ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – บทที่ 1715 ขอรางวัล

บทที่ 1715 ขอรางวัล

 ดังนั้น หัวหน้าน้อยจะจากไปเมื่อไหร่ กลางคืนพักที่ไหน?  หลินจื่อนั่งอยู่บนตักของมู่เฉิง รองเท้าห้องอยู่ที่ขาอย่างหลวมๆ แต่ละท่าทางนั้นน่าหลงใหลมาก

มู่เฉิงรับรู้ได้อย่างชัดเจน หลินจื่อกำลังอ่อยเขา ความอ่อยนี้ไม่ได้ถูกปกปิด แถมยังมีความยั่วยวนแปลกๆ

 ทำไมครับ คุณหลินจะชวนผมไปที่บ้านคุณเหรอ?  มู่เฉิงไม่เคยคิดว่าจะพัฒนากับผู้หญิงคนหนึ่งเร็วขนาดนี้ ในความคิดของเขา เขาจะเป็นคนคนหนึ่ง อาจจะไม่ใช่รักแรกพบ เจออีกครั้งก็หวั่นไหว ทว่า ในตอนที่พบเจอ จะต้องชอบมากแน่ๆ พวกเขาจะค่อยๆ คุ้นเคยกัน ใกล้ชิดกัน ถึงตอนที่เงื่อนไขสุกงอม แต่ไม่ได้เหมือนกับหลินจื่อเช่นนั้น เจอกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ก็ระฟ้าแลบแผดเผา ไม่มีความสงวนตัว

มู่เฉิงรู้สึกว่า ตนเองชอบผู้หญิงที่ค่อนข้างเรียบร้อยสงวนตัว ทว่าไม่ได้ตั้งใจทำเป็นสงวนตัว แบบนั้น พอพวกเขารู้จักกัน แต่ละเรื่องก็จะจดจำไว้อย่างลึกซึ้ง ทว่าหลินจื่อ เหมือนไม่รู้คำว่าสงวนตัวแปลว่าอะไร แต่ละการกระทำของเธอสามารถให้คนหน้าแดงใจสั่น ก็เหมือนกับตอนนี้ เหมือนกับการชวนแบบนี้ ทำให้มู่เฉิงกัดฟัน เธอทำแบบนี้กับทุกคนเลยเหรอ?

 ใช่แล้ว ฉันว่าจะให้คุณส่งฉันกลับไป  หลินจื่อพูดเยาะเย้ย คงจะเพราะว่ามีความสัมพันธ์แบบสมเหตุสมผล เขาพูดกับมู่เฉิง จึงไม่มีความกลัวแล้ว

 ……  มู่เฉิงอยากจะพูดแต่หยุดไป นี่ตนเองเข้าใจผิดไปเหรอ? หรือว่าหลินจื่อแค่ให้เขาส่งเธอกลับไป? แต่ว่าเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของหลินจื่อนี้ พิงอยู่บนตัวของเขาก็ไม่ได้สบายใจ จับแก้มของเขาอยู่ตลอดเวลา นิ้วมือลูบผ่านร่างกายไป เหมือนจะมีแต่ก็ไม่ มู่เฉิงรู้สึกว่า ถึงแม้ตนเองจะไม่ชอบหลินจื่อ การอ่อยแบบนี้ ก็ทำให้เกินการตอบสนองได้

 หัวหน้าน้อยคิดว่า ฉันทำอะไรอยู่?  หลินจื่อรู้สึกว่า มู่เฉิงยิ่งอยู่ยิ่งน่าาสนุกแล้ว เหมือนจะมีความขัดแย้งเป็นพิเศษ อยากจะคิดมากแต่ไม่ยอมไปคิดมาก ไม่ได้ชอบเธอมากแต่ก็ไม่ยอมปล่อยไป ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคน ก็เหมือนกำลังดื้อดึงกันอู่ในที่ลับ ใครก็ไม่ยอมถอย แต่ว่าตนเองดันตั้งใจอ่อยเขาอยู่

 ผมคิดว่าคุณจะชวนผมไปบ้านคุณ ทำอะไรกันหน่อย  มู่เฉิงเองก็ตรงมาก ในเมื่อหลินจื่อไม่ปกปิด งั้นเขาก็เป็นแบบนี้เช่นกัน อีกอย่าง ดูจากความรู้สึกของหลินจื่อแล้ว เหมือนว่าไม่เคยคิดแบบนี้มาก่อน

