บทที่ 539 สถานะของเธอถูกเปิดเผย ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอแล้ว (17)
“คุณท่าน คุณนาย คุณชายสามเย่มาครับ”เพียงแต่พ่อบ้านเพิ่งจะออกไปไม่นานก็รีบวิ่งกลับเข้ามาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าใบหน้าฉายความแปลกประหลาดอยู่หลายส่วน
เวินลั่วฉิงกะพริบตา เย่ซือเฉินไม่ใช่บอกว่าไม่มาหรอกเหรอ?ทำไมถึงมาได้ล่ะ?
“ปิดประตูขวางไว้ ไม่ต้องให้เข้ามา”ท่านย่าถังตอบแบบไม่พิจารณาเลยแม้แต่น้อย ท่วงทางหนักแน่นประหนึ่งโกรธเย่ซือเฉินจริงๆ
ท่านปู่ถังไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าท่านย่าถังพูดอะไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น เขาไม่ได้ขัดแย้งอะไรทั้งสิ้น
เฟิ่งเหมียวเหมียวก็ไม่มีทางโต้แย้งเช่นกัน
“คุณย่า เขาอาจจะมาหาคุณหนูใหญ่ตระกูลกู่ก็ได้นะครับ?พวกเราขวางอย่างนี้ไม่ดีมั้งครับ?”ดวงตาถังหลินกะพริบ มุมปากเผยรอยยิ้มจางๆ ก่อนหน้านี้ให้เย่ซือเฉินมา เย่ซือเฉินกลับไม่มา สมน้ำหน้า
“ถ้างั้นก็ให้คุณกู่ไปหาเขา”ท่านย่าถังได้ยินคำนี้ ใบหน้ายิ่งมีความโมโหหลายส่วน
“คุณย่า หรือพวกเราต้องขับไล่คุณกู่ออกไปด้วย?อย่างนี้ไม่เหมาะสมมั้งครับ”ถังหลินกระตุกมุมปาก เห็นท่าคุณย่าจะใจแข็งให้ได้เลยทีเดียว
“ไม่ต้องไล่หรอก คุณกู่ได้ยินคุณชายสามเย่มา รับรองว่าวิ่งยังไม่ทันเลย ปล่อยให้พวกเขาไปทานข้าวดูหนังด้วยกันเลย”ท่านย่าถังตวาดเสียงออกมา
น้ำเสียงเช่นนี้ของท่านย่าถังไม่มีที่ให้เจรจากันได้เลย
ถังหลินแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก เรื่องนี้จัดการยากเข้าแล้ว เล่นตลกจนเกินไป เพราะเขาคาดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะมาในเวลานี้
หากมาเช้าหน่อย หรือมาสายหน่อยก็จะไม่เป็นเช่นนี้
ถ้ามาช้ากว่านี้ เขาแอบปล่อยให้เข้ามาตอนที่คุณย่าไม่ทันสังเกตก็ยังได้อยู่
ถ้ารู้แต่แรก เมื่อกี้เขาก็ไม่พูดประโยคพวกนั้นแล้ว แน่นอนเขาก็รู้สึกโกรธเมื่อได้ยินคำพูดของกู่หลิงหลิงเช่นกัน เขารู้จักนิสัยของเย่ซือเฉินดี คำพูดที่กู่หลิงหลิงพูดถึงเย่ซือเฉินนั้นไม่ใช่เรื่องจริงอยู่แล้ว แต่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เลือกกู่หยิงหยิงนั้นต้องเป็นเรื่องจริงแน่นอน
เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นได้ก็เป็นเพราะเย่ซือเฉินจัดการไม่ดีเอง ดังนั้นเขาถึงได้โกรธ และเขาก็รู้ว่าคุณย่าก็โกรธด้วยสาเหตุนี้เช่นกัน
“คุณชายสามเย่ครับ พ่อบ้านไปรายงานแล้วครับ รบกวนท่านรอสักครู่นะครับ”เวลานี้คุณชายสามเย่ถูกขวางอยู่นอกประตู ยามไม่ให้เขาเข้ามา
คุณชายสามเย่ขมวดคิ้ว เขามาที่บ้านตระกูลถังต้องรายงานตั้งแต่เมื่อไหร่?มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
คุณชายสามเย่ไม่ได้สนใจเขา แต่เดินเข้าไปโดยตรง
ปกติเข้าไม่เข้าก็ไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้ภรรยาของเขาอยู่ด้านใน เขาจะไม่เข้าไปได้อย่างไร?
