ทว่าฟังจากน้ำเสียงแล้วยังไม่รู้เรื่องนี้?
เย่ซือเฉินช่วยถังจื่อโม่จ่ายค่าประมูลแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าถังจื่อโม่เป็นลูกชายของเขาหรือ?
งั้นเย่ซือเฉินก็ยังไม่ได้เจอหน้าถังจื่อโม่สินะ?
เธอเชื่อว่าด้วยความสามารถของเย่ซือเฉิน หากได้เจอหน้าถังจื่อโม่ ตอนนี้คงรู้แล้ว
เมื่อฟังจากน้ำเสียงของเย่ซือเฉินก็รู้ว่ายังไม่รู้สถานะของถังจื่อโม่อย่างฉายชัด!!
ดังนั้นสองพ่อลูกยังไม่ได้เจอหน้ากันอย่างเป็นทางการ?!
ดังนั้นถึงตอนนี้เย่ซือเฉินยังคงไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น?!
ในเมื่อเย่ซือเฉินยังไม่รู้อะไร แล้วเขาโทรหาเธอตอนนี้หมายความว่าอย่างไร?
เวินลั่วฉิงเป็นคนฉลาดเฉลียว แค่คิดก็รู้ว่า จุดประสงค์ที่เย่ซือเฉินโทรหาเธอก็เพื่อจงใจกล่าวร้ายถังจื่อโม่!!
เฮ้อ คุณชายสามเย่ไม่กล่าวร้ายคนอื่น แต่ดันว่าร้ายลูกชายแท้ๆของเธอซะงั้น
แน่นอน ยังเป็นลูกชายแท้ๆของเขาอีกด้วย
เวินลั่วฉิงกระตุกมุมปากยิ้มอย่างอดใจไม่ได้“คุณจ่ายเงินแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เย่ซือเฉิน“……”
ทันใดนั้นเขารู้สึกอัดอั้นตันใจจนทรมานร้อยเท่าพันทวี!!
เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเป็นธรรมชาติ ทำให้เขาหดหู่เจียนจะตายอยู่แล้ว!
หากรู้แต่แรก เมื่อสักครู่เขาก็ไม่น่าจะช่วยจ่ายเงิน ปล่อยให้สมาคมประมูลหงเยว่จับตัวไอ้เด็กถังจื่อโม่ให้รู้แล้วรู้รอดจะดีกว่า
ให้เด็กเมื่อวานซืนอย่างถังจื่อโม่ลิ้มลองวิธีการของสมาคมประมูลหงเยว่เสียบ้าง
ใช่ ก่อนหน้านี้เขาควรทำเช่นนี้ ทำไมเขาต้องมือบอนไปช่วยถังจื่อโม่จ่ายเงินด้วย?
“หากรู้แต่แรกผมก็ไม่ช่วยเขาจ่ายเงินแล้ว ให้เขาลิ้มลองวิธีการของสมาคมประมูลหงเยว่” คุณชายสามเย่รู้สึกหดหู่ใจ จึงกลั้นคำพูดไว้ในใจไม่ได้ ใช่ นี่คือความในใจของเขา ณ ขณะนี้ ไม่มีจริงแท้อย่างจริงใจไปกว่านี้อีกแล้ว!!
เวินลั่วฉิง“……”
อีกฝั่งหนึ่งของสาย เวินลั่วฉิงได้ยินถ้อยคำของคุณชายสามเย่พลันชะงักไปสองวินาที จากนั้นก็กระตุกมุมปากเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าเวลานี้คุณชายสามเย่เหมือนเด็กไม่มีผิดเพี้ยน
“หากทำจริงๆคุณต้องเสียใจภายหลังแน่”เวินลั่วฉิงอดหัวเราะไม่ได้ นั่นมันลูกชายแท้ๆของเขา หากเขาทิ้งลูกชายแท้ๆไว้ที่สมาคมประมูลหงเยว่ ให้ลูกชายแท้ๆลิ้มลองวิธีการของสมาคมประมูลหงเยว่?
ถึงเวลาเขาต้องเสียใจภายหลังเป็นแน่!
“ผมเสียใจ?ทำไมผมต้องเสียใจด้วย?”อารมณ์คุณชายสามเย่พลุ่งพล่าน ชั่วอึดใจเดียวระดับเสียงพลันสูงขึ้นหลายส่วนอย่างเด่นชัด “ทำไม คุณปกป้องเขาอย่างนี้?ทำไม?หรือว่าเพื่อเขาแล้วคุณจะแตกคอกับผมเหรอ?”
