ตอนที่ 1135
ลั่วฉวนตื่นขึ้นห้วงนิทรา สายตาเหม่อมองที่เพดานอย่างว่างเปล่า
จากนั้นจึงหลับตาอีกครั้ง…
เสียงเหยาซือหยานพร้อมเสียงเคาะประตูห้องดัง “เถ้าแก่ เถ้าแก่ เช้าแล้ว อาหารเช้าก็พร้อมแล้ว”
“เดี๋ยวไป” ลั่วฉวนลืมตาอย่างเกียจคร้าน เสียงฝีเท้าของเหยาซือหยานค่อยเดินไกลออกไป
ลุกขึ้น เกาเส้นผมที่ยุ่งเหยิง เขายังรู้สึกง่วงอยู่
สายตามองทางโทรศัพท์วิเศษที่อยู่บนเตียง เหมือนเมื่อคืนจะเผลอตัวไป
หลังลุกขึ้นจากที่นอน ล้างหน้า แต่งกาย หากเทียบกับปกติ ระยะเวลาที่ใช้ค่อนข้างเร็วกว่าปกติไม่น้อย
“เถ้าแก่ ทำไมวันนี้ตื่นสายล่ะ?” เหยาซือหยานที่กำลังรับชมโทรศัพท์วิเศษพบเห็นลั่วฉวนเดินลงมา สำรับอาหารเช้าไม่ได้ถูกยื่นไปให้ แต่รอคอยคำตอบอยู่
“เล่นโทรศัพท์วิเศษนานไปหน่อย” ลั่วฉวนไม่คิดปิดบังก่อนจะหย่อนกายนั่งลง
เรื่องเช่นนี้นานครั้งก็เกิดขึ้นกันได้ ต่อให้เป็นผู้คร่ำเคร่งกับกำหนดการเพียงใดก็ต้องมีเผลอพลั้ง
เหยาซือหยานเพียงยิ้มโดยไม่คิดต่อบทสนทนาหัวข้อนี้
นางทราบนิสัยของลั่วฉวนดี ต่อให้แข็งแกร่งไร้เทียมทาน แต่งานอดิเรกก็ไม่ใช่แตกต่างจากคนทั่วไป นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่ลูกค้าร้านต้นตำรับต่างพูดกล่าวถึง
มื้อเช้ายังคงหรูหราเหมือนเช่นเคย ลั่วฉวนยังได้เห็นซากุระที่ห่างหายไปนาน ตอนนี้ทั้งร้านจึงเปี่ยมแน่นด้วยกลิ่นดอกซากุระ
ส่วนเรื่องการรดน้ำต้นไม้โลก… วันนี้ลืมไปก็คงได้ พรุ่งนี้คงไม่เป็นไร
ฝนที่ภายนอกร้านยังตกหนักเหมือนเช่นเคย โลกหล้าเปียกปอนไม่มีช่วงให้เว้นแห้ง กระทั่งมีเสียงสายฟ้าครืนครานดังปรากฏเป็นครั้งคราว
ท้องฟ้ายามเช้ามืดหม่น ทั้งหมดก็เพราะเมฆฝนที่ย้อมบดบังแผ่นฟ้า หากจะมีแสงสว่างก็คงเป็นเพราะจากสายฟ้าที่แปลบปลาบ
ไกลห่างออกไปคือวังวนที่หมุนเชื่องช้าภายในหมู่เมฆสีดำ จากภายในนครจิ่วเหยาจะยิ่งเห็นชัด เหล่านั้นคือพลังวิญญาณที่มารวมจากทั่วทิศ ส่วนหนึ่งนั้นจะถูกแปรสภาพเป็นพลังงานสำหรับค่ายอาคมเคลื่อนย้ายศูนย์กลาง
ส่วนพลังวิญญาณที่เหลือจะโคจรไปทั่วอย่างอิสระจนเกิดเป็นพื้นที่พลังงานใกล้เคียงนครจิ่วเหยาที่หนาแน่นกว่าปกติ พืชพรรณทั้งหลายใกล้เคียงจะเติบโตด้วยอัตราสูงล้ำ
เหล่าทหารรับจ้างในนครจิ่วเหยาค่อนข้างยินดีกับเรื่องนี้ เพราะพืชสมุนไพรทั้งหลายที่หาได้ยากลึกในป่าจะกลายเป็นปรากฏรอบนอกจนง่ายแก่การเข้าถึง และมันก็หมายความถึงการหาผลึกวิญญาณที่ง่ายขึ้นด้วย
