ตอนที่ 1084
ลั่วฉวนมองไปยังชายชราที่เผยท่าทีจริงจังอย่างกะทันหัน จากนั้นจึงมองที่ตราสัญลักษณ์ในมือและแก้วที่ถือเอาไว้แน่นด้วยอีกมือราวกำลังคาดเดาหาเหตุผล
หรือ… ว่านี่จะเป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกันของปีศาจ? ร้านแห่งนี้เป็นของปีศาจอย่างนั้นหรือ?
แม้ว่าโดยภาพรวมไม่ใช่ปัญหา แต่มันก็ดูแปลก
โรนากำลังเกิดความรู้สึกอันซับซ้อน เขาคิดว่าการได้มายังที่นี่คือการชี้นำแห่งโชคชะตา ร้านเพียงหนึ่งเดียวในถนนที่ไร้ซึ่งแสงไฟจากสิ่งปลูกสร้างอื่น เกรงว่าหากเป็นผู้สัญจรคนอื่นคงสงสัยและเข้ามาเยือนร้านแห่งนี้เช่นเดียวกัน
ตราสัญลักษณ์อันทรงพลัง มันมากพอให้เขารับรู้ได้ว่าทั้งร่างนั้นแทบปะทุออกซึ่งพลัง ทั้งยังเป็นพลังอันชวนสะพรึง สายตาเขาแทบไม่อาจละจากสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนฝ่ามือได้
“ราคาที่ต้องจ่ายล่ะ?” เขาวางแก้วในมือขวาลงและเอ่ยถามอย่างจริงจัง
โรน่าตอนนี้เกิดมั่นใจขึ้นมา ว่าเถ้าแก่ตรงหน้าที่เหมือนไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ธรรมดา แต่แท้จริงกลับเป็นตัวตนทรงอำนาจชวนสะพรึงซึ่งไม่มีใครรู้จัก มันกระทั่งทำให้เขานึกถึงเทพในตำนาน
ตลอดเวลาในขั้นตอนการทำกาแฟ เขาจับจ้องอยู่โดยตลอด และทั้งหมดนั้นไม่พบเห็นความผิดปกติแม้แต่น้อย ทว่าหลังดื่มเข้าไป มันกลับทำให้เกิดสิ่งที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์
“ยังไม่ได้กำหนดราคาเลย ถือว่ามอบให้ก็แล้วกัน” ลั่วฉวนที่กล่าวถึงราคาขาย แต่ขณะที่โรนาไม่ได้หมายถึงราคาเช่นที่กล่าว และเขาก็ไม่ได้ตระหนักทราบเลย
ชายชราที่เปรียบดังผู้สูงศักดิ์แห่งอังกฤษตอนนี้เงียบงันไปครู่ จากนั้นจึงหยิบเอาผลึกสีแดงออกจากเสื้อและวางลงบนโต๊ะ “นี่น่าจะถือว่าพอ”
ถัดจากนั้นเขาจึงดื่มกาแฟที่เหลือ ออร่าจากร่างนั้นยังคงท่วมท้น ไม่ช้าจึงเดินไปยังประตูร้าน และหยิบร่มคันสีดำที่วางอยู่ตรงนั้นขึ้นมา
ก้าวเดินของเขาชะงักไปเล็กน้อย ฝ่ามือที่ถือหมวกสีดำนั้นยกขึ้นหยุดตรงตำแหน่งหน้าอกก่อนจะโค้งกายให้ลั่วฉวนเล็กน้อย
ถัดจากนั้นเขาจึงสวมหมวก กางร่ม และเดินหายไปท่ามกลางสายฝนและลมเย็นยะเยือก
เป็นลูกค้าที่ชวนให้เกิดเรื่องราวน่าจดจำ
ลั่วฉวนละสายตากลับก่อนจะหยิบเอาผลึกสีแดงที่โรนาวางเอาไว้บนโต๊ะขึ้นมา
ภายในของมันเปี่ยมแน่นด้วยพลังงาน รวมถึงมีคราบเลือดเปรอะเปื้อน ราวกับเป็นคริสตัลที่ผ่านการถูกย้อม
