แล้วท่านหยวนก็ต้องคอยสังเกตสถานการณ์ของผู้ดูแลจ้งกับหัวหน้าด้วย
ดังนั้นแค่คำไม่กี่คำ แต่ท่านหยวนต้องใช้เวลาพิมพ์หลายนาทีเลย
หลังจากที่ท่านหยวนพิมพ์ข้อความเสร็จแล้ว ก็หาเบอร์ของคุณนายหยวนแล้วก็ส่งข้อความไป
ปกติท่านหยวนไม่ค่อยได้ใช้วีแชทเท่าไหร่ ครั้งนี้ท่านหยวนก็เลยส่งข้อความทางข้อความของโทรศัพท์
หลังจากที่ท่านหยวนส่งข้อความไปเรียบร้อย ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา ถ้าเกิดว่าทางฝั่งของตระกูลถังได้รู้ข่าวนี้ ตระกูลถังต้องมีวิธีการรับมืออย่างแน่นอน เขาก็ไม่ต้องกังวลว่าองค์กรโกสต์ซิตี้จะกลับหรือไม่กลับ
อีกทางด้านหนึ่งคุณนายหยวนก็กำลังตั้งใจกับการเลือกของขวัญ ก็เลยเอาโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋า เลยไม่ได้ยินเสียงข้อความเข้า
พอคุณนายหยวนซื้อของขวัญเสร็จ ก็รูดบัตรเพื่อจ่ายเงินแล้วก็ออกมาจากห้างสรรพสินค้า เตรียมจะกลับบ้าน
ตอนที่คุณนายหยวนถือของขวัญและกำลังจะเดินไปที่รถนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
มือหนึ่งของคุณนายหยวนก็ถือของอยู่ อีกมือหนึ่งก็ควานหาโทรศัพท์ พอเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอก็รับสายในทันที
คนที่โทรมาก็คือตระกูลหลี่ ทางด้านของฝั่งตระกูลหลี่ได้ออกเดินทางแล้ว กำลังมุ่งตรงไปที่บ้านเธอ คุณนายหลี่ถามว่าคนอื่นๆ มาถึงหรือยัง
“ฉันยังอยู่ข้างนอกอยู่เลย กำลังจะกลับบ้าน ตอนที่พวกเธอไปถึงฉันก็อาจจะไปถึงพอดีกัน”คุณนายหยวนเก็บของขวัญที่เพิ่งซื้อมาไว้ในรถ แล้วก็ขึ้นรถไป
“นี่มันกี่โมงแล้ว ทำไมเธอยังอยู่ข้างนอกอีกละ？”ปกติคุณนายหลี่ค่อนข้างจะสนิทกับคุณนายหยวน ก็เลยพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง
“ก็ท่านย่าถังบอกว่าเย็นวันนี้จะพาเด็กน้อยทั้งสองคนของตระกูลถังมาด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กน้อยทั้งสองคนจะได้มาที่นี่ ฉันก็ต้องเตรียมของขวัญให้พวกเขาสิ” คุณนายหยวนก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เพราะว่าคุณนายหลี่ เองก็รู้เรื่องของเด็กน้อยทั้งสองของตระกูลถังอยู่แล้ว
แถมตระกูลหลี่ยังรู้ก่อนเธออีกต่างหาก
“เย็นวันนี้เด็กน้อยทั้งสองคนจะมาด้วยเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ดีไปเลยสิ? เด็กน้อยทั้งสองคนนั้นช่างน่ารักน่าชังจริงๆ ใครเห็นใครก็ต้องรัก ฉันชอบมากเลย” พอคุณนายหลี่ได้ยินว่าเด็กน้อยทั้งสองคนจะมาด้วย เสียงก็สูงขึ้นหลายเท่า
คุณนายหลี่เองก็มีลูกชายเพียงแค่คนเดียว แล้วลูกชายของเธอก็ยังไม่แต่งงาน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลานเลย คุณนายหลี่ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะมีหลานทุกวัน แต่ว่าในเมื่อลูกชายเธอไม่รีบร้อน เธอรีบร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก
ตอนที่คุณนายหลี่ได้เจอเด็กน้อยทั้งสองของตระกูลถัง เธอรู้สึกอิจฉาจนแทบบ้า เด็กทั้งสองคนนั้นทั้งสวยทั้งน่ารัก แล้วก็ฉลาดเฉียบแหลม คุณนายหลี่รู้สึกว่าเด็กน้อยทั้งสองคนของตระกูลถังเป็นหลานแบบในอุดมคติของเธอเลย เป็นที่น่าชื่นชอบอย่างมาก
