หนูตัดสินใจคนเดียวหรือ? เวินลั่วฉิงไม่กล้าถามด้วยความมั่นใจ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถังจื่อซีไม่เคยคิดจะปรึกษากับคนอื่นเลยหรือ?มั่นใจในตัวเองเกินไปรึเปล่าเนี้ย
ใช่ค่ะ ถังจื่อซีพยักหน้า หนูชอบคุณตามากเลยค่ะ เพราะฉะนั้น ตอนที่คุณอามู่เฉิงปรึกษากับหนู หนูก็อนุญาตโดยที่ไม่ลังเลยค่ะ ที่สำคัญ หนูอยากให้แม่ยอมรับคุณตา แล้วก็ได้็ได้รับความผูกพันธ์จากการนับญาติครั้งนี้อีกด้วยค่ะ ถังจื่อซียิ่งพูดเสียงก็ยิ่งเบา เหมือนกับว่าเสียใจที่ตัวเองตัดสินใจเอง แต่ว่า สายตาของเธอสดใสอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ยังมองหน้าเวินลั่วฉิงอีกด้วย
เวินลั่วฉิงมองดูถังจื่อซี นี่เป็นลูกสาวของเธอหรอความกระจ่างแจ้งของเธอและความฉลาดเฉลียวของเธอ ยิ่งทำให้รู้เลยว่าเธอชอบใครก็ชอบเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้น เธอเข้าใจความรักแบบนี้
แม่คะ แม่หวังให้คุณตาเป็นพ่อของแม่มั๊ยคะ? ถังจื่อซีถาม เธอรู้สึกเสมอว่า แม่เข้มแข็งเกินไปแล้ว อยู่ต่อหน้าคุณพ่อถึงจะผ่อนคลายลงบ้าง แม่เหมือนกับได้รับความรักจากพ่อน้อยเกินไป ถ้าซ่างกวนหงเป็นพ่อของแม่แล้วละก็ เขาต้องตามใจแม่แน่ๆ และแม่ก็ต้องมีความสุขอย่างแน่นอน
นี่ไม่ใช่เรื่องที่ว่าคาดหวังรึเปล่า เวินลั่วฉิงพูดแบบถอนหายใจ เรื่องพวกนี้ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้อีกหรือ?สายเลือด เป็นสิ่งที่จนหนทางที่สุด และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลย สำหรับความสัมพันธ์ในวันข้างหน้าจะดีจะร้าย ล้วนดูจากการฝึกฝนของแต่ละคน
ถังจื่อซีคิดๆดูแป๊บนึง งั้น แม่สามารถยอมรับเขาเป็นพ่อของแม่รึเปล่าคะ? ถังจื่อซีมองหน้าเวินลั่วฉิงด้วยความคาดหวัง เธอรู้สึกว่า แม่ต้องคาดหวังกับเรื่องนี้แน่ๆเลย
เวินลั่วฉิงไม่พูดจา เหมือนกับว่ามีก้อนหินโยนเข้ามาในหัวใจ แล้วมีคลื่นพัดเข้ามา แต่ว่าคลื่นนี้ สำหรับเธอแล้ว เหมือนไม่ค่อยสำคัญขนาดนั้น บางครั้งความรักได้เลยเวลาที่คาดหวังแล้ว ชดเชยก็ล้วนไม่มีความหมาย
แม่คะ ถังจื่อซีเรียกหนึ่งครั้ง เวินลั่วฉิงคิดอยู่ว่า พูดยังไงถึงสามารถทำให้เธอเข้าใจ?แต่ว่าแววตาที่คาดหวังของถังจื่อซี ทำให้เธอรู้สึกทรมานมาก
