ตอนที่ 1117
ปิงชวงวางถุงมันฝรั่งทอดไว้บนโต๊ะ นางกำลังคิดไปเผชิญกับมิติแห่งฝันร้ายที่ได้ทราบจากลั่วฉวน ตอนนี้นางกำลังเดินไปหาเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงบริเวณพื้นที่ส่วนต่อขยายของร้านต้นตำรับ
เมื่อมาถึงมิติเริ่มต้นอันคุ้นเคย นางได้ตระหนักเห็นไอคอนสีขาวเงินไร้ลักษณ์ เมื่อยื่นมือเข้าไปสัมผัส ม่านแสงจึงปรากฏขึ้นตรงหน้า
“ท่านต้องการเข้าสู่มิติแห่งฝันร้ายหรือไม่?”
มีสองตัวเลือก “ใช่” และ “ไม่” ซึ่งนางเลือก ใช่
มิติสีขาวกลับกลายเป็นดำมืด ปิงชิงตระหนักพบเห็นไอคอนเรืองแสงตรงปลายสายตา เมื่อกดเปิดจึงเป็นม่านแสง มันคือตัวเลือกการปรับเปลี่ยนระดับ เมื่อเลือกเรียบร้อยจึงกดเริ่ม
รอบด้านกลายเป็นห้วงอวกาศกว้างใหญ่พร่างพรายด้วยดวงดาว แสงดาวนับไม่ถ้วนเจิดจรัสเป็นจุดไกลโพ้น สีหน้าของปิงชวงเผยความสับสน สายตาที่นางมองที่นี่ราวกับแปลกประหลาด
นี่มัน… ที่ไหน?
สายตาของนางมองออกไป ห้วงดาราจักรเกิดความแปรเปลี่ยน ราวกับเกิดเรื่องราววิปโยคขึ้น ดวงดาวเริ่มหม่นแสงเลือนหายไปทุกที่ที่นางเคลื่อนผ่าน ออร่าแห่งความคลุ้มคลั่ง โกลาหล และหวาดกลัวกระจัดกระจายทิ้งไว้เป็นทาง
ราวกับมีตัวตนอยู่เพื่อเป็นอีกด้านของสรรพสิ่ง หรือสิ่งที่เรียกว่าอำนาจแห่งการทำลายล้างอันบริสุทธิ์ ทุกสิ่งอย่างถูกทำลายสิ้น สิ่งมีชีวิตล้วนล้มตายไม่มีทางหนีรอดพ้น
ปิงชวงขมวดคิ้ว นางรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่ปรากฏในใจ มันราวกับส่งผลต่อจิตสำนึกของนาง อารมณ์และความรู้สึกของนางตอนนี้ราวเกินควบคุม
“ตรวจพบความผิดปกติของสภาพจิตใจเกินกว่าที่กำหนด ระบบรักษาความปลอดภัยจะนำท่านออกไป”
ปิงชวงได้ยินเสียง สภาพรอบด้านเลือนหายในพริบตา ตัวนางกลับคืนสู่มิติเริ่มต้นขาวโพลนอีกครั้ง
อารมณ์ในใจนางค่อยสงบลง ออร่าพลังงานที่หลุดพ้นจากร่างของปิงชวงเลือนหาย สภาวะจิตใจเริ่มกลับคืนความปกติ
“ปิงชวง?” ลั่วฉวนที่เล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด ตอนนี้ตรวจพบถึงพลังงานประหลาดปรากฏ สายตาหันมองทางมิติส่วนต่อขยาย “ระบบ?”
ครั้งลั่วฉวนออกแบบเส้นทางเชื่อมโยงมิติภายในร้าน มันจะกลายเป็นที่ผืนเดียวกับร้าน ไม่มีการปิดกั้นออร่าระหว่างสองพื้นที่ เพราะโดยหลักแล้วไม่มีความจำเป็น เพราะต่อให้เป็นขอบเขตนักบุญก็ไม่อาจทำลายร้านต้นตำรับ
“ลูกค้าประสบความผันแปรทางจิตอย่างรุนแรงในมิติแห่งฝันร้าย ดังนั้นจึงถูกบังคับให้ถอนตัวกลับออกมา ทั้งหมดเป็นไปตามค่าที่กำหนดเอาไว้” ระบบตอบกลับมา
พลังงานที่ปิงชวงควบคุมค่อนข้างแปลกประหลาด มันไม่เหมือนพลังวิญญาณ ที่มีคือออร่าแห่งความตายอันรุนแรง ราวกับพร้อมจะกัดกร่อนทุกสรรพสิ่ง
เมื่อพลังงานพิเศษเผยตัว อานเหวยหยาที่ยังคงเลือกรสชาติไอศกรีมอยู่ถึงขั้นแตกตื่น “ปิงชวง?!”
