บทที่ 647 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่ (14)
กู่หลิงหลิงสบตากับเธอ ตกใจจนอึ้งไปเลย!!!
“เวินลั่วฉิง เธอก็แค่มีคุณชายห้ามฉิงคอยอยู่เบื้องหลังไม่ใช่หรอ? เวินลั่วฉิงยัยขี้เหร่ ไม่รู้ว่าหน้าด้านยังไงไปทำให้คุณชายห้าฉิงหลงใหล” กู่หลิงหลิงดึงสติกลับมาได้ อดไม่ได้ที่จะด่า
กู่หยิงหยิงอยากจะห้ามก็ห้ามไม่อยู่
“คุณเวินถ้าหากต้องการ ผมมู่หรงซือถูก็จะช่วยสุดความสามารถ ไม่ปฏิเสธแน่นอน” มู่หรงซือถูยักคิ้ว จากนั้นก็พูดประโยคที่น่าตกใจออกมาอีกคำ
มู่หรงซือถูพูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนต่างก็ตกใจกันไปหมด เวินลั่วฉิงมีความสามารถอะไรกันแน่? แม้กระทั่งมู่หรงซือถูก็ช่วยเธอ?
ตอนแรกกู่หยิงหยิงยังคิดว่าตัวเองน่าจะมีความโชคดีอยู่เล็กน้อย แต่เพราะคำพูดนี้ของมู่หรงซือถูทำเอาหายไปหมดเลย
หากแม้กระทั่งมู่หรงซือถูก็ช่วยเธอ งั้นตระกูลกู่ของเธอก็ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ
“เวินลั่วฉิง ฉันไม่สามารถหาเงินมากมายขนาดนั้นมาได้ทีเดียว” น้ำเสียงของกู่หยิงหยิงในตอนที่พูดตำนี้ได้พูดด้วยเสียงที่ต่ำอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งชีวิตนี้เธอมีหน้ามีตามาตลอด นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอเสียหน้า
“บนมือของคุณกู่ทั้งสองมีหุ้นส่วนของบริษัทกู่อยู่ร้อยละยี่สิบไม่ใช่หรอคะ? พวกคุณใช้อันนี้จำนำไว้ก่อนแล้วกัน พวกเราให้เวลาห้าวันในการหาเงิน” ความคิดนี้คุณชายสามเย่เป็นคนคิดออกมา เมื่อกี้คุณชายสามเย่ส่งข้อความบอกกับเธอ
มู่หรงซือถูยิ้มที่ริมฝีปาก สุดยอดมากจริงๆ!!
“เวินลั่วฉิง เธอ?” กู่หยิงหยิงตกใจจนสูดหายใจลึก เวินลั่วฉิงรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง?
หุ้นส่วนในมือของเธอคือหุ้นที่คุณปู่ให้ไว้ตอนที่คุณปู่จากไป เรื่องนี้มีคนรู้ไม่มาก
“คุณกู่ เหลือเวลาอีกห้านาที คุณลองคิดพิจารณาดู” เวินลั่วฉิงมองดูเวลา ยืนชิวๆ อยู่ข้างๆ
“แค่จำนำหรอ?” กู่หยิงหยิงแอบสูดหายใจลึก เธอรู้ว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้เธอไม่มีวิธีอื่น ถ้าหากแค่จำนำ เธอสามารถรับได้
“ฉันไม่มีความสนใจด้านหุ้นส่วนของตระกูลกู่ค่ะ” เวินลั่วฉิงยักคิ้ว นี่คือคำพูดในใจของเธอ เธอไม่มีความสนใจจริงๆ แต่ว่าคุณชายสามเย่สนใจ
“ได้ ฉันตกลง งั้นฉันต้องเขียนหลักฐานอะไรไหม?” กู่หยิงหยิงไม่ได้มีตัวเลือกมากมายในตอนนี้ ไม่สามารถไม่ทำตามได้ แต่ว่าเธอก็ยังแอบคิดในใจว่า พอผ่านจุดนี้ไป คุณพ่อต้องช่วยเธอแก้ปัญหาแน่นอน