คุณนายหลี่คิดว่าต่อให้ลูกชายของเธอมีหลานจริงๆ เธออาจจะไม่ได้ชอบขนาดนี้ก็ได้ เพราะว่าเด็กน้อยทั้งสองคนของตระกูลถังนั้นน่ารักน่าชังและทำให้คนชื่นชอบได้มากจริงๆ
ลูกชายของลุงคนที่สองของตระกูลหลี่ก็มีหลานเหมือนกัน เมื่อก่อน ก็รู้สึกว่าเขาดีมาก โดดเด่น และหน้าตาก็ดีมาก
แต่ว่าถ้าเอามาเทียบกับเด็กน้อยทั้งสองคนของตระกูลถังแล้ว ก็ไม่สามารถเทียบได้เลย
หลังจากที่คุณนายหลี่ได้เจอกับเด็กน้อยทั้งสองคนของตระกูลถัง เธอก็เปลี่ยนฝักเปลี่ยนฝ่ายทันทีอย่างไม่ลังเล ถ้าเกิดว่าสถานการณ์ของตระกูลถังไม่ซับซ้อน แล้วตัวตนของเด็กทั้งสองคนนั้นไม่ได้มีภาระอะไร คุณนายหลี่ต้องไปหาเด็กทั้ง 2 คนนั้นที่บ้านถังทุกวันอย่างแน่นอน
“เธอเคยเจอ แต่ว่าฉันยังไม่เคยเจอนี่” คุณนายหยวนทำปากมุ่ยเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังรู้สึกอิจฉาอยู่ เธอเคยได้ยินมาว่าเด็กน้อยทั้งสองคนของตระกูลถังช่างน่ารักน่าชัง แต่ว่าจนถึงตอนนี้เธอยังไม่มีโอกาสได้เจอพวกเขาเลย
“แต่ว่า ฉิ้นเอ๋อหน้าตาดีขนาดนั้น แล้วพ่อของเด็กทั้งสองคนก็หน้าตาไม่แย่ แน่นอนว่าเด็กทั้งสองคนนั้นต้องหน้าตาดีสิ”คุณนายหยวนนึกถึงใบหน้าของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง แล้วก็นึกถึงหน้าเย่ซือเฉิน เป็นไปไม่ได้หรอกที่เด็กน้อยทั้งสองคนของตระกูลถังจะหน้าตาไม่ดี
“เธอก็รู้เรื่องพ่อของเด็กน้อยทั้งสองคนเหรอ？”คุณนายหลี่เงียบไปหลายวินาที “เธอว่าเย่ซือเฉินไปดวงดีมาจากไหน ทำไมถึงทำให้ฉิ้นเอ๋อชอบเขาได้ แถมยังมีลูกน้อยที่น่ารักอีกตั้งสองคน ตอนแรกฉันยังอยากให้ฉิ้นเอ๋อมาเป็นลูกสะใภ้บ้านฉันเลย พูดตามตรงตอนนั้นไอ้เจ้าลูกฉันมันก็ยินยอมเป็นอย่างมากเลยนะ น่าเสียดายจริงๆ ”
“เธอเสียดายงั้นเหรอ? แล้วบ้านฉันไม่เสียดายหรือยังไง? เป็นครั้งแรกที่จุนหลินใจเต้นให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง แถมยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาตามจีบอย่างจริงจังอีก แต่ว่ายังไม่ทันเริ่มก็ต้องจบซะแล้ว ความจริงจุนหลินของฉันก็ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้หรอกนะ แต่ว่าลูกทั้งสองคนของเธอโตขนาดนั้นแล้ว จะเอาอะไรไปเทียบอีกละ？”คุณนายหยวนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เธอรู้จักลูกชายของตัวเองดีอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องที่หยวนจุนหลินไปตามจีบถังฉิ้นเอ๋อในตอนนั้น คุณนายหยวนก็รู้เรื่องดี
“เทียบไม่ได้เลยจริงๆ ถ้าเกิดว่าไม่มีเด็กทั้งสองคนนั้น ก็ไปดูถูกเย่ซือเฉินไม่ได้หรอกนะ ฉันยอมรับว่าเย่ซือเฉินเป็นคนที่ยอดเยี่ยม แต่ว่าสิ่งที่ผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลเย่ทำนั้นช่างทำให้คนอื่นรู้สึกว่าไม่น่าประทับใจเลยจริงๆ ” คุณนายหลี่รู้เรื่องบางอย่างของตระกูลถังดี แน่นอนว่าเธอก็ต้องรู้เรื่องที่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ทำ
“ทั้งสองท่านของตระกูลเย่นั้นยังไม่หยุดอีกเหรอ？”คุณนายหยวนเพิ่งจะมารู้เกี่ยวกับเรื่องของถังฉิ้นเอ๋อและเย่ซือเฉินเมื่อไม่นานมานี้ เรื่องอื่นคุณนายหยวนก็ไม่ค่อยจะรู้เท่าไหร่นัก
