ตอนที่ 1141
แม้ว่าถูกแย่งสังหารร็อคมาร์ตันไปอย่างน่าเสียดายา แต่ผลลัพธ์ของการแข่งขันกลอรี่ไม่มีคำว่าปาฏิหาริย์
พลังอำนาจของบัพไม่อาจถมเต็มช่องว่างความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่าย สุดท้าย คริสตัลฐานของศัตรูระเบิดกลายเป็นประกายแสงเลือนหาย
“ก็ยังแพ้”ชายหนุ่มที่เลือกเล่นอสูรเพลิงเซารอนนั่งถอนหายใจลากยาว แต่สีหน้าของเขาไม่ใช่ผิดหวังเพียงนั้น แต่เป็นปรากฏรอยยิ้มอ่อนจาง
พวกเขาห้าคนมาจากกองกำลังเดียวกัน เมื่อวานก็มาที่ร้านเข้าไปเปิดประสบการณ์กับมิติแห่งฝันร้ายด้วยกัน เดิมเพียงคิดเปลี่ยนอารมณ์มาเล่นกลอรี่ ไม่ได้คาดคิดว่าจะรับศึกของลั่วฉวน
แม้เกิดเรื่องราวเกินคาดคิดไปบ้าง แต่การได้แย่งสังหารร็อคมาร์ตันจากมือเถ้าแก่ ก็ถือเป็นเรื่องน่าภาคภูมิเท่าที่พวกเขาจะทำได้แล้ว
อย่างไรเสียการเล่นก็ไม่ใช่สูญเปล่า แม้พ่ายแพ้ก็ยังได้รับ ทางด้านลั่วฉวนที่เล่นจบเกม ตอนนี้ยังร่วมกับเพื่อนร่วมทีมเดิมไปหาการแข่งขันคู่ใหม่
กลุ่มลูกค้าที่เป็นคู่ต่อสู้ให้ลั่วฉวนปรับเปลี่ยนกลยุทธ์กันไปเรื่อย เพราะพวกเขาทราบว่าโอกาสชนะแทบไม่ต่างจากศูนย์ ดังนั้นจึงเกิดรวมหัวกันไปรุมสังหารลั่วฉวน
กลุ่มฝ่ายตรงข้ามทั้งห้าไปหลบซ่อนในพงหญ้าตั้งแต่เริ่มเกมพร้อมโหมโจมตีใส่ลั่วฉวน คล้ายว่านั่นคือเป้าหมายที่พวกเขาต้องทำให้สำเร็จ ไม่ใช่การเอาชนะเกม
หลังได้รับชัยชนะอีกครั้ง ลั่วฉวนลุกจากเก้าอี้ เวลาเกือบจะเที่ยงโดยไม่รู้ตัว การได้เล่นกลอรี่ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกทำให้ลืมเวลาได้ดีเยี่ยม
“เถ้าแก่ไม่เล่นต่อหรือ?” กลุ่มลูกค้าทักท้วงไม่คิดเลิกเล่น อย่างไรแล้วโอกาสได้เล่นกับลั่วฉวนก็ถือว่าหาได้ยาก
ลั่วฉวนส่ายศีรษะก่อนจะกล่าวคำ “เวลาทำการของร้านใกล้หมดแล้ว”
ลูกค้าหลายคนค่อยได้ตระหนักก่อนจะถอนหายใจกันออกมา
“เถ้าแก่เล่นกลอรี่ได้ไม่มีแพ้เลย น่าทึ่งไม่น้อย” เหยาซือหยานรับชมการถ่ายทอดสดกลอรี่โดยตลอดเวลาที่ลั่วฉวนเล่น
“หากแพ้ก็แปลกแล้ว” ลั่วฉวนหย่อนกายนั่งบนเก้าอี้กิตติมศักดิ์ ฝาขวดโคล่าบิดเปิดออก จากนั้นค่อยดื่มเข้าไปอึกใหญ่
หลังเล่นเกมตลอดช่วงเช้าจนเกิดเหนื่อยล้า ตอนนี้เขาค่อยทราบว่าลูกค้าที่เล่นอยู่ได้เกือบทั้งวันนั้นพลังชีวิตเหลือล้นเช่นไร
แน่นอนว่าลั่วฉวนก็มีเหตุผลเป็นของตนเองที่หยุดเล่น หากชนะไปเรื่อยก็จะรู้สึกว่าไร้ความหมาย เอาเวลาที่มีไปนอนเอนกายเล่นโทรศัพท์วิเศษจะดีกว่า
เมื่อสิ้นสุดเวลาทำการช่วงเช้า ร้านกลับคืนสู่ความเงียบสงบ
เหยาซือหยานไปเตรียมมื้อเที่ยงที่ชั้นสอง ลั่วฉวนไปสำรวจดูต้นไม้โลกพลางคิดว่าควรจะต้องรดน้ำต้นไม้