“คุณชายสามเย่ครับ รบกวนท่านรอสักครู่ครับ”ยามคนนี้ขวางอยู่ด้านหน้าของคุณชายสามเย่ เมื่อกี้พ่อบ้านเพิ่งสั่งการมาหมาดๆว่าห้ามให้คุณชายสามเย่เข้ามา เพราะมีคำสั่งจากคุณนายท่าน
ใครก็รู้ว่าคุณนายเป็นผู้มีสิทธิ์มีเสียงในตระกูลถังมาโดยตลอด
ดวงตาคุณชายสามเย่หมุนไปมาเล็กน้อย กวาดสายตาอันเย็นเหยียบเขาหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะกล่าวเสียงเคร่งขรึม “หลีกไป”
“คุณชายสามเย่ครับ พวกเราเป็นแค่ลูกน้อง ท่านอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลยครับ อันนี้เป็นเจตนาของท่านย่าถัง พวกเราก็ไม่มีทางเลือกครับ”
“เจตนาของท่านย่าถัง?”เย่ซือเฉินขมวดคิ้ว ท่านย่าถังให้คนรั้งเขาไว้?เพราะอะไร?
ปกติท่านย่าถังชื่นชอบในตัวเขาไม่ใช่เหรอ?ดีกับเขามาโดยตลอด?ทำไมถึงขวางไม่ให้เขาเข้าไป
“ใช่ครับ เป็นคำสั่งจากท่านย่าถังจริงๆครับ ไม่เช่นนั้นพวกเราจะกล้าขวางทางท่านได้อย่างไรกันครับ”ยามคนนั้นอธิบาย
“ทำไม?”คุณชายสามเย่เชื่อในคำพูดของเขา แต่คุณชายสามเย่ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใดกันแน่?
“อันนี้ผมก็ไม่ทราบครับ แต่พ่อบ้านเพิ่งไปถามท่านย่าถังแล้วครับ ดังนั้นขอความกรุณาคุณชายสามเย่รอสักครู่ครับ”
ดวงตาเย่ซือเฉินหรี่ขึ้น ปกติเขาเข้าบ้านตระกูลถังก็ไม่เคยถูกขวางกั้นเลยสักครั้ง คืนนี้มีงานเลี้ยงอย่างนี้กลับมาขวางเขาเอาไว้?
เรื่องนี้ช่างแปลกประหลาดจริงๆ!
“คุณย่าทำไมต้องโกรธด้วยครับ ท่านรั้งเขาไว้ด้านนอก เป็นการแสดงออกว่าตระกูลถังของพวกเราจิตใจคับแคบ ราวกับว่าพวกเราอับอายจนโมโห และเหมือนฉิงฉิงจะวางอดีตไม่ลง”ถังหลินรู้ว่าหากคุณย่าไม่เอ่ยปากพูด เรื่องนี้ก็จะย่ำแย่กันใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็ให้เย่ซือเฉินเข้ามาก่อนแล้วค่อยว่ากัน
“ฉิงฉิง หนูคิดว่ายังไง?”ท่านย่าถังหันหน้าไปมองเวินลั่วฉิง
“หนูรู้สึกว่าพี่ใหญ่พูดถูกค่ะ”เวินลั่วฉิงเม้มปากเล็กน้อย อันที่จริงเธอรู้สึกว่าสกัดเย่ซือเฉินให้อยู่ด้านนอก มันไม่ดีสำหรับตระกูลถังและเย่ซือเฉินเลย
อีกอย่างเรื่องมันไม่ถึงขั้นขวางเย่ซือเฉินอยู่ด้านนอก
เย่ซือเฉินดูใจอยู่กับใคร คบกับใครอยู่ ล้วนเป็นเรื่องส่วนตัวของเย่ซือเฉินทั้งสิ้น ไม่มีเหตุผลที่จะขวางเย่ซือเฉินให้อยู่ด้านนอกด้วยสาเหตุนี้