สำหรับแม่แล้ว ไม่มีอะไรที่ยอมรับไม่ได้หรอก แม่รู้สึกว่า ตอนนี้มีพ่อของพวกเธอ มีหนูกับพี่ชายของหนู แล้วยังมีคนในครอบครัวคนอื่นๆอีก ซึ่งก็มีความสุขมากแล้ว เวินลั่วฉิงพูด สำหรับคนที่ไม่ได้คาดหวัง และเรื่องที่ไม่ได้คาดหวัง เธอไม่ค่อยมีความรู้สึกสักเท่าไหร่ ความรักที่เคยให้กับพวกเขา ถูกความรักอื่นเข้ามาทดแทนแล้ว
งั้น แม่กะจะไม่นับญาติกับคุณตาใช่มั้ยคะ? ถังจื่อซีไม่ตายใจ ทำไมแม่พูดแบบสองแง่สองง่ามขนาดนั้น เธอแยกแยะไม่ออกว่าอะไรคือความผูกพันธ์ แค่รู้สึกว่า แม่เหมือนกับไม่ค่อยมีความผูกพันธ์ และไม่ได้คาดหวัง แล้วก็ไม่ใช่ว่าไม่มีความสุข กับความรักครั้งนี้
จื่อซีหวังให้คุณตากับแม่นับญาติกันหรือ? เลินลั่วฉิงย้อนถามถังจื่อซี
ถังจื่อซีก้มหน้าและตั้งใจคิดอยู่สักพัก ถ้าเป็นเธอคนเดียว เธอหวังให้แม่กับคุณตานับญาติกันจริงๆ เพียงแต่ว่า ถ้าเป็นเพราะเธอคนเดียว จะเห็นแก่ตัวไปมั๊ย?
แม่คะ หนูเคารพในการตัดสินใจของแม่ค่ะ ถ้าแม่ชอบคุณตา และอยากนับญาติกับเขา หนูจะดีใจมากเลยค่ะ แต่ว่า ถ้าแม่ไม่อยากนับญาติกับคุณตา หนูจะเสียใจ แต่ว่าไม่เกลียดแม่หรอกค่ะ เพียงแต่ว่าวันข้างหน้า หนูก็จะไม่สนิทกับคุณตาอีกแล้ว หลังจากนั้นยังไปหาซ่างกวนหงด้วยตัวเอง ถ้าซ่างกวนหงไม่ใช่พ่อของเธอ เวินลั่วฉิงเชื่อว่า ซ่างกวนหงก็ตามใจถังจื่อซีมากเช่นกัน แต่ว่า พอซ่างกวนหงเป็นพ่อของเธอปุ๊บ ส่วนพวกเขาต่างไม่ได้นับญาติกัน ถ้างั้นความรักทั้งหมดก็จะยุ่งเหยิง ซึ่งไม่ว่าจะกับจื่อซีหรือว่าจื่อโม่ ล้วนไม่มีข้อดีเลย
ส่วนถังจื่อซีที่รู้เรื่อง ทำให้เวินลั่วฉิงรู้สึกสบายใจ และรู้สึกว่าเสียใจ เพียงแต่ว่าเธอรู้ดี เรื่องนี้ตัดสินใจง่ายๆไม่ได้ ถ้าเธอยอมรับซ่างกวนหงเป็นพ่อของเธอ ถ้างั้น เธอก็รับทุกอย่าง ยังมีความสัมพันธ์กับองค์กรโกสต์ซิตี้อีกด้วย เพียงแต่ว่า เวินลั่วฉิงไม่อยากเปลี่ยนสภาพในตอนนี้เลย
สิ่งเหล่านี้ ดันเปลี่ยนแปรงไม่ได้ด้วยสิ ความสัมพันธ์ทางสายเลือดตัดกันไม่ขาดหรอกนะ ถึงแม้ซ่างกวนหงไม่ปรากฏตัวตั้งหลายปี และไม่ได้ทำหน้าที่พ่อเลย เพียงแต่ว่า เรื่องราวของก่อนหน้านี้เธอก็เห็นแล้วว่า ซ่างกวนหงรักลูกสาวของเขามาก ตอนนั้นจากกันเพราะความจำเป็น ที่สำคัญ ตามหาตั้งหลายปี มีความผูกพันกันอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่า ความสัมพันธ์ครั้งนี้พอมาถึงที่ตัวเธอ ก็รู้สึกว่า ไม่ค่อยจำเป็นสักเท่าไหร่
