เธอน่าจะพูดด้วยตัวเองว่าลูกได้เสียไปแล้ว เขากับหลิวหยิงไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว เพียงแต่ว่า เธอไม่นี่น่า ที่สำคัญ ถ้าลูกเสียไปแล้วจริงๆ แม่หลิวไม่พูดไม่จา ก็ไม่น่าจะมองหน้าเขาอย่างนิ่งเฉย น่าจะโมโหและโกรธเคือง
สติค่อยๆกลับมา ซือถูมู่หรงหันหลังกลับไปดูที่พักของหลิวหยิง แววตาค่อยๆเข้มขรึม
ลูกพี่ครับ จะกลับไปหาคุณหนูหลิวหยิงรึเปล่าครับ?ผู้ช่วยผู้ช่วยพิเศษเจียงทดลองอยู่ข้างๆด้วยความระมัดระวัง
ไม่กลับ ซือถูมู่หรงพูดอย่างใจเย็น ไม่มีความจำเป็นต้องกลับไปแล้ว ในเมื่อหลิวหยิงไม่อยากเจอกับเขาโดยตรง กลับไปตอนนี้ก็แค่เอาไข่ไปชนกับก้อนหิน ทำไมล่ะ ที่สำคัญ มีลูกคนนี้ ระหว่างเขากับหลิวหยิง ก็ยังมีโอกาสกลับมาคืนดีกัน——หลิวหยิงไม่ได้เอาลูกคนนี้ออก ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ล้วนเป็นจุดแตกหักที่ดีมากเลยทีเดียว
ซือถูมู่หรงพูดอยู่ และกลับไปที่พักอย่างเงียบๆ วางแผนเรื่องราวต่อจากนี้
วันที่สองตอนที่แม่หลิวกับหลิวหยิงออกไป ก็เจอกับซือถูมู่หรงซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าประตู ไม่ทำอะไรเลย ยืนอยู่ตรงนั้นแบบเงียบๆ รู้สึกงงๆ หรือว่า เขาไม่กลับไปเลยทั้งคืน?เสียดาย หลิวหยิงไม่เป็นห่วงเลยออกไปเหมือนเดิม
จากนั้นหลิวหยิงก็พบว่า ซือถูมู่หรงกลับไปในสภาพที่คบกับเธอในตอนนั้น ก่อนหน้านี้ ถือว่าแอบติดตาม อาจจะไม่ถูกพบเห็น ตอนนี้ ติดตามอย่างโจ่งแจ้ง เขาไม่ปกปิดร่องรอยของตัวเองเลย ก็คือบอกกับหลิวหยิงตรงๆว่า ฉันติดตามคุณ อยู่ข้างหลังนะ
หลิวหยิงงงไปหมด อะไรกันเนี่ย ติดตามอีกแล้วหรอ?เพียงแต่ว่า แอบๆหน่อยไม่ดีหรือ?ทำไมต้องให้เธอรู้ด้วยหล่ะ?หลิวหยิงไม่สนใจ ทำธุระของตัวเองกับแม่หลิวต่อ
คนข้างหลังไม่มีรถเลย ซือถูมู่หรงติดตามหลิวหยิง ซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกล ตอนที่หลิวหยิงหันไปดูเขา ซือถูมู่หรงก็หยุดนิ่งไปเลย และหันไปมองหลิวหยิง ทั้งคู่ต่างสบายดี
หลิวหยิงไม่อยากพูดคุยกับซือถูมู่หรง ซือถูมู่หรงก็ถึงกับไม่คุยกับหลิวหยิงมาโดยตลอด ความรู้สึกที่แปลกๆแบบนี้ ตามหลิวหยิงมาตลอดทั้งวันแล้ว กลับไปถึงห้องยังรู้สึกว่ามีสายตาตามหลังอยู่ตลอดเวลา
