บทที่ 557 ฝีมือผู้ใหญ่ตระกูลเย่ทั้งสอง คุณชายสามเย่โต้ตอบอย่างไม่เกรงกลัว (4)
“วันนี้ฉันไม่มีธุระอะไร เธออย่าเพิ่งรีบร้อนกลับไปนะ มีเรื่องจะคุยกับเธอนิดหน่อย” แต่ว่า โจ๋วอันหนานตะโกนเรียกเธอ
“พี่มีธุระสำคัญอะไรหรือคะ?” เซี่ยเถียนเถียนกำลังคิด เรื่องที่ทำให้พี่สาวคนนี้มาคุยกับเธอได้ในเวลานี้ ต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากและรีบร้อนมากๆอย่างแน่นอน
แต่ว่า สิ่งที่ทำให้เซี่ยเถียนเถียนรู้สึกเซอร์ไพรส์คือ โจ๋วอันหนานไม่ได้พูดคุยอะไรที่สำคัญมากมายอย่างที่เธอคิด แต่ถามถึงเรื่องที่ไร้สาระซะมากกว่า เหมือนพูดคุยปกติทั่วไปเท่านั้น
พูดคุยเรื่องแค่นี้ สำหรับคนทั่วไปแล้วถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าเกิดขึ้นบนตัวของโจ๋วอันหนานแล้ว มันไม่ปกติเลย เซี่ยเถียนเถียนรู้สึกว่าโจ๋วอันหนานทำตัวแปลกมาก
ที่จริงการพูดคุยทั่วไปเช่นนี้ โจ๋วอันหนานไม่ถนัดทำมันเลย อีกอย่างปกติแล้วเธอกับเซี่ยเถียนเถียนไม่ค่อยถูกคอกันด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่มีอะไรพูดด้วยจริงๆ แต่ว่าเธอก็ยังไม่กลับไป จนถึงตอนที่ได้เห็นคุณปู่เย่และคุณย่าเย่เดินออกมา โจ๋วอันหนานจึงหาเหตุผลบางอย่างแล้วขอตัวไปจากที่นั่น
เซี่ยเถียนเถียนมองไปทางที่เธอเดินไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย วันนี้พี่สาวเป็นอะไรไปกันแน่? ทำไมดูแปลกจัง!
แต่ว่าเซี่ยเถียนเถียนเข้าใจ ด้วยสติปัญญาของโจ๋วอันหนานแล้ว เรื่องที่โจ๋วอันหนานไม่อยากบอก ไม่มีใครซักถามออกมาได้หรอก
ดังนั้นเซี่ยเถียนเถียนจึงขี้เกียจไปคิดอะไรให้สมองมันเครียด เธอจึงหันหลังแล้วเดินเข้าไปในโรงพยาบาล จากนั้นเธอสังเกตเห็นคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ที่เดินอยู่ตรงหน้าของเธอ
เซี่ยเถียนเถียนรู้เรื่องที่คุณปู่เย่และคุณย่าเย่กำลังเลือกคู่แต่งงานให้กับคุณชายสามเย่อยู่ ตอนแรกเธอยังคิดจะหาโอกาสไปเจอกับคุณปู่เย่และคุณย่าเย่สักครั้ง จากนั้นทำตัวให้ดีงามให้พวกท่านได้ชื่นชม
เธอคิดว่าขอแค่เธอทำตัวดีๆ คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ต้องเลือกเธอแน่นอน
เธอสวยและเก่งกว่าคนที่ชื่อกู่หยิงหยิงตั้งเยอะ
เธอนึกไม่ถึงว่าโอกาสจะมาเร็วขนาดนี้
เซี่ยเถียนเถียนคิดจะเข้าไปทักทายท่านทั้งสอง แต่ว่าคุณปู่เย่และคุณย่าเย่รีบร้อนเดินเร็วเกินไป เร็วมากเป็นพิเศษ เธอเดินตามไปสองสามก้าวยังเดินตามไม่ทัน
เซี่ยเถียนเถียนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย คุณปู่เย่และคุณย่าเย่รีบร้อนขนาดนี้ทำไมกัน?
