ตอนที่ 1137
“ผู้อำนวยการฟ่าน คิดว่าสี่สถาบันของพวกเราควรจัดแจงส่งศิษย์เข้าไปเปิดประสบการณ์กับมิติแห่งฝันร้ายหรือไม่?” เฉินหยิงเฟิง ผู้อำนวยการสถาบันจันทราลึกล้ำเข้ามาพูดคุยกับฟ่านเฉิงเทียนที่มาร้านต้นตำรับ
“อืม… เกรงว่าอาจไม่สะดวกเท่าไหร่” ฟ่านเฉิงเทียนที่กำลังเล่นโกะกับเหยาฮุยเฉิน ตอนนี้เขาหยุดมือ “เรื่องเช่นนี้ไม่อาจบังคับ มันต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของศิษย์แต่ละคน”
“ผู้อำนวยการเฉิน ลองฟังคำของเหล่าศิษย์หรือยัง พวกเขาต้องการเข้าไปเปิดประสบการณ์หรือไม่?” เหยาฮุยเฉินเผยยิ้มพลางกล่าวถาม
เฉินหยิงเฟิงพลันกระแอมไอแก้เขิน ตอนนี้เปลี่ยนหัวข้อ “แล้วพวกเจ้าไม่ไปลองมิติแห่งฝันร้ายกันหรือ? นั่นเป็นของใหม่ในร้านเถ้าแก่เลยนะ… ว่าไปแล้ว โกะกระดานนี้น่าสนใจนัก”
บนกระดานโกะ หมากขาวและหมากดำจะวางสลับกันไปมา เผยให้เห็นถึงความคืบหน้าที่ทัดเทียม แต่โดยคร่าวแล้วหมากดำเป็นฝ่ายบุก ขณะที่หมากขาวเป็นฝ่ายป้องกัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครเสียเปรียบได้เปรียบ
“หากเป็นความหวาดกลัวในใจข้าที่จะถูกนำเสนอออกมา ข้าได้ประสบมันเมื่อนานมาแล้ว” ฟ่านเฉิงเทียนวางหมากลงที่จุดดาว “เพราะงั้นไม่คิดเร่งรีบไปรับชมมันอีกครั้ง”
“ถูกต้อง” เหยาฮุยเฉินพยักหน้าตอบ “นอกจากนี้แล้วสิ่งที่เรียกว่าโกะที่เถ้าแก่นำออกมาให้เล่น มันน่าสนใจยิ่งกว่า แม้ดูภายนอกเรียบง่าย แต่กลับแฝงข้อคิดและกลยุทธ์มากมายเอาไว้”
เล่นโกะยามว่าง มันคือการผ่อนคลายและการช่วยกระตุ้นสมองให้ครุ่นคิด เหมือนดังขว้างหินหนึ่งครั้งฆ่านกได้สองตัว
“กล่าวไป เหตุใดช่วงนี้ไม่เห็นฉู่หยาง?” ฟ่านเฉิงเทียนคล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ ตั้งแต่ที่แอพนักอ่านเปิดให้ใช้งาน ฉู่หยางก็ไม่คล้ายมาเยือนร้านต้นตำรับอีกเลย
“เขาไม่ค่อยสะดวกมาเท่าใดนัก เพราะงั้นจึงฝากคนอื่นมาซื้อสินค้าจากร้านแทน” เฉินหยิงเฟิงกล่าวบอก
ทุกคนต่างมีนิสัยที่แตกต่างกันไป บางคนชอบนั่งอยู่ที่เดียวกระทำไปเรื่อยเปื่อย ขณะที่บางคนอาจต้องการปรับเปลี่ยนหาความสดชื่นและตื่นเต้นให้แก่ชีวิตไปเรื่อย ฉู่หยางเป็นประเภทหลัง
ด้วยฐานะผู้ฝึกตนเดียวดาย เขามักจะเดินทางท่องไปในพื้นที่ทั้งหลายของทวีปเทียนหลัน บ่อยครั้งจะหาโอกาสเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้แก่ตนเอง