แม่คะ แม่เห็นซือถูมู่หรงไหมคะ?วันนี้เขาติดตามเราตลอดเลยใช่มั้ยคะ หลิวหยิงสงสัยว่าตัวเองรู้สึกผิดไป เจ้าตัวซือถูมู่หรง ติดตามพวกเขาอย่างเงียบๆ ไม่ทำอะไรเลย เหมือนกับหาง ที่สำคัญ ตอนที่เธอหันไปมองซือถูมู่หรง ซือถูมู่หรงไม่มีท่าทีปิดบังเลยสักนิด มองดูเธอ โดยที่ไม่เกรงกลัว แล้วก็นิ่งเฉย
ใช่แล้ว วันนี้ เขาตามหลังเราจริงๆ แม่หลิวก็รู้สึกแปลกใจ นี่ไม่เหมือนการกระทำของซือถูมู่หรงเลย ก่อนหน้านี้หลิวหยิงพูดว่า ซือถูมู่หรงติดตามเธอตลอดเวลา แต่ว่านั่นคือแอบติดตาม ปกปิดไม่มิดถึงออกมา ครั้งนี้ ตามหลังหลิวหยิงโดยตรง ไม่หลบ ไม่หนี และยืนอยู่ตรงหน้าหลิวหยิงอย่างเปิดเผย บอกกับเธอว่า ฉันอยู่ข้างหลังเธอแล้วนะ แม่หลิวไม่เข้าใจซือถูมู่หรงเลยสักนิด
อย่าไปสนใจเขาเลย เราควรทำอะไรก็ทำอย่างนั้น หลิวหยิงพูด ซือถูมู่หรงอาจเล่นสนุกชั่วคราวหรอกมั้ง หรือพบว่าไม่ได้เอาลูกออก?แต่ว่าตามนิสัยของซือถูมู่หรงแล้ว ถ้าพบว่าลูกยังอยู่ ไม่น่าจะอยู่เงียบๆแบบนี้นะ แย่งชิงให้ได้ถึงจะเป็นสไตล์ของเขา เพราะฉะนั้น หลิวหยิงรู้สึกผิดเล็กน้อย หวังว่าซือถูมู่หรงแค่เล่นสนุกชั่วคราวนะ
อืม แม่หลิวเคารพในการตัดสินใจของหลิวหยิง ที่สำคัญไม่อยากเข้าใกล้ซือถูมู่หรงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แบบนี้ก็ดี
หลิวหยิงกลับไปที่ห้องนอน หยิบมือถือออกมาโทรหาเวินลั่วฉิง รับสายไวมาก เสียงของเวินลั่วฉิงหุ้มหลิวหยิงเอาไว้ดั่งสายน้ำ หยิงเอ๋อร์ มีอะไรเหรอ?ก่อนหน้านี้ไม่ติดต่อกันเลย นึกถึงที่ที่อยากไปแล้วหรอ?
หลิวหยิงชอบเสียงของเวินลั่วฉิงมากๆ ตอนที่พวกเธอสองคนพูดคุยกัน หลิวหยิงรู้สึกตลอดเวลาว่า เสียงของเวินลั่วฉิงช่างอ่อนโยนเหลือเกิน ออกมาจากใจและนิสัยจริงๆ โดยที่ไม่แต่งเติม จากแก้วหูดังเข้ามาในหัวใจ มีความอ่อนโยน ทำให้สบายใจไปทั้งตัว
ฉิงฉิง ฉันไม่ได้ไปจากที่นี่ หลิวหยิงพยายามทำให้เสียงตัวเองนิ่งสงบที่สุด นี่เป็นเวินลั่วฉิง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธอนะ เธอไม่อยากเอาอารมณ์ด้านลบให้กับหลอน ฉันตั้งครรภ์แล้วนะ วันนั้นร่างกายไม่สบาย ขึ้นเครื่องไม่ทัน
เวินลั่วฉิงอึ้งไปสักพัก ตั้งครรภ์แล้วหรอ เวินลั่วฉิงคิดถึงเรื่องนี้ปุ๊บ ก็รู้สึกดีใจใหญ่เลย หยิงเอ๋อร์ตั้งครรภ์แล้ว ถ้างั้นเด็กคนนี้ เธอต้องชอบแน่ๆเลย เพียงแต่ว่า ความสุขยังมาได้ไม่นานเลย เวินลั่วฉิงก็นึกถึงสภาพของหลิวหยิงกับซือถูมู่หรง ซึ่งไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