“ยัง ยังคงทำต่อไปไม่หยุด จริงๆแล้วพวกท่านเป็นผู้ใหญ่ ฉันไม่ควรจะไปพูดถึงพวกเขาแบบนี้ แต่ว่าทั้งสองท่านนั้นทำเกินไปจริงๆ ลูกหลานก็ต้องมีทางของตัวเขาเอง ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ การที่ได้เห็นลูกหลานของตัวเองมีความสุขก็พอแล้ว แต่ว่าทั้งสองท่านนี้กับก่อเรื่องเพราะการแต่งงานของเย่ซือเฉิน ไม่รู้จะพูดยังไงเลยจริงๆ ”ปกติแล้วคุณนายหลี่เป็นคนที่มีสมบัติผู้ดี แต่ตอนนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะแขวะสักหน่อย
“แต่ครั้งนี้คาดว่าน่าจะหาเหาใส่หัว”คุณนายหลี่นึกถึงเรื่องเจ้าหญิงจอมปลอมขององค์กรโกสต์ซิตี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ไม่ใช่ว่าเธอใจร้าย แต่ประเด็นสำคัญก็คือเรื่องพวกนี้ที่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ทำมันช่างไม่จริงใจเลย
“หมายความว่ายังไง？” สองวันนี้คุณนายหยวนเอาแต่เตรียมงานปาร์ตี้ ก็เลยไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องอื่นเลย
“เธอยังไม่รู้อีกเหรอ? ก็เรื่องเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ไง เพราะว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่อยากจะผูกสัมพันธ์กับองค์กรโกสต์ซิตี้ อยากให้เย่ซือเฉินได้แต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ตอนงานศพของเย่โป๋เหวิน ผู้เฒ่าของตระกูลเย่ก็พาเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ไปที่บ้านเย่ แถมคุณย่าเย่ยังตัวติดกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ตลอดเวลา ผู้เฒ่าทั้งสองของตระกูลเย่ประจบสอพลอเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เป็นอย่างมาก แต่ผลก็คือเจ้าหญิงคนนั้นเป็นเจ้าหญิงเก๊ องค์กรโกสต์ซิตี้ได้จัดงานแถลงข่าวเรื่องนี้ แถมยังบอกว่าจะไม่มีทางปล่อยเจ้าหญิงเก๊คนนั้นไปอย่างแน่นอน ครั้งนี้ผู้เฒ่าตระกูลเย่ขโมยไก่ไม่ได้ แถมยังเสียข้าวสารเป็นกำมืออีกต่างหาก ได้ไม่คุ้มเสีย เกรงว่าองค์กรโกสต์ซิตี้จะไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ หรอก”ช่วงนี้คุณนายหลี่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ก็เลยค่อนข้างที่จะรู้ดี
“องค์กรโกสต์ซิตี้เป็นใครกัน? องค์กรโกสต์ซิตี้ถูกครอบงำได้ง่ายอย่างนั้นเหรอ ได้ยินว่าหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ฝีมือยอดเยี่ยมมาก ครั้งนี้มีคนปลอมตัวมาเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ แถมผู้เฒ่าทั้งสองของตระกูลเย่ยังสนิทกับคนคนนั้นอีก เกรงว่าหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้คงไม่ปล่อยผู้เฒ่าตระกูลเย่ไปง่ายๆหรอก”
คุณนายหลี่ชะงักไป หลังจากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า “ด้านนอกพูดกันว่าหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้น่ากลัวมาก แต่ว่าก็ว่ากันว่าไม่มีใครเคยเจอหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้มาก่อนเลย ไม่รู้ว่าหน้าตาเขาน่ากลัวมากหรือเปล่า ในอินเทอร์เน็ตมีคนบอกเขาเป็นคนที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ซะด้วยซ้ำ”
มุมปากของคุณนายหยวนกระตุกในทันที หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้หน้าตาน่ากลัวมากอย่างนั้นเหรอ?
