ตอนที่ 1168
หลังการสนทนา ลั่วฉวนละเหยาซือหยานค่อยแยกย้ายกันไปใช้ช่วงเวลาอันเงียบสงบ
ตอนนี้เขาหยุดพูดกล่าว เพียงแต่รับชมโทรศัพท์วิเศษกับร้านที่เงียบเหงา
สายตาลั่วฉวนมองที่หน้าจอ ความคิดกำลังไหลเวียนไปยังอีกมิติหนึ่ง
เขากำลังครุ่นคิดในใจว่าเนื้อหาภาพยนตร์ควรเป็นอะไรดี
ก่อนอื่นนึกถึงภาพยนตร์มาเวล ตัวละครขาประจำอย่างโทนี่ สตาร์ค เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ประโยคที่จำได้ขึ้นใจก็คือ “ผมคือไอรอนแมน” อันตราตรึง
แต่หากคัดลอกและนำมาใช้ที่โลกแห่งนี้… ไม่ว่าคิดยังไงก็รู้สึกว่ามันแปลก
ประเด็นสำคัญที่เขาได้เรียนรู้จากกลวิธีของธานอส นั่นคือแผนการอันยาวนานที่ค่อยดำเนินไปตามขั้นตอน
เขารักชอบภาพยนตร์อนิเมะมากกว่า แต่หากพอเป็นคนแสดง… ตลอดเวลาเขารู้สึกว่ามันแปลก
หลังครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ลั่วฉวนก็ยังไม่อาจตัดสินใจ ความคิดถูกปล่อยให้ไหลเวียนไปเรื่อย
ทำอะไรดีนะ?
ในห้วงความคิดอันว่างเปล่า ตามปกติแล้วบ่อยครั้งมักเกิดแรงบันดาลใจหลากหลาย แต่ยามต้องการ เหมือนกำลังเล่นซ่อนแอบ
ช่างมัน ไม่ต้องคิดแล้ว เดี๋ยวก็คิดได้เอง
ลั่วฉวนเกิดรู้สึกว่าตนเองมักง่ายไปบ้าง แต่เรื่องราวเหล่านี้เขาก็ไม่ควรครุ่นคิดอย่างหนักจนเกินไป
อีกทั้งตอนนี้ยังเป็นเวลาพัก ช่วงเวลาที่มีก็ควรพักผ่อน รับฟังเสียงฝนตกพรำด้านนอกและรื่นรมย์ไปกับมัน
…..
เซ็นน่า
เฮอร์แมนกลับไปยังสำนักงานนักสืบสร้างฝัน เบอร์เร็ตยังไม่ได้ของที่สูญหายกลับคืน เขาเพียงออกไปตรวจสอบสถานที่ซึ่งคาดว่าจะเกิดเหตุ
“ออกไปอีกแล้วหรือ?” โจดี้หันมองทางเฮอร์แมนที่กำลังเตรียมตัวพร้อมเอ่ยถาม “หรืองานยังไม่คืบหน้า?”