ถ้างั้น เธอกะจะทำไง? เวินลั่วฉิงถามหลิวหยิงแบบเบาๆ ไม่ว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นยังไงก็ตาม เธอรับได้หมด พวกเธอเลี้ยงลูกคนเดียวได้อยู่แล้ว ลำบากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ ซือถูมู่หรงไม่ยแมปล่อยเด็กคนนี้แน่ ยังไงซะเป็นลูกคนเดียวในบ้านตระกูลซือถู
ลูกคนนี้ต้องเอาไว้ ฉันก็เตรียมพร้อมเอาเขาไว้แล้วด้วย หลิวหยิงพูด เธอไม่ได้เอาลูกคนนี้ออก วันข้างหน้าก็ไม่มีทางพูดเรื่องลูกคนนี้ออกไป เธอรู้ดี เวินลั่วฉิงไม่มีทางมีลูกแล้ว พูดเรื่องนี้ออกมา สำหรับเธอแล้วเป็นการทำร้ายเธอ
งั้นก็ดีเลย เวินลั่วฉิงพูด การตัดสินใจของหลิวหยิงเธอต้องมีเหตุผลของเธอแน่นอน ทีแรกในใจเธอ หลิวหยิงต้องการตัดความสัมพันธ์กับซือถูมู่หรงอย่างเด็ดขาด ไม่เอาลูกจะดีที่สุด แต่ว่าในเมื่อได้ตัดสินใจไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นยังไงก็ตาม ล้วนต้องแบกรับไว้
ซือถูมู่หรงทางโน้น……
ฉันไม่รู้ว่าเขารู้อะไรมาบ้างแล้ว หลิวหยิงพูดแบบจนหนทาง ทีแรกเธอคิดว่า ซือถูมู่หรงได้เข้าใจไปแล้วว่าลูกเสียไปแล้ว แต่ว่าวันนี้ผิดปกติและแปลกอย่างมาก
…… เวินลั่วฉิงอยากพูดแต่ก็ห้ามไว้ นิสัยของซือถูมู่หรง บวกกับอิทธิพลของตระกูลซือถู หลิวหยิงตัวคนเดียวเหมือนกับไม่เจียมตัว ส่วนหลิวหยิงในตอนนี้ เหมือนไม่แคร์ซือถูมู่หรงแล้ว แม้แต่เขาทำยังไงก็ไม่สนใจแล้ว
ต่อให้ซือถูมู่หรงรู้เรื่องแล้วก็ตาม เขาก็น่าจะไม่ให้ฉันเอาลูกคนนี้ออกหรอก ถ้าซือถูมู่หรงมาแย่งแล้วละก็ งั้นก็เอาชีวิตฉันไปด้วยเลย หลิวหยิงใช้น้ำเสียงที่นิ่งสงบที่สุด และพูดคำพูดที่เย็นชา แม้แต่เวินลั่วฉิงยังตกใจกับน้ำเสียงนี้ หลิวหยิงกะจะตายกันไปข้าง ที่สำคัญ เธอไม่แคร์ซือถูมู่หรงแล้ว
ไม่หรอกนะ มีฉันอยู่ ลูกต้องเป็นของเธอแน่ สามารถอยู่ข้างกายเธอและโตขึ้นมาอย่างปลอดภัย เวินลั่วฉิงไม่เกลี้ยกล่อมให้หลิวหญิงเปลี่ยนการตัดสินใจ เธอแค่จะบอกกับหลิวหยิงว่า ไม่ว่าเกิดเหตุอะไรก็ตาม เธอจะอยู่ข้างกายหลอนตลอดไป เป็นที่พึ่งที่แข็งแกร่งให้กับเธอ ที่สำคัญ หลิวหยิงจะเอาลูกไว้แม้ต้องตายก็ตาม เธอต้องช่วยหลอนปกป้องไว้แน่นอน
