“แม่ ลูกจำเป็นต้องไปถามซือถูมู่หรงให้กระจ่างชัด”หลิวหยิงเน้นย้ำอีกครั้ง เพราะว่าเน้นย้ำ น้ำเสียงของเธอในตอนนี้สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คำพูดนี้แทบจะตะโกนออกไป
เธอจำเป็นต้องถามให้กระจ่างชัด จำเป็น
แม้ว่าเรื่องนี้เธอจะไม่ซักไซ้ แม้ว่าเธออยากจะจากไป แต่ซือถูมู่หรงไม่ยอมปล่อยเธอไป เมื่อว่าซือถูมู่หรงพูดชัดเจนแล้วว่า เขาทรมานเธอมาห้าปียังไม่เพียงพอ เขาต้องการที่จะทรมานเธอไปชั่วชีวิต
เกลียดมา เกลียดมากจริงๆ วัยสาวตลอดห้าปีของเธอ ร่างกายที่บริสุทธิ์ของเธอ รวมทั้งชีวิตของพ่อ นี่มันยังไม่เพียงพออีกเหรอ?
ซือถูมู่หรงกลับยังอยากทรมานเธอไปทั้งชีวิต?!
“หยิงเอ๋อร์ลูกอย่าไปหาเขาเลย ไม่ต้องไปถามเขาหรอก ลูกมาหาแม่ที่นี่ ไม่ แม่ไปหาลูกเอง แต่ว่าลูกไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ลูกรอแม่ เชื่อคำพูดของแม่ รอแม่ไปหา ……”คุณแม่หลิวยิ่งฟังยิ่งสะดุ้ง หล่อนรู้ดีว่าตนไม่สามารถโน้มน้าวลูกสาวได้
“หยิงเอ๋อร์รอแม่กลับมา ลูกอยากทำอะไรเดี๋ยวแม่ไปเป็นเพื่อน” น้ำเสียงของคุณแม่หลิวเผยความหนักแน่นออกมา ในเมื่อไม่สามารถโน้มน้าวได้ ถ้าอย่างนั้นก็เผชิญหน้าพร้อมกับลูกสาวก็แล้วกัน
หล่อนอดทนมาห้าปีแล้ว เดิมทีคิดว่าทุกอย่างจบสิ้นลงแล้ว พวกเขาสามารถกลับมาอยู่พร้อมหน้าอย่างสงบสุขได้แล้ว หล่อนไม่ต้องการอะไรมาก หล่อนต้องการเพียงแค่ลูกสาวและลูกชายของหล่อนอยู่อย่างสงบสุข
แต่ว่าบริษัทตระกูลซือถูกลับยังไม่ยอมปล่อยพวกเธอ ในเวลานี้คุณนายซือถูกลับบอกความจริงของเมื่อหลายปีก่อนกับหยิงเอ๋อร์นั้นหมายความว่าต้องการชีวิตของหยิงเอ๋อร์ดังนั้นหล่อนจึงทนไม่ได้อีกต่อไป
หล่อนต้องการกลับไป เพื่อเรื่องเมื่อหลายปีก่อน เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับลูกสาวหล่อน
เมื่อหลิวหยิงได้ยินคำพูดของแม่ น้ำตาก็ยิ่งไหลเร็วขึ้น เธอเข้าใจความหมายของแม่ แต่ว่าเธอไม่ต้องการดึงแม่มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลิวหยิงติดตามซือถูมู่หรงมาห้าปี แน่นอนว่ารู้ดีว่าซือถูมู่หรงนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน ต่อกรกับซือถูมู่หรง เธอกับแม่ไม่มีทางชนะอย่างแน่นอน
จะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอเองนั้นเธอไม่ได้สนใจ แต่เธอจะไม่ยอมให้แม่เธอต้องถูกทำร้ายอย่างเด็ดขาด
“หยิงเอ๋อร์ลูกต้องเชื่อฟังแม่ สัญญาห้าปีระหว่างลูกกับซือถูมู่หรงได้สิ้นสุดลงแล้ว ลูกจำไว้ว่า ช่วงนี้ลูกอย่าเพิ่งไปถามเรื่องราวกับซือถูมู่หรงเพียงลำพังอย่างเด็ดขาด เรื่องทุกอย่างรอให้แม่กลับมาก่อนค่อยว่ากัน”คุณแม่หลิวนั้นไม่รู้ว่าตอนนี้หลิวหยิงยังคงอยู่กับซือถูมู่หรงคุณแม่หลิวคิดว่าสัญญาห้าปีได้สิ้นสุดลงแล้ว หลิวหยิงได้จากซือถูมู่หรงไปแล้ว