“ถูกต้อง โจดี้ คุณเดาใจผมเก่งเกินไปแล้ว” เฮอร์แมนเผยยิ้มรับก่อนจะคว้าไม้เท้าประจำตัวขึ้นมา
โจดี้ไม่ตอบรับคำของเฮอร์แมน แต่หน้ากระดาษหนังสือในมือยังคงพลิกต่อไป เสียงซ่อกแซ่กของกระดาษดังให้ได้ยิน
เฮอร์แมนไม่คิดใส่ใจ หลังกล่าวลาแล้วจึงออกไปท่ามกลางค่ำคืน โจดี้ที่มองตามเผยเสียงถอนหายใจเบาค่อยออกมาก่อนจะอ่านหนังสือตรงหน้าต่อไป
เฮอร์แมนรู้สึกได้ ว่าวันนี้เถ้าแก่ก็คงไม่เปิดร้าน แต่ความรู้สึกนี้ไม่ได้รุนแรงอะไร โดยเฉพาะตั้งแต่ที่เขาเชิญลั่วฉวนเข้ามาทักทายในสำนักงาน มันก็ทำให้เขาได้คิดอะไรมากขึ้น
“หรือไม่ควรไปดีนะ?” เฮอร์แมนถอนหายใจอย่างอับจน
บนถนนโล่งกว้างรกร้างผู้คน แสงไฟส่องทางค่อนข้างสลัว เพราะอายุที่มากทำให้การเปล่งแสงลดน้อยลงตาม แต่กระนั้นคนขับรถเวทมนตร์ก็ยังดำเนินหน้าที่ได้ดีเยี่ยม
เพราะขาดการบำรุงซ่อมแซม แสงหลายแห่งดับลงไปอย่างไม่มีวันติดขึ้นมาอีก เหล่านั้นจำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนใหม่เพราะหมดอายุการใช้งาน
สิ่งปลูกสร้างของสองฟากข้างเส้นทางถูกซ่อนเร้นในความมืด มีเพียงร่างเงาโดยคร่าวที่ปรากฏให้เห็น รวมถึงเป้าหมายการเดินทางครั้งนี้ก็ด้วย
ประตูสีแดงและหน้าต่างถูกปิดเอาไว้แน่น ภายในราวกับเป็นห้วงความมืดที่ไม่อาจพบเห็นอะไรได้
สายตาของเฮอร์แมนเผยความผิดหวัง เขาคิดพยายามมองหาความผิดแปลกในสถานที่
ทันใดนี้เองที่สองลำแสงปรากฏในความมืดอย่างชวนสะพรึง
เฮอร์แมนถึงกับชะงัก
เมื่อสายตาปรับรับกับสภาพแวดล้อมได้ระดับหนึ่ง เขาค่อยมองเห็นว่ามันคืออะไรก่อนจะถอนหายใจโล่งอก
หากเขาจำไม่ผิด มันคือสัตว์เลี้ยงของเถ้าแก่
ขนปุย ไร้พิษภัย รูปร่างครึ่งสัตว์หลากชนิด มีความน่ารักระดับหนึ่ง
เฮอร์แมนไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตเช่นนี้มาก่อน ความเห็นของเขาคือเป็นสัตว์หายาก
บางทีอาจไม่ใช่สายพันธุ์ตามปกติของเก๋อหลัว แต่ทุกวันนี้อะไรประหลาดก็มีอยู่ทั่วไปหมด ไม่เคยเห็นก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก
หลังสำรวจมองเฮอร์แมน คิเมร่าหลับตาลงอีกครั้ง แสงสว่างที่เคยปรากฏในความมืดก็เลือนหายตาม
เฮอร์แมนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงช่วงมาเยือนร้านกาแฟแห่งนี้เมื่อคืนก่อน นอกจากลั่วฉวน เขายังได้เห็นหญิงสาวที่งดงามคนหนึ่ง
“ลูกจ้างร้านงั้นหรือ? แต่ไม่คล้าย… หรือจะเป็นคนรัก? แต่ก็ไม่คล้ายอีก…”
นักสืบคนหนึ่งกำลังพึมพำจนเกิดรู้สึกว่าตนไม่เข้าใจอะไรเลย
ความเป็นจริงอันซับซ้อน มันควรเป็นสิ่งที่นักสืบมองกระจ่างได้โดยง่ายด้วยซ้ำ
