ตอนที่ 1127
รับรู้ว่าเกือบจะได้เวลา ลั่วฉวนไปหาสถานที่ซึ่งไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปมาก่อนจะกลับออกจากเซ็นน่า เมื่อลุกขึ้นเครื่องเครื่องเล่นเกมจึงยืดเส้น
ขวดโคล่าที่ถูกวางไว้ถูกคว้าขึ้นมา บิดฝาขวด เปิด และยกขึ้นดื่มอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือในคราวเดียวเพื่อเรียกความกระชุ่มกระชวย
ลั่วฉวนนำสินค้าหลากหลายของทางร้านมาวางไว้ที่นี่ รวมถึงเหล้าซากุระที่เหยาซือหยานทำก็ด้วย มันจึงเป็นเหมือนสถานที่ส่วนตัวที่พร้อมด้วยของกิน แม้ว่าสินค้าเหล่านี้จะเรียกมาจากระบบมิติเก็บของเมื่อใดก็ได้ แต่เขาก็รู้สึก ว่าหากวางไว้ให้เห็นแต่แรกมันดีต่อใจมากกว่า
เวลาของทวีปเทียนหลันและเก๋อหลัวดำเนินไปพร้อมกัน กว่าลั่วฉวนจะกลับออกมาก็เกือบเที่ยงแล้ว หรือก็คือได้เวลาอาหารมื้อกลางวันพอดี
ตอนนี้ลูกค้าหลายคนต่างกลับกันไป ลั่วฉวนมองว่าการมีเวลาพักของทางร้าน มันจะช่วยให้ลูกค้าทั้งหลายมีเวลาทานอาหารเป็นมื้อได้
ระยะทางระหว่างภัตตาคารเซียนหงส์อมตะและร้านต้นตำรับค่อนข้างไกล นอกจากนี้แล้วลูกค้าส่วนใหญ่ที่แวะเวียนมาใช้บริการร้านต้นตำรับบ่อยครั้ง พวกเขาไม่ได้ขาดแคลนผลึกวิญญาณ ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกอันดีที่ลูกค้าทั้งหลายจะมองเป็นโรงอาหารยามพักเที่ยง
ส่วนทางด้านร้านน้อยหยวนก่วยที่อยู่ใกล้เคียง… เก้าในสิบของลูกค้าทำได้เพียงแต่คิดอยู่ในใจ
กำแพงทางด้านข้างเปิดขึ้น ลั่วฉวนเดินออกจากห้อง ลูกค้าคนอื่นในพื้นที่ส่วนต่อขยายต่างกลับกันไปแทบหมดแล้ว อานเหวยหยากับปิงชวงที่กำลังจะกลับตอนนี้บังเอิญพบเจอลั่วฉวนเข้าพอดี
“เถ้าแก่” อานเหวยหยาเดินเข้ามาทักทายพร้อมปิงชวง
“ได้เข้าไปใช้มิติแห่งฝันร้ายหรือยัง?” ลั่วฉวนเอ่ยถาม
“ยังไม่” อานเหวยหยาตอบกลับไปอย่างไร้ความเขินอาย “ลูกค้าหลายคนที่เข้าไปใช้งานต่างนึกเสียใจ โชคดีที่ข้าเล็งเห็นแต่แรก”
ลั่วฉวนก็เพียงถามไปเรื่อย สายตานั้นมองที่ปิงชวง เขายังจำได้ถึงเหตุการณ์ปิงชวงเสียการควบคุมตอนเปิดร้านช่วงเช้า และพลังนั้นเกินกว่าที่ขอบเขตราชันจะทำได้
ตระหนักเห็นสายตาลั่วฉวนมองมา ดวงตาสีแดงของปิงชวงมองตอบ มันราบเรียบเหมือนเช่นเคย ราวกับประสบการณ์จากมิติแห่งฝันร้ายไม่ได้ส่งผลกระทบใดต่อตัวนาง
กลับออกจากพื้นที่ส่วนต่อขยาย ที่ร้านหลักยังคงมีลูกค้าหลายคนใช้บริการกันอยู่ เสียงเหมือนกำลังหารือเรื่องราวจริงจัง พอตระหนักพบเห็นลั่วฉวน เสียงเหล่านั้นก็ลดทอนลงไปมาก