หลิวหยิงตะลึงงันเล็กน้อย จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ ตอนนี้แม่เป็นกังวลว่าเธอจะไปพบซือถูมู่หรง เป็นกังวลว่าซือถูมู่หรงจะทำร้ายเธอ แต่ว่าแม่กลับไม่รู้เลยว่าซือถูมู่หรงไม่ยอมปล่อยเธอจากไป
หากแม่รู้เรื่องนี้ เกรงว่าคงจะเป็นบ้าแน่
หลิวหยิงเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าบอกเรื่องที่เธอยังไม่ได้ไปจากซือถูมู่หรง
“หยิงเอ๋อร์ลูกได้ยินที่แม่พูดไหม?”คุณแม่หลิวไม่ได้ยินเสียงหลิวหยิง ร้อนใจยิ่งนัก
“แม่ ลูกได้ยินแล้ว”หลิวหยิงหายใจออกเบาๆ น้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย
“ถ้างั้นลูกรับปากแม่นะว่าจะไม่ไปหาซือถูมู่หรงเพียงลำพัง เขาอันตรายมาก ลูกจะถูกทำร้ายได้”สิ่งที่คุณแม่หลิวเป็นกังวลก็คือเรื่องเรื่องนี้ ตอนนั้นหล่อนเห็นความโหดเหี้ยมของซือถูมู่หรงกับตาตนเอง หล่อนจะไม่ยอมให้ลูกสาวเป็นอะไรไปแน่!!
“ได้ค่ะ ลูกรับปาก” ในเวลานี้น้ำเสียงของหลิวหยิงหดหู่เล็กน้อย เนื่องจากเป็นเพราะว่าเมื่อสักครู่นี้เพิ่งร้องไห้ และเป็นเพราะในใจมัวหมองเกินไป แต่ว่าในใจของเธอไม่ได้คิดเช่นนั้น
เธอเพียงไม่ต้องการให้แม่เป็นกังวล
“แม่ ไม่ต้องกลับมาหรอกค่ะ ลูกไปหาแม่เอง ตอนนี้ลูกมีเรื่องที่ต้องจัดการ จัดการเรียบร้อยแล้วจะรีบไปหาแม่นะคะ”หลิว หยิงนึกถึงคุณนายซือถู นึกถึงความหน้าซื่อใจคดและความชั่วร้ายของคุณนายซือถู หลิวหยิงรู้ว่าเธอจะให้แม่กลับมาไม่ได้
“ไม่ได้ ถ้าลูกจะมาก็มาตอนนี้เลย ไม่งั้นแม่จะไปหา ลูกอย่าได้คิดที่จะโกหกแม่ ลูกจะมีเรื่องอะไรที่ต้องจัดการกันล่ะ?”คุณแม่หลิวไม่เชื่อคำพูดของเธอเลยแม้แต่น้อยคุณแม่หลิวนั้นเข้าใจลูกสาวของตนเป็นอย่างดี
“ แม่ แม่ยังจำพี่ยี่รุ่ยได้ไหมคะ?เขาเกิดเรื่องแล้ว”หลิวหยิงได้รับคำตอบที่ต้องการแล้ว เธอไม่อยากให้แม่ต้องมาเสียใจเพราะเรื่องนี้ และไม่อยากให้แม่กลับมาตอนนี้ ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนเรื่อง แน่นอนว่าเรื่องของไป๋ยี่รุ่ยในตอนนี้ถือเป็นเหตุผลได้ดีทีเดียว
“ไป๋ยี่รุ่ยเหรอ?แม่ต้องจำได้สิ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขา?”คุณแม่หลิวนั้นจำไป๋ยี่รุ่ยได้ เมื่อก่อนความสัมพันธ์ของตระกูลหลิวกับตระกูลไป๋นั้นไม่เลว แต่ว่าต่อมาก็เกิดเรื่องกับทั้งสองตระกูลขึ้น
“เขาฆ่าคนโดยไม่ได้ตั้งใจ วันนี้ไปมอบตัว ลูกต้องช่วยเขาหาทนายความเพื่อว่าความ” หากเป็นคนอื่นหลิวหยิงคงไม่พูดแต่ว่านี่เป็นแม่แท้ๆของเธอ หลิวหยิงจึงไม่ได้ปิดบัง แม่ก็เห็นไป๋ยี่รุ่ยเติบโตมาโดยตลอด