ขณะที่ลั่วฉวนเป็นปลาตากแห้ง ทั้งวันขลุกตัวอยู่แต่ในร้านเงียบงัน เล่นเกมบ้าง ทานของอร่อยที่เหยาซือหยานทำให้บ้าง หากเอ่ยถามถึงความคิดต่อสู้ระดับสะท้านโลก เขาไม่เคยคิดแม้แต่น้อย
ในความเห็นของเขา การต่อสู้และฆ่าฟันเป็นสิ่งน่าเบื่อหน่าย เวลาที่มีควรใช้ไปกับการรับชมโทรศัพท์วิเศษหาความสะดวกสบายจึงดีกว่าเป็นไหน
“นั่นสินะ แต่ละคนต่างก็ไม่เหมือนกัน” ฟ่านเฉิงเทียนพยักหน้ารับ “ยังมีเรื่องราวมากมายในโลกรอคอยให้โชคชะตานำพาไปสำรวจ”
กระดานโกะยังคงดำเนินต่อไป ทางตันเป็นสิ่งยากทำลาย เหมือนดังการทำให้น้ำแข็งละลายในฤดูหนาว
“ก่อนหน้านี้ไม่ใช่บอกว่าจะจัดการแข่งขันโกะหรอกหรือ? เหตุใดตอนนี้เงียบหายไปแล้ว?” เฉินหยิงเฟิงเอ่ยถามขณะรับชมทั้งสองเดินหมาก
“เพราะมีเรื่องของโบราณสถานแทรกเข้ามาไม่ใช่หรือยังไงกัน?” เหยาฮุยเฉินวางหมากพลางกล่าว “ตอนนั้นทุกคนยุ่งกับการสำรวจ เพราะงั้นเรื่องนี้จึงถูกลืมเลือน”
โบราณสถานที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันสร้างแรงกระเพื่อมภายในร้านต้นตำรับได้ไม่ใช่น้อย เพราะพลังงานผันแปรที่ทางเข้า เป็นผลให้มีแต่ขอบเขตทดสอบเต๋าที่สามารถผ่านเข้าไปอย่างปลอดภัย เพราะเหตุนั้นเหล่าลูกค้ายอดฝีมือจึงออกไปสำรวจกัน
ส่วนเรื่องของด้านในโบราณสถาน แม้มีความพิเศษ แต่ก็เป็นเพียงเศษซากอารยธรรมที่ไม่รู้จัก ยิ่งกาลเวลาอันยาวนานผันผ่าน มันยิ่งทำมูลค่าเสื่อมถอย จนถึงตอนนี้ก็มีเพียงดอกครามเยือกแข็งและแม่น้ำแห่งฝันร้ายที่ถูกพบเจอ
“ไว้ข้าไปพูดคุยกับเถ้าแก่ให้” เฉินหยิงเฟิงกล่าวคำจบจึงเดินออกจากหมู่บ้านซากุระ
เสียงบรรเลงของเปียโนดังสอดประสานกับกลิ่นหอมของซากุระที่ลอยฟุ้งภายในพื้นที่ หากไม่มีกิจธุระอื่นต้องไปทำ หลิวลู่อวี่และคณะจะแวะเวียนมาที่นี่เพื่อเล่นเปียโน อย่างไรแล้วมันก็เทียบเท่ากับการฝึกฝนให้พวกนางคืบหน้าไปด้วย
แน่นอนว่าหลังได้ฟังถึงความงดงามของเปียโน ลูกค้าหลายคนต่างคันไม้คันมือคิดอยากลองบ้าง ผลลัพธ์ที่ได้คือการสลับเวียนกันเล่น
ผู้คนส่วนใหญ่มักกล่าว “ขอลองดู” “ยากกว่าที่คิด” และ “ค่อนข้างง่าย” แต่กว่าเก้าในสิบที่เข้ามา ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงขอลองเล่น
“แข่งขันโกะงั้นหรือ? เหวินเทียนจีและผู้อื่นเคยบอกกล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว จัดตามได้ตามสะดวก” ลั่วฉวนมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ “หรือสนใจจะเปิดแอพโกะในโทรศัพท์วิเศษดีล่ะ?”