“เถ้าแก่ มิติแห่งฝันร้ายมันสร้างขึ้นจากความทรงจำของพวกเราจริงหรือ? มันแทบไม่ต่างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกความเป็นจริงเลย” ปู้หลี่เกื๋อเผยท่าทีตื่นเต้น เพราะเขาได้ชกต่อยผู้อื่นในมิติแห่งฝันร้ายอยู่หลายครั้ง ตอนนี้จึงคึกคักผิดปกติ
ส่วนเหตุการณ์ที่ถูกลอบสังหาร ปู้หลี่เกื๋อคิดว่าหากเลือกระดับที่สูงกว่านี้อาจต้องพบเจอมันอีกครั้ง เพราะเขาทราบดี ว่ามันคือสิ่งที่ตนไม่อยากนึกย้อนที่สุดแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่คิดรีบ ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็เพื่อปรับสภาพจิตใจไปสักพักหนึ่งจนกว่าจะพร้อมเปิดใจยอมรับมัน
การเผชิญหน้ากับความกลัวในใจของตนเอง มันไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นจะมาตัดสิน อย่างไรแล้วผู้คนล้วนแตกต่าง เป็นไปไม่ได้ที่คนหนึ่งจะเข้าใจอีกคนหนึ่งอย่างถ่องแท้
“ฝันร้ายชัด ๆ! ร่างกายข้านี่สั่นจนไม่รู้จะสั่นยังไง!” เหว่ยอี้เผยความหวาดกลัว ราวกับเขาเพิ่งเผชิญเรื่องราวสยองขวัญสุดจะกล่าวในชีวิต เซี่ยหยิงที่อยู่ข้างกายตอนนี้คอยจับมือเขาเอาไว้เพื่อบ่งบอกให้ใจเย็น
“มันไม่ค่อยต่างจากที่ข้าจำได้สักเท่าไหร่ กระทั่งสงสัยด้วยซ้ำ ราวกับข้าถูกส่งตัวกลับไปยังอดีต” อสูรวานรเผยเสียงเบา ในดวงตาของเขาเผยร่องรอยความหวาดกลัว
“น่ากลัวจริง ชุดของสะสมของข้าเลือนหายไปต่อหน้า!” หางของเอเลน่าตวัดตบกับพื้นไปมา ชุดของสะสมถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชาวไซเรน
ก่อนหน้านี้นางไปเดินเล่นรอบนครจิ่วเหยา วันนี้กลับมาที่ร้านต้นตำรับพอดีกับมันฝรั่งทอดและมิติแห่งฝันร้ายเปิดวางจำหน่ายและเปิดให้เล่น หลังเข้าไปทดลองด้วยความสงสัย นางถึงกับต้องจดจำฝังใจ
ทุกคนเงียบงันกันไปพักหนึ่ง ความคิดพวกเขาคืดไล่ตามความคิดของเอเลน่าไม่ทัน นครไซเรนและร้านต้นตำรับเชื่อมต่อกันทางตรงผ่านทางประตูแสง ดังนั้นชาวไซเรนจึงเดินทางไปมาระหว่างร้านกับเมืองได้โดยสะดวก
แต่จนถึงตอนนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังไม่ทราบ ว่าชาวไซเรนให้ค่ากับของสะสม ยามนี้ได้ยินพวกเขาจึงทำตัวกันไม่ถูก
“มิติแห่งฝันร้ายจะก่อสร้างขึ้นโดยใช้ความหวาดกลัวในใจเป็นต้นแบบ บางทีมันอาจเป็นประสบการณ์ที่เคยพบเจอ หรือสิ่งที่หวาดกลัวที่สุดที่เคยปรากฏขึ้นในใจ” ลั่วฉวนกล่าวอธิบายถึงมิติแห่งฝันร้าย “เพราะประสบการณ์ของแต่ละคนแตกต่าง สิ่งที่พบเจอในมิติแห่งฝันร้ายก็แตกต่าง และยังเกี่ยวข้องกับตัวเลือกระดับก่อนจะกดเริ่มด้วย”
ลูกค้าหลายคนเข้าใจคำของลั่วฉวน สาเหตุที่พวกเขามารวมตัวกันตอนนี้ก็เพราะต้องการแบ่งปันเรื่องราวต่อกัน ซึ่งลั่วฉวนก็เข้าใจดี
