ครั้งก่อนได้เปิดหูเปิดตาเห็นความสามารถในการดื่มของเจ้าชายน้อยแล้ว มา คืนนี้พวกเรามาดื่มด้วยกัน ผมจะดื่มเป็นเพื่อนเจ้าชายน้อยให้ดีที่สุด ต้องทำให้เจ้าชายน้อยสนุกสนามเต็มที่ก่อนกลับ”วันนี้ใบหน้าของหยวนจุนหลินไม่ได้ประดับรอยยิ้มที่สุภาพเฉกเช่นปกติแล้ว เขาแค่ไม่เขียนคำว่าอารมณ์เสียลงบนใบหน้าแล้ว
หากเป็นคนอื่น หรือหากเป็นหยวนจุนหลินที่สุภาพในยามปกติ หลินเป้ยอาจจะปฏิเสธ แต่วันนี้หยวนจุนหลินมีสภาพเช่นนี้ จะให้เธอปฏิเสธได้อย่างไร
เห็นได้ชัดว่าหยวนจุนหลินก็ไม่ให้เจ้าชายน้อยมีโอกาสปฏิเสธเลย
หยวนจุนหลินสั่งให้บริกรยกเบียร์มาสิบลัง!!
ใช่ คุณไม่ได้ฟังผิด เบียร์สิบลัง
“คุณหยวนเป็นอะไรไป?”เจ้าชายใหญ่เห็นอย่างนี้ก็รู้สึกมึนงง ตลอดหลายวันที่ผ่านมาหยวนจุนหลินให้ความรู้สึกเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ฉลาดและสุขุม ทำไมวันนี้กลับเปลี่ยนไปได้ล่ะ?
เหมือนโดนกระทบกระเทือนจิตใจอะไรบางอย่าง!
สายตาของหลินเป้ยรีบไปจับอยู่ที่ถังหลิน เธอสงสัยว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของถังหลิน ไม่เช่นนั้นอยู่ดีๆทำไมหยวนจุนหลินต้องมาดื่มแข่งกับเธอด้วย
ตลอดหลายวันที่อยู่ร่วมกัน เธอในสายตาหยวนจุนหลินแล้วเรียกได้ว่ามีไม่มีก็ได้ หยวนจุนหลินไม่ได้ให้ความสนใจเธอเท่าใดนัก
ทำไมวันนี้จู่ๆก็‘ให้ความสำคัญ’เธอขึ้นมา?
เรื่องนี้ไม่ใช่แผนร้ายของถังหลินหรือ?
“เขาอกหัก”ถังหลินเงยหน้ามองหลินเป้ยที่มองมาทางเขา พลางตอบอย่างเป็นธรรมชาติหนึ่งประโยค
เขาพูดเรื่องจริง หยวนจุนหลินอกหัก รักข้างเดียวก็ยังถือว่ารัก
“อก?อกหัก?”เจ้าชายใหญ่สูดลมหายใจเข้าแรงๆ:“มิน่าล่ะ”
เจ้าชายใหญ่แสดงท่าทีเข้าใจเป็นอย่างมาก
หลินเป้ยได้ยินสิ่งที่ถังหลินกล่าว จากนั้นก็ดูสภาพหยวนจุนหลิน ดวงตาเธอกะพริบรัวๆอย่างรวดเร็ว หรือว่าเธอทายผิด?
หยวนจุนหลินเหมือนคนอกหักจริงๆ หรือว่าหยวนจุนหลินอกหัก อารมณ์ไม่ดี ดังนั้นจึงชวนเธอดื่ม?
หรือว่าไม่เกี่ยวข้องกับถังหลินจริงๆ?
ถ้าเป็นเช่นนี้ เธอก็ยิ่งปฏิเสธไม่ได้แล้วล่ะ
หยวนจุนหลินให้บริกรเปิดฝาขวดเบียร์ออกหนึ่งลังแล้ว จากนั้นก็วางไว้ที่โต๊ะ หยวนจุนหลินเอามาหลายขวด จากนั้นก็วางตรงหน้าหลินเป้ย:“มา เจ้าชายน้อย ดื่ม คืนนี้ พวกเราไม่เมาไม่เลิก”
“วันนี้คุณหยวนอารมณ์ไม่ดี น้องดื่มเป็นเพื่อนเขาเถอะ น้องดื่มเก่งอยู่แล้วนี่”เจ้าชายใหญ่เห็นท่าทางของหยวนจุนหลินก็เปิดปากพูดทันที
หลินเป้ย:“……”
เขา เป็นพี่ชายแท้ของเธอจริงหรือ?เธอตีสินค้ากลับได้ไหม?
