ตอนที่ 1125
ลั่วฉวนเอนหลังพิงกับโซฟานุ่ม ร่างกายราวกับจมดิ่งลงไป
คิเมร่าเดินมาคลอเคลียที่เท้าของลั่วฉวนพลางร้องเรียก
ลั่วฉวนที่เล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดจบพอดี ได้ยินเสียงร้องเรียกจังก้มมอง “มีอะไรหรือ?”
คิเมร่าเดินไปทางเคาน์เตอร์ ลั่วฉวนรู้สึกว่ามันต้องการบ่งบอกให้เขาตามไป
ด้วยเกิดนึกสนใจ ลั่วฉวนลุกขึ้นและเดินตามไป เขาคิดอยากได้เห็นว่าคิเมร่าจะทำอะไร
แม้ตัวคิเมร่าขนาดไม่ใหญ่ แต่ความว่องไวเป็นเลิศ มันกระโดดจากพื้นขึ้นเคาน์เตอร์ไม้ จากนั้นกระโดดไปยังอีกเคาน์เตอร์พร้อมหันมองมาทางลั่วฉวนขณะหยุดยืนตรงหน้าชั้นวาง
ลั่วฉวนมองตามสายตาของคิเมร่า พบว่าก้อนสีดำและสีแดงกำลังสะท้อนประกายภายใต้แสงตะวัน ภายในก้อนสีดำ มันมีหมอกสีดำฟุ้งกระจายภายในก้อนปริซึมทรงหกเหลี่ยมไหลไปมาเชื่องช้า ขณะที่ก้อนสีแดง มันมีลวดลายของเส้นเลือดปรากฏ
ลั่วฉวนจำได้ ว่าสองก้อนที่ได้เห็น มันเป็นของลูกค้าหนึ่งเดียวที่มาใช้บริการร้านกาแฟจ่ายเอาไว้ พิจารณาจากท่าทีจริงจังตอนเขาหยิบมันออกมา มันไม่น่าใช่ของธรรมดา
แต่สำหรับลั่วฉวน มันก็เป็นได้เพียงของประดับร้าน คิเมร่าดูอยากได้ แสดงให้เห็นว่ามันต้องมีอะไร
ลั่วฉวนเดินไปหยุดตรงหน้าชั้นวาง นำก้อนสีดำที่มมีหมอกสีดำภายในลงมา และวางมันเอาไว้ตรงหน้าคิเมร่า
ที่เกินความคาดคิดของลั่วฉวน คิเมร่ากลับเผยท่าทีเป็นศัตรู ฟันนั้นแยกเขี้ยวเผยเสียงขู่คำราม เส้นขนที่ด้านหลังตั้งตรง
“มันก็ไม่น่ามีอะไรนี่” ลั่วฉวนเกิดสงสัยต่ออาการตอบสนองของคิเมร่า เป็นไปได้ว่าก้าอนสีดำนี้จะมีภัยคุกคามต่อมัน
แต่กับลั่วฉวน มันไม่มีอะไรเลย ต่อให้หมอกสีดำภายในก้อนปริซึมเป็นตัวตนที่ไม่อาจอธิบาย มันก็ไม่มีทางทำอะไรร้านกาแฟแห่งนี้ได้
เขาวางก้อนสีดำกลับคืนที่เดิม จากนั้นนำเอาก้อนสีแดงมาวางไว้ตรงหน้าของคิเมร่าแทน
เพียงลั่วฉวนหยิบก้อนสีแดงขึ้นมา คิเมร่ากลับเผยท่าที ราวกับได้กลิ่นของก้อนสีแดง กระทั่งร้องเรียกลั่วฉวนสองครั้งราวเป็นการสอบถาม
ลั่วฉวนพยักหน้ารับ เขาคิดอยากทราบว่าจะเป็นยังไงต่อ และพอได้ลั่วฉวนอนุญาตแล้ว คิเมร่าอ้าปากของมันและกลืนก้อนสีแดงเข้าไป…
ลั่วฉวนพูดกล่าวไม่ออก
หากเขาไม่ได้มองผิด คิเมร่าเพิ่งกลืนก้อนปริซึมสีแดงเข้าไป?
