ซือถูมู่หรงเห็นหลิวหยิงไม่มีทีท่าจะพูด ยกมุมปากขึ้นแล้วยิ้มด้วยความเย็นยะเยือก ทำไม? เธอร้อนตัวขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่กล้าพูดต่อหน้าเขา?
“หลิวหยิง เธอได้ยินไหม?” ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้ยินหลิวหยิงตอบ จึงอดไม่ได้ที่จะถาม ฟังออกว่า น้ำเสียงของไป๋ยี่รุ่ยมีความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด
“ได้ยินๆ” หลิวหยิงได้ยินเสียงของไป๋ยี่รุ่ยที่เป็นกังวล จึงทำได้เพียงตอบกลับไปสั้นๆ
รอยยิ้มเย็นยะเยือกของซือถูมู่หรงชัดเจนมากยิ่งขึ้น ดวงตาของเขายิ่งเยือกเย็น
เยี่ยมจริงๆ ผู้ชายคนนั้นแค่แสดงความเป็นห่วง เธอก็ร้อนใจแล้ว ปวดใจหรือไง?
รีบร้อนตอบขนาดนี้ เพื่อที่ผู้ชายคนนั้นจะได้วางใจ
ไป๋ยี่รุ่ยได้ยินคำตอบของหลิวหยิง โล่งอกอย่างเห็นได้ชัด เขาลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นพูดเสียงเบา:“หลิวหยิง คุณมาหาผมได้ไหม? ผมบอกที่อยู่ให้คุณ……”
ไป๋ยี่รุ่ยรีบบอกที่อยู่ของวิลล่าออกไป นี่เป็นวิลล่าของไป๋หยิง เขารู้ดี
ไป๋ยี่รุ่ยไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมอยู่ดีๆไป๋หยิงถึงรับเขาออกมาจากโรงพยาบาลแล้วพามาขังที่นี่ แต่เขารู้จักไป๋หยิงดี เขารู้ว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ
เขาเป็นกังวลอย่างมากว่าจะเกี่ยวข้องกับเวินลั่วฉิง เขารู้ดีว่าไป๋หยิงเกลียดเวินลั่วฉิงมากแค่ไหน เขากลัวไป๋หยิงจะทำร้ายฉิงฉิง
ดังนั้น เขาจะถูกขังอยู่ที่นี่ไม่ได้ เขาจำเป็นต้องออกไป
เขาไม่มีช่องทางการติดต่อของเวินลั่วฉิง คนในบริษัทตอนนี้ก็เชื่อฟังไป๋หยิง ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงติดต่อหลิวหยิง
“หึ” ซือถูมู่หรงหัวเราะเยือกเย็น ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง เธอคิดจะไปหาไป๋ยี่รุ่ยทันทีที่ไปจากเขา
เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้ตกลงกันแต่แรกแล้ว ไม่อย่างนั้นไป๋ยี่รุ่ยไม่มีวันบอกให้เธอไปหาเขา
สิ่งที่ไป๋ยี่รุ่ยพูดเมื่อกี้น่าจะเป็นที่อยู่ของวิลล่าสักแห่ง คาดว่าน่าจะเป็นวิลล่าของไป๋ยี่รุ่ย
ดังนั้น ไป๋ยี่รุ่ยให้หลิวหยิงไปหาเขาที่บ้าน
หลังจากนั้น? หลังจากนั้นนับจากนี้เธอก็จะอยู่ที่วิลล่าของไป๋ยี่รุ่ยอย่างนั้นเหรอ??!
เยี่ยม เยี่ยมจริงๆ!!
ซือถูมู่หรงไม่ให้โอกาสหลิวหยิงในการพูด และไม่ให้โอกาสไป๋ยี่รุ่ยในการพูด เขาตัดสายทันที
“คุณไม่คิดว่าตนเองมีอะไรต้องอธิบายให้ผมฟังเหรอ?” หลังจากมู่หรงซืถูตัดสายโทรศัพท์ของหลิวหยิง ดวงตาคู่นั้นก็จับจ้องไปที่หลิวหยิง ตอนนี้เสียงของเขาเยือกเย็นจนทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว
หลิวหยิงมองไปที่เขา ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาบ้าไปแล้วหรือไง?