ปู้หลี่เกื๋อและคณะต่างอยู่ในโลกเสมือนจริง ระบบป้องกันการรับรู้ภายนอกทำงานอย่างไร้ที่ติ ดังนั้นทั้งคณะจึงไม่รับรู้ถึง
เว่ยฉิงจู่และคณะกำลังแบ่งปันข่าวคราวเรื่องราวของร้านต้นตำรับกับลูกค้าคนอื่นในกลุ่มแชท พวกนางรับรู้ถึงความหวาดกลัวที่ปรากฏในใจของพวกนางเองจนสะดุ้ง
มันเป็นออร่าที่ปรากฏเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะเลือนหาย แต่มันมากพอทำให้เว่ยฉิงจู่เผยสีหน้าซีดเผือด ร่องรอยความหวาดกลัวยังไม่เลือนหาย เมื่อครู่ ราวกับนางได้เผชิญกับภัยล้างโลกต่อหน้าที่ไม่อาจต่อต้าน
เวลานี้เองที่นางได้ยินเสียงของอานเหวยหยา ดวงตาอดไม่ได้ที่จะเบิกกว้างรับคำด้วยอาการแตกตื่น “ออร่าของปิงชวงงั้นหรือ?!”
ความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในร้านต้นตำรับกลับกลายเป็นตึงเครียด เสียงอันสงบของลั่วฉวนกล่าวคำขึ้น “สถานการณ์ปกติ ไม่ต้องสนใจ”
หลังเกิดกังวล อานเหวยหยาค่อยสงบใจลง นางเชื่อในคำของลั่วฉวน ตอนนี้ถึงขั้นถอนหายใจอย่างอับจน “แม้ว่าปกติ แต่ไม่ใช่ควรหลีกเลี่ยงแต่แรกหรอกหรือ?”
“เป็นผลกระทบจากมิติแห่งฝันร้ายที่ดึงเอาความหวาดกลัวออกมา ตามข้อกำหนดเพื่อรักษาความปลอดภัย รายละเอียดอื่นนอกจากนี้ไม่อาจอธิบายได้” เสียงลั่วฉวนกล่าวบอกราบเรียบ
“เรื่องนี้… ข้ามีคำถาม” เว่ยฉิงจู่เผยคำเสียงเบาขึ้นมาพร้อมยกมือ ลั่วฉวน อานเหวยหยา และเหยาซือหยานต่างมองที่นาง
“ออร่าเมื่อครู่นี้ เป็นของปิงชวงจริงหรือ?” เว่ยฉิงจู่เอ่ยถามเสียงเบา คณะลั่วฉวนทั้งสามพยักหน้าตอบรับ
เว่ยฉิงจู่และคณะของนางต่างจ้องมองกันเอง พวกนางรู้สึกราวกับสมองไม่อาจประมวลผล ปิงชวงที่น่ารักและงดงามถึงขั้นเป็นยอดฝีมือชวนสะพรึงเพียงนั้น? โลกนี้ช่างยากแท้หยั่งถึง
“ยังคิดอยากลองมิติแห่งฝันร้ายอยู่ไหม?” หลินว่านฉวงเอ่ยถาม เว่ยฉิงจู่และซ่งฉิวหยิ่งต่างส่ายศีรษะ
ที่นครจิ่วเหยาช่วงนี้มีผู้คนสัญจรไปมาน้อยนิด เพราะฝนที่ตกไม่มีทีท่าจะหยุด น้ำฝนจึงไหลไปมาบนพื้นก่อนจะเข้าสู่ระบบระบายน้ำของเมืองหายวับไป
กู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางกำลังเดินมาตามทาง ม่านพลังวิญญาณป้องกันสายฝนให้พวกนาง เสียงพูดคุยพลางหัวเราะดังปรากฏท่ามกลางเสียงฝนที่ตกลงมา
“เหมือนว่าจะมีข้อความเข้ามา” กู่หยุนซีตระหนักพบ โทรศัพท์วิเศษถูกนำออกมา รับชมข้อความที่หน้าจอ เสียงของนางฉับพลันดังขึ้น “สินค้าใหม่!”