ก้อนสีแดงขนาดราวไข่ไก่ ร่างของคิเมร่าก็ใหญ่กว่าฝ่ามือเพียงเล็กน้อย ลั่วฉวนถึงขั้นสงสัยว่ามันกินแล้วหายไปที่ใด
หลังกลืนก้อนปริซึมสีแดงเข้าไป คิเมร่าก็ไม่ได้เผยท่าทีไม่สบายแต่อย่างใด แต่เป็นยืดตัวเผยท่าทีสุขสบาย
ลั่วฉวนอุ้มคิเมร่าขึ้นมา แตะสัมผัสบริเวณท้องของมัน ยังคงนุ่มและอุ่น เหมือนว่าจะมีการเชื่อมโยงไปยังต่างมิติ
อุ้งเท้าคิเมร่าแตะสัมผัสตอบลั่วฉวนพร้อมร้องเบาสองครั้ง
ลั่วฉวนไม่ได้ให้ค่ากับก้อนสีแดงสักเท่าไหร่ อย่างไรสำหรับเขาก็แค่ของประดับร้าน คิเมร่ากินเข้าไปก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
คิเมร่าตอนนี้กระโดดลงจากเคาน์เตอร์ไปคู้ตัวนอนอาบแดดที่ส่องผ่านหน้าต่าง ราวกับพร้อมจะหลับเต็มที่แล้ว
ลั่วฉวนคิดไปครู่ เดินไปเปิดประตูร้านและออกไป อยู่แต่ในร้านกาแฟอย่างเดียวค่อนข้างน่าเบื่อ ออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้างจึงดีกว่า
แสงแดดค่อนข้างเจิดจ้า ตอนนี้เป็นเวลาเช้า ตำแหน่งของพระอาทิตย์กำลังไต่ระดับขึ้นสูง
รอบด้านของร้านกาแฟยังคงเงียบเหงาเช่นเคย ลั่วฉวนชะงักที่ไม่เห็นคนสัญจรคนอื่นนอกจากตัวเองบนถนนสายนี้
ทว่าเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ร้านที่อยู่ไกลห่างสำหรับเขาถือเป็นเรื่องดี อย่างไรแล้วร้านกาแฟแห่งนี้ก็เปิดตามใจชอบ หากมีลูกค้าไม่มาก เช่นนั้นจึงดีกว่า
หลังเดินผ่านถนนไปหลายสาย จนกระทั่งถึงพื้นที่จอแจ ผู้คนเริ่มเดินสัญจรขวักไขว่ ส่วนใหญ่จะสวมใส่ชุดที่เป็นเอกลักษณ์ของเซ็นน่า เทียบกับคนอื่นแล้ว ลั่วฉวนค่อนข้างแตกต่าง
แต่เพราะที่นี่คือเมืองริมทะเล เซ็นน่ามีคนจากภายนอกแวะเวียนไปมาไม่หยุดหย่อน การแต่งกายของลั่วฉวน สำหรับคนที่นี่ถือเป็นเรื่องคุ้นเคย
นอกจากนี้ลั่วฉวนยังได้ตระหนักถึงเรื่องหนึ่ง หากเทียบกับสองวันก่อนหน้า อัตราส่วนคนเดินถนนเหมือนจะมากขึ้น กระทั่งว่ามีกลิ่นดอกไม้หลากหลายชนิดที่ไม่รู้จักฟุ้งในอากาศ
เท่าที่เขาจำได้ หัวมุมถนนด้านหน้ามีแผงหนังสือพิมพ์ เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลายวันก่อนน่าจะมีอะไรคืบหน้าบ้าง
“เฉลิมฉลอง! เทศกาลไนการ่าแห่งเซ็นน่ากำลังจะเริ่มแล้ว!”
“ยินดีต้อนรับสู่เซ็นน่า!”