กับพนักงานเก่าแก่ เขาไม่คิดแห้งแล้งการดูแล แม้ต้นไม้โลกไม่ได้ทำหน้าที่ใด แต่ไม้กระถางก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของร้าน
ต้นไม้โลกมีความประทับใจเช่นกันที่ลั่วฉวนยังไม่ลืมเลือน
หลังหยอกล้อก้อนดำน้อยด้วยแผ่นมันฝรั่งทอดเล็กน้อย ลั่วฉวนค่อยนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมารับชมการถ่ายทอดสดของฉู่หยาง
จากบนหน้าจอ สถานที่คล้ายจะเป็นภัตตาคาร สภาพแวดล้อมค่อนข้างจอแจ
“นายท่าน อาหารที่ท่านสั่งได้แล้ว” บริกรนำอาหารมาส่งมอบอย่างนอบน้อม
ครั้งฉู่หยางเดินเข้าร้าน ก็มีคนตระหนักเห็นโทรศัพท์วิเศษที่ลอยไปมาตรงหน้าเขา แน่นอนว่าพวกเขาทราบข่าวคราวในเมืองแล้ว ที่ทำได้คือมองอย่างนึกละโมบไม่อาจลงมือ
ภายในเมืองแห่งความโกลาหล การฆ่าผู้อื่นเพื่อชกฉิงสมบัติถือเป็นเรื่องปกติ และทุกคนเข้าใจดีถึงกฎที่ไม่มีการพูดกล่าว ว่าหากมีเงินจงอย่าได้เปิดเผย
แน่นอนว่าเรื่องราวเช่นนี้แม้ไม่ใช่แดนเถื่อนก็ทราบกันดี ยิ่งที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งสามารถสังหารกันได้เพียงสบตาแล้วไม่พอใจ และเช่นกัน ผลที่ตามมาหากหาเรื่องผู้ฝึกตนขอบเขตอันสูงส่งที่ไม่ทราบ เรื่องเหล่านี้ต้องรับผิดชอบกันเอง
“หน้าตาดูดีใช้ได้” ฉู่หยางพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ เหล่าผู้ชมต่างถอนหายใจโล่งอกที่อาหารของที่นั่นยังปกติธรรมดา
ส่วนหลักของอาจารย์ทำจากเนื้อสัตว์อสูร การปรุงทำได้อย่างดีเยี่ยม แน่นอนว่าไม่อาจเทียบหยวนก่วย ดีเยี่ยมนั้นคือเทียบกับพ่อครัวทั่วไป
และเพราะวัตถุดิบ ตัวอาหารจึงเปี่ยมด้วยพลังวิญญาณอันหนาแน่น หากเป็นผู้ฝึกตนธรรมดามันจะให้ผลประโยชน์อย่างมหาศาล เห็นได้จากผู้อื่นที่ทานโต๊ะใกล้เคียงกำลังน้ำลายไหลเช็ดกันไม่ทัน
แน่นอนว่าสำหรับฉู่หยาง มันคืออาหารธรรมดาทั่วไป
กับผู้ฝึกตนระดับสูงส่ง สิ่งที่จะได้รับจากอาหารเหล่านี้คือน้อยนิด หรือจะเรียกว่าไม่ต่างกับอาหารปกติก็ไม่ผิด
แน่นอนว่าไม่ใช่กับสินค้าในร้านต้นตำรับ
“น่าจะเทียบภัตตาคารเซียนหงส์อมตะได้นะ”
“ได้กลิ่นข้ามจอกันเลยทีเดียว”
“ดูมื้อเที่ยงของผู้อาวุโสฉู่หยางสิ อาหารที่เคี้ยวในปากนั่น เหมือนปากข้าได้ลิ้มรสด้วยอย่างไรอย่างนั้น”
“…”
ข้อความแชทสดมากมายจากเหล่าลูกค้าที่รับชมไหลมาต่อเนื่อง พวกเขาคิดเห็นพ้อง นั่นคือพวกตนควรไปหามื้อเที่ยงทานกันได้แล้ว
ลั่วฉวนที่รับชมฉู่หยางทานมื้อกลางวัน ตอนนี้รู้สึกหิวไม่ต่างกัน สายตาอดไม่ได้ที่จะหันมองทางบันไดซึ่งเหยาซือหยานทำอาหารอยู่ชั้นสอง