ด้วยละสายตากลับเตรียมจากไป ร่างในชุดสีดำก็ปรากฏตรงสุดปลายถนน
ตระหนักพบเห็นเฮอร์แมน และร้านที่ปิดเงียบ ร่างนั้นหยุดชะงักก่อนจะหันกลับและหายไป
เฮอร์แมนเผยยิ้ม แสงสว่างแถวนี้น้อยนิด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เห็นอีกฝ่าย แต่เชื่อว่าเป็นโรนาอย่างไม่มีทางใช่ใครอื่น
หากร้านกาแฟไม่เปิด เขาก็ไม่มีอะไรต้องทำที่นี่อีก
ขณะเฮอร์แมนคิดกลับ ทันใดนี้คิดอะไรขึ้นได้ก่อนจะหยุดเท้า
ขวดน้อยถูกนำออกมาจากไม้เท้า ของเหลวสีทองเผยประกายสาดส่องภายใต้แสงไฟสลัวตามถนน
บรรยากาศคล้ายความฝันขึ้นมา
สิ่งนี้คือ “ตัวสร้างฝัน” ที่เฮอร์แมนจ่ายไปมาก
หลังทำการพ่นโดยรอบไม่กี่ครั้ง เมฆหมอกเริ่มปรากฏขึ้นควบแน่นไม่กระจายตัวหาย
ภายใต้พลังเวทที่กำหนด เมฆเหล่านี้กลายเป็นสิ่งขีดขวางปกคลุมร่างเฮอร์แมนเอาไว้
ร่างเขาเลือนหายไป และปรากฏตัวขึ้นบนถนนอันว่างเปล่าอีกครั้ง มันมีเพียงสายลมเย็นยามค่ำคืนที่หอมอ่อนด้วยกลิ่นดอกไม้
ในโลกแห่งความฝัน ทุกสิ่งอย่างจะเป็นภาพร่างสีเทา มันคือสถานที่ซึ่งคงอยู่ควบคู่ไปกับโลกแห่งความจริง
มีน้อยคนที่สามารถมาเยือนที่แห่งนี้ มีแต่ผู้มากความสามารถระดับก้าวข้ามจึงรับรู้ถึงการมีอยู่ของโลกแห่งนี้ได้
เพราะสถานที่ตั้งของร้านกาแฟอยู่ไกลห่าง ดังนั้นมันจึงเป็นเหมือนดังภาพขาวดำอันคร่ำครึ
ในโลกขาวดำ ลวดลายสีแดงเข้มปรากฏเล็กน้อยทว่าสะดุดตา
ร่องรอยปรากฏที่สุดปลายของถนนยืดยาวออกไป มากพอจะบ่งบอกว่าเจ้าของพลังทิ้งเอาไว้อย่างไม่ใส่ใจ
มันคือภาพของพลังเวทที่ปรากฏในโลกแห่งความฝัน มันสามารถใช้เพื่อคิดอ่านได้ว่าในความเป็นจริงเกิดอะไรขึ้น รวมถึงรวบรวมข้อมูลจากพลัง สีสัน และเส้นทางที่หลงเหลือ
เขามองสำรวจร่องรอยความบิดเบี้ยวบนถนน สุดท้ายมันเลือนหายที่จุดหนึ่ง ซึ่งก็คือประตูร้านกาแฟ
เฮอร์แมนเงียบลง หางตาคล้ายกระตุก สุดท้ายเผยยิ้มอับจนออกมา
เหล่านี้คืออะไร?
ลั่วฉวนย่อมไม่ทราบว่าเฮอร์แมนกำลังทำอะไร
ตอนนี้เขาเพราะความเบื่อ เขาเดินไปใช้งานเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงเพื่อเข้าสู่มิติเริ่มต้นขาวโพลน
สี่ร่างเงาปรากฏในอากาศ เหล่านั้นคือไอคอนที่รอคอยให้ลั่วฉวนตัดสินใจ
หลังครุ่นคิด เขาก็ยังไม่ทราบว่าควรเลือกอันไหนดี
ผ่านไปพักหนึ่ง เขาค่อยตัดสินใจเลือกโหมดท้าทาย เพราะเหมือนจะห่างหายจากมันไปค่อนข้างนานไม่น้อย
หน้าต่างอันคุ้นเคยปรากฏให้เห็น
ลั่วฉวนครุ่นคิดอยู่ครู่ก่อนจะเลือกระดับความยากสูงสุด
เขาคิดอยากท้าทายตัวเอง
“โหมดท้าทาย : ชั้นที่หนึ่ง ระดับความยาก : นรก”