หลินเป้ยมองเบียร์ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเธอพลันแอบถอนหายใจ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอคงปฏิเสธไม่ได้ ต้องดื่มแล้วล่ะ
หยวนจุนหลินอารมณ์ไม่ดีจริงๆ ดังนั้นเขาดื่มแข่งจริงๆ เทเบียร์ใส่ปากเป็นขวดๆเลย
หลินเป้ยเห็นท่าทางของเขาก็รู้สึกสลดใจ
ทำไมคนซวยต้องเป็นเธอทุกครั้งด้วย?
หยวนจุนหลินอกหักแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ?ทำไมต้องให้เธอดื่มเป็นเพื่อนด้วย?
และเธอก็ดันปฏิเสธไม่ได้เสียด้วย?
อีกอย่าง ดื่มเบียร์ก็ดื่มสิ ทำไมต้องเททีละเป็นขวดๆด้วย ปกติเธอเป็นคนคอแข็งก็จริง แต่เธอไม่ถนัดดื่มแบบนี้ ดื่มเร็วอย่างนี้เธอจะเมาได้ง่ายเร็วขึ้น แถมเธอยังไม่ถนัดดื่มเบียร์อีกต่างหาก
เบียร์ไหลลงสู่ท้องทีละขวด หลินเป้ยเริ่มรู้สึกมึนหัว เธอรู้สึกว่าเธอเมาเล็กน้อย อีกอย่างดื่มเยอะแล้ว หลินเป้ยก็ปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำ
ก่อนหน้านี้ถังหลินพูดถูก ดื่มเบียร์เยอะ จะทำให้ฉี่เยอะ
นี่เป็นเป้าหมายของถังหลินอยู่แล้ว
หลินเป้ยกลั้นฉี่ไม่ไหว จึงลุกขึ้นไปที่ห้องน้ำ
ดวงตาถังหลินเปล่งประกายวาววับ ยกมุมปากโค้งขึ้น รอให้หลินเป้ยเดินออกไปแล้ว ถังหลินก็ยืนขึ้นด้วย
ถังหลินลุกขึ้นก็เดินไปยังห้องน้ำทันที ครั้งนี้เขาจะดูสิว่าหลินเป้ยจะซ่อนเร้นอย่างไร……
เห็นได้ชัดว่าถังหลินคิดจะไปจับคนที่ห้องน้ำ!!
ไม่ชมไม่ได้แล้วว่า ถังหลินเป็นคนใจดำอำมหิตจริงๆ
วิธีการอย่างนี้ คงไม่มีใครอื่นคิดได้แล้ว!!