“อะไร?เขา?เป็นไปได้ยังไง?นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง?เขาจะฆ่าคนได้ยังไง?”ความสนใจของคุณแม่หลิวหลิวหยิงสามารถเบี่ยงเบนได้สำเร็จแล้ว เมื่อได้ยินข่าวนี้คุณแม่หลิวนั้นรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
“เรื่องนี้นั้นมีหลายสาเหตุ แต่ฆ่าคนนั้นเป็นเรื่องจริง ตอนนี้เขาอยู่ที่สถานีตำรวจแล้ว อีกทั้งเรื่องนี้ก็ไม่ได้บอกคนอื่น ตอนนี้มีเพียงเธอเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเขาได้”หลิวหยิงถอนหายใจอย่างเงียบๆ เธอก็ไม่ถือว่าพูดโกหก เพราะเดิมทีเธอก็มีแผนที่จะจัดการเรื่องนี้
เพียงแต่ว่าตอนนี้มีเรื่องที่ต้องจัดการเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเรื่อง นั้นก็คือไปพบซือถูมู่หรงเพื่อถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อนให้กระจ่างชัด
“ได้ ได้ เรื่องนั้นต้องช่วยอย่างแน่นอน ลูกจะต้องช่วยเขาหาทนายที่ดีที่สุด”เดิมคุณแม่หลิวก็เป็นคนที่มีจิตใจเมตตาคนหนึ่ง อีกทั้งไป๋ยี่รุ่ยก็เป็นคนที่หล่อนเห็นมาจนเติบใหญ่ แต่นอนว่าต้องร้อนใจ
“อึม ลูกทราบแล้วค่ะ”หลิวหยิงรับคำเบาๆ:“ดังนั้น ตอนนี้ลูกยังไปหาแม่ไม่ได้”
คุณแม่หลิวนิ่งเงียบครู่หนึ่ง:“งั้นลูกก็ต้องรับปากกับแม่ว่าจะไม่ไปพบซือถูมู่หรง จะไม่ไปพบซือถูมู่หรงเพียงลำพัง”เห็นได้ชัดว่าคุณแม่หลิวยังไม่ลืมเรื่องนี้
“ได้ค่ะ ลูกรับปาก”ขณะที่หลิวหยิงพูดคำพูดนี้ ก็พยายามทำให้น้ำเสียงของตนเองดูผ่อนคลาย แต่ว่าน้ำตาของเธอทำยังไงก็กลั้นไว้ไม่อยู่ มือที่กำโทรศัพท์ไว้ก็อดไม่ได้ที่จะสั่น
ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณแม่หลิวเชื่อคำพูดของหลิวหยิงหรือไม่ แต่ว่าคุณแม่หลิวไม่ได้เน้นหนักเรื่องนี้แล้ว เพียงแต่กำชับให้หลิวหยิงดูแลสุขภาพ ดูแลตัวเองให้ดี
น้ำเสียงของหลิวหยิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ยิ้มพลางตอบกลับ แต่ว่าน้ำตาในดวงตานั้นยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากที่หลิวหยิงวางสายโทรศัพท์ลง ก็พิงลำตัวไปที่ผนัง เธอรู้สึกราวกับว่ากำลังทั้งหมดในร่างกายของเธอหมดลง แม้จะยืนก็ยืนไม่ไหว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องเดินเลย
ในเวลานี้หลิวปิงที่ยืนมองหลิวหยิงอยู่ไม่ไกลนัก เนื่องจากห่างไปไม่มากนัก หลิวปิงจึงมองออกว่าอารมณ์ของหลิวหยิงมีบางอย่างผิดปกติ อีกทั้งเมื่อสักครู่นี้เขายังได้ยินเสียงคำรามของหลิวหยิง เพราะว่าที่นี่คือห้างสรรพสินค้า เสียงดัง ทำให้เขาได้ยินไม่ชัด ได้ยินเพียงหลิวหยิงพูดถึงชื่อของประธาน
ดังนั้นความผิดปกติทางอารมณ์ของหลิวหยิงเกี่ยวข้องกับประธานของเขา?