ระหว่างที่คุณชายสามเย่ถามประโยคนี้ หัวใจของเขาก็เต้นตึกตัก เวลานี้หัวใจเขารู้สึกตึงเครียดมากและกังวลมาก เขากลัวคำตอบของเธอ กลัวว่าคำตอบเธอจะเป็นการปกป้องถังจื่อโม่
เขารู้สึกว่าหากเป็นอย่างนั้น เขาต้องบ้าแน่ๆ
เลขาหลิวได้ยินเสียงท่านประธานของตัวเองก็ตกใจจนตัวสั่นเทิ้ม ท่านประธานน่าขยาดกลัวมาก เขาเกือบจับพวงมาลัยรถไม่ไหวแล้ว
กระทั่งกู้หวูก็อดสั่นสะท้านไม่ได้ ลูกพี่โกรธจนบ้าไปแล้วใช่ไหม?
“มีความเป็นไปได้”อีกฝั่งหนึ่งของสายเวินลั่วฉิงใคร่ครวญดูแล้ว จากนั้นก็ตอบอย่างจริงจัง จื่อโม่สุดที่รักเป็นลูกชายแท้ๆของเธอไม่มีใครมาแทนจื่อโม่สุดที่รักในหัวใจเธอได้
หากเย่ซือเฉินทำเรื่องเกินอภัยลูกชายของเธอจริงๆ มีความเป็นไปได้ที่เธออาจจะแตกคอกันเย่ซือเฉินจริงๆ
แน่นอน ประโยคนี้ของเวินลั่วฉิงโดยรวมเป็นแค่การหยอกล้อ บัดนี้มีระหว่างสาย หากแต่เธอยังคงสามารถรับรู้ถึงแรงโกรธของเย่ซือเฉินได้
บอกตามตรง ตั้งแต่ที่เธอรู้จักเย่ซือเฉินมา เป็นครั้งแรกที่เขาโกรธมากขนาดนี้ เธอรู้สึกว่าครั้งแรกที่เธอเจอหน้าเย่ซือเฉินในโรงแรมแล้วเอาเย่ซือเฉิน ตอนนั้นเย่ซือเฉินยังไม่ได้โกรธมากขนาดนี้เลย
เด็กน้อยถังจื่อโม่ทำให้เย่ซือเฉินโกรธปานนี้ได้ นับว่ายอดเยี่ยมเสียจริง
เพียงแต่เย่ซือเฉินที่ปกติเป็นคนใจเย็นสุขุม แหลมคมกว่าจิ้งจอก หรือยังไม่รับรู้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลอีกเหรอ?
ตอนนี้เธอตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะอยู่กับเขา ในเมื่อเธอตัดสินใจเช่นนี้แล้ว งั้นเธอก็ตั้งซื่อสัตย์ต่อเขา ไม่มีทางเกิดความรู้สึกกับชายอื่นเด็ดขาด
ทว่าเมื่อเขาพบเจอถังจื่อโม่ก็ราวกับคลุ้มคลั่ง เขาไม่ได้ไตร่ตรองดีๆก็โทรมาฟ้องเธอเสียแล้ว
อันที่จริงเขาไม่เพียงแต่ฟ้องเท่านั้น ยิ่งสงสัยในตัวเธอ สงสัยในความรักที่เธอมีให้กับเขา สงสัยความซื่อสัตย์ที่เธอมีต่อเขา
พูดอีกแง่หนึ่งก็คือ เขาไม่เชื่อใจเธอ!