จื่อซี สำหรับแม่แล้ว พวกเธอสำคัญที่สุดแล้ว ความจริงแม่ไม่ค่อยผูกพัน กับหัวหน้าซ่างกวนเลย แต่ว่า ในเมื่อเขาเป็นพ่อของแม่ แม่จะลองไปสัมผัสดูนะ สามารถพัฒนาไปถึงขั้นไหน ก็ต้องดูระหว่างเราแล้วว่า มีความผูกพันกันจริงๆรึเปล่า เวินลั่วฉิงรู้สึกว่า ตัวเองทำได้นะ ลองยอมรับความผูกพันครั้งนี้ดู ถ้าซ่างกวนหงเห็นเธอเป็นลูกจริงๆ เธอต้องรู้ซึ้งถึงความผูกพันครั้งนี้อยู่แล้ว เพื่อให้คำตอบกับเขา
ค่ะ ถังจื่อซีดีใจสุดๆ เธอรู้ว่าขอแค่เวินลั่วฉิงยอมทำ ถ้างั้น ก็ต้องมีโอกาสแน่นอน
เย่ซือเฉินมีธุระจึงกลับมาดึกมาก ทีแรกคิดว่าเวินลั่วฉิงหลับไปแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าถึงกับยังรอตัวเอง อบอุ่นใจขึ้นมาทันที แล้วเข้าไปกอดเวินลั่วฉิง พูดแบบแซวๆว่า: คุณกำลังรอใครเอ่ย?
รอคุณแน่นอนอยู่แล้ว เวินลั่วฉิงไหลไปตามคำพูดของเขา และหันไปจูบเขาหนึ่งครั้ง เย่ซือเฉินตกใจกับความคึกคักของเวินลั่วฉิง วินาทีต่อไปกระโจนเข้าใส่แล้ว ในเมื่อเวินลั่วฉิงเป็นฝ่ายบุกรุกก่อน ก็อย่าโทษเขาเป็นสัตว์เลยนะ ถ้าแบบนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอีก ก็ประมาณว่ายิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานแล้ว
รอแป๊บนึง ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ เวินลั่วฉิงผลักเย่ซือเฉินออก เรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้ต้องพูดให้ชัดเจน ถึงแม้เธอเป็นเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ตาม แต่ว่าไม่ค่อยอยากข้องเกี่ยวกับองค์กรโกสต์ซิตี้สักเท่าไหร่เลย แต่ว่าเรื่องนี้ ต้องให้เย่ซือเฉินรับรู้
เย่ซือเฉินไม่พอใจ ยั่วยวนเขาด้วยตัวเองแท้ๆ กลับไม่ทำให้เขาพึงพอใจ?เกินไปจริงๆ ที่สำคัญ เรื่องอะไรสำคัญขนาดนั้น?ช่วงนี้มีแต่เรื่องของถังไป๋เชียนหรอกมั้ง เพียงแต่ว่ายังไม่มีข่าวคราวเลยนี่
คุณยังจำได้มั๊ยหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ กำลังตามหาลูกสาวของเขา? เวินลั่วฉิงฉวยโอกาสรีบถามขึ้นมาในขณะที่เย่ซือเฉินยังไม่เผยฤทธิ์เดชของสัตว์ออกมา
จำได้สิ เย่ซือเฉินตอบตามหลักการ เจ้าหญิงปลอมในอดีตคนนั้นได้รับโทษไปแล้วนี่ เจ้าหญิงตัวจริงไม่ได้ข่าวคราวเลยไม่ใช่หรือ ? เพียงแต่ว่า เรื่องพวกนี้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาหรอ?
