย แต่ว่าแต่ละคนต่างครุ่นคิดของใครของมันอยู่ และคาดเดาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทำไม่ท่านหลู่จึงมาศูนย์รวมของกลุ่มแปดตระกูลใหญ่ด้วย?คุณชายสามเย่ก็มาแล้วเหรอ?และยังพานักข่าวมาด้วย?
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ!
ไม่นานบอดี้การ์ดก็พาคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา มีคนเดินนำหน้ามาสามคน ซึ่งได้แก่ ท่านหลู่ คุณชายสามเย่ ส่วนอีกคนนั้น ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ส่วนมากจะไม่รู้จัก แต่ก็ยังมีอีกไม่กี่คนที่รู้จักเป็นอย่างดี
บัดนี้ กลุ่มที่รู้จักคนผู้นี้ต่างเปลี่ยนสีหน้ากันทุกคน
ตั้งแต่ที่เย่ซือเฉินปรากฏตัว สายตาก็จับจ้องอยู่แต่เวินลั่วฉิง โดยไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหนอีกเลย เห็นเวินลั่วฉิงแปลงโฉมมา เขาก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก เดิมทีเขายังคิดว่าเธอจะใช้ใบหน้าที่แท้จริงปรากฏตัวที่นี่เสียอีก หากเป็นเช่นนั้น สายตาของผู้ชายที่นี่ก็ไม่ใช่มองตาเป็นมันหรอกเหรอ
ทำไมจะต้องให้ผู้ชายคนอื่นมองผู้หญิงของเขาด้วย?บัดนี้เธอแต่งกายเช่นนี้จึงเหมาะสมมาก
“ผมได้ยินมาว่าถังหลินเชิญยอดฝีมือในการคลี่คลายคดีมา และได้ยินว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยาด้านอาชญากรรม มาช่วยพวกเราปิดคดีองค์กรก่อการร้ายโดยเฉพาะ อันนี้ถือเป็นโชคของพวกเรา ดังนั้นผมจึงมาดูความครึกครื้นเสียหน่อย และมาดูความคืบหน้าของคดีด้วย?พอดีกับตอนนั้นนักข่าวก็อยู่ด้วย จึงติดตามมาด้วยกัน”ก่อนอื่นท่านหลู่ก็ทำการอธิบายสาเหตุที่เขากับนักข่าวมาที่นี่ ซึ่งฟังดูแล้วก็สมเหตุสมผลดี
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ยิ้มขึ้นมา เพียงแต่ท่วมกลางรอยยิ้มกลับแฝงความคิดที่แตกต่างกันออกไป
“ใช่แล้ว ท่านนี้คือคุณเหลยเห้อ คาดว่าหัวหน้ากงกับผู้อาวุโสทั้งหลายคงจะรู้จักนะครับ เขาเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบขององค์กรที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก ก่อนหน้านี้ท่านหยวนยังเคยพบหน้าเขามาก่อน เขาได้ยินมาว่าคนที่รับผิดชอบคลายคดีอย่างคุณถังมีใบรับรองขององค์กรนี้ด้วย ฉะนั้นจึงมาตรวจดูโดยเฉพาะ”ท่านหลู่หันหน้าไปทางบุรุษข้างกายเพื่อแนะนำให้ทุกคนทราบอย่างละเอียด
มุมปากเวินลั่วฉิงยกขึ้น ค่อยๆเผยรอยยิ้มจางๆออกมา มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าเย่ซือเฉินเป็นคนเชิญคนนี้มา เย่ซือเฉินสามารถตามหาคนระดับนี้มาได้ คาดว่าคงทุ่มเทไปไม่น้อย เย่ซือเฉินยังเชิญท่านหลู่มาโดยเฉพาะอีกคน เรื่องนี้จึงยิ่งสมบูรณ์แบบเพิ่มขึ้น
ไม่ชมไม่ได้แล้ว เวลาเย่ซือเฉินทำอะไรขึ้นมาไม่ขาดตกบกพร่องจริงๆ
หัวหน้ากงได้ยินสิ่งที่ท่านหลู่กล่าว จากนั้นก็มองหน้าเหลยเห้อด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
เวลานี้การปรากฏตัวของเหลยเห้อทำลายแผนการทั้งหมดของเขา เขาคิดว่าคงไม่มีทางมาโดยบังเอิญอย่างแน่นอน
ต้องเป็นฝืมือของผู้หญิงคนนี้เป็นแน่ เพียงแต่ว่าไม่รู้มาก่อนว่าผู้หญิงคนนี้จะเก่งกาจถึงเพียงนี้?สามารถเชิญคุณเหลยเห้อมาได้?
นึกถึงแต่ก่อน เขาพยายามเชิญคุณเหลยเห้อมาหลายต่อหลายครั้ง แต่คุณเหลยเห้อก็ไม่ยอมตอบตกลงเสียที
แน่นอน บัดนี้สีหน้าของตระกูลกู้ก็ไม่น่ามองสักเท่าไหร่
“ฮ่าๆๆ ท่านหลู่มาได้ตรงเวลาจริงๆครับ”ท่านปู่หลี่หัวเราะเสียงดังลั่น ดูออกว่าตอนนี้เขาดีใจมากแค่ไหน
ถังหยุนเฉิงก็คิดว่าเวินลั่วฉิงเป็นคนเชิญเหลยเห้อมา ฉะนั้นก็ยิ่งตกตะลึงยิ่งขึ้น ยัยคนนี้มีความสามารถไม่เบาเลย
แต่ว่าลูกบ้านตระกูลเย่ตามมาทำไม?เขาพบว่าตั้งแต่มาถึงสายตาของลูกบ้านตระกูลเย่ก็อยู่ที่ตัวของยัยคนนี้ตลอดเวลา?
อันนี้หมายความว่ายังไง?
“คุณเหลยเห้อ ไม่เจอกันตั้งนานนะคะ”เวินลั่วฉิงเดินเข้าไปกล่าวทักทายกับเหลยเห้อ
“คุณถังไม่เจอกันเสียนาน คาดไม่ถึงว่าจะเจอกันที่นี่ ถือซะว่ามีวาสนานะครับ”คุณเหลยเห้อเผยรอยยิ้มจางๆ ยื่นมือออกไปจับมือของเวินลั่วฉิงอย่างสุภาพ
คุณชายสามเย่ยืนอยู่ด้านข้าง ได้แต่จ้องมองทั้งสองคนจับมือกัน ดวงตาทั้งคู่ของเขาก็หรี่ขึ้น ทำไม?เขามาถึงที่นี่ เธอไม่กล่าวทักทายกับเขาก่อน แต่กลับไปจับมือกับผู้ชายคนอื่นแทน
วาสนาบ้าบออะไรกัน เขาเป็นคนเชิญเหลยเห้อมาเอง แต่กลับมาคุยเรื่องวาสนากับผู้หญิงของเขาซะงั้น?
ไม่พูดไม่ได้แล้ว เวลาคุณชายสามเย่หึงหวงขึ้นมา จะไม่แบ่งแยกสถานการณ์ ไม่คำนึงถึงเวลา และไม่ดูว่าเป็นใครด้วย