ดูจากรูปการณ์แล้วหรวนซินซินก็ชื่นชอบการจับนังจิ้งจอกมาตบด้วย
ผู้คน“……”
เวินลั่วฉิงกะพริบเบาๆ การอบรมสั่งสอนเด็กด้วยวิธีนี้ เธอเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก เป็นการเปิดหูเป็นตาโดยแท้
เด็กคนนี้โตไปแล้วจะทำตัวเหมือนแม่ของเธอเหรอ ไปตามจับนังจิ้งจอกทุกวันเหรอ?
ยังดีที่จื่อซีของเธอเป็นคนมีมารยาท เชื่อฟัง รู้ความ ไม่ต้องให้เธอเป็นห่วงมาตั้งแต่เด็ก!
บัดนี้เย่ซือเฉินเดินมาถึงข้างกายเวินลั่วฉิงแล้ว ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก ไม่มีช่องว่างแต่อย่างใด ความใกล้ชิดนี้เพียงพอต่อการอธิบายทุกสิ่งอย่างแล้ว
ยามนี้ถังจื่อซียืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาสองคนพอดี มองดูภาพนี้แล้วช่างวิจิตรตระการตานัก
เห้อถงถงเห็นภาพนี้แล้ว ดวงตาพลันสว่างเจิดจ้า ครอบครัวนี้ยืนอยู่ด้วยกันช่างมีความสุขยิ่งนัก ดูแล้วเหมาะสม สวยงาม ดึงดูดสายตามาก
“คุณมาได้ยังไง?”คุณชายสามเย่เอื้อมมือไปโอบเอวของเวินลั่วฉิงอย่างเป็นธรรมชาติ ดวงตาทั้งคู่จ้องมองเธอด้วยใบหน้าอ่อนโยนที่มาพร้อมกับรอยยิ้ม
อากัปกิริยานี้ดูแล้วเหมือนอ่อนโยนกว่าตอนมองถังจื่อซีหลายส่วน
ผู้คน“……”
นี่คือคุณชายสามเย่ที่พวกเขารู้จักหรือ?
“จะซื้อของเหรอ?ผมไปซื้อเป็นเพื่อน”หลังเวินลั่วฉิงปรากฏตัว สายตาของคุณชายสามเย่ก็มีเพียงเวินลั่วฉิงเท่านั้น นึกถึงหลักการที่ผู้ชายยอมจ่ายเงินให้ผู้หญิงที่เธอเพิ่งพูดหมาดๆ ตอนนี้คุณชายสามเย่จึงอยากไปช้อปปิ้งเป็นเพื่อนเธอ
อยากได้อะไรก็ซื้อเลย……
เลขาหลิว“……”
ท่านประธานที่เคารพ คุณยังมีเรื่องที่สำคัญมาก การประชุมผ่านวิดีโอคอลที่สำคัญมาก ซึ่งใกล้จะถึงเวลานัดหมายแล้ว
อีกอย่าง ที่นี่คือห้างสรรพสินค้าของท่านประธานเอง ยังต้องซื้ออีกเหรอ?ท่านประธานน่าจะพูดว่าอยากได้อะไรก็เอาไปเลยมากกว่า?
ท่านประธาน วิธีการครองใจสาวยังด้อยชั้นเชิงอีกนิดหนึ่งนะ!!
ผู้คน“……”
นี่มันอะไรกัน?ไม่ใช่บอกว่าคุณชายสามเย่เปลี่ยนใจไปรักคนอื่นแล้วเหรอ?
ที่พูดไว้ว่าเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นคือ?!
ตอนนี้มาพลอดรักกันที่นี่ จะทำให้คนอื่นเหม็นความรักตายหรอกหรือ?
ถังจื่อซีเบะปาก หลังจากคุณแม่ปรากฏตัว คุณพ่อก็ไม่มองเธออีกเลย เธอรู้สึกเสียใจมาก ทรมานมาก!!
ทำไมพ่อถึงเป็นอย่างนี้?