ถังหลินไม่ได้เดินเร็ว เขาเดินอย่างเชื่องช้า ตรงมุมเลี้ยว เขาเห็นหลินเป้ยจากที่ไม่ไกลนักพอดี
หลินเป้ยก็ไม่ได้เดินเร็ว ตอนที่เธอเดินมาถึงห้องน้ำหญิง ฝีเท้าเธอก็ช้าลงเล็กน้อย สายตาของเธอยังมองห้องน้ำหญิงด้วยจิตใต้สำนึกแวบหนึ่ง แต่เธอไม่ได้หยุด หากแต่เดินต่อไปด้านหน้าแทน
ถังหลินเห็นท่าทางของเธอ มุมปากพลันยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ผู้ชายทั่วไปจะไม่ลดความเร็วเมื่อผ่านห้องน้ำหญิงเด็ดขาด ยิ่งไม่มีทางไปมองอย่างเจาะจงแวบหนึ่งเด็ดขาด
ถังหลินยืนอยู่ตรงมุมเลี้ยว ไม่ได้เดินเข้าไปหาทันทีทันใด เขาจำเป็นต้องรอโอกาสที่เหมาะสมก่อน
ระยะห่างระหว่างห้องน้ำหญิงกับห้องน้ำชายไม่ไกลมากนัก หลินเป้ยมุ่งหน้าเดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงห้องน้ำชายแล้ว
หลินเป้ยหยุดเดินอยู่ด้านหน้าห้องน้ำชาย พลางเงยหน้ามองแวบหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจหนึ่งเฮือก จากนั้นหลินเป้ยก็รีบหันไปมองทั้งสองด้าน
ถังหลินที่ยืนอยู่ตรงมุมเลี้ยวเห็นการกระทำของหลินเป้ย จึงถอยหลังหนึ่งก้าว หลบการมองเห็นของหลินเป้ย
ถังหลินยืนยกมุมปากขึ้นอยู่ตรงนั้น เมื่อกี้หลินเป้ยดื่มเบียร์เยอะมาก อั้นฉี่ไว้ตั้งนานแล้ว หากเป็นเหตุการณ์ปกติ จะต้องรีบผลักประตูเดินเข้าไป จะมัวเหลียวซ้ายแลขวาอยู่หน้าประตูได้อย่างไร?
ดังนั้น หลินเป้ยมีพิรุธจริงๆ แถมยังใหญ่ไม่เบาอีกด้วย!
หลินเป้ยมองดูหนึ่งรอบ พบว่าไร้ผู้คน จากนั้นจึงลองผลักประตูห้องน้ำชาย
ซึ่งปกติเธอไม่ค่อยเข้าห้องน้ำด้านนอก แต่ครั้งนี้อั้นไม่ไหวแล้วจริงๆ
ก่อนหน้านี้เธอก็คิดจะไปเข้าให้ห้องพักที่ชั้นแปด แต่เธอกลัวจะยิ่งทำให้ถังหลินสงสัยมากขึ้น อีกทั้งงานเลี้ยงยังไม่เลิก จึงไม่ค่อยเหมาะสมที่เธอจะกลับเข้าห้องในเวลานี้
เธอไม่กล้าเข้าห้องน้ำหญิง เพราะตอนนี้เธอแต่งตัวเป็นผู้ชาย ในสายตาคนนอกเธอก็คือผู้ชายคนหนึ่ง
ดังนั้น เธอจึงได้แต่มาที่ห้องน้ำชาย
หลินเป้ยคิดว่าที่นี่คือโรงแรมกั๋วซิน คนไม่ค่อยเยอะ เธอภาวนาว่าตอนนี้อย่าได้มีคนอื่นอยู่ในห้องน้ำเลย
แต่ก็ไม่เป็นดั่งใจหมาย ในห้องน้ำมีผู้ชายสองคนกำลังปัสสาวะอยู่พอดี
หลินเป้ยผลักประตูเข้าไปก็เห็นผู้ชายสองคนนั้นกำลังปัสสาวะอยู่ ถึงแม้ตอนนี้ชายสองคนนี้จะหันหลังให้เธอ อันที่จริงเธอมองไม่เห็นอะไรเลย แต่เธอก็ยังรีบเบนสายตาไปอีกข้าง จากนั้นใบหน้าเหมือนมีเพลิงไฟมาแผดเผาอย่างไรอย่างนั้น
เดิมทีหลินเป้ยก็ดื่มเบียร์ไม่น้อยอยู่แล้ว ทำให้ใบหน้าแดงอยู่แล้วเล็กน้อย เวลานี้ยิ่งทำให้ใบหน้าเธอแดงมากขึ้น
หลินเป้ยรีบเดินไปด้านในหลายก้าว จากนั้นก็เห็นมีห้องว่างอยู่หนึ่งห้อง จึงรีบผลักประตูเข้าไป
ซึ่งในเวลานี้ ชายหนึ่งในนั้นคนหนึ่งเสร็จธุระแล้วพลันหันกลับมา และเห็นหลินเป้ยหน้าแดงระเรื่อ เขาก็อึ้ง:“เป็นไรเหรอสหาย?ทำไมหน้าแดงขนาดนี้?อายอะไร?มีอะไรไม่เคยเห็นมาก่อนหรือ?มีอะไรน่าอายเหรอ?