“ได้ ทำตามฉิงฉิงบอก ให้เขาเข้ามา”ท่านย่าถังพยักหน้า ถือว่าเห็นด้วย เพียงแต่เสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยคอย่างรวดเร็ว “เขาเข้ามาแล้วก็ให้ไปหาคุณหนูใหญ่ตระกูลกู่ของเขาทันที”
ถังหลินกระตุกมุมปาก เย่ซือเฉินหาคุณหนูใหญ่ตระกูลกู่?ขนาดผียังไม่เชื่อเลย
พอเย่ซือเฉินเข้ามา คุณกู่คนนั้นต้องขายหน้าเป็นแน่
“ครับ ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ”เห็นได้ชัดว่าพ่อบ้านโล่งใจไปหนึ่งเปราะ ก่อนที่จะวิ่งออกไปโดยพลัน
“ฉิงฉิง มา หนูมากับยาย ยายจะแนะนำหลายชายของท่านปู่หลี่ให้รู้จัก และยังมีลูกชายของคุณอาเหลยด้วย”ดวงตาท่านย่าถังประกายแวบผ่าน จากนั้นก็จูงเวินลั่วฉิงเดินไปยังทิศทางที่กลุ่มชายหนุ่มอยู่
มุมปากถังหลินกระตุก คุณย่าคิดจะทำอะไรกันเนี่ย?อีกทั้งเหมือนจะทำการใหญ่เสียด้วย
“ฉิ้นเอ๋อ มา มา หนูมาทางนี้สิ”ท่านปู่ถังเห็นเวินลั่วฉิงเดินมา พลางลุกขึ้นยืนเรียกเวินลั่วฉิงไปหาเขา
“หลี่หราน คนนี้คือฉิ้นเอ๋อ หลานรีบมากล่าวทักทายกันเร็ว”บัดนี้ท่านปู่หลี่อยากจะลากตัวหลานชายของตนมาอยู่ด้านหน้าเร็วๆ
หลี่หรานเดินเข้ามามองหน้าเวินลั่วฉิง ยิ้มเบาๆ“สวัสดีครับ ผมชื่อหลี่หราน”
ท่าทางของเขาทั้งเกรงอกเกรงใจและสุภาพ น้ำเสียงอ่อนโยนและช้าเบา ชวนให้รู้สึกเป็นกันเองแต่ไม่เสียมารยาท
ตอนที่พ่อบ้านออกไปก็เห็นคุณชายสามเย่เดินเข้ามาถึงหน้าห้องโถงเสียแล้ว คนรับใช้ไม่อาจขวางทางเขาไว้ได้
“เชิญครับ คุณชายสามเย่”พ่อบ้านรีบเดินไปด้านหน้าพร้อมกับดึงคนรับใช้ไปอีกด้านหนึ่ง
ดวงตาเย่ซือเฉินหรี่ขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ก้าวเท้ายาวไปยังด้านใน
เมื่อเย่ซือเฉินเดินมาถึงห้องโถงก็มีคนจำนวนมากมายจับตามองเขาอยู่ ชั่วขณะที่เห็นเขาปรากฏตัว ทุกคนต้องหยุดชะงัก
“คุณชายสามเย่มาแล้ว?”
“คุณชายสามเย่มาหาคุณหนูใหญ่ตระกูลกู่ใช่ไหม?”
“อืม มีความเป็นไปได้สูง เพราะทั้งสองคุยเรื่องแต่งงานกันแล้ว”
“คุณกู่ล่ะ?”
“เมื่อกี้ไปที่ระเบียง ตอนนี้กลับมาพอดีเลย”มีคนเห็นกู่หยิงหยิงเดินกลับมาพอดี
ตอนที่กู่หยิงหยิงเห็นเย่ซือเฉินดวงตาก็เบิกกว้าง รู้สึกใจเต้นตึกตัก ทำไมจู่ๆเขาถึงมาได้?
“พี่ คุณชายสามเย่มาแล้ว ต้องมาหาพี่แน่ๆ”กู่หลิงหลิงก็เห็นเย่ซือเฉิน บัดนี้หล่อนรู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นพิเศษ หล่อนคิดว่าเย่ซือเฉินจะมาหากู่หยิงหยิง