“ไม่ต้อง” เวินลั่วฉิงโบกมือกับเธอ “ฉันให้คนเตรียมใบเซ็นสัญญาไว้แล้ว”
“คุณเวิน ใบเซ็นสัญญาที่คุณต้องการครับ” ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้วรีบเดินมา นำเอกสารในมือให้กับเธอ
“นายให้คุณกู่เถอะ ให้คุณกู่เซ็นชื่อก็พอแล้ว” เวินลั่วฉิงไม่ได้รับมา และไม่ได้ดู เรื่องที่เย่ซือเฉินทำ เธอไม่จำเป็นต้องดูอย่างละเอียดจริงๆ
กู่หยิงหยิงกะพริบตา สีหน้ามีความกังวลเพิ่มขึ้น แต่ว่าเมื่อกี้เธอตอบตกลงแล้ว ตอนนี้ก็ไม่สามารถกลับใจได้แล้ว ได้แต่หน้าด้านรับเอกสารมา จากนั้นก็ค่อยๆ ดูทีละแถวอย่างละเอียด
เวินลั่วฉิงเห็นท่าทางของเธอแล้ว ก็แอบยิ้มที่ริมฝีปาก เวินลั่วฉิงสามารถแน่ใจร้อยในร้อยได้เลยว่า ใบเซนต์สัญญาของคุณชายสามเย่ต้องมีปัญหา
แต่ว่าสิ่งที่คุณชายสามเย่สร้างไว้ เธอกู่หยิงหยิงจะมองออก? นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แน่นอน!
กู่หยิงหยิงตั้งใจดูไปสองรอบ ไม่ได้เห็นว่ามีปัญหาอะไร ในทางกลับกันเธอกลับรู้สึกว่าเป็นประโยชน์ต่อเธอ ฉะนั้นจึงหยิบปากกาขึ้นมา เซ็นชื่อของตัวเอง
แน่นอน ใบเซ็นสัญญาเขียนไว้ว่าหุ้นส่วนร้อยละยี่สิบของคุณกู่ทั้งสอง ถึงแม้กู่หลิงหลิงจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่สามารถไม่เซ็นได้
เวินลั่วฉิงนำใบเซ็นสัญญามา ดูชื่อที่พวกเธอเซนต์ไป ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ตัวหนังสือขี้เหร่มาก ดูแล้วก็แทงตา ปั๊มลายนิ้วมือเถอะ”
“เวินลั่วฉิง เธอเกินไปแล้ว” กู่หลิงหลิงในขณะนี้โมโหจนจะกระอักเลือดแล้ว
กู่หยิงหยิงไม่อยากปั๊มลายนิ้วมือ แต่ว่าในตอนที่สบตากับเวินลั่วฉิง ไม่รู้ว่าทำไม ในใจกลับสั่นขึ้นมาทันที จากนั้นก็ไปปั๊มลายนิ้วมือตอนที่สติล่องลอยหายไป
มองดูลายนิ้วมือของทั้งสอง เวินลั่วฉิงจึงจะยิ้มด้วยความพอใจ “พี่หลิว นำกำไลหยกให้คุณกู่”
“ค่ะ” พี่หลิวตอบรับ หยิบกำไลหยกขึ้นมา ยื่นไปข้างหน้าของกู่หยิงหยิง “คุณกู่ คุณลองดูอีกทีค่ะ หากไม่มีปัญหาอะไร ฉันจะห่อให้คุณค่ะ”
กู่หยิงหยิงรับกำไลหยกมา ตอนแรกราคายี่สิบล้าน ตอนนี้เธอกลับออกเงินไปเกือบสองร้อยล้าน เธอไม่พอใจ ฉะนั้นสีหน้าจึงแย่มาก
เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจเธอ หันหลัง แล้วอยากจะเดินจากไป
ในตอนที่กู่หลิงหลิงเห็นเวินลั่วฉิงกำลังจะเดินจากไป แววตาก็ประกายขึ้น ทันใดนั้นก็อยากจะยื่นขาออกมาทำให้เวินลั่วฉิงสะดุดล้ม