เธอรู้ว่าคุณพ่อรักคุณแม่ แต่อย่างน้อยๆคุณพ่อก็ควรมองเธอสักแวบหนึ่งหรือเปล่า อย่างน้อยก็ไม่ลืมการมีอยู่ของเธอ
อันที่จริงคุณชายสามเย่สนใจเด็กน้อยถังจื่อซี เขาชอบเด็กน้อยถังจื่อซีจริงๆ แต่ถึงจะชอบอย่างไรก็ไม่มีความหมาย
ไม่ใช่ของเขา ไม่ใช่ผู้หญิงของเธอเป็นคนคลอด ดังนั้นความคิดบางอย่างเขาจำเป็นต้องตัดทิ้ง
เขานึกถึงเรื่องเวินลั่วฉิงมีบุตรไม่ได้ เขาเกรงว่าการแสดงออกของเขาจะทำให้เวินลั่วฉิงทุกข์ใจ ดังนั้นเขาจึงพยายามห่างจากเด็กน้อยถังจื่อซีเข้าไว้
“แด๊ดดี้ไม่สนใจหนูแล้วเหรอ?”เด็กน้อยถังจื่อซีเงยหน้ามองเย่ซือเฉิน บัดนี้เธอรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย คุณพ่อเมินเฉยใส่เธอ เธอรู้สึกเสียใจจริงๆ
หรือคุณพ่อไม่เคยคำนึกถึงหัวใจดวงน้อยๆที่อ่อนแอของเธอบ้างเลย
อืม หัวใจของเธอมันบอบบางมาก!!
คุณชายสามเย่ชะงัก เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าเวลานี้เด็กน้อยถังจื่อซีจะเรียกเขาว่าแด๊ดดี้อีกครั้ง หลังจากแม่ของเธอมาถึง เธอก็ไม่ได้เรียกเขาว่าแด๊ดดี้อีกแล้วนี่นา
คุณชายสามเย่คิดว่าเด็กน้อยถังจื่อซีคงรู้ตัวว่าเรียกผิดคนแล้ว รู้ว่าเขาไม่ใช่พ่อของเธอแล้ว เหนือความคาดหมาย บัดนี้เด็กน้อยถังจื่อซียังคงเรียกเขาว่าแด๊ดดี้ต่อหน้าเวินลั่วฉิง!!
การตอบสนองแรกของคุณชายสามเย่คืออยากอธิบายความจริงที่เขารู้ให้กับถังจื่อซี แต่เมื่อสบตากับแววตาที่ตั้งความหวังอย่างรู้สึกโดนทอดทิ้ง ทันใดนั้นเขาก็ไม่อาจทำใจพูดออกมาได้
เวินลั่วฉิง“……”
ลูกรักจื่อซีเป็นอะไรกัน?
เวินลั่วฉิงมองถังจื่อซี แต่ไม่ได้พูดอะไร เมื่อสักครู่เธอเห็นถังจื่อโม่แล้ว ดังนั้นเธอรู้ว่าทุกอย่างนี้เป็นแผนของถังจื่อซี เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าถังจื่อโม่วางแผนเช่นไร?
ฉะนั้น ณ ตอนนี้เธอไม่ได้พูด เธอแค่มองหน้าถังจื่อซี
“ฉิงฉิง คุณอย่าเข้าใจผิด เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกผม”คุณชายสามเย่เห็นเวินลั่วฉิงมองแต่ถังจื่อซีตลอด กังวลว่าเวินลั่วฉิงจะเข้าใจผิด เขาเลยอธิบายให้เวินลั่วฉิงฟังใกล้ๆ
แม่ของเด็กคนนี้มาแล้ว ซึ่งเขาไม่รู้จักแม่ของเด็กคนนี้เลย ดังนั้นเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกสาวของเธอ
ถึงแม้เขาจะชอบเด็กน้อยถังจื่อซีมากจริงๆ แต่เขาปล่อยให้ผู้หญิงของเขาเข้าใจผิดไม่ได้!!!
ถังจื่อซีได้ยินคำอธิบายของคุณชายสามเย่ ใบหน้าอันเล็กๆของเธอก็บิดเบี้ยว จ้องมองคุณชายสามเย่อย่างเคืองใจ
กระจกหัวใจอันบอบบางของเธอแตกแล้ว แตกสลายหมดสิ้นแล้ว!!
คุณพ่อเกินไปแล้ว!!