ขอบใจเธอนะ ฉิงฉิง หลิวหยิงหัวเราะ เวินลั่วฉิง เป็นคนที่เธอเชื่อใจเสมอ ขอแค่มีฉิงฉิงไว้ข้างกายเธอ ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม เธอก็มีความพยายามยืนหยัดต่อไป
อย่าคิดมากเลยนะ ตอนนี้สำคัญที่สุดก็คือ ดูแลตัวเองดีๆ และรักษาร่างกายให้แข็งแรง ยังต้องดูแลลูกดีๆอีกด้วยนะ งานเยอะแยะ อย่าชะล่าใจเชียวนะ เป็นคนที่เคยผ่านเรื่องราวมาแล้ว เวินลั่วฉิงแทบอยากจะกำชับหลิวหยิงให้มากกว่านี้อีกหน่อย และมากกว่านี้อีกนิด เธอรู้ดีแก่ใจที่สุด สภาพของหลิวหยิงในตอนนี้ ความจริงไม่เหมาะที่จะตั้งครรภ์เลย ทั้งสภาพจิตใจและสภาพร่างกายล้วนไม่ดีหมดเลย จำเป็นต้องบำรุงดีๆ โชคดีที่ ตอนนี้มีแม่หลิวคอยอยู่ข้างกายหลิวหยิง ทำให้สบายใจเลยไม่น้อย
ฉันรู้ น้ำเสียงของหลิวหยิงรู้สึกว่ามีการออดอ้อน ตั้งแต่เธอตัดสินใจเอาลูกคนนี้ไว้ ก็ค่อยๆควบคุมอารมณ์ของตัวเองแล้ว พยายามไม่ให้อารมณ์แปรปรวน แล้วก็ทานข้าวให้ตรงเวลา กับข้าวที่แม่ทำเธอตั้งหน้าตั้งตาทานหมดเลย ยาที่หมอให้มา เธอก็ทานตรงเวลาเธออาจไม่ใช่คนที่เข้มแข็ง แต่ว่าเรื่องที่ได้ตัดสินใจไปแล้ว ยืนหยัดต่อไปแน่นอน อีกอย่าง เธอกับลูกคนนี้ มีความรักอยู่นะ เหมือนที่แม่พูดไว้ นี่เป็นคนที่มีสายเลือดเดียวกันกับตัวเอง และเป็นลูกของตัวเอง ต้องเป็นของตัวเองคนเดียวแน่นอน ใครหน้าไหนก็แย่งไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น เธอต้องดูแลตัวเองดีๆ และดูแลลูกดีๆอย่างแน่นอน
รู้ก็ดีแล้ว ถ้างั้นฉันหาพ่อครัวคนนึงไปเลยโดยตรงก็แล้วกันนะ? เวินลั่วฉิงเป็นห่วงหลิวหยิงไม่อยากทานอาหาร ที่สำคัญแม่หลิวไม่ใช่พ่อครัวมืออาชีพ ทำอาหารก็มีขีดจำกัด หาพ่อครัวมืออาชีพดูแลก็ดีเหมือนกันนะ
ฉิงฉิง ไม่ต้องหรอก ช่วงนี้ฉันไม่ชอบคนแปลกหน้า มีฉันกับแม่ก็พอแล้ว เธอก็มาเยี่ยมฉันบ่อยๆสิ หลิวหยิงพูด ตอนนี้เธอหวังมีช่องว่างอยู่ตามลำพัง ไม่มีใครรบกวน เธอสามารถทำงานของตัวเอง และคิดเรื่องราวของตัวเอง
เวินลั่วฉิงตอบไปหนึ่งคำว่าดี เธอฟังเสียงของหลิวหยิงก็ค่อยๆมีความสุขขึ้นมา ไม่ใช่หน้าตาที่เศร้าหมองเหมือนกับเมื่อก่อน เวินลั่วฉิงสามารถรู้สึกได้ว่า อารมณ์ของหลิวหยิงในตอนนี้นิ่งสงบมากขึ้นเลยไม่น้อย ที่สำคัญเธอมีกำลังใจที่จะอยู่ต่อ อีกทั้งยังพยายามไม่หยุดหย่อนอีกด้วย