เขารับโทรศัพท์ของเธอ โดยไม่ผ่านการอนุญาตจากเธอ ทั้งยังตัดสายโทรศัพท์ของเธอ เธอยังไม่โกรธ แต่เขากลับโมโหเนี่ยนะ?
เธอยังไม่ได้เรียกร้องคำอธิบายจากเขาเลย เขายังมีหน้ามาบอกให้เธออธิบายให้เขาฟัง?
“ไม่มีเหตุผล” หลิวหยิงไม่อยากคุยกับคนบ้า เพราะไม่สามารถคุยกันรู้เรื่องได้
ได้ยินคำตอบของเธอ ดวงตาของซือถูมู่หรงหรี่เล็กลงอีกครั้ง เขาถอนหายใจเบาๆ จากนั้นพูดช้าๆทีละคำ:“ดูท่า พวกคุณนัดกันเรียบร้อยแล้ว? หื้ม?”
หลิวหยิงชะงัก มองเขาด้วยความแปลกใจ นัดกันไว้แล้ว? นัดอะไรกัน?
เธอนัดกับใคร?
“ดังนั้น ที่คุณอยากจะรีบไปจากที่นี่ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเขา?” ซือถูมู่หรงเห็นเธอไม่ตอบ เขาจึงคิดว่าความเงียบของเธอเท่ากับร้อนตัว
มือที่จับโทรศัพท์มือถือของซือถูมู่หรงจับแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งโทรศัพท์เครื่องนั้นบิดเบี้ยวในมือของเขา จากนั้นหน้าจอมืดสนิท ปิดเครื่องไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าโทรศัพท์ของหลิวหยิงถูกเขาบีบจนพัง พังไปหมดแล้ว!!
ในที่สุดหลิวหยิงก็เข้าใจคำพูดของซือถูมู่หรง สิ่งที่ซือถูมู่หรงพูดเมื่อกี้คือเธอกับไป๋ยี่รุ่ยนัดกันเรียบร้อยแล้ว?!
อยู่ดีๆหลิวหยิงก็รู้สึกอยากหัวเราะ มู่รงซือถูจินตนาการล้ำเลิศจริงๆ
เดิมทีหลิวหยิงยังอยากจะอธิบาย แต่พอเห็นซือถูมู่หรงบีบโทรศัพท์ของเธอจนพัง และเธอก็คิดถึงสัญญาห้าปีระหว่างเธอกับซือถูมู่หรงได้จบลงแล้ว
เธอกับซือถูมู่หรงไม่มีความสัมพันธ์กันแต่อย่างใด ดังนั้น เธอไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ซือถูมู่หรงฟัง
“ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ร้อนตัวหรือไง?” ซือถูมู่หรงเห็นเธอเงียบไม่ยอมพูดอะไร ดวงตาของเขาก็ยิ่งเยือกเย็น ยิ่งเคร่งขรึม
เขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรตอนนี้เขาถึงดึงดันอยากจะฟังคำตอบจากเธอ ทั้งๆที่ทุกอย่างก็ชัดเจนแล้ว ทำไมเขาถึงยังไม่ตายใจอีก?