เหมือนว่าไม่มีอะไรพิเศษ ลั่วฉวนจึงวางมันลงบนชั้นที่ยึดติดกับผนังร้านด้านหลังเคาน์เตอร์
อย่างไรแล้วนี่ก็ถือเป็นรายรับก้อนแรกของร้านกาแฟแห่งนี้ ทั้งยังดูดี เช่นนั้นวางประดับตกแต่งเอาไว้ดีกว่า
และตอนนี้เหมือนจะต้องทำความสะอาดหน้าร้านเสียหน่อย
ลั่วฉวนมองแก้วกาแฟที่ลูกค้าเพิ่งใช้งาน คราบน้ำฝนที่หยดลงกับพื้น จากนั้นจึงถอนหายใจ
ไม่สะดวกสบาย ไม่ดีเหมือนดังร้านต้นตำรับ
ช่างมัน เรื่องเล็กน้อยเท่านี้จะรบกวนระบบก็คงไม่ใช่ ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต
โรนาที่เดินออกจากร้าน หลังเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เขาต้องหันกลับมอง
หน้าต่างโปร่งแสงยังคงเผยแสงอันอบอุ่นออกมาท่ามกลางภายนอกอันมืดมิด
ไม่ว่ามองอย่างไรก็ไม่น่าใช้สถานที่ซึ่งปีศาจใช้ซ่อนตัวอยู่ แต่ราวกับเป็นสวรรค์ในความมืดมิด
โรนาส่ายศีรษะ ตราสัญลักษณ์ที่ฝ่ามือของเขานั้นรับรู้ได้กระจ่างชัด มันย้ำเตือนเขาว่าสิ่งที่เพิ่งประสบมานั้นไม่ใช่ภาพลวงตา
สีหน้าที่ค่อนข้างซีดเผยยิ้มบางปรากฏ จากนั้นเขาจึงเดินมุ่งต่อไป
แต่ก้าวเท้านั้นเหมือนดังไม่อยากก้าวเดินไป
…..
ลูกค้าที่เป็นผู้ดีอังกฤษคงจะเป็นลูกค้าคนเดียวประจำวันนี้ของร้านกาแฟ ลั่วฉวนไม่คิดที่จะรอลูกค้าคนที่สอง
อย่างไรแล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาค่ำคืนที่ฝนตกหนัก ใครกันที่จะอยากออกมา
เพราะเริ่มรู้สึกเบื่อเล็กน้อย ลั่วฉวนจึงกลับไปยังร้านต้นตำรับก่อนเวลาตามปกติ
“เถ้าแก่เหตุใดกลับมาเร็ว?” เหยาซือหยานพบเห็นลั่วฉวนที่เดินไปยังชั้นวางโคล่าจึงกล่าวถาม
“ทางด้านนั้นก็ฝนตก” ลั่วฉวนหยิบขวดโคล่าแล้วจึงเดินเข้ามา
“เป็นเช่นนี้นี่เอง” เหยาซือหยานพยักหน้ารับ แต่แล้วนางคล้ายตระหนักได้ถึงความแตกต่าง “เถ้าแก่ดูอารมณ์ดีหรือเปล่านะ?”
ร้านกาแฟเพิ่งเปิดได้เป็นวันที่สอง และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ลั่วฉวนอารมณ์ดี
แต่เพราะยังไม่คิดอยากบอกให้ทราบเร็วเกินไป เขาจึงตอบกลับ “ก็ปกตินะ”
“งั้นหรือ?” เหยาซือหยานมองลั่วฉวนด้วยความสงสัย นางเลือกที่จะเชื่อสัญชาตญาณของตนเอง
ลั่วฉวนเกิดรู้สึกว่านางยังมีคำถามคิดถาม ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่อง “แล้วผลงานเป็นยังไงบ้าง? ปรับแก้เสร็จแล้ว?”
กล่าวถึงเรื่องนี้ เหยาซือหยานพยักหน้ารับ “ข้าเพิ่งอ่านทวนตั้งแต่แรกอีกครั้งหนึ่ง ไม่มีตรงใดต้องแก้แล้ว เถ้าแก่สนใจอ่านหรือไม่?”