หลินจื่อขยับไปกัดมู่เฉิงหนึ่งที กดเขาขึ้นมา จัดเสื้อผ้า  อาหารก็กินเรียบร้อยแล้ว งั้นก็รบกวนหัวหน้าน้อยส่งฉันกลับไปหน่อยเถอะ 

มู่เฉิงมีความรู้สึกเหมือนตนเองเป็นเครื่องมือ ความรู้สึกเหมือนใช้เสร็จก็โยนทิ้ง ทว่าดันเป็นหลินจื่อ เขารู้สึกว่าเธอสมควรมีความเกรี้ยวกราดนี้ จูงนิ้วมือของเธอ  ได้สิ ส่งแฟนกลับบ้าน เป็นสิ่งที่ควรจะทำอยู่แล้ว 

หลินจื่อคิดไม่ถึงว่าเขากลับตอบตกลงเร็วขนาดนี้ พยักหน้า ถูกมู่เฉิงจูงมือเดินออกไป หลินจื่อมองดูภาพข้างหลังของมู่เฉิง เหมือนกับที่คิดว่าเลย เขาก็ยังชอบให้ตัวเองเป็นผู้นำเอง ทว่าคนที่เขาเจอคือตนเอง เกรงว่าจะไม่ยอมเดินตามความคิดของเขาง่ายขนาดนั้น

หลินจื่อนั่งไปยังที่นั่งข้างคนขับอย่างคุ้นชิน รอให้มู่เฉิงขับรถ ทว่ามู่เฉิงนั่งอยู่ไม่ขยับเลย หลินจื่อมองเขาด้วยความสงสัย มู่เฉิงชี้ไปที่ปาก หลินจื่อรู้สึกไม่เข้าใจ อะไร?

มู่เฉิงเม้มริมฝีปาก เขาแสดงออกชัดเจนขนาดนี้แล้ว ทำไมหลินจื่อไม่มีการตอบสนอง เขาอดพร่ำบ่นไม่ไหว  คุณไม่ควรจะปลอบใจแฟนคุณหน่อยเหรอ? 

 แต่ว่า นี่ยังไม่ได้กลับไปไม่ใช่เหรอ?  หลินจื่ออดหัวเราะไม่ไหว นี่กำลัง ขอให้จูบเหรอ? แต่ว่ามู่เฉิงควรส่งตัวเองกลับไปก่อนไม่ใช่เหรอ?

 รถไม่มีน้ำมันแล้ว  มู่เฉิงนั่งไม่ขยับ พูดด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก แปลกจริงๆ ในตอนที่เธอปฏิเสธตนเอง ในใจไม่เพียงแต่ไม่สบายใจ ยังรู้สึกน้อยใจด้วย ทำไมต้องปฏิเสธเขาล่ะ? เขาเอ่ยปากพูดก่อนแล้วแท้ๆ ทำไมถึงไม่คล้อยตามเขาล่ะ?

หลินจื่อจะหัวเราะออกมาแล้ว ทว่าเธอรู้ ตัวเองห้ามหัวเราออกมาเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นมู่เฉิงต้องโกรธแน่ๆ ดังนั้นเธอปลดเข็มขัดนิรภัยออก จูบไปที่แก้มของเขา  ตอนนี้ พวกเราสามารถออกเดินทางได้หรือยัง? 

มู่เฉิงรู้สึกไม่พอใจ ทำไมต้องจูบที่แก้มล่ะ? ไม่ยอมจูบตัวเองเหรอ? หรือว่าลำบากใจมาก? ทว่าในใจก็รู้สึกหวานๆ ความรู้สึกเหมือนว่าถูกคนอื่นเก็บไว้ในใจ ในใจยังคิดไม่หมด ก็สตาร์ทรถแล้ว ออกเดินทางไปตำแหน่งที่หลินจื่อบอก