เวินลั่วฉิงนั้นถูกการฝึกพิเศษมาก่อน จะถูกคนแบบเธอวางแผนได้หรอ
เวินลั่วฉิงยิ้ม ก้าวขาซ้ายข้ามไปเลย แต่ขาขวากลับหยุดลงกลางคัน จากนั้นก็ยกเท้าของกู่หลิงหลิงขึ้น เดินตรงไปข้างหน้า เวินลั่วฉิงไม่ได้ล้ม แต่กลับนำพาเท้าของกู่หลิงหลิงเดินไปยังข้างหน้าด้วย
กู่หลิงหลิงก็ไม่มีสมองจริงๆ ตอนแรกเวินลั่วฉิงอยู่ไกลจากเธอเล็กน้อย ขาของเธอในขณะนี้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ายื่นออกไปยาวเกิน
พอเวินลั่วฉิงยกขึ้นแบบนี้ ร่างกายของกู่หลิงหลิงก็ไหลไปข้างหน้าตาม ในตอนที่กู่หลิงหลิงสับสนกระวนกระวายก็ไปจับโดนแขนของกู่หยิงหยิงที่อยู่ข้างกายเธอ
กู่หยิงหยิงในขณะนี้กำลังจับกำไลหยกอยู่ พูดตามความจริง กู่หยิงหยิงอยากจะหาร่องรอยบกพร่องบนกำไลหยกนั้น หากเป็นแบบนี้เธอก็ไม่ต้องออกเงินขนาดนั้นแล้ว
กู่หลิงหลิงไปจับเธอกะทันหันแบบนี้ กำไลหยกในมือของเธอก็ตกลงพื้น
หยกคือธาตุที่เปราะบางแตกง่าย ได้ยินเพียงแต่เสียงที่ดังก้อง กำไลหยกราคาเกือบสองร้อยล้านแตกเป็นชิ้นๆ เลย
“แกทำอะไร?” หน้าของกู่หยิงหยิงแย่มาก ถึงขั้นลืมทำตัวเสแสร้ง ตะโกนด่ากู่หลิงหลิงไป
นี่คือกำไลหยกราคาเกือบสองร้อยล้าน!!
มู่หรงซือถูยักคิ้ว เวินลั่วฉิงคำนวณได้ตรงเป๊ะไม่มีเคลื่อนเลย
“ไอ้หยา คุณกู่ช่างรวยจริงๆ ใช้เงินเกือบสองร้อยล้าน ที่แท้ก็เพื่อที่จะได้ยินเสียงดังก้องนี่ คุณกู่ยังอยากฟังอีกไหมคะ ที่ฉันมีหยกอีกมากมาย ถ้าหากคุณกู่ต้องการสามารถลดราคาให้ได้นะคะ รับรองว่าคุณกู่จะฟังจนพอใจแน่นอน” เวินลั่วฉิงยิ้มอย่างเบิกบาน นั่นมันเป็นความเจิดจรัสสวยวิจิตรตระการตา แน่นอนคำพูดคำจานั้นเรียกว่าทำให้คนโมโหเป็นเอาไปได้เลยทีเดียว
กำไลหยกของกู่หยิงหยิงแตกแล้ว สีหน้าที่แย่ไปทั้งหน้าในตอนแรก พอได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้ว ทันใดนั้นภาพข้างหน้าก็มืดไปหมด สลบไปทันที
“ไอ้หยา ฉันลืมไป คุณกู่ไม่เงิน กำไลหยกนี้ยังติดค้างอยู่เลย คุณกู่ติดบัตรเครดิตไว้ก็เพราะว่าอยากจะฟังเสียงดังก้องนี่ สุดยอดมาก สุดยอดมากจริงๆ นับถือ” เวินลั่วฉิงตั้งใจพูดเสริมไปอีก
ผู้คนได้ยินแล้ว ต่างก็อดหัวเราะไม่ได้ กู่หยิงหยิงทั้งกระวนกระวายทั้งโมโหทั้งอาย กำไลหยกนี้แตกแล้ว สำหรับเธอก็ยิ่งไม่มงคลแล้ว
ตอนแรกเธอยังคิดอยู่ว่ายากจะหาหน่วยงานมืออาชีพทำการประเมินราคา พอถึงเวลาเวินลั่วฉิงไม่พอใจก็ไม่มีวิธีอื่น แต่ว่าตอนนี้จบเห่แล้ว