เพราะว่าเรื่องของเมื่อวาน ทำให้หลิวปิงรับรู้ได้ว่าท่าทีที่ประธานของเขามีต่อหลิวหยิงนั้นไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้ประธานของเขานั้นแคร์หลิวหยิงไม่น้อย ไม่เช่นนั้นเมื่อวานนี้ประธานของเขาก็คงไม่ไปที่คลับจับเรื่องชู้สาวด้วยตนเอง
อีกทั้งในตอนนั้นประธานจับผิดเรื่องชู้สาวสำเร็จแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำโทษอะไรคุณหลิว
และในวันนี้คุณหลิวก็สามารถออกมานอกบ้านได้อย่างอิสระ
เพียงแค่จุดนี้หลิวปิงก็พอที่จะมั่นใจได้ว่าในใจของ ประธานของเขา คุณหลิวสำคัญไม่น้อย
ดังนั้นวันนี้เขาจึงสังเกตเป็นพิเศษ เมื่อเห็นอารมณ์ของหลิวหยิงไม่ปกติ เขาจึงโทรหาประธานของตนอย่างไม่ลังเล
“เกิดอะไรขึ้น?”ไม่นานก็มีคนรับสาย น้ำเสียงของประธานดังเข้ามา ฟังดูเย็นชาเล็กน้อย
“ประธานผมตามคุณหลิวออกจากบ้าน จากนั้นพบว่าเธอ……”หลิวปิงหายใจเข้าลึกๆ สองวันมานี้ประธานน่ากลัวเป็นพิเศษแค่เสียงอย่างเดียวก็ทำให้ขาของคนอ่อนแอได้
“เธอไปหาไป๋ยี่รุ่ย?”น้ำเสียงของซือถูมู่หรงเย็นชาเล็กน้อย เพราะว่าในสถานการณ์ปกติหลิวปิงจะไม่รายงานกับเขาอย่างแน่นอน นอกเสียจากว่าเธอไปพบไป๋ยี่รุ่ย
เมื่อวานตอนเย็นเขาพูดอย่างชัดเจนแล้วว่า ไม่อนุญาตให้เธอไปพบกับไป๋ยี่รุ่ย แต่ว่าพอเธอตื่นขึ้นในตอนเช้าก็รีบวิ่งไปหาไป๋ยี่รุ่ยทันที
เธอนี่มันจริงๆเลย!!
เขาตามใจเธอมากไปหรือเปล่า?
หรือว่าเขาควรขังเธอไว้?!
“ไม่ใช่ครับ คุณหลิวไม่ได้ไปพบไป๋ยี่รุ่ย ตอนนี้คุณหลิวอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าหยินโล่ว”หลิวปิงรีบอธิบาย จะให้ ประธานเข้าใจผิดไม่ได้ เรื่องที่เกิดเมื่อวานครั้งเดียวก็พอแล้ว
“เธอไปห้างสรรพสินค้าหยินโล่ว?”เมื่อซือถูมู่หรงได้ยินคำพูดของหลิวปิงก็คลายความกังวลลงอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงอ่อนลง เพียงแต่รู้สึกสงสัยเล็กน้อย
หลิวหยิงติดตามเขามาห้าปี แน่นอนว่าเขารู้จักเธอไม่น้อย แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยไปสถานที่เช่นนั้น
สินค้าที่ห้างสรรพสินค้าหยินโล่วนั้นแพงมาก ไม่มีทางที่เธอจะไปซื้อของที่นั่น