หลังพูดคุยกันอีกรอบ กลุ่มลูกค้าเริ่มกลับกันไปหาทานมื้อเที่ยง ระยะเวลาทำการของร้านต้นตำรับก็ใกล้จบลงพอดี แน่นอนว่าไม่ไปไหนก็ย่อมได้ แต่นั่นหมายความถึงต้องแบกรับอดทนต่ออาหารแสนพร่อยตรงหน้า ที่ทำได้เพียงมองแต่ไม่อาจทาน
เหยาซือหยานกลับขึ้นชั้นบน ลั่วฉวนว่างไม่มีอะไรทำ ตอนนี้นำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมา นั่งลงกับเก้าอี้ จากนั้นจึงเริ่มสำรวจว่าในห้องแชทลูกค้าทั้งหลายพูดคุยอะไรกัน
ทันทีเมื่อเปิดขึ้น ข้อความใหม่ก็เด้งเข้ามา
โทรศัพท์วิเศษ มันวิเศษสมคำเรียกขาน ข้อความที่แม้เด้งเข้ามาโรมรันไม่หยุดหย่อน ทั้งหมดก็ยังแสดงผลได้ชัดเจนลื่นไหลไม่ติดขัด นี่คือพลังแห่งเทคโนโลยีทมิฬที่ระบบภูมิใจนำเสนอ
“มิติแห่งฝันร้ายทำได้ดี ช่วยให้ข้านึกย้อนถึงความอบอุ่นสมัยยังเด็ก”
“ขอแนะนำอย่างรุนแรง ว่าใครที่ยังไม่เคยใช้งานมิติแห่งฝันร้าย จงไปทดลอง หากยังไม่ลอง เช่นนั้นจะเสียใจ!”
“ทำไมรู้สึกเหมือนโดนหลอก ชื่อนี่ฟังยังไงก็น่ากลัว”
“อย่าโดนชื่อหลอกให้กลัวก่อนจะได้ลอง ร้านของเถ้าแก่มีหรือจะมีอะไรที่ส่งผลเสียต่อลูกค้า?”
“แต่ได้ยินมาว่าหลายคนก็กลัวมิติแห่งฝันร้ายกันยกใหญ่…”
“อย่าโดนหลอกแค่ชื่อ ของดีอยู่ตรงหน้าแล้ว เข้าไปดื่มด่ำและอิ่มเอมไปกับมัน ไม่งั้นจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องนะ”
“นั่นสินะ! ของมันต้องลอง! ช่วงบ่ายข้าจะไปลองที่ร้านให้ได้!”
“…”
ถือว่าทำได้ดี ความสามารถในการล่อลวงผู้อื่นเต็มเปี่ยม ทั้งยังเชี่ยวชาญจนประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ สิ่งสำคัญเหนืออื่นใด คือทุกคนพร้อมใจกันร่วมมือ
ลั่วฉวนเปิดกระดานสนทนาอ่านไปเรื่อย หลากหลายโพสต์ต่างพูดถึงมิติแห่งฝันร้ายเช่นกัน
กลุ่มลูกค้าที่ได้เปิดประสบการณ์กับตนเองไปเรียบร้อยแล้วต่างเข้ามาพร้อมความคิด “ข้าโดนแล้ว พวกเจ้าก็ต้องไม่รอด” พร้อมเข้าร่วมให้คำแนะนำคนอื่นอย่างแนบเนียน
ผ่านไปเพียงไม่นาน บทความแนะนำมิติแห่งฝันร้ายก็ปรากฏบนกระดานสนทนาไปทั่ว
ลั่วฉวนรับชมความคึกคักในกลุ่มแชทจนพอใจ ตอนนี้หันไปเปิดแอพวิดีโอขึ้นมาแทน
หลังผ่านการล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายวัน คุณภาพโดยรวมก็เพิ่มมากขึ้น เหล่าคนสร้างผลงานต่างได้ตระหนักถึงฝีมือการถ่ายและการปรับแต่งวิดีโอก่อนจะส่งผลงานขึ้นมา
เมื่อเปิดเทียบอันดับ วิดีโอ “เอาตัวรอดในป่า” ยังคงติดอันดับบนอย่างเหนียวแน่น
สิ่งสำคัญก่อนการดูวิดีโอคืออะไร? นั่นก็คือการกดถูกใจและกดติดตาม ทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนให้ผู้สร้างผลงานได้รับแรงใจต่อไป ลั่วฉวนที่กดเรียบร้อยแล้วจึงเริ่มรับชม