ใช่ ตอนให้ทุกอย่างวางอยู่ตรงหน้าเขา แต่ภายในใจของเขายังมีความหวัง หวังว่าเธอจะบอกเขา ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด
ขอแค่เธอพูด เขาก็จะเชื่อ
ดังนั้น ที่เขาดึงดันที่จะถามแบบนี้ก็เพราะอยากได้ยินเธอปฏิเสธ
“ซือถูมู่หรง สัญญาระหว่างเราจบลงแล้ว ฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณอีกแล้ว ดังนั้นหลังจากนี้ไม่ว่าเรื่องอะไรของฉันก็ไม่เกี่ยวข้องกับคุณแล้ว คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่ง และไม่มีสิทธิ์มาถาม” หลิวหยิงไม่เข้าใจว่าตอนนี้เขาถามเธอในฐานะอะไร
ทั้งๆที่เวลาห้าปีที่ตกลงกันไว้ครบกำหนดแล้ว เขามีสิทธิ์อะไรมาถามเธอแบบนี้?
เขามีสิทธิ์อะไร?
หลังจากนี้เรื่องของเธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาแล้ว
และเธอเองก็ไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับเขาแล้ว
อยู่กับเขามาห้าปี เธอตัดขาดความสัมพันธ์กับเพื่อนทุกคน ตอนนั้น ในสัญญาของเขาเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน เธอห้ามมีสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามทุกคนยกเว้นเขา ดังนั้นตลอดห้าปีที่ผ่านมา นอกจากทำงานแล้ว เธอแทบไม่เคยพูดอะไรกับผู้ชายคนอื่น
ห้าปีนี้ เธอเองก็ไม่เคยคิดจะติดต่อกับไป๋ยี่รุ่ย เพียงแค่เพราะคราวที่แล้วไป๋ยี่รุ่ยบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล เธอจึงไปเยี่ยมไป๋ยี่รุ่ยก็เท่านั้น
และนับตั้งแต่กลับมาในคืนนั้น เธอก็ไม่ได้ติดต่อกับไป๋ยี่รุ่ยอีก กฎที่เขาตั้งให้เธอเมื่อห้าปีก่อน ตลอดห้าปีที่ผ่านมานี้ เธอจำใส่ใจมาโดยตลอด และรักษาสัญญามาโดยตลอด
หลังจากเรื่องที่โรงพยาบาลในครั้งนั้น เธอไม่เคยติดต่อกับไป๋ยี่รุ่ยอีก แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะนัดอะไรกับไป๋ยี่รุ่ย แต่ตอนนี้หลิวหยิงไม่ได้อธิบายให้ซือถูมู่หรงฟะง
เธอไม่คิดว่าตอนนี้ตนมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องอธิบายให้ซือถูมู่หรงฟัง
ในระยะสัญญา เธอรักษากฎทั้งหมดที่เขาตั้งเอาไว้ให้เธอ ถึงแม้กฎพวกนั้นจะทำให้เธออับอาย สร้างความอัปยศให้เธอก็ตาม
ตอนนี้สัญญาจบลงแล้ว แน่นอนว่าเธอไม่มีวันที่จะทำให้ตนเองลำบากเหมือนเมื่อก่อนอีก
มือของซือถูมู่หรงที่จับมือเธอเอาไว้กระชับแน่น แค่เห็นหลิวหยิงขมวดเป็นปมเพราะความเจ็บปวด เขาก็คลายมือเล็กน้อย
“ซือถูมู่หรง คุณปล่อยฉันได้แล้วค่ะ ฉันควรไปแล้ว” หลิวหยิงมองข้อมือตนเอง ตอนนี้ข้อมือของเธอมีรอยเขียวช้ำหนึ่งวงอย่างชัดเจน ทั้งหมดเป็นฝีมือของซือถูมู่หรง
ความเป็นจริงสำหรับเธอการถูกทำร้ายแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เธอจำได้เมื่อห้าปีก่อน ตอนที่เธอเพิ่งมาอยู่กับเขา ร่องรอยบาดแผลที่เขาทิ้งไว้บนตัวเธอน่ากลัวยิ่งกว่ารอยเขียวช้ำบนข้อมือตอนนี้มาก
เขาในตอนนั้น ไม่เคยสนใจสิ่งเหล่านี้ เขาถึงขั้นทำให้เธออับอายทุกครั้ง ทรมานทุกครั้ง!!