สำหรับจุดนี้ เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าจำเป็นต้องให้เขากระจ่าง ปล่อยให้เขาสงสัยต่อไปไม่ได้
ดังนั้น บัดนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้อธิบายให้มากความ เธอจะให้เขากระจ่างเองและจะให้เขาเข้าใจความเรื่องราวด้วยตัวเอง
แน่นอนสาเหตุที่เวินลั่วฉิงไม่ได้อธิบายก็ยังคงเป็นเพราะถังจื่อโม่ด้วย
คืนนี้ถังจื่อโม่ไปยังสมาคมประมูลหงเยว่ทำให้เย่ซือเฉินช่วยจ่ายเงินได้ ทว่าสุดท้ายกลับไม่ได้เจอหน้ากับเย่ซือเฉิน ถังจื่อโม่ไม่ได้ทำความรู้จักับเย่ซือเฉิน เวลานี้เธอก็ตัดสินใจแทนถังจื่อโม่เองไม่ได้
ฉะนั้น เรื่องอื่นต้องรอให้ถังจื่อโม่กลับมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ถึงตอนนี้เธอยังไม่รู้รายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นในสมาคมประมูลหงเยว่
คุณชายสามเย่ได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงพลันชะงัก ดวงตาทั้งคู่เบิกกว้าง กำมือถือแน่นขึ้น ชั่วพริบตานั้นกระทั่งเสียงหายใจยังแรงกล้าขึ้นมาก
คุณชายสามเย่สูดลมหายใจเข้าออกหลายๆครั้ง พยายามให้ตัวเองสงบลง เขาแอบขบฟัน ถามอีกครั้งอย่างไม่ตายใจ “ความหมายของคุณก็คือ คุณอาจจะแตกคอกับผมเพราะเขา?”
วินาทีนี้ น้ำเสียงของคุณชายสามเย่สั่นเทาหลายส่วน ระหว่างที่เขาพูดประโยคนี้ ดวงตาทอรังสีเพลิงโกรธขึ้นมาอย่างเต็มเปี่ยม
เลขาหลิวที่ขับรถอยู่ด้านหน้าตกใจกลัวจนไม่กล้าขยับ แม้กระทั่งหายใจแรงๆก็ไม่กล้า มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
เขารู้สึกว่าประธานกินคนได้ทุกเมื่อ
กู้หวูขยับกายไปติดข้างหน้าต่างรถ จนทั้งร่างแนบติดกับบานประตูรถเสียแล้ว ตอนนี้เขาอยากกระโดดลงจากรถเหลือเกิน เขายอมกระโดดลงจากรถก็ไม่ยินดีอยู่กับลูกพี่ในยามนี้
เพราะ ณ ขณะนี้ ลูกพี่เขาช่างน่ากลัวเสียจริง น่ากลัวมากๆ!!
“เย่ซือเฉิน คุณคิดดูอย่างใจเย็นๆหน่อยได้ไหม”เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก มีความเบื่อหน่ายเล็กน้อย จากที่ปกติเป็นคนใจเย็นปานนั้น ฉลาดปราดเปรื่องปานนั้น ทำไมทุกครั้งที่เจอเหตุการณ์ทางด้านี้กลับกลายเป็นคนละคน
เอะอะก็ชอบหึง ชอบหึงในสถานการณ์ธรรมดาก็แล้วไป แต่นี่ตอนนี้เขาหึงกับลูกชายตัวเองอยู่?
เขาจะปัญญาอ่อนกว่านี้ได้อีกไหม?!
ในสมองของเขาตอนนี้นอกจากหึงหวงแล้วคงไม่มีอย่างอื่น?
“ใจเย็น?คุณให้ผมใจเย็นตอนนี้?”คุณชายสามเย่หัวเราะกะทันหัน แน่นอนว่าเป็นหัวเราะที่เกิดจากความโกรธ เธอปกป้องถังจื่อโม่ท่าเดียว เธอยังให้เขาใจเย็นอีก?!
สถานการณ์อย่างนี้ เขาจะใจเย็นได้ยังไงไหว?
หากเวลานี้เขายังใจเย็นได้ เขาก็ไม่ใช่ผู้ชายปกติแล้ว
“คุณปกป้องไอ้แมงดาขนาดนี้เลยเหรอ?ไอ้หน้าขาวทำเรื่องอย่างนั้น คุณยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่สมควรกระทำ?คุณรู้สึกว่าเขาไม่ได้ผิด?”ปกติคุณชายสามเย่จะเป็นคนใจเย็นสุดๆ ทว่าเวลาที่ผู้ชายหึงขึ้นมาจะไร้สติปัญญาอย่างสิ้นเชิง บัดนี้หน้าอกคุณชายสามเย่อัดแน่นไปด้วยความโกรธ หากเขาไม่พูดออกมา เขาคงต้องคับใจตายเป็นแน่ เขารู้สึกว่าตัวเองใกล้บ้าเต็มทนแล้ว!
เวินลั่วฉิง“……”
เมื่อครู่เย่ซือเฉินพูดอะไรนะ?
ไอ้แมงดา?เขาว่าลูกชายตัวเองเป็นแมงดา?!