ด้วยเพราะไม่คิดรอคอย เพียงครู่ลั่วฉวนก็เดินขึ้นชั้นสองไปช่วยเหยาซือหยานยกสำรับอาหารลงมา
“ฉู่หยางยังถ่ายทอดสดอยู่หรือ?” เหยาซือหยานนั่งลงพลางมองโทรศัพท์วิเศษที่ยังคงนำเสนอการถ่ายทอดสด
ลั่วฉวนนั่งลงก่อนจะตอบ “งานประมูลเริ่มหลังมื้อเที่ยง สงสัยจริงว่าใครเป็นคนนำเอาน้ำแร่ไปขายยังที่แห่งนั้น นอกจากนี้ ผู้คนในเมืองแห่งความโกลาหลก็ยังต้องทานมื้อเที่ยงเช่นกัน งานประมูลมีแต่ต้องรอหลังมื้อเที่ยง”
ได้ยินคำของลั่วฉวน เหยาซือหยานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เรื่องงานประมูลก็คงเป็นตามนั้น ส่วนว่าใครที่ซื้อน้ำแร่ไป ข้าคิดว่าน่าจะเป็นตอนช่วงที่เถ้าแก่นำไปขายในโบราณสถาน”
ที่ตั้งของโบราณสถานที่ราชวงศ์สัตว์อสูรอัญเชิญมา มันแทบจะเป็นกึ่งกลางระหว่างทางใต้ ศูนย์กลาง ตะวันออก และตะวันตก รวมถึงข่าวคราวการปรากฏของโบราณสถานยังแพร่ออกไปยาวนานก่อนปรากฏจริง เหล่าเสือซุ่มมังกรซ่อนต่างมารวมตัวกัน
มีความเป็นไปได้ที่คนซึ่งซื้อน้ำแร่จะนำไปขายต่อ จากนั้นก็ขายต่อกันเป็นทอด กล่าวขานประหนึ่งสมบัติ สุดท้ายจึงตกไปถึงโรงประมูลของเมืองแห่งความโกลาหล
ลั่วฉวนแทบจะคาดเดาเรื่องราวในการส่งต่อกันไปเป็นทอดเช่นนั้นได้
ครั้งฉู่หยางออกไปจากนครจิ่วเหยา หยวนก่วยยังไม่ได้มาเยือน ดังนั้นเขาจึงไม่มีโอกาสได้ลิ้มลองรสชาติของเทพแห่งอาหาร
เมื่อได้เห็นข่าวผ่านทางโทรศัพท์วิเศษ เขาถึงขั้นนึกเสียดายอยู่พักหนึ่ง
ขณะทานอาหารไปพลาง เสียงสนทนารอบโต๊ะก็ดังเข้ามาในการถ่ายทอดสด
“งานประมูลที่คฤหาสน์จ้าวเมืองใกล้จะเริ่มแล้ว เจ้าไม่คิดไปรับชมหรือยังไง?”
“ข้าก็อยากไป แต่คิดว่าพวกเราเป็นใครถึงจะเข้าไปได้กัน?”
“ได้ยินว่ามีของที่สามารถเสริมศักยภาพให้ผู้คนหลุดเข้ามาขายในงานประมูลด้วย ช่างน่าสงสัยนัก…”
ฉู่หยางคิดอยากหัวเราะยามได้ยินผู้อื่นพูดกล่าวถึงสินค้าอันลึกลับที่สามารถเสริมศักยภาพได้ซึ่งถูกนำมาประมูล
น้ำแร่คือสิ่งที่ลูกค้าทุกคนของร้านต้นตำรับสามารถซื้อหา แต่สุดท้ายกลับถูกนำมาประมูลที่นี่ ตัวตนและรูปแบบการขายถือว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล
หนึ่งหมื่นผลึกวิญญาณ ยังถือเป็นมูลค่าที่ผู้ฝึกตนทั่วไปสามารถเก็บออมเพื่อนำมาใช้จ่ายกับสิ่งที่คุ้มค่าได้โดยไม่ต้องคิดมาก
ตามที่ฉู่หยางคาดเดา งานประมูลที่เมืองโกลาหลครั้งนี้ดึงดูดเหล่าผู้แข็งแกร่งมาเยือนมากมาย เพราะเมื่อครู่เขาก็ได้เห็นผู้ฝึกตนขอบเขตทดสอบเต๋าไม่ใช่น้อย
จากที่เขาคาดการณ์เอาเอง มูลค่าเริ่มประมูลสมควรเป็นหนึ่งล้านผลึกวิญญาณ และมูลค่าสูงสุดไม่น่าเกินไปกว่าสิบล้าน