หลินจื่อนั่งอยู่ข้างคนขับ มองออกไปทางนอกหน้าต่าง สิ่งที่แปลกคือ เธอรู้สึกว่าไม่ควรไปหาเรื่องมู่เฉิงเลย คนคนนี้ อ่อน ยิ่งกว่าที่เธอคิด ทว่า นี่ไม่ใช่โฉมหน้าที่แท้จริงของมู่เฉิงแน่นอน ตอนนี้เหมือนว่าได้แต่คล้อยตามจังหวะการเดินของเธอ ทว่าหลังจากนี้ล่ะ? หลังจากนี้มู่เฉิงไม่มีทางเชื่อฟังเหมือนตอนนี้แน่นอน อีกอย่าง หัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ อยู่ในตำแหน่งควบคุมอำนาจเป็นเวลาหลายปี จะมีท่าทางที่เชื่อฟังได้อย่างไร ปกปิดขอบมุมไป ก็คิดว่า เขาจะเชื่อฟังเหรอ?

หลินจื่อมีความรู้สึกแบบนี้อย่างชัดเจน ในใจมีความอยากชนะและความชอบแฝงอยู่อ่อนๆ ทำให้เธออยากจะลบล้างความคิดแบบนี้ออกไป ก็แค่หัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ใช่เหรอ? คิดขึ้นมาจริงๆ แล้ว เธอสามารถหาเรื่องไหวอยู่ มากสุดก็แค่ตอนสุดท้ายเลิกรากันไป ไม่เจอกันอีก ตอนนี้ เธอไม่อยากปล่อยไป

หลินจื่อคิดอยู่ ก็หันไปมองมู่เฉิง ความชอบที่เธอมีต่อคนนี้ เหมือนเป็นเพราะใบหน้าใบหนึ่ง ใบหน้านี้อยู่ในมุมมองความสวยของเธอ ทำให้เธออยากจะครอบครอง และเสียงของมู่เฉิง น่าฟังมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีเนื้อหาสาระสำคัญอะไร เธอเองก็อยากฟัง ถึงแม้จะแค่ฟัง ก็ชอบคนคนนี้แล้วเหรอ? หลินจื่อคิดอยู่ หากไม่ใช่เพราะหน้าใบนี้ เธอหน้าจะไม่เข้าใกล้มู่เฉิง หากไม่มีเสียงนี้? ช่างเถอะ เสียงคือของแถว หลินจื่อคิดแล้วก็ส่ายหัว ตัวเองเป็นคนที่มองคนโดยหน้าตาเหรอ หากไม่ชอบหน้าใบนี้ แน่นอนว่าก็ไม่ชอบคนคนนี้แล้ว หลินจื่อนึกถึงสถานการณ์แบบนี้ในใจ ก็ถอนหายใจ ผิวเผินจริงๆ! เธอกลายเป็นคนผิวเผินแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่! หลินจื่ออยากจะปิดหน้า จริงๆ เลย ชินไหม? เพราะว่าหน้าตามู่เฉิงเป็นหน้าตาที่ตนเองชอบ จึงต้องได้มาให้ได้ งั้น หากไม่ชอบนิสัยของมู่เฉิงแล้ว จะทำอย่างไร! หลินจื่อมีความลังเล

 ถึงแล้ว  ในตอนที่หลินจื่อไม่สังเกต มาถึงสถานที่ที่เธอพักแล้ว มู่เฉิงเห็นหลินจื่อมีความสุขอยู่ จึงไม่อยากขัดจังหวัด แต่รับไม่ได้กับการที่หลินจื่อละเลยเขา ดังนั้นจึงพูดด้วยความงอล

หลินจื่อฟังออกถึงความไม่พอใจ ทว่า ไม่รู้ว่าความไม่พอใจนี้มาจากน้อย อยากจะเปิดประตูลงไป ทว่ายังไม่ทันเปิดออก ก็ถูกมู่เฉิงดึงมือไว้

 คุณควรจะให้รางวัลผมหน่อยไหม?  มู่เฉิงดึงข้อมือของหลินจื่อ เล็บของเธอทาสีแดงสด ในตอนที่เขาจับมือตั้งใจลูบผ่านเล็บของเธอไป มีความรู้สึกสวีทแปลกๆ