“…”
เหมือนว่าเหตุการณ์ระเบิดเมื่อสองวันก่อนจะถูกลืมเลือนแล้ว หัวข้อการสนทนาของผู้คนบนถนนก็เป็นเรื่องเทศกาลไนการ่าทั้งสิ้น
เทศกาลไนการ่า… ลั่วฉวนที่เป็นคนต่างถิ่นคงบรรยายได้เพียงว่า เป็นเทศกาลที่ฟุ่มเฟือยและหลากสีสัน เซ็นน่าไม่ได้แบกรับผลกระทบรุนแรงจากเก้าหายนะธรรมชาติเมื่อหลายปีก่อน ดังนั้นเป็นเช่นนี้ก็ไม่แปลก
หลังซื้อหนังสือพิมพ์เซ็นน่ารายวันเรียบร้อย ลั่วฉวนเดินไปพลางอ่านว่ามีอะไรน่าสนใจ เพราะช่วงที่ผ่านมาเขาเว้นว่างไม่ได้แวะเวียนเข้ามา
ชายชราเจ้าของแผงหนังสือพิมพ์ยังจำลั่วฉวนได้ ทั้งสองพูดคุยกันอยู่หลายคำไปเรื่อย หัวข้อสนทนาย่อมไม่พ้นเทศกาลไนการ่า
“อะไรคือเทศกาลไนการ่า เป็นเทศกาลฉลองให้นักบุญนิโคลหรือยังไงกัน?” ลั่วฉวนเอ่ยถามออกไป
“ที่มาช่วงนี้ไม่ใช่เพราะเทศกาลไนการ่างั้นหรือ?” ชายชราค่อนข้างประหลาดใจกับคำถามของลั่วฉวน เหมือนเขาจะคิดว่าลั่วฉวนมาเที่ยวเซ็นน่าก็เพราะเทศกาลไนการ่า
“คิดเสียว่าข้าเป็นนักเดินทางไปเรื่อยก็ได้ ไม่นานมานี้บังเอิญผ่านมาหยุดพักที่เซ็นน่าก็เท่านั้น” ลั่วฉวนเชี่ยวชาญการสร้างเรื่องบอกเล่าออกไปเป็นฉาก
“นักเดินทาง?” ชายชราเกิดประหลาดใจต่อคำกล่าว “หาได้ยากนัก ได้ยินว่าพวกผู้ติดเชื้อเพ่นพ่านไปทั่วภายนอก ทั้งยังมีความสามารถต่อสู้สูงล้ำ”
“ใกล้เคียงเซ็นน่าปลอดภัยมาก ไม่มีร่องรอยการถูกหายนะกัดกร่อนแม้แต่น้อย” ลั่วฉวนพลิกหน้าหนังสือพิมพ์ไปเรื่อย ความสามารถอ่านภาษาต่างถิ่นของระบบทำงานได้ดีเยี่ยม ข้อมูลภาษาทั้งหมดถูกเปลี่ยนเป็นที่เขาเข้าใจ
กล่าวถึงเรื่องนี้ ชายชราคล้ายอยากพูดคุยเต็มแก่ “ถูกต้องแล้ว ที่นี่อยู่ไกลห่างจากศูนย์กลางระบาดของหายนะ เพราะงั้นเซ็นน่าเลยไม่ค่อยโดนผลกระทบสักเท่าไหร่”
“กล่าวไป อะไรคือเทศกาลไนการ่า?” ลั่วฉวนยังคงต้องการคำตอบ
“ข้าเผลอชวนคุยไปผิดเรื่องเสียแล้ว” ชายชรายิ้มรับ “เทศกาลไนการ่า เป็นเทศการที่เอกลักษณ์ประจำเมืองเซ็นน่า ทุกช่วงเวลานี้ของปี ผู้คนจากต่างแดนจะนำเอาดอกไม้นับพันหมื่นชนิดมาจัดนิทรรศการ”
“น่าสนใจ” ลั่วฉวนพยักหน้ารับพร้อมเกิดความคาดหวังขึ้นในใจ