ถังหลินอ่านประวัติของหยวนหยูที่สืบได้อย่างละเอียดแล้ว เขามั่นใจว่าไม่มีชื่อตามที่โจ๋วชิงบอกแน่นอน และเล่าสิ่งที่สืบได้ให้โจ๋วชิงฟัง“และตามที่พี่สืบได้ หยวนหยูไม่มีรุ่นพี่บ้านเดียวกัน หยวนหยูเป็นคนเดียวในหมู่บ้านที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยของพวกนาย”
“เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!!”อารมณ์โจ๋วชิงพลุ่งพล่าน เขาจำอดีตได้ดี ทำไมจะไม่มีคนชื่อหลี่เจี๋ยคนนี้
หากไม่มีคนชื่อหลี่เจี๋ยจริงๆ งั้นตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ผู้ชายตอนนั้นคือใคร?
แถมหยวนหยูบอกกับเขาเองว่าเธอชอบผู้ชายคนนั้น
“โจ๋วชิง พี่คิดว่านายน่าจะสืบเรื่องอดีตดู อาจจะมีเรื่องที่นายไม่รู้จริงๆ”ถังหลินเป็นคนฉลาดเฉลียว ถึงแม้โจ๋วชิงไม่พูดชัดเจน ทว่าถังหลินก็พอจะคาดเดาได้พอสังเขป
หลี่เจี๋ยที่โจ๋วชิงพูดถึง คงเป็นคนที่ทำให้โจ๋วชิงกับหยวนหยูเลิกกันตอนนั้น ทว่าจากที่เขาสืบมา ไม่มีบุคคลชื่อหลี่เจี๋ย อย่างน้อยก็ไม่มีอยู่ในชีวิตของหยวนหยู
“พี่ใหญ่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?”โจ๋วชิงจับมือถือด้วยอาการสั่นเทา เขารู้จักความสามารถของพี่ใหญ่ดี ในเมื่อพี่ใหญ่สืบคนที่ชื่อหลี่เจี๋ยไม่เจอ แสดงว่าในชีวิตของหยวนหยูไม่มีคนคนนั้นจริงๆ
เขาตระหนักได้ว่า เรื่องในอดีตคล้ายกับมีอะไรผิดพลาด แต่ไม่รู้ว่าผิดพลาดตรงไหน ผิดพลาดตรงไหนกันแน่?
เขาไม่รู้ เขาคิดไม่ตก
“โจ๋วชิง นายต้องสืบเรื่องนี้เอง และต้องลงมือสืบด้วยตัวเอง”ถังหลินเข้าใจความรู้สึกในตอนนี้ของโจ๋วชิงดี ถังหลินก็รู้ว่าหลายปีมานี้โจ๋วชิงไม่เคยลืมหยวนหยูเลย และรู้ว่าเรื่องในอดีตค้างคาใจเสมอมา ดังนั้นปล่อยให้โจ๋วชิงไปสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
“พี่ใหญ่ สืบเรื่องตอนนั้นไม่เจอเหรอ?”โจ๋วชิงรู้สึกมึนงง ตอนนี้เขาใจเย็นบ้างแล้ว ดังนั้นนึกถึงปัญหานี้ คนมีฝีมือระดับพี่ใหญ่ เมื่อพี่ใหญ่สืบทุกอย่างของหยวนหยู เป็นไปไม่ได้ที่จะสืบเรื่องตอนนั้นไม่เจอ
ถึงแม้ตอนนั้นตระกูลโจ๋วจะจัดการเรื่องนั้น แต่หากพี่ใหญ่อยากสืบ ต้องสืบเจอแน่นอน
“ไม่เจอ พี่สืบเรื่องนั้นไม่เจอ พี่เลยรู้สึกแปลกๆ เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนั้นไง?”เห็นได้ชัดว่าถังหลินเจอจุดสงสัยนี้ ทำให้โจ๋วชิงกับหยวนหยูแยกจากกันอย่างไม่เหลือเยื่อใย ต้องเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นแน่ แต่ทำไมเขาถึงสืบไม่เจอ
เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก และเมื่อฟังจากโจ๋วชิงพูด บุคคลที่สำคัญที่สุดในตอนนั้นกลับไม่มีตัวตนอยู่ นี่ทำให้ยิ่งแปลกขึ้นไปใหญ่
“ทำไมเป็นแบบนี้?ใคร?ใครปิดบังเรื่องพวกนี้?เป็นใครกันแน่?”โจ๋วชิงหรี่ตาขึ้น ถึงตอนนี้เขารู้ว่ามันไม่ชอบมาพากลแล้ว
ตอนนั้นเขาเห็นเองกับตา หยวนหยูก็ไม่มีทีท่าปิดบังเลยสักนิด ตอนนั้นเธอยังพูดด้วยตัวเองว่า เธอรักหลี่เจี๋ย ดังนั้นคงไม่ใช่หยวนหยูปิดบังความจริงหรอกมั้ง เพราะเขารู้เรื่องหมดแล้ว หยวนหยูไม่มีเหตุผลทำอย่างนั้น
อีกอย่างหยวนหยูก็ไม่มีความสามารถปกปิดอย่างแยบยล ถึงขนาดพี่ใหญ่ยังสืบไม่เจอ
ดังนั้นตกลงเป็นใครกันแน่?
ใครที่มีความสามารถเช่นนั้น?แล้วใครที่คิดจะทำแบบนี้?
คนที่ชื่อหลี่เจี๋ยหรือเปล่า?