ในใจของเซี่ยเถียนเถียนเต็มไปด้วยความแปลกใจ อีกทั้งยังคิดอยู่ว่า พวกเขารีบร้อนขนาดนี้ ต้องสำคัญมากแน่นอน เรื่องที่รีบร้อนขนาดนี้ ถ้าเธอไปรบกวนพวกเขาในเวลานี้ยิ่งจะไม่ดี
ดังนั้น เซี่ยเถียนเถียนจึงไม่วิ่งตามไป แต่แอบตามหลังพวกเขาไปอย่างเงียบๆ จากนั้นเธอเห็นคุณปู่เย่เดินไปที่ระเบียงด้านนอกหน้าต่างคนเดียว คุณย่าเย่รออยู่ที่ระเบียงทางเดินอยู่พักหนึ่ง หลังจากที่คุณย่าเย่เห็นเวินลั่วฉิงแล้ว จึงพาเวินลั่วฉิงไปที่ระเบียงนอกหน้าต่าง
ในใจของเซี่ยเถียนเถียนเต็มไปด้วยความสงสัย คุณหนูใหญ่ตระกูลเวินคนนี้เธอเคยได้ยินมาก่อน แต่ว่าคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ทำไมต้องมาหาเวินลั่วฉิง?
เซี่ยเถียนเถียนอยู่เงียบๆไม่ยอมออกเสียง จนคุณย่าเย่พาเวินลั่วฉิงไปที่ระเบียงนอกหน้าต่างแล้ว เธอค่อยๆเดินตามมาอย่างเงียบๆ
บนระเบียงนอกหน้าต่าง คุณปู่เย่มองไปทางเวินลั่วฉิง แววตานั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เวินลั่วฉิงรู้ตั้งแต่แรกว่าคุณปู่เย่ไม่ชอบเธอ อันที่จริง เธอก็ไม่ชอบคุณปู่เย่เหมือนกัน แต่ในวันนี้เธอไม่รู้ว่าคุณปู่เย่ “เชิญ” เธอมานี่ ตกลงมีธุระอะไรกันแน่?
เวินลั่วฉิงไม่พูดจา เธอรอคุณปู่เย่เอ่ยปากพูดก่อน
“ฉันก็ไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระกับคุณ วันนี้ฉันจะพูดกับคุณแค่เรื่องเดียว นั่งก็คือออกไปจากชีวิตซือเฉินของเรา” คุณปู่เย่เริ่มพูดก่อนและพูดอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม
ด้านนอก เซี่ยเถียนเถียนได้ยินคำพูดของคุณปู่เย่แล้วตะลึงมาก หมายความว่าไง? คำพูดของคุณปู่เย่หมายความว่ายังไง? หรืออีเป็ดขี้เหร่นี่ไปติดพันคุณชายสามเย่?
“ฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคุณปู่เย่ค่ะ” เวินลั่วฉิงมองคุณปู่เย่อย่างเฉยๆ พูดตามเหตุผลแล้ว เรื่องที่เธอกับเย่ซือเฉินหย่ากันคุณปู่เย่ต้องรู้แล้วแน่นอน ในเมื่อเธอกับเย่ซือเฉินหย่ากันแล้ว คุณปู่เย่มาหาเธอพูดเรื่องนี้อีก มันน่าตลกไหม?
“คุณจะไม่เข้าใจจริงๆหรือ? คุณอย่ามาเสแสร้ง ฉันรู้ว่าคุณกับซือเฉินหย่ากันแล้ว แต่ว่าพวกคุณสองคนไม่ได้เลิกกันจริงๆ พวกคุณก็ยังพัวพันกันอยู่” คุณปู่เย่ทำเสียงฮึ่ม สีหน้าเยือกเย็นอย่างเห็นได้ชัด
สองตาของเวินลั่วฉิงกระพริบ คำพูดนี้ก็เป็นเรื่องจริง ดังนั้นเธอจึงไม่โต้ตอบกลับ
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เวินลั่วฉิงจะโต้ตอบคุณปู่เย่อย่างไม่เกรงกลัว—-เย่ซือเฉินดื้อดึงกลับมาพัวพันเธอเอง แต่ในตอนนี้ เวินลั่วฉิงกลับไม่ยอมพูดเช่นนั้น เธอก็ไม่อยากพูดอย่างนั้น
ข้างนอก เซี่ยเถียนเถียนตะลึงจนตัวแข็ง อะไรนะ? คุณชายสามเย่เคยแต่งงานกับเวินลั่วฉิงที่ขี้เหร่นี่เหรอ? นี่มันน่าตกใจเกินไปแล้ว?