เชอะ เธอตัดสินใจไม่แยแสคุณพ่ออีก!!!
คุณชายสามเย่สบตาเข้ากับแววตาโกรธเคืองของถังจื่อซี จึงเอามือแตะจมูกด้วยจิตใต้สำนึก
เด็กน้อยถังจื่อซีมองเขาเช่นนี้ เขารู้สึกเหมือนตัวเองทำเรื่องผิดมหันต์ที่ไม่อาจให้อภัยได้อย่างไรอย่างนั้น
แต่ เขาไม่ได้ทำนี่นา!!
เวินลั่วฉิงก็รีบหันไปมองคุณชายสามเย่ ดวงตาเวินลั่วฉิงหรี่ขึ้น เขาพูดอะไรนะ?เขาบอกว่าถังจื่อซีไม่ใช่ลูกสาวของเขา?
เขากล้าพูดอีกรอบไหม?
ไม่ใช่ของเขา แล้วขอถามหน่อยว่าเป็นของใคร?
มุมปากเห้อถงถงกระตุกด้วยความอยากหัวเราะ แต่เธอยังคงอดกลั้นเอาไว้
คุณชายสามเย่วอนหาที่ตาย แม้แต่สวรรค์ก็ช่วยคุณไม่ได้แล้ว จริงๆนะ!!
“ฉิงฉิง คนนี้คือแม่ของเด็ก คุณให้เธอบอกคุณเองสิ”คุณชายสามเย่ชี้ไปยังเห้อถงถง บัดนี้คุณชายสามเย่อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ฝ่ายถังจื่อซีก็ทำหน้าโกรธเคืองอยู่
อีกฝ่ายหนึ่งอย่างเวินลั่วฉิงก็มีใบหน้าโกรธด้วยเหมือนกัน
อืม เขาดูออกว่าตอนนี้เวินลั่วฉิงโกรธจริงๆ คาดว่าคงเข้าใจผิดแล้วจริงๆ
คุณชายสามเย่เคยคิดว่าถังจื่อซีคือลูกของเวินลั่วฉิง แต่เวินลั่วฉิงมาถึง ถังจื่อซีก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ ดูจากการตอบสนองของถังจื่อซีแล้วเธอไม่รู้จักเวินลั่วฉิงเลย
การตอบสนองของเด็กอายุห้าขวบนั้นเป็นจริงที่สุด ไม่อาจเจืออย่างอื่นไว้ได้
คุณชายสามเย่คิดว่าเห้อถงถงอยู่ต่อหน้าเขา คงไม่กล้าพูดจาเหลวไหล แน่นอนดวงตาคุณชายสามเย่ยังมองเห้อถงถงแวบหนึ่ง ซึ่งแววตาของคุณชายสามเย่เตือนเห้อถงถงว่าห้ามพูดจาเรื่อยเปื่อย
เห้อถงถงได้ยินคุณชายสามเย่พูดก็ชะงัก ดวงตาของเธอกะพริบอย่างรวดเร็ว พลางมองคุณชายสามเย่ด้วยอาการเก็บซ่อนรอยยิ้ม พร้อมกับพูดอย่างจงใจว่า “คุณชายสามเย่ เธอคือลูกสาวของคุณ คุณเป็นพ่อของเด็ก ทำไม?คุณไม่คิดจะยอมรับอย่างนั้นหรือ?คุณทำอย่างนี้จะส่งผลกระทบทางจิตใจกับลูกสาวคุณได้นะ”
บัดนี้เห้อถงถงไม่กลัวเรื่องจะบานปลายใหญ่โต!
ใช่ เธอจงใจพูดเช่นนี้ เย่ซือเฉินถังกับจ้องตาถลึงใส่เธอ ข่มขู่เธอ ปกติเธอก็ต้องกลัวคุณชายสามเย่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้เธอมีกระบี่ป้องกันภัย อีกทั้งยังมีถึงสอง แล้วเธอจะกลัวอะไร?
คำพูดในตอนนี้ของเห้อถงถงง่ายต่อการทำให้คนเข้าใจผิด ทุกคนฟังแล้วต่างเข้าใจว่า ความหมายของเห้อถงถงคือลูกสาวของเธอก็คือลูกของคุณชายสามเย่