ทว่าหลี่เจี๋ยก็ไม่มีเหตุผลต้องทำอย่างนั้นเลย และหลี่เจี๋ยไม่เหมือนคนมีความสามารถเช่นนั้น
“ตอนนั้นมีคนขัดขวางพวกนายคบกันหรือเปล่า?”ถังหลินก็อยากรู้ว่าใครปิดบังเรื่องทุกอย่างนี้ ถังหลินคิดว่าหาตัวคนปิดบังเรื่องแปดปีก่อน จะทำให้ได้เบาะแสมากขึ้น
“ไม่มี”โจ๋วชิงส่ายหัวด้วยจิตใต้สำนึก“ตอนนั้นผมอยากสู่ขอหยวนหยู ไม่งั้นผมคงไม่พาไปรู้จักกับพวกพี่หรอก หลังจากนั้น ตอนวันเกิดของคุณย่า ผมยังพาเธอไปที่บ้านตระกูลโจ๋วด้วย”โจ๋วชิงนึกถึงเรื่องราวในอดีต สีหน้าก็ทุเลาลง ตอนนั้นเขาจริงจังกับความรักมาก และบริสุทธิ์ไร้เดียงสามาก ตอนนั้นเขาตั้งมั่นไว้แล้วว่าเจ้าสาวของเขาต้องเป็นหยวนหยู
“คนตระกูลโจ๋วคัดค้านนายไหม?”ถังหลินกระพริบตา รีบถามอีกหนึ่งประโยค ตระกูลโจ๋วเป็นตระกูลที่มีธุรกิจทางการแพทย์สืบทอดกันเป็นรุ่นๆ และเป็นชาติตระกูลมั่งคั่ง หยวนหยูที่เติบโตจากชนบท ตระกูลโจ๋วยอมรับได้ไหม?
“ไม่มี ไม่มีคนคัดค้าน ตอนนั้นคุณย่าชอบหยวนหยูมาก คุณพ่อกับคุณแม่ก็ไม่มีทีท่าคัดค้านอะไร พวกเขาชอบหยวนหยูมาก”โจ๋วชิงนึกถึงเรื่องในอดีต ซึ่งตอนนั้นตระกูลโจ๋วมีมิตรไมตรีกับหยวนหยูมาก
“หลังจากนั้น คุณแม่ยังให้ผมพาหยวนหยูไปกินข้าวที่บ้านสองครั้ง ตอนนั้นหยวนหยูอยู่ร่วมกับพวกเขาได้ไม่เลวเลย”โจ๋วชิงรู้สึกว่าเล่าไม่พอ ดังนั้นจึงเสริมอีกหนึ่งประโยคอย่างรวดเร็ว
“แล้วเกิดเรื่องตอนไหน เกิดหลังจากที่พาไปบ้านตระกูลโจ๋วหรือเปล่า?”ถังหลินหน้านิ่วคิ้วขมวด เขาคิดว่าไม่ง่ายอย่างที่โจ๋วชิงเล่า
ตระกูลเศรษฐีอย่างตระกูลโจ๋ว ภายในต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
“หลังจากนั้นประมาณสามเดือน”โจ๋วชิงครุ่นคิดดูแล้วก็ตอบอย่างรัวเร็ว ถึงแม้ผ่านไปแปดปี ทว่าหลายๆอย่างในตอนนั้นเขายังคงจดจำได้ดี
“พี่ใหญ่ สงสัยว่าตระกูลโจ๋วทำอะไรกับหยวนหยูเหรอ?แต่พ่อแม่ผมไม่ได้คัดค้านพวกเราอยู่ด้วยกัน พวกเขาอยากให้ผมมีความสุข และหากตอนนั้นหยวนหยูถูกบีบบังคับจริงๆ ตระกูลโจ๋วก็ไม่มีหมากตัวไหนไปบีบบังคับหยวนหยูทำแบบนั้นได้”โจ๋วชิงไม่ได้ปกป้องครอบครัวตัวเอง ทว่าเรื่องตอนนั้น หากหยวนหยูถูกบีบบังคับจริงๆ แล้วเงื่อนไขอะไรที่ทำให้หยวนหยูทำแบบนั้น?
ถึงแม้ตระกูลโจ๋วไม่เห็นด้วยที่เขากับหยวนหยูอยู่ด้วยกัน ถึงแม้ตระกูลโจ๋วอยากแยกพวกเขาจากกัน แต่ก็ไม่มีทางบีบให้หยวนหยูทำถึงขั้นนั้นแน่ๆ
ตอนนั้นเขาจับชู้บนเตียงได้คาหนังคาเขา ตอนนั้นหยวนหยูบอกเขาว่า เธอไม่ได้รักเขา
หยวนหยูทำแบบนี้ก็เท่ากับทำลายทุกอย่างของเขากับเธอทิ้ง เท่ากับทำลายทุกอย่างของเธอ
“พี่ก็ไม่รู้รายละเอียด ดังนั้นนายสืบเรื่องนี้เลยนะ”ถังหลินไม่รู้เรื่องในอดีตเลยสักนิด ดังนั้นจึงไม่กล้าตัดสินอะไรส่งเดช
ถังหลินได้ยินโจ๋วชิงพูดเช่นนี้ก็เข้าใจว่า เรื่องที่หยวนหยูทำตอนนั้นร้ายแรงมาก
มีสาเหตุอะไรนะที่เป็นมูลเหตุให้หยวนหยูกระทำเช่นนั้น?!แถมยังตัดขาดแบบไร้เยื่อใยขนาดนั้นด้วย?!