คำพูดนี้มันก็ไร้สาระเกินไปแล้ว หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้อย่างกับเทวดา หล่อจนไม่รู้จะหล่อยังไงแล้ว ถ้าเกิดว่าเธออายุ 30 อีกครั้ง เธอคงไม่สามารถควบคุมหัวใจตัวเองได้แล้ว
แล้วอีกอย่างหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ดูสุภาพเรียบร้อยจะตาย ไม่ได้น่ากลัวเลยแม้แต่นิดเดียว
แน่นอนว่าคำพูดนี้คุณนายหยวนไม่สามารถพูดออกไปได้ แล้วเธอก็ไม่กล้าพูดด้วย และอีกอย่างเธอก็ไม่รู้ว่าหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้มาที่คฤหาสน์หยวนเพราะอะไรกัน
“แบบนี้ก็ดี เพราะว่าผู้เฒ่าทั้งสองของตระกูลเย่ก็ไม่สามารถบังคับให้เย่ซือเฉินแต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ได้อีกต่อไป”คุณนายหยวนเปลี่ยนเรื่องอย่างประหลาด
“แน่นอนว่าไม่ได้แล้ว ตอนนี้ตระกูลเย่แทบทนไม่ไหวที่จะล้างความสัมพันธ์กับเจ้าหญิงเก๊คนนั้น คุณปู่เย่ได้ออกแถลงการณ์ บอกว่าถูกเจ้าหญิงเก๊ขององค์กรโกสต์ซิตี้หลอกเข้า บอกว่าเจ้าหญิงเก๊ขององค์กรโกสต์ซิตี้มาถึงที่บ้านแล้วก็บังคับเรื่องแต่งงาน เธอคิดดูสิว่าพูดออกมาได้ยังไง ถ้าเกิดว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่ยินยอม แล้วใครจะมาบังคับเขาได้? แต่ว่านี่มันก็เป็นสไตล์ของคุณปู่เย่อยู่แล้ว พอมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็โบ้ย มันเป็นแนวของเขาอยู่แล้ว” คุณนายหลี่อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า
“คนแบบนี้นี่สุดยอดไปเลยนะ แค่คนเดียวก็ก่อความวุ่นวายได้มากมายแล้ว แต่ว่าตระกูลเย่มีถึงสองคนเลย เจ้าเด็กเย่ซือเฉินคนนั้นนี่น่าสงสารมากจริงๆ ไม่มีแม่ตั้งแต่เด็กๆ แถมพ่อแท้ๆยังไม่เคยสนใจ แถมปู่กับย่ายังมาวางแผนใช้เขาอีก น่าสงสารจริงๆ ”คุณนายหลี่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ในฐานะแม่คนหนึ่ง คุณนายหลี่รู้สึกว่าเย่ซือเฉินนั้นลำบากเกินไป ทำให้คนอื่นรู้สึกปวดใจจริงๆ ！！