“ได้” ลั่วฉวนพยักหน้าตอบรับ
เหยาซือหยานจึงส่งโทรศัพท์วิเศษให้ลั่วฉวน
เมื่อลั่วฉวนอ่านสำรวจ นางที่อยู่เคียงข้างก็รับชมอยู่โดยตลอด บางครั้งยังแอบมองที่ใบหน้าลั่วฉวนเป็นครั้งคราว
ตั้งแต่ที่อ่านครั้งก่อน ลั่วฉวนไม่ทราบว่าเหยาซือหยานก้าวหน้าถึงไหนแล้ว
อีกทั้งเหยาซือหยานยังบอกว่ามีการปรับแก้จากฉบับเดิมค่อนข้างเยอะ ดังนั้นเขาจึงเริ่มอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น
แรกเริ่มของเรื่องราวคือการแนะนำตัวละครและระบบทั้งหลาย
ตามที่ลั่วฉวนเข้าใจ โลกแห่งนี้คือการผสมผสานระหว่างเวทมนตร์และวิทยาศาสตร์ และเหยาซือหยานตั้งชื่อให้มันว่าทวีปกลอรี่
ตอนนี้เขากำลังรับชมเนื้อหาของอันเดตผู้สังเวยฮูคาและผู้ตัดสินเฮลรัม
มนุษย์มีความละโมบไม่สิ้นสุด ไม่ว่าจะทั้งต่อชีวิต เงินทอง สถานะ… เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้คนนับไม่ถ้วนเฝ้าฝันหา
นักเวทที่ออกเดินทางไปทั่วบังเอิญได้พบเจอคัมภีร์เวทจากอดีตกาล จากนั้นจึงนำไปสู่พิธีกรรมการอัญเชิญนอกรีตเพื่อแสวงหาซึ่งความรู้ สุดท้ายจึงเป็นการปลุกอันเดตผู้สังเวยฮูคาขึ้นมาจากการหลับใหล
สิ่งที่ตามมาคือโรคร้ายแห่งความตายอันนับไม่ถ้วน พลังแห่งความตายได้แผ่ขยาย ชีวิตที่เคยตกตายไปแล้วกลับคืนสู่การมีชีวิต สุดท้ายโลกทั้งใบกลับกลายเป็นต้องสั่นสะเทือนประหนึ่งขุมนรกบนดิน
เฮลรัมเดิมคือองค์ชายแห่งประเทศที่โดนเชื้อโรคร้ายเล่นงาน เขาคือประจักษ์พยานถึงการล่มสลายของอาณาจักรที่ปรากฏหายนะแผ่กระจาย และทั้งหมดนั่นมีอันเดตผู้สังเวยฮูคาเป็นต้นตอ
ส่วนทางด้านนักเวท เพราะใช้พิธีกรรมอัญเชิญต้องห้ามเรียกฮูคาออกมาได้สำเร็จจึงถูกพรากชีวิต ตัวเขาต้องตกตายก่อนจะได้เห็นหายนะของโลก นั่นคือสิ่งที่เขาต้องจ่ายในการแสวงหามาซึ่งพลังและภูมิความรู้
เฮลรัมที่ต้องการแสวงหาพลัง เขาเลือกที่จะเข้าหาเงามืดคว้าเอาพลังมาและทิ้งอาณาจักรไว้เบื้องหลัง ตัวเขากลับกลายเป็นผู้ตัดสินความยุติธรรมและออกเดินทางเพื่อล้างแค้น…
เนื้อหาค่อนข้างดี ลั่วฉวนได้ดื่มด่ำกับเรื่องราวผ่านตัวอักษร
“ทำได้ดี” ลั่วฉวนเผยคำชมจากใจหลังได้อ่านครบ เขาช่วยกล่าวเสริม “แต่ความรู้สึกมันบ่งบอกว่าคุ้นเคย ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือไม่”
“เถ้าแก่ รูปแบบเหล่านี้เป็นท่านบอกต่อข้าเอง” เหยาซือหยานรับโทรศัพท์วิเศษคืนมาพร้อมเผยยิ้ม
กล่าวไปหรือ?
ลั่วฉวนครุ่นคิด เหมือนว่าเหยาซือหยานจะเคยถามความเห็นเขาเมื่อก่อนหน้านี้จริง
แต่ตอนนั้นเขาก็เพียงตอบรับไปเรื่อย ไม่นึกว่าจะได้ผลลัพธ์เช่นที่เห็นในตอนนี้
ลั่วฉวนใช้เวลาอ่านค่อนข้างนาน จนตอนนี้ค่อนข้างดึกแล้ว หลังพูดคุยกันอีกครู่หนึ่งจึงแยกย้ายกลับ