“สินค้าใหม่? สินค้าใหม่ของร้านต้นตำรับ?” เจียงเหวิ่นฉางที่อยู่ข้างกายเผยท่าทีประหลาดใจก่อนจะนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมาเช่นกัน “มีมันฝรั่งทอด และยังมีแอพพลิเคชั่นใหม่ของเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงด้วย…”
แม้ได้รับคำยืนยันจากลั่วฉวน ว่ามิติแห่งฝันร้ายมีความปลอดภัยครบถ้วน อานเหวยหยาก็ยังตัดสินใจไปตรวจสอบว่าเกิดอะไรผิดปกติขึ้นกับปิงชวง อย่างไรแล้วออร่าที่นางเผลอปลดปล่อยออกมานั่นก็มากพอชวนให้ตระหนก
อานเหวยหยามาถึงห้องแยกในพื้นที่ส่วนต่อขยายที่ปิงชวงนั่งเล่นอยู่ นางเคาะประตู “ปิงชวง”
ประตูเปิดออก ปิงชวงที่ดวงตาแดงก่ำนั่งอย่างสงบบนเก้าอี้ เรื่องนี้เป็นผลให้อานเหวยหยาถอนหายใจโล่งอก นางยื่นมือเข้าไปลูบศีรษะ “ไม่เป็นไรแล้ว เล่นต่อได้นะ”
ปิงชวงมองที่อานเหวยหยาซึ่งเดินกลับออกไปด้วยความสับสน นางไม่เข้าใจว่าตัวนางกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ หลังประตูปิด นางกลับเข้าไปดื่มด่ำกับโลกเสมือนจริงอีกครั้งหนึ่ง
อานเหวยหยาเดินเข้าห้องแยกใกล้เคียง วันนี้นางคิดไปรับภารกิจที่เก๋อหลัวสักหลายภารกิจ รวมถึงทำการรวบรวมวัตถุดิบเช่นอัญมณีส่องประกายแสง…
ยี่ลาไม่ได้เข้าใช้เครื่องเล่นเกมเสมือนจริงเพื่อไปทดลองมิติแห่งฝันร้าย หลังเลือกรสชาติมันฝรั่งทอดกับสินค้าอื่นเรียบร้อย นางมุ่งตรงเดินทางกลับนครไซเรน
แม้ว่ามีประตูมิติอีกบานที่นำทางไปสู่นครใต้สมุทร แต่ระหว่างสองเมืองก็ไม่ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงใดมาก ทุกอย่างยังคงเดิม เสียงร้องเพลงของชาวไซเรนในเมืองลึกใต้ผืนสมุทรยังคงดำเนินไปเช่นเดิม
“หือ? ยี่ลา ถืออะไรมาน่ะ?” ขอนไม้ลอยมาหยุดตรงหน้ายี่ลา เป็นเสียงของเฮเลนเวีย
“สินค้าใหม่ของร้านต้นตำรับ มันฝรั่งทอด” ยี่ลาเผยยิ้ม
“สินค้าใหม่?” ด้วยกระแสน้ำไหลเวียน ขอนไม้เลือนหาย ร่างเฮเลนเวียปรากฏแทนที่ “ให้ข้าลองหน่อย”
“เหลือไม่มากนัก…” แม้ลังเล แต่ยี่ลาก็ส่งถุงมันฝรั่งทอดให้เฮเลนเวีย
เฮเลนเวียหยิบมาแผ่นหนึ่ง พิจารณารสชาติ จากนั้นจึงพยักหน้ารับ “รสชาติดี ข้าต้องไปซื้อมาสักถุงบ้างแล้ว”
“องค์ราชินี ถุงนี้คือรสชาติบาบีคิว” ยี่ลาตะโกนบอกเฮเลนเวียตามหลัง