“วันนี้คุณต้องรับปากกับฉัน ว่าต่อไปนี้จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับซือเฉินอีก” คุณปู่เย่เห็นเวินลั่วฉิงไม่ตอบ ทำเสียงฮึ่มใส่เธออีกครั้ง น้ำเสียงสูงขึ้นกว่าเดิมอีกเล็กน้อย อีกทั้งยังกดขี่ข่มเหงกันอีก
“ฉันคิดว่า เรื่องของฉันไม่จำเป็นต้องให้ท่านอนุมัติ” สายตาของเวินลั่วฉิงดูเศร้าหมองลง เธอไม่ชอบคำสั่งที่บีบบังคับกันเช่นนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะไม่สนใจ แต่ว่าตอนนี้เธอไม่อยากรับปากอะไรทั้งนั้น
“คุณหมายความว่าไง? คุณหมายความว่าต่อจากนี้ไปก็ยังจะหน้าด้านมาเกี่ยวพันกับซือเฉินอีกงั้นหรือ?” คุณปู่เย่ฟังคำพูดของเธอแล้ว โมโหและตะคอกออกมาทันที คำพูดนั้นยิ่งน่าเกลียดกว่าเดิมอีก
หน้าด้านจริงๆ เซี่ยเถียนเถียนที่อยู่ด้านนอกแอบด่าอยู่ในใจคำหนึ่ง
“ฉันจะบอกคุณเอาไว้ ต่อไปนี้คุณห้ามมายุ่งเกี่ยวกับซือเฉินอีก คุณต้องตัดขาดจากซือเฉินให้หมดสิ้น ห้ามมีความสัมพันธ์อะไรกับซือเฉินอีกเด็ดขาด” ตอนที่คุณปู่เย่พูดคำนี้ สีหน้าเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
“ฉันกับเย่ซือเฉินเป็นผู้ใหญ่แล้ว เรามีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจในเรื่องของตนเอง” ได้ยินคำพูดของคุณปู่เย่ เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วนิดๆ แต่ว่าเธอก็ไม่อยากทำให้เรื่องมันบานปลายจน
เพราะในตอนนี้เธอกับเย่ซือเฉินมีเรื่องราวมากมายที่ไม่เหมือนเดิมแล้ว อีกทั้งเย่ซือเฉินยังเป็นพ่อแท้ๆของลูกน้อยทั้งสองของเธอด้วย
“ทำไม? นี่คุณคิดจะหน้าด้านมาเกาะตระกูลเย่ของเราหรือไง? เวินลั่วฉิง เมื่อก่อนฉันทำไมมองไม่ออกว่าคุณจะหน้าด้านได้ขนาดนี้” คุณปู่เย่โกรธมากขึ้นเรื่อยๆ คำพูดที่พูดก็น่าเกลียดมากยิ่งขึ้น
“เวินลั่วฉิง ฉันเตือนคุณเลิกคิดเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้ หน้าตาขี้เหร่อย่างคุณเช่นนี้ คุณคิดว่าซือเฉินจะชอบคุณจริงๆหรือไง คุณเองก็รู้ ตอนนั้นเย่ซือเฉินแต่งงานกับคุณก็เพื่อจะหลอกใช้คุณ เพื่อที่จะได้หุ้นส่วนของตระกูลเย่ พอซือเฉินได้หุ้นส่วนตระกูลเย่มาอยู่ในมือก็หย่ากับคุณแล้ว หมายความว่าเมื่อคุณไม่มีคุณค่าให้ใช้ประโยชน์แล้ว ดังนั้น ต้องแต่แรกจนจบ เขาแค่หลอกใช้คุณเท่านั้น เขาไม่เคยชอบคุณเลยสักนิด” คุณปู่เย่รู้ว่าสิ่งที่ผู้หญิงใส่ใจเรื่องพวกนี้มากที่สุด ดังนั้น เขาอยากใช้เรื่องนี้มาโจมตีเวินลั่วฉิง มาทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองร้าวฉาน
ที่จริงแล้วในใจของคุณปู่เวินรู้ดีว่าเย่ซือเฉินชอบเวินลั่วฉิงจริงๆ ก็เพราะรู้เรื่องนี้ คุณปู่เย่จึงรีบร้อนใจขนาดนี้
เวินลั่วฉิงมองหน้าของเขา เหม่อลอยเล็กน้อย