หรือว่า พวกเขาหาเจ้าหญิงเจอแล้ว? เย่ซือเฉินถาม ไม่ค่อยแปลกใจมากนัก ยังไงซะไม่เกี่ยวกับตัวเองเลย จึงฟังแบบเรื่อยเปื่อย
อืม พวกเขาหาเจอแล้ว เวินลั่วฉิงพูด มองหน้าเย่ซือเฉินแบบลองใจ คนคนนี้ไม่มีสีหน้าเลย ก็แค่เรื่องปกติซึ่งไม่น่าแปลก เวินลั่วฉิงจนหนทาง ทำไมเย่ซือเฉินไม่ใช่หัวสองคิดดูบ้าง ถ้าไม่เกี่ยวกับตัวเอง เธอเอ่ยเรื่องนี้ทำไมล่ะ?ต่อให้เป็นซ่างกวนหงเพิ่มด้วยถังจื่อซีและถังจื่อโม่ ลูกสาวคนนั้นกลับมาแล้วก็ตาม ก็ไม่เป็นไรหรอก เขานิ่งเฉยขนาดนี้เป็นเพราะอะไรนะ
หรอ เย่ซือเฉินพยักหน้า หาเจอก็หาเจอสิ ยังทำอะไรได้อีกล่ะ?ขอแค่อย่าเหมือนคนที่แล้วก็พอ ซึ่งอยู่ดีๆก็อยากแต่งงานกับเขา เขามีเวินลั่วฉิงแล้ว เกี่ยวอะไรกับคนอื่น
เวินลั่วฉิงยอมใจจริงๆ ความนิ่งเฉยของเย่ซือเฉินไม่มีใครเทียบได้เลยจริงๆ จู่ๆเธอคิดถึงเรื่องที่สนุกขึ้นมา ดึงตัวเย่ซือเฉินและพูดว่า ฉันได้ยินมาว่า เจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้คนนี้ อยากแต่งงานกับคุณ
หน้าเย่ซือเฉินดำอย่างที่คาดการไว้ จริงๆเลย กลัวอะไรก็ได้อย่างนั้น ดูไม่ออกเลยหรือว่าเขาแคร์เรื่องนี้มาก?ก่อนหน้านี้เขาไม่กลัวองค์กรโกสต์ซิตี้ ตอนนี้จะกลัวเหรอ ผลลัพธ์ของคนครั้งก่อนที่ท้าทายความตายเธอยังไม่เห็นอีกเหรอ?แต่งงานกับใครไม่เอาต้องแต่งงานกับเขาให้ได้?
เจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้แต่ละคนคงโรคจิตหรอกมั้ง อยากแต่งงานกับฉัน ต้องมีชีวิตสิ เย่ซือเฉินพูดจารุนแรงออกมาโดยตรง ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เขาถือมีดขึ้นมาไม่ไหว?หรือเป็นเพราะว่าเธอเป็นเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ลอยได้แล้ว?
เพียงแต่ว่าได้ยินมาว่า เจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้สนิทกับคุณมากเลยนะ เพราะฉะนั้นถึงอยากแต่งงานกับคุณ เวินลั่วฉิงคิดและพูดออกมา
เย่ซือเฉินจ้องหน้าเวินลั่วฉิง พูดแบบไม่เห็นด้วยว่า หากเธอสนิทกับฉันจริงๆ จะไม่รู้เลยหรือว่าข้างกายฉันมีคุณแล้ว?ยังกล้าเข้ามาใกล้อีก? เย่ซือเฉินคิดว่าเขาแสดงออกมาอย่างชัดเจนแล้ว สำหรับเขา รักเวินลั่วฉิงอย่างรักเดียวใจเดียว คนข้างกายต่างรู้กันดี ทำไมถึงไม่เข้าใจนะยังเข้ามาใกล้อีก
เวินลั่วฉิงคิดๆไปแล้วก็ถูกนะ ข้างกายเย่ซือเฉินไม่มีผู้หญิงอื่นจริงๆด้วย ที่สำคัญมีคนเข้าใกล้เขาเมื่อไหร่ เย่ซือเฉินล้วนไม่สนใจหรือผลักออกไปโดยตรง ผู้หญิงที่สามารถเข้าใกล้เขาไม่มีเลยด้วยซ้ำ เหมือนไม่ค่อยถูกนะ เพียงแต่ว่าเช่นเดียวกัน เย่ซือเฉินไม่เคยคิดเลยหรอว่า ที่เธอพูดอยู่หมายถึงตัวเอง?เวินลั่วฉิงปวดหัวเล็กน้อย