ปู้หลี่เกื๋อเดินไปตามทางพลางเผยยิ้มแย้ม ม่านพลังโปร่งแสงที่เกิดขึ้นจากพลังวิญญาณปกคลุมรอบกายบดบังน้ำฝนภายนอกหมดสิ้น
“พี่หญิง ตระหนักทราบหรือไม่ว่าความสามารถควบคุมพลังวิญญาณของข้าก้าวหน้าขึ้น?” ปู้หลี่เกื๋อใช้ปลายนิ้วจิ้ม ม่านพลังวิญญาณที่ใช้กันน้ำฝนเกิดยืดออกตามนิ้วก่อนจะหดกลับคืนสภาพเดิม
“มันจะแปลกกว่านี้หากเจ้าฝึกฝนทุกวี่วันแล้วไม่ก้าวหน้า” ปู้ฉืออีตอบรับเสียงราบเรียบ
เมื่อคืนก่อน เขากลับจากร้านน้อยหยวนก่วยไปยังคฤหาสน์ขุนนางใต้ เวลาที่มีเหลือคือการฝึกฝน บางทีเมื่อใดก้าวหน้ากว่านี้ การก้าวข้ามขอบเขตน่าจะง่ายดายกว่าที่คาดคิด
“จริงด้วย” ปู้หลี่เกื๋อเผยยิ้มพลางคาดเดา “พี่หญิงคิดว่าถ้าอาจารย์เห็นความก้าวหน้าของข้าแล้วจะตกใจไหม?”
“ไม่มีทางแน่” ปู้ฉืออีกล่าวคำขัดความฝันแสนหวานของปู้หลี่เกื๋อ “ต่อให้เจ้าก้าวหน้ารวดเร็วจริง แต่มันก็แทบไม่ต่างอะไรกับข้า”
“ข้าทราบว่าพรสวรรค์พี่หญิงดีกว่า เพราะงั้นไม่ต้องข่มข้าก็ได้น่า” ปู้หลี่เกื๋อบุ้ยปาก
“ผู้ฝึกตนต้องไม่ใช่เพียงหน้ามืดตามัวเร่งร้อนไปกับความก้าวหน้าทางการฝึกฝน สิ่งสำคัญคือพื้นฐานอันมั่นคงที่ระดับแรกเริ่ม” ปู้ฉืออีเผยสีหน้าจริงจัง
“ความเร็วการก้าวหน้าบางทีก็เร็วเกินไป” หยวนก่วยเช็ดมือของตน “หากเตรียมพร้อมก้าวข้ามขอบเขตในภายหน้า เช่นนั้นพยายามสะกดมันเอาไว้จนกว่าจะไม่อาจสะกดไว้ได้ไหวจึงดีกว่า”
“รับทราบท่านอาจารย์” ปู้หลี่เกื๋อตอบรับด้วยสีหน้าขื่นขม ตอนนี้จมูกฟุดฟิดดมกลิ่นอาหารที่ปรากฏก่อนจะปรับสภาพอารมณ์อย่างรวดเร็ว “มื้อเช้าได้แล้ว?”
“อีกสักพักหนึ่ง รอก่อน” หยวนก่วยนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมาเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด เขามักทำเช่นนี้ระหว่างรอเวลา
ปู้ฉืออีและปู้หลี่เกื๋อนั่งลงกับเก้าอี้ในร้านน้อยหยวนก่วยพร้อมนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมาเช่นกัน
ในช่วงเช้าตรู่ ถนนหนทางแทบไม่มีผู้คนสัญจรให้พบเห็น และก็มีน้อยร้านของสองฟากข้างเส้นทางที่เปิดให้บริการ สภาพอากาศก็เย็นลงโดยตลอด หลายคนที่ทำงานแทบคิดอยากพักเพราะความสบายของสภาพอากาศ
โทรศัพท์วิเศษของลั่วฉวน หน้าจอตอนนี้กำลังเผยแอพพลิเคชั่นสุ่มโชค เขากำลังคิดถึงว่าแอพพลิเคชั่นใหม่ครั้งนี้ควรไปในทิศทางใด
หลังครุ่นคิดก็ยังไม่ได้ เขาตัดสินใจสอบถามเหยาซือหยาน “คิดว่าแอพพลิเคชั่นใหม่ควรเป็นอะไรดี?”
“ข้าหรือ? เถ้าแก่ยังไม่มีในใจ?” เหยาซือหยานวางตะเกียบพร้อมเผยสีหน้าประหลาดใจตอบรับ
“ใช่” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ “คิดเห็นว่ายังไง?”
เหยาซือหยานที่มือจับตะเกียบที่วางไว้แน่นก้มศีรษะครุ่นคิด ผ่านไปราวสิบวินาทีจึงเผยดวงตาเป็นประกายขึ้นมา “เอาเป็นแอพพลิเคชั่นที่พูดคุยถึงแนวคิดเป็นไร?”
“กระดานสนทนาที่มีอยู่ตอนนี้ก็ทำได้ไม่ใช่หรือ?” ลั่วฉวนงุนงง
“กระดานสนทนาเป็นสถานที่สำหรับลูกค้าแบ่งปันความคิดต่อกัน เถ้าแก่ ความหมายของข้าคือพูดคุยแต่เรื่องความคิด สองอย่างนี้แตกต่างกัน” เหยาซือหยานทักท้วง
ลั่วฉวนเข้าใจความหมายของนาง มันจะกลายเป็นแหล่งรวมสังคมเฉพาะทาง ความสามารถหลักคือเผยแพร่ประเด็นให้หลายคนเข้ามาพูดคุยในเรื่องเดียวกัน
“เข้าใจแล้ว” ลั่วฉวนพยักหน้ารับความเห็นของเหยาซือหยาน
“เถ้าแก่ ข้าก็เพียงกล่าวไปเรื่อย ท่านไม่คิดปรับเปลี่ยนหน่อยหรือ?” เหยาซือหยานเบิกตากว้างประหลาดใจ
“ดีแล้ว” ลั่วฉวนยืนยันความคิด
เมื่อกดปุ่มสุ่มโชคบนหน้าจอ จุดแสงเริ่มวูบวาบไปมายังพื้นที่ซึ่งถูกแบ่งหลากหลายสี ความเร็วของมันกำลังเพิ่มมากขึ้น ลั่วฉวนคิดว่าภาพเช่นนี้เหมือนหลอกเด็กก็ไม่ปาน
เมื่อความเร็วของจุดแสงพุ่งถึงขีดสุด มันเริ่มลดทอนเชื่องช้าลง ดอกไม้ไฟเบ่งบานปรากฏพร้อมข้อความบนหน้าจอ
“ขอแสดงความยินดี ได้รับห้องสนทนาต้นตำรับ”
เรียบร้อยแล้วเขาจึงวางโทรศัพท์วิเศษ ประเด็นสำคัญตอนนี้คือทานมื้อเช้าให้เรียบร้อย แอพพลิเคชั่นใหม่เอาไว้พูดกล่าวหลังจากนั้น
เมื่อปู้หลี่เกื๋อและปู้ฉืออีมาถึงที่ร้าน ทั้งสองจึงเห็นลั่วฉวนและเหยาซือหยานที่ยังคงทานอาหารกันอยู่
“เถ้าแก่ อรุณ…” ปู้หลี่เกื๋อชะงักไปครู่ เขาเกิดข้อสงสัยตั้งคำถามกับตัวเอง “หรือข้ามาเช้าไป?”
“ไม่ใช่เช้าไป ตอนนี้ร้านต้นตำรับถึงเวลาเปิดทำการแล้ว” เหยาซือหยานยิ้มรับ
“โอ้… เถ้าแก่ พี่ซือหยาน อาหารเช้ายังหรูหราเหมือนเคย” ปู้ฉืออีอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายเพียงเพราะได้กลิ่น
ผลลัพธ์ที่ได้ ทั้งสองต้องสูดดมกลิ่นอาหารเช้าหอมอร่อยกันไปอีกพักหนึ่ง