“ทำเช่นนั้นได้ก็วิเศษแล้ว” เฉินหยิงเฟิงเผยยิ้มบางตอบรับ “เหมือนดังไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด ถึงตอนนั้นแค่มีโทรศัพท์วิเศษ ไม่ต้องมาเจอหน้ากันก็ยังเล่นด้วยกันได้”
โทรศัพท์วิเศษมีความสามารถอันยิ่งใหญ่คือการทำลายระยะทางระหว่างลูกค้าด้วยกันเอง ผู้ฝึกตนธรรมดาที่คิดติดต่อหามิตรสหายไกลโพ้น เช่นนั้นก็มีแต่ต้องใช้ค่ายอาคมสื่อสาร ทั้งยังยากใช้งานยิ่งกว่า
โทรศัพท์วิเศษจึงเป็นคำตอบ มันสะดวกและรวดเร็วกว่า รวมถึงพร้อมใช้งานอยู่เสมอ สำคัญเหนืออื่นใดคือราคาเพียงแค่หนึ่งร้อยผลึกวิญญาณ มันเป็นราคาที่เหล่าผู้ฝึกตนสามารถจ่ายได้ไหว
“เถ้าแก่เตรียมปล่อยแอพพลิเคชั่นเพิ่มอีกหรือ?” ซูหนิงฮั่นที่ทานมันฝรั่งทอดอยู่เดินผ่านมาจึงหยุดถาม
“แอพโกะ” ลั่วฉวนพยักหน้า
ซูหนิงฮั่นรับคำ “โอ้” โดยไม่กล่าวอื่นใดเพิ่มเติม
หากเทียบกับไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด โกะเป็นการเล่นที่ต้องใช้เวลามากกว่า และน่าเบื่อหน่ายสำหรับคนเยาว์วัย ดังนั้นจึงมีน้อยคนที่ชอบ ความแพร่หลายในนครจิ่วเหยาจึงไม่อาจเทียบกับไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดได้
“กล่าวไปแล้ว เถ้าแก่ ผู้อาวุโสฉู่หยางตอนนี้กำลังถ่ายทอดสดอยู่ด้วย” ซูหนิงฮั่นกล่าวบอกออกมา
ลั่วฉวนค่อนข้างประทับใจในตัวฉู่หยางไม่น้อย อย่างไรแล้วอีกฝ่ายก็เป็นตัวตนที่เกิดขึ้นเพราะความผันแปรทางข้อมูลรากฐาน เป็นผลให้เขาจำได้แม่น
ช่วงนี้ไม่พบเห็นอีกฝ่าย เหมือนว่าจะออกเดินทางไปจากนครจิ่วเหยาแล้ว เพียงแต่ไม่ทราบว่าไปที่ใด
ลั่วฉวนนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมาเปิดแอพถ่ายทอดสด พบชื่อ “เมืองแห่งความโกลาหล” ติดเทียบอันดับตอนนี้อย่างสะดุดตา
กำแพงเมืองราวผ่านกาลเวลายาวนานหลายปี ตัวอักษร “เมืองแห่งความโกลาหล” ปรากฏเหนือประตูเมืองอย่างโดดเด่น ท้องฟ้ามีมวลเมฆทอดตัวยาว มันเต็มไปด้วยบรรยากาศอันหมองหม่น
ถนนโบราณที่สร้างด้วยทรายเหลือง เมฆสีดำที่ปกคลุมด้านบนคล้ายจะกดทับลงมา หากไม่มีร่างของฉู่หยางที่ถือดาบไว้พลางเอนพิงกับต้นไม้ที่แห้งตาย มันคงเป็นภาพเมืองหลังความวินาศก็ไม่ปาน
“เมืองแห่งความโกลาหลอยู่ที่ไหนกัน?” ลั่วฉวนหันไปถามเหยาซือหยาน
เหยาซือหยานรับชมโทรศัพท์วิเศษอยู่ พิจารณาจากรอยยิ้มที่ใบหน้าซึ่งปรากฏเป็นครั้งคราว นางน่าจะกำลังคิดเนื้อหาผลงานบทใหม่ ตอนนี้ได้ยินคำถามจึงกลับจากโลกจินตนาการศู่ความเป็นจริง
“เมืองแห่งความโกลาหล? ข้าเคยได้ยินนามนี้ ขอนึกก่อน…” เหยาซือหยานขมวดคิ้วครุ่นคิด ไม่ช้าดวงตาก็เกิดประกายเผยออก “นึกออกแล้ว เมืองแห่งความโกลาหลตั้งอยู่ทางทิศใต้ของทวีปเทียนหลัน ที่แห่งนั้นมีมัจฉามังกรซ่อนเร้นปะปนกันอยู่ ขนบธรรมเนียมที่นั่น ‘ไม่ซับซ้อน’ และเป็นที่อยู่ของพวกนอกกฎหมายเสียส่วนใหญ่”