หลินจื่อมองมู่เฉิง คนคนนี้ ติดคนเกินไปแล้ว เธอไม่ค่อยชอบสภาพแบบนี้ สภาพที่เธอหวัง คือตอนที่เธอคิดถึงมู่เฉิง มู่เฉิงจะอยู่ข้างกายเธอ ในตอนที่เธอยุ่ง มู่เฉิงก็ทำเรื่องของตนเอง ทว่าแบบนี้ เหมือนจะไม่ใช่ความรัก เหมือนเห็นมู่เฉิงเป็นเพียงเครื่องมือ หลินจื่อรู้สึกว่า ตัวเองเดินผิดก้าวแล้ว ไม่ควรจะรีบร้อนขนาดนี้ ไม่ควรจะเริ่มก่อนเกินไป ก่อนหน้านี้เธอรู้สึกว่า มู่เฉิงเชื่องช้าเกินไป ดังนั้นจึงตั้งใจให้เขารู้สึกถึงการอยู่ของตนเอง ทว่าตอนนี้ ความติดคนของมู่เฉิงเหมือนสร้างปัญหาให้กับตนเองแล้ว

มู่เฉิงรู้สึกถึงการต่อต้านของหลินจื่อ เหมือนว่ากำลังจะทิ้งเขาไป นี่ทำให้มู่เฉิงไม่พอใจมาก ดึงหลินจื่อมาเลย กดทับเธอลงบนตัวของตนเอง จูบลงไปอย่างแรง เธอไม่ตอบสนองมา งั้นฉันตอบสนองกลับเอง หลินจื่อไม่ยอมเริ่มก่อน งั้น เขามาเอง ตั้งแต่วินาทีที่หลินจื่อมาหาเรื่องตนเอง เธอก็ถูกกำหนดแล้วว่าต้องเป็นของตนเองเท่านั้น ห้ามเป็นของคนอื่น

หลินจื่อดันมือไปยังตัวของมู่เฉิงทันที ท่าทางของมู่เฉิงเร็วเกินไป หลินจื่อรู้สึกแค่มีคนมาจูบตนเอง แต่ไม่มีการกระทำขั้นต่อไป

 แค่การจูบไง  หลินจื่อกลับยังมีอารมณ์เหม่อลอย ตอนแรกคิดอยู่ว่ามู่เฉิงกำลังทำอะไร แตกต่างกับความความผ่อนคลายในเมื่อกี้มาก การจูบนี้ เธอรับรู้ได้ถึงความข่มขู่ที่แอบแฝงอยู่ หลินจื่อคิดว่า มู่เฉิงไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

ทว่ามู่เฉิงไม่ได้ทำต่อ แค่ปิดปากแน่น ในบรรยากาศที่เงียบสงบนี้ จู่ๆ หลินจื่อก็รู้สึกว่า ตัวเองไม่ควรลังเลปัญหาที่ว่ามู่เฉิงเป็นหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ หรือนิสัยของมู่เฉิงคนนี้ ในเมื่อเธอชอบหน้าของมู่เฉิง งั้น ในตอนที่เธอชอบ ก็ควรจะมีความสุขกับมัน เรื่องอื่น ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ใจ หากมู่เฉิงชอบเธอจริงๆ แน่นอนว่าเธอก็ต้องรู้สึกได้ ตอบกลับเขาได้ ก็จะมีการตอบกลับแน่นอน ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น

 

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Status: Ongoing

มองที่เด็กๆ ที่มีหน้าตาเหมือนกับตัวเอง สมองเขาว่างเปล่า ชั่วคราว”แม่เราก็คือภรรยาของคุณนะคะ ทำไม ภรรยาของ คุณมีลูกสองคน คุณไม่รู้หรอ”เด็กๆ จ้องมองเขา เตือนเขา อย่าง”มีน้ำใจ” เขาชะงักไปสองวินาที สีหน้าเปลี่ยนหลาย แบบ”ที่รัก อยู่ไหน” วินาทีต่อไป เขาโทรหาเวินลั่วฉิง “ได้ รอ ฉันสักครู่ ฉันจะไปที่ที่อยู่ทันที จะมีSurpriseให้นะ”ดี ดีจัง เขาอยากจะดูว่าเธอยังมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาไว้ จะคิดบัญชี อย่างจริงจังแล้วนะ”นี่มันร้ายใจเกินไปมั่ง”เด็กสองคนนี้ตะลึง Surpriseนี่มันใหญ่จัง ดูเหมือนว่า คนนั้นจะซวยค่ะ! ! !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท